[support-1]

ผู้เล่นในตลาดมีใครบ้าง : การเทรด Forex ก็เปรียบเสมือนกับการเล่นเกมส์ๆหนึ่ง ซึ่งก่อนเล่นเราก็ควรศึกษาว่า มีตัวละคร หรือ ผู้ เล่นไหนในเกมส์นี้บ้าง? ผู้เล่นคนไหนมีบทบาทสําคัญในเกมส์นั้นอย่างไร?

ในตลาด Forex จะมีผู้เล่นหลักอยู่ 6 ผู้เล่นดังนี้

1. ธนาคารกลาง : เป้าหมายหลักของธนาคารกลางคือการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยการตรวจสอบ "ภาวะ เงินเฟ้อ"

ภาวะเงินเฟ้อ คือ ภาวะของราคาสินค้าและบริการที่เพิ่มสูงขึ้น หากธนาคารกลางไม่แก้ปัญหาเงินเฟ้ออย่างเร่งด่วน อาจทําให้อํานาจ ในการซื้อลดลง

ธนาคารกลางจากควบคุมภาวะเงินเฟ้อด้วย 3 วิธี

♥ ควบคุมอัตราดอกเบี้ย โดยการปรับขึ้น หรือปรับลด ตามสถานการณ์
♥ เข้าแทรกแซงโดยการชื่อ หรือขายสกุลเงิน
♥ ควบคุมอัตราส่วนทรัพย์สินสภาพคล่อง

2. ธนาคารพาณิชย์และวาณิชธนกิจ : ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ซื้อขายที่ใหญ่ที่สุดของตลาด Forex โดยทําการซื้อขายแลกเปลี่ยน กันระหว่างธนาคาร ที่ธรรมเนียมค่า Spread ต่ํามากๆ ซึ่งบัญชีซื้อขายที่ทํากันระหว่างธนาคารคิดเป็น 55% ของการทําธุรกรรมในตลาด Forex เลยทีเดียว

โดยทั่วไปมีสองเหตุผลที่ธนาคารพาณิชย์เข้ามามีส่วนร่วมในตลาด Forex คือ เพื่ออํานวยความสะดวกในการทําธุรกรรมสําหรับลูกค้า
และเพื่อค่าเนินธุรกิจการซื้อขายหลักทรัพย์

3. บรรษัทข้ามชาติ : เข้ามามีส่วนร่วมในตลาด Forex ด้วยวัตถุประสงค์หลักในเรื่องของการป้องกันความเสี่ยง โดยเป็นการชดเชย ความเสี่ยงอันเนื่องมาจากการเคลื่อนไหวและความผันผวนของสกุลเงิน การป้องกันความเสี่ยงคิดเป็นประมาณ 5% ของการท่
ธุรกรรมในตลาด Forex

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดขึ้นสัก 1 ตัวอย่าง ซึ่งเป็นตัวอย่างในมุมของ ผู้ส่งออก

สมมุติว่าคุณท่าธุรกิจส่งออกไปยังอเมริกา สินค้าล็อตนี้ลูกค้าทางอเมริกาจะต้องจ่ายให้คุณตามตกลงกันคือ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ ระยะเวลาที่คุณต้องใช้ในการส่งสินค้าประมาณ 3 เดือน เมื่อของถึงมือลูกค้าที่อเมริกาเมื่อไหร่ เขาจะชําระเงินให้คุณ 100,000
ดอลลาร์สหรัฐ

สมมุติว่าอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ตกลงกันอยู่ที่ 31 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ปรากฏว่าในช่วงระหว่างการจัดส่งสินค้า เงินบาทอ่อน ค่าลงเมื่อเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐมาอยู่ที่ 34 บาท คุณก็จะได้รับเงินบาทที่มากขึ้นเมื่อเทียบกับอัตราแลกเปลี่ยนในวันที่ลูกค้าชําระเงิน ให้ แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าสกุลเงินบาทแข็งค่าขึ้นเป็น 29 บาท คุณก็จะได้รับเงินบาทที่น้อยลงด้วยเช่นกัน

ซึ่งในฐานะที่คุณเป็นผู้ส่งออกก็จะมีความเสี่ยงจากความผันผวนของสกุลเงิน แต่ลูกค้าทางฝั่งอเมริกาไม่มีความเสี่ยงใดๆ เพราะไม่ว่า จะยังไง เขาก็ต้องจ่ายเงินให้คุณ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐเสมอ โดยเขาไม่ต้องคํานึงว่าจะต้องชําระเงินเมื่อไหร่
ดังนั้น "ผู้ส่งออก" จะต้อง "เปิดสถานะซื้อ" ในสกุลเงินของตนไว้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงของสกุลเงินที่แข็งค่าขึ้น ทําให้กําไรสุทธิของ ผู้ส่งออกลดลง เมื่อรับ าระเงินค่าสินค้าในสกุลเงินอื่น

ส่วน "ผู้นําเข้า" จะต้อง "เปิดสถานะขาย" ในสกุลเงินของตนไว้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงของสกุลเงินที่อ่อนค่าลง ทําให้ต้องจ่ายค่า สินค้ามากขึ้นเมื่อต้องชาระเงินค่าสินค้าในสกุลเงินอื่น

4. นักลงทุนสถาบัน : นักลงทุนสถาบันในตลาด Forex รวมไปถึงการลงทุนและบริษัทประกันภัย กองทุนบ่าเหน็จทํานาญ กองทุน รวม และกองทุนป้องกันความเสี่ยง สถาบันเหล่านี้มีประมาณ 30% ของการทําธุรกรรมในตลาด Forex
สถาบันเหล่านี้เข้ามามีส่วนร่วมในตลาด Forex ด้วย 2 เหตุผล

เหตุผลแรก คือ เทรดเพื่อผลกําไร
ส่วนเหตุผลที่ 2 เพื่อขยายหลักทรัพย์ในครอบครองไปยังหลายประเทศทั่วโลก

5. โบรกเกอร์ Forex รายย่อย : โบรกเกอร์ช่วยให้บุคคลทั่วไปเข้าถึงตลาด Forex ได้โดยการส่งผ่านคําสั่งซื้อขายของลูกค้าไปยัง ธนาคารพาณิชย์ หรือแพลตฟอร์มการซื้อขายของสถาบัน



โดยทั่วไปรูปแบบพื้นฐานของโบรกเกอร์มีอยู่ 2 ประเภทคือ
• ประมวลผลโดยตรง (Straight-through processing : STP) : จะส่งคําสั่งซื้อขายของลูกค้าทั้งหมดโดยส่งไปยังผู้ให้ บริการสภาพคล่องที่อยู่เบื้องหลัง หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือส่งคําสั่งซื้อขายของลูกค้าเข้าตลาดทั้งหมดนั่นเอง

โบรกเกอร์เหล่านี้จะมีรายได้จากค่า Spread หรือการเรียกเก็บค่า Commission ในแต่ละรายการของการท่าธุรกรรม

• ผู้ท่าตลาด (Market Maker : MM) : จะดําเนินการแตกต่างออกไป นอกจากจะได้รับค่า Spread และ Commission ใน แต่ละรายการของการทําธุรกรรมแล้ว โบรกเกอร์ยังสํารองคําสั่งซื้อขายของลูกค้าไว้ภายในอีกด้วย

ซึ่งหมายความว่าโบรกเกอร์เองนั้นจะกลายเป็นผู้เล่นฝั่งตรงข้ามกับการซื้อขายของลูกค้านั่นเอง

6. เทรดเดอร์รายย่อย : ด้วยจํานวนบัญชีทั้งหมด เทรดเดอร์รายย่อยเป็นส่วนที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดของตลาด Forex

ทุกวันนี้บัญชีของเทรดเดอร์ Forex รายย่อยมีประมาณ 8% ของตลาด Forex และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง