ADX Indicator

เริ่มโดย support-1, พฤษภาคม 23, 2023, 04:33:07 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

support-1

Average Directional Index (ADX), Minus Directional Indicator (-DI) a Plus Directional Indicator (+DI) เป็นกลุ่มของอินดิเคเตอร์ที่บอกทิศทางการเคลื่อนไหวที่ทําให้เกิดระบบการเทรด พัฒนาโดย Welles Wilder ซึ่ง Wilder ได้ออกแบบ ADX ให้เหมาะกับตลาดโภคภัณฑ์และราคารายวัน แต่ว่าอินดิเค เตอร์นี้สามารถใช้ได้กับหุ้นด้วย Average Directional Index (ADX) จะวัดความแข็งแกร่งของเทรนด์โดย ไม่เกี่ยวข้องกับทิศทางของเทรนด์ ส่วนอีก 2 ตัว คือ Plus Directional Indicator (+DI) และ Minus Directional Indicator (-DI) เป็นตัวเสริมที่จะบอกทิศทางของเทรนด์ การใช้ร่วมกันเทรดเดอร์สารถบอกทั้ง ทิศทางและความแข็งแกร่งของเทรนด์

Wilder กล่าวถึง Directional Movement indicator ในหนังสือของเขาในปี 1978 New Concepts in Technical Trading Systems หนังสือเล่มนี้ยังรวมรายละเอียดของ Average True Range (ATR) Parabolic SAR system และ RS] แม้ว่าจะถูกพัฒนาตั้งแต่ก่อนยุคคอมพิวเตอร์ อินดิเคเตอร์ของ Wilder เป็นสิ่งที่ มหัศจรรย์ในด้านการคํานวณและอยู่มานานจนทุกวันนี้

Directional Movement

Plus Directional Movement (HDM) และ Minus Directional Movement (DM) เป็นส่วนสําคัญของ Average Directional Index (ADX) Wilder ชี้วัดทิศทางการเคลื่อนไหวโดยการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง ราคา Low สองจุดและราคา high



ทิศทางการเคลื่อนไหวเป็นบวก (plus) เมื่อค่า high ลบด้วยราคา high ครั้งก่อน มากกว่า ค่า Low ครั้งก่อน ลบด้วยราคา Low ปัจจุบัน ดังนั้นมันจึงเรียกว่า Plus Directional Movement (+DM) แล้วการเท่ากันของ ราคา high ปัจจุบันลบด้วย high ครั้งก่อน จะให้ค่าบวก ค่าลบจะเป็นค่า 0
ทิศทางการเคลื่อนไหวเป็นลบ (minus) เมื่อราคา Low ก่อนหน้า ลบด้วยราคา Low ปัจจุบัน แล้วมากกว่า ราคา high ปัจจุบันลบด้วยราคา high ก่อนหน้า ซึ่งเรียกว่า Minus Directional Movement (-DM) เท่ากับ ราคา Low ก่อนหน้าลบด้วยราคา Low ปัจจุบัน จะให้ค่าบวก และ ค่าลบจะเท่ากับ 0
กราฟข้างบนแสดงให้เห็นถึงการคํานวณ 4 ตัวอย่างสําหรับการคํานวณทิศทางการเคลื่อนไหว คู่แรกแสดง ให้เห็นถึงความแตกต่างค่าบวกระหว่าง ราคา high สําหรับทิศทาง Plus Directional Movement (+DM) ที่ ชัดเจน คู่ที่สองแสดง Minus Directional Movement (-DM) กําลังได้เปรียบ คู่ที่ 3 แสดงความแตกต่าง ระหว่าง ราคาต่ําสุดสําหรับ Minus Directional Movement (-DM) ที่ชัดเจน คู่สุดท้ายแสดง กราฟ inside day ซึ่งไม่มีทิศทาง (zero) ทั้ง Plus Directional Movement (+DM) และ Minus Directional Movement (- DM) จะหักล้างกันและกัน ค่าลบจะกลับเป็น 0 ทั้ง inside day จะมีค่าเป็น 0

การคํานวณ
ขั้นตอนการคํานวณ สําหรับ Average Directional Index (ADX) จะอธิบายเป็นขั้นตอน Average True Range (ATR) จะไม่บอกละเอียดเพราะว่าอธิบายไว้ใน บทความอื่นแล้ว โดยทั่วไปแล้ว ATR คือเวอร์ชั่น ของ Wilder ส่วนเวอร์ชั่นที่สมูธ Plus Directional Movement (-DM) และ Minus Directional Movement (-DM) จะถูกหารด้วยสมูธเวอร์ชั่นของ Average True Range (ATR) อีกทีเพื่อสะท้อนค่าความเคลื่อนไหว
ตัวอย่างข้างล่าง คํานวณ ADX ภายใต้ค่า 14 วัน
1. คํานวณ ค่า True Range (TR), Plus Directional Movement (+DM) และ Minus Directional Movement (-DM) สําหรับแต่ละช่วงเวลา
2. ปรับค่าให้สมูธ ด้วย Wilder เทคนิค ซึ่งจะอธิบายในส่วนถัดไป
3. หารค่า 14-day smoothed Plus Directional Movement (+DM) ด้วย e 14-day smoothed True Range เพื่อให้ได้ 14-day Plus Directional Indicator (+DI14) แล้วคูณด้วย 100 เพื่อเอาทศนิยมออก s +DI14 Plus Directional Indicator (green line) จะพล็อตพร้อมกับเส้น ADX.
4. หารค่า 14-day smoothed Minus Directional Movement (-DM) ด้วย 14-day smoothed True Range เพื่อ หาค่า 14-day Minus Directional Indicator (-DI14) หลังจากนั้นคูณ 100 เพื่อกําจัดทศนิยม -DI14 คือ Minus Directional Indicator (เส้นสีแดง) จะพล็อตพร้อมกับ ADX.
5. The Directional Movement Index (DX) เท่ากับ ค่าสัมบูรณ์ของ +DI14 น้อยกว่า - DI14 หารด้วย ผลรวมของ +DI14 กับ - DI14 แล้วคุณผลลัพธ์ที่ได้ด้วย 100 เพื่อเอาทศนิยมออก
6. หลังจากเสร็จแล้ว ต่อไปต้องคํานวณ Average Directional Index (ADX) ค่า ADX แรก คือ 14-day average of DX ต่อมาก ADX values จะถูกปรับค่าด้วยการคูณ ค่า 14-day ADX ด้วย 13 ใส่ค่า DX แล้ว หารด้วย 14



ข้างบนคือ ตาราง Excel พร้อมกับขั้นตอนการคํานวณ มีช่องว่างการคํานวณ 119 day เพราะว่าค่า 150 ต้องปรับสมูธ  กราฟข้างล่าง แสดงตัวอย่างของการใช้ ADX ในตลาด Nasdaq 100 ETF (QQQQ)



การปรับค่า สมูธของ Wilder

อย่างที่ได้เห็นในการคํานวณ ADX มีการปรับค่า smoothing เข้ามาเกี่ยวข้องเต็มไปหมดและมันสคัญที่ จะต้องเข้าใจผลกระทบของมัน เพราะว่าเทคนิคนี้สามารถใช้ข้อมูล 150 ช่วงเพื่อให้ได้ค่า ADX และ Wilder ใช้เทคนิคเดียวกันกับการคํานวณ RSI และ Average True Range และ ADX ใช้ค่า 30 ซึ่งจะไม่ แมทช์กับ ADX ที่ใช้ค่า 150 ADX กับ 150 days หรือมากกว่าจะยังคงทําให้มันคงที่

เทคนิคแรกที่ใช้ในการปรับค่าของ +DM1, -DM1 และ TR1 ใช้ค่า 14 วัน เช่นเดียวกับ exponential moving average การคํานวณเริ่มจากค่าแรกที่เป็นค่าผลรวมของ 14 ช่วงเวลาแรก ดังที่แสดงในตาราง



เทคนิคที่ 2 คือใช้ค่าปรับสมูทแต่ละช่วงของ DX value กับ Average Directional Index (ADX) อันดับแรก
คํานวณ ค่าเฉลี่ยของ 14 days เป็นจุดเริ่มต้น อันดับสอง ใช้เทคนิคการคํานวณข้างล่าง :



การตีความ

The Average Directional Index (ADX) ถูกใช้ในการวัดความแข็งแกร่งหรือว่าความอ่อนแรงของเทรนด์ ไม่ได้บอกทิศทางของการเคลื่อนไหว ทิศทางของการเคลื่อนไหว วัดด้วยโดย +DI และ DI โดยทั่วไป แล้ว ตลาดกระทิงมีความได้เปรียบเมื่อ +DI มีค่ามากกว่า
-DI ขณะที่ตลาดหมีจะมีความได้เปรียบเมื่อ - DI มีค่ามากกว่า การตัดกันของอินดิเคเตอร์สามารถรวมกันกับ ADX ทําให้ระบบเทรดสมบูรณ์
ก่อนที่จะดูสัญญาณ โปรดระลึกไว้เสมอว่า Wilder เป็นเทรดเดอร์ในตลาดโภคภัณฑ์และค่าเงิน ตัวอย่างใน หนังสือจะใช้เครื่องมือเหล่านี้ ไม่ใช่หุ้น แต่นี่ไม่ได้หมายความว่ามันใช้กับหุ้นไม่ได้ บางครั้งหุ้นที่มีลักษณะ คล้ายกับโภคภัณฑ์ ซึ่งผันผวนกว่าในระยะสั้นและมีเทรนด์ที่แข็งแรง หุ้นที่ความตัวผวนต่ําอาจจะไม่ สามารถสร้างสัญญาณตาม Wilder's parameter นักเทรดจะต้องปรับการตั้ง indicator หรือสัญญาณตาม พฤติกรรมของหลักทรัพย์

ความแข็งแกร่งของเทรนด์

การใช้ Average Directional Index (ADX) สามารถใช้ในการตัดสินว่าถ้าหลักทรัพย์นั้นมีเทรนด์หรือไม่ การวิเคราะห์นี้ช่วยเทรดเดอร์เลือกระหว่างจะเป็นระบบเทรดตามเทรนด์หรือว่าระบบสวิว Wilder แนะนํา ว่า เทรนด์ที่ชัดเจนจะเกิดขึ้นเมื่อ ADX อยู่สูงกว่า 25 และไม่มีเทรนด์เมื่อค่าต่ํากว่า 20 ซึ่งค่อนข้างว่า อาจจะมีพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่าง 20 และ 25 อย่างที่กล่าวไว้ตอนแรก นักเทรดอาจจะต้องปรับการตั้งค่า เพื่อเพิ่มความอ่อนไหวของสัญญาณ ADX ยังคงมี Lag บ้างแต่ก็ยอมรับได้ เพราะว่ามีการปรับใช้สมูธ เทคนิค ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จะเลือกใช้ระดับ 20 เป็นสําคัญ สําหรับ ADX



กราฟข้างบนแสดงหุ้น Nordstrom (JWN) พร้อมกับ 50-day SMA และ 14-day Average Directional Index (ADX) หุ้นเคลื่อนไหวจากเทรนด์ขาขึ้นที่แข็งแกร่งในเดือน April-May แต่ ADX ยังคงอยู่สูงกว่า 20 เพราะว่าเทรนด์ขาขึ้นอย่างรวดเร็วเปลี่ยนเทรนด์ขาลงอย่างรวดเร็ว มีช่วงไม่มีเทรนด์เนื่องจากหุ้นเกิด Bottom ในเดือนกุมภาพันธ์ และ เดือนสิงหาคม เทรนด์ที่แข็งแกร่งเกิดหลังจากเดือน August เมื่อ ADX อยู่ สูง 20 และยังคงอยู่สูงกว่า 20

DI Crossover System

Wilder ใส่ระบบเทรดที่ธรรมดากับ Indicator ADX สิ่งแรกที่ต้องใช้คือ ADX ต้องอยู่เหนือ 25 นี่ทําให้ ราคาเป็นเทรนด์ เทรดเดอร์หลาย ๆ คนใช้ 20 เป็น key level สัญญาณ Buy เกิดขึ้นเมื่อ +DI ตัดเหนือ - DI ของ Wilder ซึ่งจะขึ้นอยู่กับ ราคา Low ของสัญญาณ Day สัญญาณจะอยู่ตราบเท่าที่ราคา Low ยังอยู่อย่าง นั้น แม้ว่า +DI ตัดกลับมาต่ํากว่า - DI ให้รอราคา Low หมดก่อน สัญญาณตลาดกระทิงจะเกิดขึ้น เมื่อ ADX เลี้ยวกลับขึ้นและเทรนด์แข็งแกร่ง เมื่อเทรนด์พัฒนาและเราเริ่มกําไร เทรดเดอร์จะต้องใส่ Trailing Stop เมื่อเทรนด์ไปต่อ เมื่อ - DI ตัดสูงกว่า +DI ราคา high ของวันที่เกิดสัญญาณ Sell จะกลายเป็นจุดส่ง Stop loss



กราฟข้างบนแสดงหุ้น Medco Health Solutions พร้อมกับ ADX ซึ่งใช้ค่า 20 แทน 25 การตั้งค่าต่ํา หมายความว่าให้สัญญาณที่ดีมากกว่า เส้นสีเขียวแสดงสัญญาณ Buy สีแดงแสดงสัญญาณ Sell กราฟแสดง สัญญาณ +DI และ - DI ตัดกัน บางครั้งเกิด ADX สูงกว่า 20 เป็นสัญญาณที่ถูกต้อง ซึ่งส่วนอื่นเป็น สัญญาณที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ระบบส่งสัญญาณหลอกมากมาย มีสัญญาณดีและสัญญาณไม่ดี ปะปนกัน แต่หลักคือต้องใช้กับ Indicator ตัวอื่นๆ ต้อวย่างเช่น กลุ่มแรกที่มีสัญญาณหลอก ในเดือน September 2009 เกิดในช่วงกราฟกระจุกตัว ซึ่งคล้ายกับรูปธง ซึ่งเกิดเป็นการกระจุกตัวสัญญาณตลาด กระทิง เราควรจะใช้จังหวะนี้ไม่ดูสัญญาณ Sell และดูสัญญาณ Buy อย่างเดียว ในเดือน June 2010 สัญญาณ buy เกิดขึ้นใกล้สัญญาณแนวต้าน ซึ่งเกิดที่ระดับจุดพักฐาน 50-62% ซึ่งควรจะไม่สนใจสัญญาณ Buy ณ จุดนี้



กราฟข้างบนแสดง AT&T (T) พร้อมกับสัญญาณเทรดตลอด 12 เดือน สัญญาณ 3 ครั้งค่อนข้างดี และมี กําไร พร้อมกับต้องใช้ Trailing Stop Wilders ใช้ Parabolic SAR ตั้ง Stop loss จะสังเกตุว่าไม่มีสัญญาณ Sell ระหว่างเดือน March และ July เพราะว่า ADX ไม่อยู่สูงกว่า 20 เมื่อ DI ตัดอยู่เหนือ +DI ในช่วง ปลายเดือน April.

สรุป
การคํานวณ ADX นั้นซับซ้อน การตีความค่อนข้างตรงไปตรงมา และการจะนําไปใช้ต้องอาศัยการฝึก +DI และ - DI ตัดกันค่อนข้างบ่อย นักเทรดต้องกรองสัญญาณเหล่านี้โดยการวิเคราะห์เพิ่มเติม การตั้งค่า ADX เพิ่มจะช่วยลดสัญญาณหลอก แต่ว่าถ้าตั้งแข็งมากก็จะลบสัญญาณเทรดที่ดีออกไปด้วยเช่นกัน อีกแง่หนึ่ง นักเทรดอาจจะต้องพิจารณาการไม่ใช้ ADX แล้วดูเฉพาะสัญญาณ DI อย่างเดียว ซึ่งการตัดกันของสัญญาณ