มองหาการเทรดด้วยการไหลมาบรรจบกัน

เริ่มโดย support-1, ธันวาคม 19, 2023, 01:13:40 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

support-1

สำหรับการฝึกเทรดใดๆ นอกเหนือจากการค้นหารูปแบบการเคลื่อนไหวของแท่งเทียนแล้วยังต้องมีเรื่องการมองหาการเทรดที่มีความน่าจะเป็นสูงซ้อนอยู่อีกด้วย หนึ่งในความน่าจะเป็นสูงคือเรื่องของการยืนยันด้วยการมองหาการไหลมารวมกันของสัญญาณแท่งเทียนกับ KEY LEVEL ที่ไหลมารวมกันและสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ให้ลองใช้อินดิเคเตอร์ไปก่อนจนกว่าจะคุ้นชินหรือจนกว่าจะสามารถมองเห็นพฤติกรรมของแท่งเทียนออก แล้วค่อยเอาอินดิเคเตอร์เหล่านี้ออก ในส่วนของเทรดเดอร์ที่มีความคุ้นเคยกับชาร์ตราคาเปล่าแล้วให้มองหาการบรรจบกันไปได้เลย ดังนั้นเราจะแบ่งงานออกเป็นสองส่วนดังนี้:

- การเคลื่อนไหวของกราฟแท่งเทียน: ถือเป็นการเคลื่อนไหวของตลาดในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยการเรียนรู้ที่จะอ่านการเคลื่อนไหวของราคา สามารถกำหนดทิศทางของตลาดโดยรวมได้ ไปจนถึงความสามารถอ่านรูปแบบ PATTERN ของกราฟราคาจะยิ่งสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงหรือความต่อเนื่องในความเชื่อมั่นของตลาดได้ด้วย

- การบรรจบกัน: ณ จุดหนึ่งในตลาดที่มีสองระดับหรือมากกว่านั้น การตัดกันหรือจุดไหลมารวมกันในตลาด ในพจนานุกรมการบรรจบกันหมายถึงการรวมกันของผู้คนหรือสิ่งของ ดังนั้นโดยทั่วไปเมื่อเรามองหาพื้นที่ที่ไหลมารวมกันในตลาดเรากำลังมองหาพื้นที่ที่มีสองระดับขึ้นไปหรือพื้นที่ที่มีอินดิเคเตอร์กำลังตัดกัน

ปัจจัยในการมองหาการบรรจบกันที่ชาร์ตราคา:

1. แนวโน้ม- มองหาแนวโน้มหลักก่อน ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลงเพราะมันเป็นหลักในการมองหาสิ่งต่อไปที่จะมาบรรจบกับตัวของแนวโน้มเอง
2. อินดิเคเตอร์เส้นค่าเฉลี่ยราคาเคลื่อนที่- ในที่นี้ใช้ EXPONENTIAL MOVING AVERAGE (EMA 8 และ 21) เพื่อช่วยระบุแนวโน้มโดยมันจะมีช่วงช่องแนวรับ แนวต้านในตัวแบบไดนามิก เส้นทั้งสองนี้เป็นปัจจัยหรือระดับที่สามารถเพิ่มการบรรจบกันในการตั้งค่าการเทรดได้
3. แนวรับ แนวต้าน- เส้นแนวรับ แนวต้านจากกราฟแท่งเทียนในอดีตทางฝั่งซ้าย นี่เป็นแนวรับแนวต้านคลาสสิคที่ยังคงต้องใช้อยู่ โดยทั่วไปมันจะเชื่อมต่อสวิงของกราฟราคาให้
4.พื้นที่เกิดกิจกรรม- พื้นที่ดังกล่าวมักจะเกิดเหตุการณ์การเคลื่อนไหวของราคาอย่างมีนัยสำคัญ อาจเป็นการเคลื่อนไหวตามทิศทางแนวโน้มที่แข็งแกร่งหลังจากเกิดสัญญาณการเคลื่อนไหวของแท่งเทียนแล้วหรืออาจเป็นการปฏิเสธ LEVEL ตามด้วยการย้อนกลับ มักจะเหตุการณ์ที่สำคัญบางอย่าง ณ จุดหนึ่งในตลาด ให้พิจารณาพื้นที่กิจกรรมเหล่านี้ให้ดี
5. การย้อนกลับที่ 50%- LEVEL การย้อนกลับหรือRETRACE 50% ถึง 61.8% ในส่วนของ FIBONACCI ปรกติแล้วฉันจะไม่ใช้ LEVEL ทั้งหมดของ FIBONACCI เพราะพวกเขามีความรอบคอบและจับจดเกินไปที่จะใช้งานได้ ความรู้ทั่วไปโดยปรกติแล้วส่วนใหญ่ในตลาดมีแนวโน้มที่จะย้อนกลับประมาณ 50% แต่ระดับต่างๆ ใน FIBONACCI จะใช้ได้ในบางกรณี ไม่ผิดถ้าคุณจะใช้ตัวเลขทั้งหมดแต่จะเป็นการดีถ้าคุณนำเอาแต่สิ่งที่คุณต้องการมาใช้ในส่วนที่ต้องการ นอกนั้นอาจทำให้คุณสับสนได้

5 หัวข้อข้างต้นที่กล่าวมาเป็นเพียงบาง LEVEL ที่สามารถตัดกันเพื่อมองหาพื้นที่ไหลมารวมกันในตลาดได้ นอกจากนี้อาจมี LEVEL ระหว่างวันและปัจจัยอื่นๆ เพิ่มเติมอีกได้เช่นกัน

การรวมกันของ LEVEL การบรรจบกับสัญญาณการเคลื่อนไหวของแท่งเทียน

เริ่มด้วยการมองหารูปแบบแท่งเทียนที่ชัดเจนที่ก่อตัวที่จุดบรรจบกันในตลาดเป็นหลัก ยิ่งชัดเจนยิ่งมีความน่าจะเป็นสูง จากนั้นให้วิเคราะห์โครงสร้างตลาดและบริบทที่สัญญาณเกิดขึ้น  ตรวจสอบปัจจัยการรวมตัวกันอีกครั้ง ให้มีอย่างน้อยสองรายการที่สอดคล้องกัน ก่อนตัดสินใจเพราะหากไม่เป็นเช่นนั้นอาจไม่คุ้มค่าที่จะเสี่ยงต่อเงินของคุณ

ตัวอย่างของการตั้งค่า PIN BAR ที่เห็นได้ชัดบนกรอบรายวันมีการไหลมารวมกัน 4 หัวข้อ:

- PIN BAR นี้มีการบรรจบกับแนวโน้มขาลงที่โดดเด่น เนื่องจากมีการทำสวิงที่ต่ำลงมาแล้วตามลำดับ
- มีการวิ่งสลับไปมาระหว่างเส้น EMA ก่อนที่เส้น EMA 8 จะวิ่งตัดเส้น EMA 21 ลงมา นำไปประกอบกับหัวข้อแรกคือมีการทำสวิงลงมา
- PIN BAR ปฏิเสธเส้นแนวต้านทางฝั่งซ้าย (เส้นแนวนอน)
- ในจังหวะที่มาการ BREAK แนวรับฝั่งซ้ายลงมาได้ เราอาจเข้าทำการเทรดหรือรอการยืนยันด้วยการลากเส้น FIBONACCI ก่อนที่จะรอให้แท่งเทียนย้อนกลับไปที่ 50% พร้อมกับสัญญาณ PIN BAR ที่เกิดขึ้นให้เราเข้า เทรด forex ได้



ลองมาดูอีกตัวอย่าง ที่มี 3 ข้อของการไหลหรือการบรรจบกันให้เห็น:

- กราฟแท่งเทียนจากแนวโน้มขาลงที่มีโมเมนตัมที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน มีการทำสวิงขึ้นไปทดสอบแนวต้านฝั่งซ้ายที่ไม่สามารถทะลุได้ ยิ่งยืนยันการลงมาของแนวโน้มชัดเจนมากขึ้น มันเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ
- เราสามารถมองเห็นช่วงช่องของเส้น EMA 8 และ 21 ที่ขนานกันลงมา ก่อนจะมีการ BREAK แนวรับลงไปได้ แน่นอนว่ามักจะมีการย้อนกลับไปทดสอบแนวรับเดิม (ตอนนี้เป็นแนวต้านแล้ว) ที่ทะลุลงมาได้
- มีรูปแบบ INSIDE BAR เกิดขึ้น



จากภาพตัวอย่าง มีปัจจัยเรื่องแนวโน้ม โมเมนตัม ช่วงช่องเส้นค่าเฉลี่ยราคา การทะลุแนวรับ การทดสอบแนวต้าน รูปแบบแท่งเทียน ปัจจัยหลายอย่างมารวมกันเช่นนี้สำหรับการตั้งค่าการเทรดโดยเฉพาะมันเป็นสัญญาณที่ดีมากและเป็นการยืนยันในประเภทที่ทำให้เราเห็นว่าการเทรดนั้นคุ้มค่าที่จะเสี่ยง

สรุป

จากตัวอย่างข้างต้นเมื่อคุณได้รับความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของแท่งเทียนกับการไหลมารวมกันของ LEVEL สำคัญกับสิ่งต่างๆ ที่เป็นปัจจัยในตลาดเพื่อการเข้าเทรดที่ชัดเจน คุ้มค่ากับความเสี่ยงแล้ว ให้คุณฝึกฝนและต่อยอดไปที่เรื่องของการหาเป้าหมายการทำกำไรและการจัดการด้านการเงินต่อไป เพื่อให้การเทรดของคุณยิ่งมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น