คู่มือสู่แท่งเทียนแบบ Spinning Top

เริ่มโดย support-1, มีนาคม 22, 2024, 02:50:18 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

support-1

จับจังหวะทำกำไรแบบเซียนด้วยการอ่านค่าแนวโน้มของ Spinning Top จากกราฟแท่งเทียน รูปแบบของแท่งเทียน จะบอกแนวโน้มของตลาดจากแรงกระเพื่อขอหมีและกระทิงในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ

แท่งเทียนแบบ Spinning Top คืออะไร
แท่งเทียนแบบ Spinning Top (Spinning Top Candlestick) เป็นรูปแบบหนึ่งของกราฟแท่งเทียนซึ่งเป็นกราฟเทคนิค ลักษณะคือตัวแท่งจะสั้นมีหางทั้งบนและล่าง หางจะสั้นหรือยาวก็ได้ขนาดความยาวหางทั้งบนและล่างควรจะไล่ ๆ กัน



แท่งเทียนแบบนี้จะบอกใบ้ทิศทางของราคาหลักทรัพย์ในอนาคต เป็นสัญญาณการเปิดสัญญาหรือซื้อขายสำหรับนักลงทุน



แท่งเทียนแบบ Spinning Top เป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นเมื่อผู้ซื้อและผู้ขายสร้างสมดุลในอำนาจ ราคาปิดและเปิดเท่ากันในแต่ละช่วงเวลาอาจจะหนึ่งนาที ห้านาที สิบห้านาที หนึ่งชั่วโมงหรือช่วงเวลาใดก็แล้วแต่ที่นักลงทุนตั้งค่า Timeframe ไว้เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมของคนในตลาดที่สะท้อนออกมาผ่านราคา  แท่งเทียนรูปแบบนี้จะปรากฏเป็นแท่งสีเขียวราคาเปิดอยู่ต่ำกว่าราคาปิด สะท้อนตลาดกำลังจะมีแนวโน้มขาขึ้น และสีแดงราคาเปิดสูงกว่าราคาปิด สะท้อนตลาดกำลังจะมีแนวโน้มขาลง

แท่งเทียนแบบ Spinning Top เกิดได้ยังไงบ้าง
พฤติกรรมของนักเทรดกำหนดรูปแบบของกราฟแท่งเทียน นักเทรดแบ่งออกเป็นกลุ่มกระทิงที่จะผลักแท่งเทียนให้เลื่อนสูงขึ้น และกลุ่มหมีที่ดึงให้แท่งเทียนลดระดับต่ำลง นักลงทุนคนหนึ่งจะเป็นกระทิงหรือหมีขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ในตลาดราคาจะมีแนวโน้มขาลงหรือขาขึ้นชัดเจนขึ้นอยู่กับอำนาจการซื้อขายของกลุ่มกระทิงหรือกลุ่มหมีที่มีมากกว่ากัน

ในช่วงตลาดขาขึ้นนักเทรดกระทิงมักส่งราคาสูงกว่าราคาเปิดในช่วงเวลาก่อนหน้าซึ่งเป็นไปได้ว่านักเทรดหมีอาจจะดึงราคาลงมาในเวลาเดียวกันพอดี และในช่วงตลาดขาลงนักเทรดหมีมักส่งราคาต่ำกว่าราคาเปิด ซึ่งนักเทรดกระทิงก็อาจจะพยายามดึงราคาขึ้นไปอย่างได้จังหวะพอดีเช่นกัน ราคาที่มาจากนักเทรดกระทิงและนักเทรดหมีต่างกันบ้างแต่น้อยมากจึงทำให้แท่งเทียนออกมาเป็นรูปแบบ Spinning Top

เรารู้อะไรจากแท่งเทียนแบบ Spinning Top
แท่งเทียนแบบ Spinning Top สื่อถึงการชะลอการตัดสินใจที่ส่งผลต่อการซื้อขายอย่างมีนัยยะสำคัญของนักลงทุน หรือการตัดสินใจที่จะไม่กำหนดราคาให้สูงหรือต่ำอย่างเด็ดขาด ถ้าสถานการณ์ความไม่แน่ใจยังดำเนินต่อไป กราฟแท่งต่อ ๆ ไปก็จะปรากฏขึ้นด้านข้างโดยไม่แสดงแนวโน้ม (Sideway) อย่างไรก็ตามสีและตำแหน่งของแท่งเทียนก็ให้สัญญาณว่าในอนาคตอันใกล้ แนวโน้มขาขึ้นหรือลงกำลังจะปรากฏให้เห็น



ในขาขึ้นที่จุดสูงสุด มักพบแท่งเทียนแบบ Spinning Top ซึ่งเป็นสีแดงแสดงว่านักเทรดกระทิง (Bull Trader) กำลังจะสูญเสียการควบคุมเพื่อกำหนดราคา แนวโน้มกำลังจะเปลี่ยนเป็นขาลง และในทางกลับกัน ถ้าหากเจอแท่งเทียนแบบ Spinning Top ในกราฟขาลงซึ่งเป็นสีเขียวก็แสดงว่านักเทรดหมีกำลังสูญเสียอำนาจการกำหนดราคาไปอยู่ทางฝั่งกระทิงซึ่งจะทำให้ราคาพุ่งทะยานขึ้น



การดูสัญญาณจากแท่งเทียนเพียงแท่งเดียว หรือดูจาก Spinning Top เพียงรูปแบบเดียว เป็นเรื่องเสี่ยงเกินไป ในเบื้องต้น ถ้าพบกับแท่งเทียนแบบ Spinning Top แล้ว ไม่ควรบุ่มบ่ามแต่ควรรอสัญญาณยืนยันอื่น เช่น แท่งเทียนที่ปรากฏขึ้นตามมา 2-3 แท่งควรเป็นไปในทิศทางที่คาดไว้ เช่น Spinning Top เป็นสีแดงก็รอเห็นกราฟแท่งเทียนปรากฏตามมาเป็นสีแดงติด ๆ กัน 2-3 แท่ง และไม่ได้อยู่ในช่วงแคบก็ค่อยเชื่อว่าตลาดเป็นขาลง และตัดสินใจลงทุนในช่วงขาลง หรือถ้า Spinning Top เป็นสีเขียว ก็รอจนเห็นแท่งเทียนสีเขียวอื่น ๆ ตามมาพร้อมกับระคาที่ดันตัวสูงขึ้นไปอีก ค่อยสรุปว่ากำลังเจอกับขาขึ้น

จะเทรดเมื่อเป็น แท่งเทียนแบบ Spinning Top ได้ยังไง
มีหลายวิธีในการเทรดเมื่อเห็นแท่งเทียนแบบ Spinning Top สิ่งแรกที่ต้องทำเน้นอีกครั้งว่าคือการยืนยันว่ากำลังเห็นสัญญาณอยู่ ไม่ใช่แค่แท่งเทียนบังเอิญแสดงรูปแบบ Spinning Top และหลังจากนั้นไม่ปรากฏว่าราคาปรับเป็นขาขึ้นหรือขาลงหรือเป็นไปในทิศทางที่ไม่ได้คาดซึ่งจะทำให้ขาดทุนได้



นักเทรดจำนวนมากใช้ตัววัดทางเทคนิคเข้ามายืนยันประกอบการเทรด เพราะว่าตัววัดทางเทคนิคจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมมากกว่าแค่ข้อมูลราคาที่เปลี่ยนไป เช่น

1.Moving Average Convergence-Divergence (MACD) คือ ตัวชี้วัดที่บอกทิศทางแนวโน้มของหุ้น เป็นเครื่องมีที่มีแนวคิดจากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 2 เส้นที่มีค่าแตกต่างกัน คำนวณจากราคาปิดย้อนหลัง

2.Relative Strength Index (RSI) คือ เครื่องมือที่ใช้วัดการแกว่งตัวของราคาว่ามีภาวะการซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือการขายมากเกินไป (Oversold) มีค่าตั้งแต่ 0 ถึง 100 หากมีการซื้อมากไป เมื่อราคาพุ่งไปสูงแล้ว อาจจะไม่เพิ่มสูงต่อ ปริมาณการซื้อลดลง ราคาเริ่มลดลง หรือเมื่อราคาลดลงต่ำแล้ว อาจจะไม่ลดต่อ ปริมาณการซื้อกลับมาเพิ่มขึ้น เราสามารถดูที่เส้น RSI ประกอบกราฟแท่งเทียนเพื่อหาสัญญาณราคากลับตัวเป็นขาขึ้นหรือขาลง

3.Stochastic Oscillator เน้นเปรียบเทียบราคาปิดในช่วงระยะเวลาหนึ่ง มีค่าระหว่าง 0 ถึง 100 เช่นเดียวกับ RSI แต่ประกอบด้วยเส้น 2 เส้น เส้นหนึ่งคือ %K ซึ่งเป็นสัดส่วนระหว่างราคาปิดกับราคาต่ำสุด กับส่วนต่างระหว่างราคาสูงสุดกับราคาต่ำสุด ส่วน %D คือเส้นค่าเฉลี่ยของ %K อีกที เมื่อ %K ตัดขึ้นเหนือ %D (ค่าเฉลี่ยของตัวเอง) และเกิดขึ้นที่ค่าชี้วัดมากกว่า 80 จะเป็นสัญญาณซื้อ และในทางตรงกันข้ามเมื่อ %K ตัดลงมาต่ำกว่า %D (ค่าเฉลี่ยของตัวเอง) และเกิดขึ้นที่ค่าชี้วัดต่ำกว่า 20 เป็นสัญญาณขาย

ตัวอย่างกราฟแท่งเทียนแบบ Spinning Top

You cannot view this attachment.

จากภาพกราฟตัวอย่าง กราฟแท่งเทียน Spinning Top ขาลงสีแดงปรากฎขึ้นด้านซ้ายก่อนที่ราคาของคู่เงิน EURUSD หรือ ยูโรกับดอลลาห์สหรัฐ จะปรับเป็นขาลง โดยในช่วงที่สังเกตเห็น Spinning Top ถ้าไม่ได้ดูร่วมกับเครื่องมืออื่นว่าจะเป็นขาลง จะต้องรอให้แน่ใจก่อน เพราะหลังจากนั้นมี Sideway อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่ราคาจะปรับลดลงจริง ๆ



เมื่อดูต่อไป สิ้นสุดขาลง ก่อนที่ราคาในขาลงจะกลับตัวเป็นขาขึ้นอีกครั้ง ปรากฎกราฟแท่งเทียน Spinning Top ขาขึ้นสีเขียวซึ่งจริง ๆ แล้วยังเป็น Spinning Top ที่ไม่สมบูรณ์แบบเพราะหางด้านบนและด้านล่างสั้นยาวไล่ ๆ แต่ไม่เท่ากัน แต่ถัดจากนั้นไม่นานเราสามารถเห็น Spinning Top ขาลงสีแดงได้อีกครั้ง โดยตลาดในเวลาถัดไปยังไม่ปรับตัวลงทันที แต่หลังจากนั้นไม่นานก็เป็นขาลงดังในรูปต่อไป

You cannot view this attachment.

จะเห็นว่าจริง ๆ แล้วการใช้ Spinning Top เพียงอย่างเดียวค่อนข้างจะคาดเดาแนวโน้มในอนาคตให้แน่นอนได้ยาก เพราะอาจจะมี Sideway เข้ามาแทรก หรือการปรับตัวสวนทางระยะสั้น ๆ ซึ่งสำหรับมือใหม่อาจทำให้ตกใจและชิงขาดขาดทุนเป็นการ Cut Loss ได้ ดังนั้นหากใช้เครื่องมือทางเทคนิคประกอบจะทำให้ตัดสินใจได้ดีกว่า ดังในภาพต่อมา

You cannot view this attachment.

เลือกใช้ Stochastic Oscillator เข้ามาประกอบ และอ่านค่าดังที่ได้อธิบายไปข้างต้นแล้ว เมื่อ %K ตัดขึ้นเหนือ %D (ค่าเฉลี่ยของตัวเอง) ที่ค่าชี้วัดมากกว่า 80 จะเป็นสัญญาณขาขึ้น หรือการเปิดสัญญาซื้อ และในทางตรงกันข้ามเมื่อ %K ตัดลงมาต่ำกว่า %D (ค่าเฉลี่ยของตัวเอง) ที่ค่าชี้วัดต่ำกว่า 20 เป็นสัญญาณขาย



TOP1 Markets มีบทวิเคราะห์ด้วยเครื่องมือทางเทคนิค ซึ่งช่วยให้คุณได้เรียนรู้ไปพร้อมกับทดลองใช้งาน สนใจเปิดบัญชีซื้อขายได้ทันที ที่ 

Doji กับ Spinning Top ต่างกันตรงไหน

You cannot view this attachment.

กราฟแท่งเทียนแบบ Spinning Top มีรูปลักษณ์ใกล้เคียงกับแบบ Doji แต่สิ่งที่ต้องพึงใส่ใจคือขนาดแท่ง กราฟแบบ Doji จะมีขนาดแท่งที่เล็กกว่า แสดงถึงความเป็นกลางในด้านราคาซื้อขายหรือความกดดันระหว่างผู้ซื้อสองฝั่งใกล้เคียงกัน แท่งเทียนแบบ Spinning Top จะพบมากกว่าที่จุดสูงหรือต่ำสุดเมื่อแนวโน้มจะเปลี่ยนแปลง ในขณะที่แบบ Doji มักจะตามมาหลัง Spinning Top อีกที หรือขณะที่กราฟดำเนินไปในลักษณะ Sideway

ข้อจำกัดของการใช้แท่งเทียนแบบ Spinning Top
หลาย ๆ ครั้งจะพบแท่งเทียนแบบ Spinning Top เมื่อราคากำลังจะเข้าสู่ Sideway (ราคาปรับตัวขึ้นลงในช่วงแคบ ๆ ไม่แสดงแนวโน้ม) หรืออยู่ในช่วง Sideway  แล้ว การนำ Spinning Top มาใช้เพื่อคะเนแนวโน้มจึงเกิดปัญหาขึ้นได้ว่าบางครั้งถึงจะเห็นกราฟแบบ Spinning Top แต่ราคากลับไม่มีการปรับตัวเปลี่ยนแปลงดังที่คาดไว้



สายเก็งกำไรระยะสั้นหลายท่านเน้นการเห็นกำไรในทันทีหลังเปิดสัญญาหรือซื้อขาย โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนที่เน้นกินส่วนต่างขนาดเล็ก ดังนั้นเพื่อไม่ให้ผิดพลาดหรือรอนาน เมื่อจะตัดสินใจลงทุน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้ตลาดคอนเฟิร์มด้วยการเห็นการปรับทิศทางกับตาตัวเองไปสักระยะหนึ่งหรือมีสัญญาณจากเครื่องมือทางเทคนิคอื่น ๆ



นอกจากนี้ แท่งเทียน Spinning Top ยังไม่ได้ทำให้กำหนดราคาเป้าหมายหรือว่าช่วยหาทางออกเหมือนกับแนวรับหรือแนวต้าน  นักเทรดต้องมีเทคนิควิธีการอื่น ๆ เสริม อย่างรูปแบบกราฟแท่งเทียนแบบอื่น หรือตัววัดอื่นเพื่อให้รู้จุดที่จะปิดสัญญาณหรือทำการขายเพื่อทำกำไร

บทส่งท้าย
กราฟแท่งเทียนมีหลายรูปแบบ ไม่สามารถพึ่งพารูปแบบเดียวมาเป็นกลยุทธ์ทำกำไรได้ดีหรือสมบูรณ์ Spinning Top เป็นหนึ่งในรูปแบบที่สามารถสังเกตเห็นได้ง่าย จริง ๆ แล้วมันเป็นเหมือนสัญญาณให้ตรวจสอบหาจังหวะเข้าซื้อหรือขายด้วยเครื่องมือทางเทคนิคอื่น ๆ



นอกจากเทคนิคและกลยุทธ์ ในการลงทุน การเทรดกับโบรกเกอร์ที่ไว้ใจได้เป็นเรื่องสำคัญมาก TOP1 Markets โบรกเกอร์ CFDs ให้บริการเทรดออนไลน์ทั้ง Forex, สินค้าโภคภัณฑ์, หุ้น, ดัชนี และผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่น ๆ แม้ในยามตลาดผันผวนก็สามารถทำกำไรได้ ให้บริการมากกว่า 10 ประเทศ ไม่คิดค่าคอมมิชชั่น ด้วยรางวัลบริการทางการเงินคุณภาพเยี่ยม มีแพลทฟอร์ตการเทรดที่ดีที่สุดในปี 2021 ปัจจุบันมีนักเทรดกว่า 1.35 ล้านคนทั่วโลกกำลังใช้บริการอยู่ เริ่มต้นเทรดเพียงใช้เงินฝากขั้นต่ำ 50 USD  มีโบนัสสูงสุดสำหรับการเทรด 4,000 USD และ รับ Leverage เพื่อเพิ่มอำนาจซื้อขายสูงสุดที่ 1,000 เท่า