[Support-3]

Wrapped Tokens คืออะไร?
•    Wrapped Tokens คือ โทเคนที่เป็นตัวแทนของสกุลเงินคริปโตหนึ่ง ที่ถูกสร้างขึ้นบนบล็อกเชนอื่นที่ไม่ใช่บล็อกเชนดั้งเดิมของมัน
•    มีมูลค่าผูกติด (pegged) แบบ 1:1 กับสินทรัพย์ต้นฉบับ เช่น 1 WBTC = 1 BTC เสมอ
•    เปรียบเสมือนการ "ห่อหุ้ม" สินทรัพย์ดิจิทัลไว้ในรูปแบบที่สามารถใช้งานบนบล็อกเชนอื่นได้
ตัวอย่างที่พบบ่อย:
•    Wrapped Bitcoin (WBTC) คือ บิทคอยน์ที่ถูกห่อหุ้ม เพื่อใช้บนบล็อกเชน Ethereum


ประโยชน์หลัก 5 ประการของ Wrapped Tokens
•    Cross-Chain Compatibility (ความเข้ากันได้ข้ามบล็อกเชน) - ช่วยให้โทเคนสามารถทำงานข้ามระบบบล็อกเชนที่แตกต่างกันได้
•    Liquidity Enhancement (การเพิ่มสภาพคล่อง) - ช่วยเพิ่มสภาพคล่องในระบบด้วยการเคลื่อนย้ายสินทรัพย์ไปมาระหว่างบล็อกเชน
•    Blockchain Interoperability (ความสามารถในการทำงานร่วมกันระหว่างบล็อกเชน) - สร้างการเชื่อมต่อระหว่างบล็อกเชนที่ต่างกัน
•    Asset Tokenization Simplified (การทำโทเคไนเซชันสินทรัพย์ที่ง่ายขึ้น) - ทำให้กระบวนการสร้างโทเคนจากสินทรัพย์เป็นเรื่องง่าย
•    DeFi Market Expansion (การขยายตัวของตลาด DeFi) - ช่วยให้ตลาด DeFi เติบโตด้วยการเพิ่มประเภทสินทรัพย์ที่สามารถใช้งานได้

Wrapped Tokens เป็นพื้นฐานสำคัญของ DeFi
      Wrapped Tokens เป็น พื้นฐานสำคัญของ DeFi ที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายของสินทรัพย์ สร้างสภาพคล่อง และเชื่อมโยงระบบนิเวศต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ของตนได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการให้กู้ยืม การให้สภาพคล่อง หรือการฟาร์มผลตอบแทน
      แม้จะมีความเสี่ยงที่ต้องระวัง แต่ Wrapped Tokens ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็น นวัตกรรมสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตของ DeFi และจะยังคงมีบทบาทสำคัญในอนาคตอันใกล้นี้

Wrapped Tokens กับ DeFi: ความเชื่อมโยงที่สำคัญ
•    เพิ่มสินทรัพย์ให้กับระบบนิเวศ DeFi:
o    DeFi ส่วนใหญ่อยู่บน Ethereum แต่เดิมสินทรัพย์อย่าง BTC ไม่สามารถใช้ได้
o    ด้วย WBTC, เจ้าของ Bitcoin สามารถนำทุนมหาศาลเข้าสู่ DeFi โดยไม่ต้องขาย BTC
o    ทำให้มูลค่ารวมที่ล็อคไว้ (Total Value Locked - TVL) ใน DeFi เพิ่มขึ้นอย่างมาก!
•    ช่วยให้เกิด Multi-chain DeFi:
o    แพลตฟอร์ม DeFi ไม่ได้มีเฉพาะบน Ethereum แล้ว แต่ยังมีบน BSC, Solana, Avalanche ฯลฯ
o    Wrapped Tokens ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเคลื่อนย้ายสินทรัพย์ระหว่างระบบนิเวศต่าง ๆ ได้
o    เปรียบเสมือน "สะพาน" เชื่อมโยงเกาะ DeFi ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน

การใช้งาน Wrapped Tokens ใน DeFi
•    Liquidity Pools (พูลสภาพคล่อง):
o    Wrapped Tokens สามารถนำไปวางใน liquidity pools บน DEX อย่าง Uniswap, PancakeSwap
o    เช่น คู่ WBTC/ETH สร้างสภาพคล่องให้ผู้ค้า BTC-ETH โดยไม่ต้องใช้เว็บเซ็นทรัล
o    ผู้ให้สภาพคล่อง (Liquidity Providers) ได้รับค่าธรรมเนียมเป็นผลตอบแทน
•    Lending & Borrowing (การกู้ยืม):
o    สามารถนำ Wrapped Tokens ไปฝากใน protocols อย่าง Aave, Compound
o    ผู้ฝากได้รับดอกเบี้ย ผู้กู้สามารถวาง wrapped tokens เป็นหลักประกัน
o    เช่น มี WBTC สามารถวางเป็นหลักประกันเพื่อกู้ USDC ทำให้ไม่ต้องขาย BTC แต่ยังได้ใช้เงิน
•    Yield Farming (ฟาร์มผลตอบแทน):
o    นำ Wrapped Tokens ไปฝากใน yield farming protocols เพื่อรับผลตอบแทนสูง
o    หลาย protocol ให้โทเคนเพิ่มเติมเป็นรางวัลนอกเหนือจากค่าธรรมเนียม
o    เปิดโอกาสให้ Bitcoin และสกุลเงินอื่น ๆ ได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น
•    Staking (การปักหลัก):
o    บาง DeFi protocols อนุญาตให้ stake Wrapped Tokens เพื่อร่วมในการตัดสินใจ
o    ได้รับผลตอบแทนเป็นโทเคนของแพลตฟอร์ม
o    เพิ่มการมีส่วนร่วมในการกำกับดูแลโปรโตคอล

Wrapped Tokens ทำงานอย่างไร?
•    กระบวนการสร้าง (Minting):
o    ผู้ใช้ส่งสกุลเงินดั้งเดิม (เช่น BTC) ไปยังผู้ดูแล (custodian)
o    ผู้ดูแลจะล็อคสินทรัพย์นั้นไว้ในตู้นิรภัยดิจิทัล
o    จากนั้นจึงสร้าง (mint) wrapped token บนบล็อกเชนปลายทางตามจำนวนที่เท่ากัน
o    ผู้ใช้จะได้รับ wrapped token (เช่น WBTC) ที่สามารถใช้บนบล็อกเชนใหม่ได้ทันที
•    บทบาทของผู้ดูแล (Custodian):
o    อาจเป็นบุคคล, องค์กร, multisig wallet, หรือ smart contract
o    ถือครองสินทรัพย์ต้นฉบับไว้เป็นหลักประกัน
o    รับประกันว่ามี 1:1 backing สำหรับทุก wrapped token ที่ถูกสร้าง
o    ต้องได้รับความไว้วางใจ เนื่องจากเป็นจุดศูนย์กลางในระบบ
•    กระบวนการไถ่ถอน (Burning):
o    เมื่อต้องการแลกกลับเป็นสินทรัพย์ดั้งเดิม ผู้ใช้ส่ง wrapped token กลับไปยังผู้ดูแล
o    ผู้ดูแลจะทำลาย (burn) wrapped token
o    จากนั้นปล่อยสินทรัพย์ดั้งเดิมกลับไปยังผู้ใช้

ทำไมต้องใช้ Wrapped Tokens?

•    แก้ปัญหาการทำงานร่วมกันระหว่างบล็อกเชน:
o    บล็อกเชนแต่ละประเภทไม่สามารถสื่อสารกันได้โดยตรง เปรียบเสมือน "เกาะ" แยกจากกัน
o    เช่นเดียวกับที่คุณไม่สามารถใช้เงินยูโรซื้อของในสหรัฐฯ ได้โดยตรง คุณก็ไม่สามารถใช้ Bitcoin บน Ethereum ได้โดยตรง
•    เพิ่มการเชื่อมต่อระหว่างระบบนิเวศ:
o    สามารถใช้สินทรัพย์จากบล็อกเชนหนึ่งบนอีกบล็อกเชนหนึ่งได้
o    สร้าง "สะพาน" เชื่อมต่อระหว่างโลกคริปโตที่แตกต่างกัน

ข้อจำกัดของ Wrapped Tokens
•    ต้องไว้วางใจคนกลาง (Trust):
o    ต้องเชื่อใจผู้ดูแล (custodian) ที่เก็บรักษาสินทรัพย์ต้นฉบับ
o    นำเสนอจุดศูนย์กลางที่อาจล้มเหลวในระบบที่ควรจะไร้ศูนย์กลาง
•    ค่าธรรมเนียม:
o    การสร้างและไถ่ถอน wrapped tokens มักมีค่าธรรมเนียม
o    อาจเสียค่า gas fees ในกระบวนการ minting และ burning
•    ความเสี่ยงในการติดต่อระหว่างกัน (Contagion Risk):
o    เพิ่มการพึ่งพากันระหว่างคริปโตสกุลต่าง ๆ
o    หากเกิดวิกฤติในบล็อกเชนหนึ่ง อาจส่งผลกระทบต่ออีกบล็อกเชนหนึ่งได้

ตัวอย่างของ Wrapped Tokens ที่สำคัญ
•    Wrapped Bitcoin (WBTC):
o    เป็น ERC-20 token บน Ethereum ที่แทน Bitcoin
o    ช่วยให้สามารถใช้ Bitcoin ใน DeFi บน Ethereum ได้
o    มูลค่า: 1 WBTC = 1 BTC เสมอ
•    Wrapped Ether (WETH):
o    เป็น Ether ในรูปแบบ ERC-20 บน Ethereum
o    แม้ ETH เป็น native token ของ Ethereum แต่ไม่ได้เป็น ERC-20 token
o    จำเป็นสำหรับการใช้งานกับ DApps และ DEXs บางประเภท
•    Wrapped BNB (WBNB):
o    เป็น BNB ในรูปแบบ BEP-20 บน BNB Smart Chain
o    ใช้ในการทำธุรกรรมและใช้งานกับ DApps บน BSC

อนาคตของ Wrapped Tokens
•    การพัฒนาโซลูชันที่ไร้ศูนย์กลางมากขึ้น:
o    นวัตกรรมใหม่ ๆ กำลังพัฒนาเพื่อลดการพึ่งพาคนกลาง
o    อาจมีวิธีการสร้างและไถ่ถอน wrapped tokens ที่ไร้ความไว้วางใจมากขึ้น
•    การเติบโตของ DeFi ข้ามบล็อกเชน:
o    Wrapped tokens จะยังคงมีบทบาทสำคัญในการสร้างสะพานเชื่อมระหว่างระบบนิเวศ
o    เปิดโอกาสใหม่ ๆ สำหรับการซื้อขาย, ให้กู้ยืม, และสร้างผลตอบแทน
•    การเพิ่มประสิทธิภาพของระบบนิเวศคริปโต:
o    เพิ่มสภาพคล่องในตลาด
o    ลดการแยกตัวของสินทรัพย์ในบล็อกเชนต่าง ๆ
o    เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของสินทรัพย์ดิจิทัล

สรุป
      Wrapped Tokens ไม่ใช่เพียงแค่เครื่องมือทางเทคนิค แต่เป็นนวัตกรรมทางการเงินที่เปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของระบบนิเวศคริปโต พวกมันเป็นพื้นฐานสำคัญที่ช่วยให้สินทรัพย์ดิจิทัลที่แตกต่างกันสามารถทำงานร่วมกันได้ในแพลตฟอร์มที่ไม่เข้ากัน
      ด้วยการสร้างสะพานเชื่อมต่อระหว่างบล็อกเชน พวกมันได้แก้ปัญหาความแยกส่วนที่เคยจำกัดการเติบโตของอุตสาหกรรม ทำให้เกิดระบบนิเวศที่มีการเชื่อมโยงกันมากขึ้น ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ของพวกเขาได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการลงทุน การให้กู้ยืม หรือการมีส่วนร่วมใน DeFi
      แม้จะมีความท้าทายและข้อจำกัด โดยเฉพาะในด้านความไว้วางใจและความรวมศูนย์ แต่ปัจจุบันยังไม่มีทางเลือกใดที่มีประสิทธิภาพเท่า อย่างไรก็ตาม อนาคตของการทำงานร่วมกันระหว่างบล็อกเชนจะยังคงพัฒนาต่อไป โดยมี Wrapped Tokens เป็นส่วนสำคัญของการพัฒนานี้
      ในที่สุดแล้ว Wrapped Tokens เป็นมากกว่าแค่โซลูชันชั่วคราว พวกมันเป็นหนึ่งในนวัตกรรมสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัวของเทคโนโลยีบล็อกเชน ช่วยให้ระบบที่ออกแบบมาให้แยกจากกันสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ นำไปสู่ระบบการเงินดิจิทัลที่ครอบคลุมและเข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับทุกคน