ข่าว:

กระทู้ล่าสุด

#1
การวิเคราะห์ทางเทคนิค / Triple day pullbacks คือ อะไร ...
กระทู้ล่าสุด โดย support-1 - วันนี้ เวลา 03:12:20 ก่อนเที่ยง
กลยุทธ์การเล่นครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่จะได้รับผลกำไรจากการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศและจะกลับมามีกำไรอีกครั้ง และการออกค่อนข้างชัดเจน

 

การเปิด Long (ฝั่งสั้นตรงกันข้าม)

ADX> 25, + DI> -DI

หรือ ADX> 30, + DI> -DI

เมื่อราคาปรับตัวลดลงต่อเนื่อง 3 วันติดต่อกันเปิดยาวที่ราคาปิดของแท่งวันที่ 3

ออกเมื่อราคาผ่านไป 2 วัน (ไม่มีStop loss )

You cannot view this attachment.

ค่า ADX มากกว่า 25 (ADX = 56) และ + DI มากกว่า -DI

ราคาอ่อนตัวลงติดต่อกัน 3 วันเปิดยาวที่ราคาปิดของแท่งที่ 3

ปิดตำแหน่งในแท่งเทียน 2 แท่งถัดไป

สั้นการเปิดฝั่งสั้น

You cannot view this attachment.

ค่า ADX มากกว่า 25 (ADX = 38) และ -DI มากกว่า + DI

ราคาอ่อนตัวลงติดต่อกัน 3 วันเข้าสั้นที่ราคาปิดของแท่งที่ 3 ปิดตำแหน่งในแท่งเทียน 2 แท่งถัดไป

จะเห็นได้ว่ามีการตั้งค่าที่เข้าใจได้ง่ายและมีชื่อเสียงการค้าขายสูงในตลาด Forex คนที่อยู่ในสายระบบการค้าสามารถใช้งานได้ง่าย แต่เป็นสิ่งที่พวกเขาตัดสินใจก็สามารถนำไปใช้ในช่วงออกราคาได้เช่นมาก
#2
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / บทวิเคราะห์กราฟทางเทคนิค Forex...
กระทู้ล่าสุด โดย support-2 - วันนี้ เวลา 02:00:32 ก่อนเที่ยง
AUDUSD
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา Daily โครงสร้างของราคามีสวิงไฮและสวิงโลวล่าสุดต่ำลงเมื่อเทียบกับสวิงก่อนหน้า อีกทั้งราคายังเคลื่อนที่อยู่ใต้ Resistance Trendline จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่าแนวโน้มในกรอบเวลานี้อยู่ในขาลง
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคาดีดตัวกลับขึ้นมาที่ Supply Zone สัมพันธ์กับ Fibonacci Retracement Zone เป็นตำแหน่งที่เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวลงต่อตามแนวโน้มเดิมจากบริเวณนี้ มองหาสัญญาณกลับตัวลงเพื่อเข้า Sell โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ

GBPUSD
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา Daily โครงสร้างของราคามีสวิงไฮและสวิงโลวล่าสุดต่ำลงเมื่อเทียบกับสวิงก่อนหน้า จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่าแนวโน้มในกรอบเวลานี้อยู่ในขาลง
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคามีทีท่าว่ากำลังจะดีดตัวกลับขึ้นมาโดยที่ด้านบนของราคามี Fibonacci Retracement Zone สัมพันธ์กับ Resistance รออยู่ เป็นตำแหน่งที่เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะขึ้นมาทดสอบแล้วกลับตัวลงต่อตามแนวโน้มเดิมจากบริเวณนี้ มองหาสัญญาณกลับตัวลงเพื่อเข้า Sell โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ

EURGBP
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา Daily โครงสร้างของราคามีสวิงไฮและสวิงโลวล่าสุดสูงขึ้นเมื่อเทียบกับสวิงก่อนหน้า จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่าแนวโน้มในกรอบเวลานี้อยู่ในขาขึ้น
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคามีทีท่าว่ากำลังจะย่อตัวกลับลงมาโดยที่ด้านล่างของราคามี Fibonacci Retracement Zone สัมพันธ์กับ Demand Zone รออยู่ เป็นตำแหน่งที่เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะลงมาทดสอบแล้วกลับตัวขึ้นต่อตามแนวโน้มเดิมจากบริเวณนี้ มองหาสัญญาณกลับตัวขึ้นเพื่อเข้า Buy โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ
#3
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - วันนี้ เวลา 12:56:20 ก่อนเที่ยง
#4
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / ต่อ: Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - เมื่อวานนี้ เวลา 02:06:39 หลังเที่ยง
Sell XAUUSD 2329-30
Limit 2334
Sl 2335
#5
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / ต่อ: Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - เมื่อวานนี้ เวลา 12:10:53 หลังเที่ยง
#6
การวิเคราะห์ทางเทคนิค / พัฒนากลยุทธ์การเทรดอย่างรวดเร...
กระทู้ล่าสุด โดย support-1 - เมื่อวานนี้ เวลา 02:24:31 ก่อนเที่ยง
อะไร คือวิธีที่ดีที่สุดในการปรับปรุงกลยุทธ์การซื้อขายของตัวเทรดเดอร์เอง?  อาจมีหลายคำตอบ แต่ในที่นี้ ขอให้เทรดเดอร์ลองใช้แนวคิดในการมองหาเส้นแนวรับแนวต้าน เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์การซื้อขาย

เทรดเดอร์เอง ต้องเรียนรู้วิธีใช้เส้นแนวรับแนวต้าน อย่างเป็นระบบเพื่อพัฒนากลยุทธ์ในการเข้าซื้อขาย และเพื่อให้ได้ผลลัทธ์ที่ดีขึ้น
เส้นแนวรับ แนวต้านเป็นอย่างไร?

ก่อนที่เทรดเดอร์จะเรียนรู้เกี่ยวกับ เส้นแนวรับ แนวต้านนี้  เทรดเดอร์ต้องเข้าใจหลักการพื้นฐานของการอุปสงค์ อุปทาน (ความต้องการซื้อ ความต้องการขาย) ให้ดีเสียก่อน
ความต้องการซื้อและความต้องการขายเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของการเคลื่อนไหวของราคา ตลาดจะเปลี่ยนเป็นตลาดขาขึ้นเมื่อความต้องการความต้องการซื้อเพิ่มมากขึ้น และจะเปลี่ยนเป็นตลาดขาลงเมื่อความต้องการขายเพิ่มขึ้น

การศึกษารูปแบบราคากราฟแท่งเทียน เป็นการการวิเคราะห์ทางเทคนิค ซึ่งส่งผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์ อุปทาน (ความต้องการซื้อและความต้องการขาย) นั่นเอง ส่วนการวิเคราะห์ทางพื้นฐานเป็นปัจจัย กำหนดอุปสงค์ อุปทาน (ความต้องการซื้อและความต้องการขาย) อีกทีหนึ่ง

ราคาขยับขึ้นเมื่อความต้องการซื้อสูงกว่าความต้องการขาย  ผู้ซื้อมีความกระตือรือร้นต้องการที่จะซื้อมากกว่าผู้ขาย ที่ยินดีขาย ดังนั้นผู้ซื้อจะเสนอราคาที่สูงขึ้นเพื่อดึงดูดผู้ขาย
ราคาขยับลดลงเมื่อความต้องการขายสูงกว่าความต้องการซื้อ  ผู้ขายมีความกระตือรือร้นต้องการที่จะขายมากกว่าผู้ซื้อ ที่ยินดีซื้อ ในกรณีนี้ผู้ขายจะลดราคาเสนอของพวกเขาจนกว่าผู้ซื้อจะเต็มใจที่จะซื้อ

ในขณะที่กราฟราคาแท่งเทียนอยู่ที่เส้นแนวรับ เทรดเดอร์ทั่วไปมักคาดหวังว่าความต้องการซื้อจะมากกว่า ความต้องการขาย  เมื่อความต้องการซื้อสูงมากกว่าความต้องการขาย ราคาจะเพิ่มขึ้น หรืออย่างน้อยราคาจะหยุดที่เส้นแนวรับนั่นเอง

ในขณะที่กราฟราคาแท่งเทียนอยู่ที่เส้นแนวต้าน ซึ่งแปลว่ามีความต้องการซื้อ  เทรดเดอร์ทั่วก็ไปมักคาดหวังว่า ราคาจะปรับตัวสูงขึ้นอีก

ให้เทรดเดอร์จำไว้ว่า เส้นแนวรับ แนวต้าน ไม่ได้เป็นระดับราคาที่ชัดเจนมากนัก  ทั้งแนวรับและแนวต้านเหล่านี้เป็นการเกิดขึ้นในช่วงช่องของราคา อย่างไรก็ตามเพื่อความสะดวกและความชัดเจนนักวิเคราะห์ด้านเทคนิคหลาย ๆ คนได้วาดเส้นแนวรับ แนวต้านไว้

การลากเส้นแนวรับแนวต้านนี้ เพื่อเป็นแสดงให้เห็นเท่านั้น มันจะใช้งานได้ดี ตราบเท่าที่เทรดเดอร์เข้าใจว่าเส้นแนวรับ แนวต้านนี้ แท้ที่จริงแล้ว คือเส้นที่เป็นตัวแทนของช่วงหรือโซนที่ต้องการ ของอุปสงค์ อุปทาน (ความต้องการซื้อและความต้องการขาย)

จะหาเส้นแนวรับ แนวต้านได้อย่างไรบ้าง?

1. หาการแกว่งตัวสูงสุด และการแกว่งตัวต่ำสุด / SWING HIGH SWING LOW

You cannot view this attachment.

การแกว่งตัวสูงสุด และต่ำสุด ที่ใกล้ที่สุดเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ  ดังนั้นจึงเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้มากที่สุดสำหรับการคาดการณ์ของเส้นแนวรับ และแนวต้าน
ทุกๆ จุดแกว่งตัว ไม่ว่าจะแกว่งตัวสูงสุดหรือต่ำสุด อาจเกิดขึ้นได้ที่เส้นแนวรับ แนวต้าน อย่างไรก็ตามเพื่อให้การเข้าซื้อขายมีประสิทธิภาพที่สุด ให้เทรดเดอร์มุ่งเน้นความสนใจไปที่การแกว่งตัวสูงสุด และการแกว่งตัวต่ำสุด ในแต่ละรอบหรือกรอบช่วงเวลา

2. หาการกลับตัวบนเส้นแนวรับ แนวต้าน / FLIPPING OF SUPPORT, RESISTANCE

You cannot view this attachment.

การย้อนกลับของกราฟราคาแท่งเทียน หรือการพลิกกลับ (FLIPPING) เป็นแนวคิดที่สำคัญ สำหรับเส้นแนวรับและเส้นแนวต้าน  แปลความหมายได้ว่า เส้นแนวรับอาจจะเปลี่ยนเป็นเส้นแนวต้าน หรือเส้นแนวต้าน อาจจะเปลี่ยนเป็นเส้นแนวรับ

เมื่อกราฟราคาแท่งเทียน สามารถทะลุผ่านเส้นแนวรับไปได้ มันคือการแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงอำนาจการควบคุม จากผู้ซื้อไปยังผู้ขาย เส้นแนวรับจะกลายเป็นเส้นแนวต้าน ที่ผู้ขายมั่นใจว่าจะไม่สามารถทะลุขึ้นมาได้ เพราะเปลี่ยนจากเส้นแนวรับเป็นเส้นแนวต้านแล้ว

3. เส้นแนวรับ และเส้นแนวต้าน จากช่วงเวลาที่สูงขึ้น

You cannot view this attachment.

สำหรับการจะพุ่งเป้าไปที่เส้นแนวรับ แนวต้านแล้วนั้น เทรดเดอร์สามารถหาเส้นแนวรับ แนวต้านนี้ได้ในช่วงเวลาที่สูงขึ้นได้ ก่อนที่เทรดเดอร์จะนำเอาไปใช้ในกรอบเวลาที่ตัวเทรดเดอร์ใช้งาน

ยกตัวอย่างเช่น เทรดเดอร์สามารถทำบันทึกไว้ก่อนได้ถึงเส้นแนวรับ แนวต้านในกรอบเวลารายสัปดาห์ เมื่อได้กรอบเส้นแนวรับ แนวต้านรายสัปดาห์แล้ว (ลากเส้นเอาไว้ก่อน) หลังจากนั้น ให้เทรดเดอร์ย่อช่วงเวลาเป็นกรอบรายวัน เพื่อหาจังหวะในการเข้าซื้อขาย

วิธีนี้จะช่วยให้เทรดเดอร์พุ่งเป้าให้ความสำคัญกับ เส้นแนวรับ แนวต้านพร้อมกับกราฟราคาแท่งเทียนว่า ทำปฎิกริยาอะไรบ้างเวลาที่กราฟราคาชนกับ เส้นแนวรับ หรือ เส้นแนวต้าน ให้เทรดเดอร์ฝึกฝนหมั่นสังเกตให้บ่อย วิธีนี้จะกลายเป็นวิธีที่เหมาะสมในช่วงเวลาไม่นาน
#7
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / บทวิเคราะห์กราฟทางเทคนิค Forex...
กระทู้ล่าสุด โดย support-2 - เมื่อวานนี้ เวลา 01:30:01 ก่อนเที่ยง
CADCHF
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา Daily โครงสร้างของราคามีสวิงไฮและสวิงโลวล่าสุดสูงขึ้นเมื่อเทียบกับสวิงก่อนหน้า อีกทั้งราคายังเคลื่อนที่อยู่เหนือ Support Trendline จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่าแนวโน้มในกรอบเวลานี้อยู่ในขาขึ้น
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคาย่อตัวกลับลงมาที่ Fibonacci Retracement Zone สัมพันธ์กับ Support แล้วมีแรงซื้อกลับขึ้นมา จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวขึ้นตามแนวโน้มเดิมต่อไป มองหาจังหวะเข้า Buy โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ

NZDCHF
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา Daily โครงสร้างของราคามีสวิงไฮและสวิงโลวล่าสุดสูงขึ้นเมื่อเทียบกับสวิงก่อนหน้า อีกทั้งราคายังเคลื่อนที่อยู่ภายในกรอบ Uptrend Channel จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่าแนวโน้มในกรอบเวลานี้อยู่ในขาขึ้น
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคาย่อตัวกลับลงมาที่ Fibonacci Retracement 78.6% สัมพันธ์กับ Support Trendline แล้วมีแรงซื้อกลับขึ้นมา จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวขึ้นตามแนวโน้มเดิมต่อไป มองหาจังหวะเข้า Buy โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ


GBPNZD
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา Daily โครงสร้างของราคามีสวิงไฮและสวิงโลวล่าสุดสูงขึ้นเมื่อเทียบกับสวิงก่อนหน้า อีกทั้งราคายังเคลื่อนที่อยู่ภายในกรอบ Uptrend Channel จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่าแนวโน้มในกรอบเวลานี้อยู่ในขาขึ้น
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคากำลังย่อตัวกลับลงมาโดยที่ด้านล่างของราคามี Demand Zone สัมพันธ์กับ Support Trendline รออยู่ เป็นตำแหน่งที่เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะลงมาทดสอบแล้วกลับตัวขึ้นต่อตามแนวโน้มเดิมจากบริเวณนี้ มองหาสัญญาณกลับตัวขึ้นเพื่อเข้า Buy โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ
#8
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - เมื่อวานนี้ เวลา 12:31:03 ก่อนเที่ยง
#9
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - เมษายน 22, 2024, 02:30:02 หลังเที่ยง
Buy XAUUSD 2333
Limit 2329-31
Tp 2337
Tp 2340
Tp 2343
Tp 2346
Tp 2350
Tp 2354
Tp 2358
Tp 2364
Tp 2370
Tp 2376
Sl 2328
#10
การวิเคราะห์ทางเทคนิค / trading pressure คืออะไร Selli...
กระทู้ล่าสุด โดย support-1 - เมษายน 22, 2024, 01:38:24 ก่อนเที่ยง
แท่งเทียนเป็นส่วนสำคัญของการอ่าน price action ที่เกิดขึ้น อ่านบาร์ต่อบาร์แล้วอ่านเป็นภาพใหญ่ขึ้นเป็น price structure แล้วก็อ่านที่เปิดเผยตรงจุดต่างๆ ที่เทรดเดอร์ใช้เพื่อกำหนดสำหรับ trade setup เข้าเทรดตอนราคากลับมาหา แนวรับ-แนวต้าน หรือ supply/demand การอ่านความหมายโดยเฉพาะเรื่องของ trading pressure หรือความกดดันการเทรดจากฝ่ายไหน ที่แท่งเทียนเปิดเผยออกมามีผลต่อการกำหนดความเป็นไปได้สูงแต่ละ trade setup

Trading pressure ต่างจากแท่งเทียน Bullish หรือ Bearish

You cannot view this attachment.

ส่วนประกอบหลักของแต่ละแท่งเทียนคือ ราคาเปิด ราคาสูง ราคาต่ำ และราคาปิด (Open High Low Close = OHLC) โดยหลักการทั่วๆ ไปก็จะบอกว่า แท่งเทียนบอกถึงการสู้กันระหว่าง Sellers และ Buyers ในช่วงเวลาแต่ละแท่งเทียนที่กำหนด เช่น M30 H1 หรือ H4  ที่บอกว่าข้างไหนชนะตอนจบ ข้างไหนแพ้ ด้วยการเปรียบเทียบเบื้องต้นแค่ราคาเปิดและราคาปิด โดยส่วนความยาวของ Body แท่งเทียน (Body ของแท่งเทียนคือ ระยะห่างระหว่างราคาเปิดและราคาปิด) และส่วนหางของแท่งเทียนหรือ shadow หรือ wick ที่บอกถึง traidng pressure ว่าเป็น selling pressure หรือ buying pressure ว่าอยู่ข้างไหนของแท่งเทียน  ดังนั้นการตีความหมายเรื่อง tradng pressure สำคัญกว่าแค่บอกว่าเป็น Bullish candlestick หรือ Bearish candlestick เพราะราคาบอกว่าตลาดกำลังบอกอะไรอยู่ เพราะราคาไม่รู้จักแท่งเทียน ดังนั้นต้องอ่านแท่งเทียนด้วยการอ่าน trading pressure ประกอบ โดยเฉพาะอ่านต่อเนื่องกัน ก็จะบอกปริบทที่เกิดขึ้นว่าเป็นแบบที่ต้องการเห็นสำหรับ trade setup หรือการเข้าเทรดหรือเปล่า ดังนั้น แท่งเทียนที่เป็น Bullish candlestick มีความหมายเป็น Bearish ได้ หรือในทางกลับกัน แท่งเทียน Bearish candlestick มีความหมายเป็น Bullish ได้

ส่วนสำคัญ trading pressure

ส่วนสำคัญที่บอกถึง trading pressure มาจากขนาดความยาวของแท่งเทียน และส่วนของหางแท่งเทียน เช่นอย่างที่แท่งเทียนเลข 1 เมื่อดูที่แท่งเทียนจะเห็นว่าเป็น Bullish candlestick เพราะราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด แต่ท่านจะว่าขนาดของแท่งเทียนจะยาว แต่ส่วนของ Body คือระยะห่างราคาเปิดและราคาปิดน้อยมาก และยังมีหางบาร์หรือ wick ยาวด้วย แท่งเทียนที่เปิดขึ้นบอกถึงช่วงระยะที่มีการเทรดเกิดขึ้น ท่านจะเห็นว่าแม้ว่าแท่งเทียนนี้เป็น Bullish candlestick แต่พอราคาขึ้นไปทำ High ราคาเจอ resistance และดันราคาลงมามาก เมื่อเทียบสัดส่วนของแท่งเทียน ส่วนของ Body และหาง หางบาร์บอกว่าฝ่ายไหน dominant หรือมีบทบาทสำคัญมากกว่ากัน ดังนั้น Bullish candlestick นี้เมื่อตีความหมายถือว่าเป็นสัญญาณ หรือให้ข้อมูลว่าเป็น Bearish นั่นคือวิธีการบอกถึง trading pressure ที่เกิดขึ้นแต่และแท่งเทียน ดังนั้นการตีความตามตรรกะที่อธิบายมาก็จะเป็นดังนี้

แท่งเทียนเลข 1 – มีหางแท่งเทียนด้านบนยาว บอกว่ามี selling pressure มาก แท่งเทียนนี้หมายความว่า ราคาเปิดและดันขึ้นไปสูง ขึ้นไปได้ด้วย buyers  แต่จากนั้นพอราคาสูงสุดมี sellers เข้ามาและดันราคากลับลงมา

แท่งเทียนเลข 2 – มีหางบาร์ด้านล่างยาว บอกว่ามี buying pressure มาก แท่งเทียนนี้หมายความว่า ฝ่าย sellers ดันราคาลงมา แต่แล้ว buyers เข้ามาและสามารถดันราคากลับขึ้นมาได้

แท่งเทียนที่ 3 ดูข้างที่มีหางสั้นหรือน้อยบ้าง แท่งเทียนนี้บอกถึงมี buying pressure น้อยมาก เมื่อเทียบกับอีกข้าง

แท่งเทียนที่ 4 จะเห็นว่ามีหางบาร์น้อยทางด้านบน บอกถึง selling pressure น้อยมากเช่นกัน


ส่วนความยาวของ Body หรือระยะห่างระหว่างราคาเปิดและราคาปิด ถ้ายิ่งยาวมาก ยิ่งบอกถึง momentum หรือการเทรดทางใดทางหนึ่งทางที่ราคาปิดได้ ส่วนขนาด Body ที่สั้นบอกถึงการเคลื่อนไหวราคาไม่ห่างกันมาก เลยบอกถึง buying หรือ selling pressure ที่น้อยกว่า บอกถึง momentum ที่ลดลง

การใช้ trading pressure กับการเทรด

จากที่อธิบายมาเป็นการมองจากแท่งเทียนเดียวเป็นหลัก แต่การอ่านหลายๆ บาร์ประกอบกันสำคัญกว่า เพราะบอกถึงว่าการเคลื่อนไหวของราคาที่เป็น bullish หรือ bearish แข็งหรืออ่อนขนาดไหน มากพอที่จะดันทางทางนั้นๆ หรือเปล่า เพราะการเคลื่อนไหวที่เกิดจากการอ่านแท่งเทียนต่อเนื่องกัน บอกถึงว่า Bull หรือ Bear เป็นอย่างไร  หรือบอกถึง Momentum ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไรนั่นเอง อย่างแรกที่เห็นการใช้ traidng pressure ในการเทรดคือการเทรดที่จุดแนวรับ-แนวต้าน หรือ supply/demand เมื่อราคากลับมาหลังบอกว่าราคาเกิด trading pressure ทางที่เป็น key level นั้นๆ หรือเปล่า ยิ่ง trading pressure มากยิ่งเป็นสัญญาณที่สนับสนุนในการเปิดเทรด

You cannot view this attachment.

อย่างภาพประกอบจะเห็นว่าราคาวิ่งเข้าหา resistance ด้านบน ดูตรงที่ลูกศรสีแดง ขนาดแท่งเทียนสั้น บอกถึง momentum ที่ลดลงไปเพราะราคาวิ่งเข้าหาแนวต้านที่บอกว่ามีการกำหนด sell limit orders ไว้ตามขั้นตอนเพื่อหยุด หรือชะลอ momentum ที่เกิดขึ้น อาจเห็นแท่งเทียนยาวๆ ที่เบรคขึ้นไปหา resistance เป็นเรื่องของการเร่งราคาขึ้นไปเพื่อ liquidiy ที่ต้องการเข้าเทรดด้านบน หลักการพื้นๆ ถ้ามองจากรูปแบบในการเทรด พวกแนวรับ-แนวต้านเมื่อเห็นราคาเด้งออกจากแรงๆ จากพื้นที่พวกนั้นบอกว่า trading pressure เกิดขึ้นสัมพันธ์กับแนวรับ-แนวต้าน เช่นอย่างด้านบนราคาวิ่งไปหา แนวต้าน ราคาเด้งที่เห็นจุดๆ ที่สะท้อน selling pressure ชัดเจน 2 แท่งเทียนที่พื้นที่เดียวกัน หลังจากที่ราคาขึ้นไปบอก momentum ทางด้าน buy ลดลงด้วย จะเห็นว่าพอราคาได้เบรคลงมาที่เอาชนะแนวรับใกล้ เลยเกิดสัญญาณในการเปิดเทรด sell ที่ชัดเจนทันที จะเห็นว่าการอ่านแท่งเทียนหา trading pressure เพื่อประกอบการเทรด อย่างกรณีที่ยกมา ต้องดูโครงสร้างและปริบทประกอบ ค่อยจะตีความหมายของการเคลื่อนไหวของราคาได้แม่น ไม่ใช่แค่อ่านความหมายจากแท่งเทียนเดียว  เพราะการอ่านแท่งเทียนอย่างเดียว อาจตีความหมายผิดได้ นำไปสู่การเทรดผิดทางได้ เพราะ trading pressure ที่เกิดตรงส่วนที่หางแท่งเทียนหรือ wick ต้องไม่ลืมว่านอกจาก trading pressure ที่เกิดขึ้น ยังเป็นการลด Limit orders ที่พื้นที่ที่เกิดหางแท่งเทียนหรือ trading pressure ด้วย เลยต้องใช้ trading pressure ให้เป็นว่าตีความเป็น trading pressure เพื่อเทรดกับการ Key levels  หรือการซึมซับออเดอร์ แล้วไปต่อทางที่เกิดหางแท่งเทียนได้ง่าย

You cannot view this attachment.

ตัวอย่าง ดูจุดแรก ถ้าตีความจากแท่งเทียนอย่างเดียวว่าเป็น selling pressure จะพลาดได้ ดูแท่งเทียนต่อมา ไม่ได้สนับสนุนการเคลื่อนไหว แม้ว่าตรงส่วนของ Body แท่งเทียนก่อนเกิดจะสั้นและต่อเนื่องกัน บอกถึง Momentum ที่ลดลงไป แต่ขณะเดียวกัน บอกว่า sellers ไม่สามารถดันลงมาได้ด้วยบอกถึง weakness ของฝ่ายนั้น
นี่คือการการตีความ trading pressure จากแท่งเทียนสำคัญต่อการเทรดอย่างไร สำคัญต้องอ่านปริบทหรือแท่งเทียนต่อเนื่องกัน และให้เข้ากับโครงสร้างที่ต้องการเปิดเทรด เพราะการอ่านต่อเนื่องกันบอกถึงการเคลื่อนไหวของฝ่าย sellers หรือฝ่าย buyers เป็นอย่างไร บอกถึง momentum ที่เกิดขึ้นว่ามากหรือลดลง เมื่อเกิด trading pressure ที่จุดที่คาด เช่น แนวรับ-แนวต้าน ว่าสัมพันธ์กันหมดหรือเปล่า