ข่าว:

กระทู้ล่าสุด

#1
การวิเคราะห์ทางเทคนิค / Rare Event Trading
กระทู้ล่าสุด โดย support-1 - วันนี้ เวลา 03:21:53 ก่อนเที่ยง
ระบบเทรดโอกาสเกิดยาก (Rare Event Trading)

ในบทความนี้เป็นบทความเทรดที่น่าสนใจในความคิดเห็นของผู้เขียน เป็นระบบเทรดระบบหนึ่ง ซึ่งยังไม่เคยกล่าวที่ไหน ลักษณะระบบเทรดอย่างนี้เรียกว่า เหตุการณ์เกิดยาก เมื่อเกิดเหตุการณ์เกิดยาก จะทำให้โอกาสในการได้กำไรนั้นมีพอสมควร แต่ก็ต้องบอกก่อนว่า นาน ๆ ทีมันจะเกิด ต่อให้มันกำไรแน่นอน เป็นส่วนใหญ่ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้กำไรปริมาณมาก มันคนละส่วนกัน นอกจากนี้ มันยังไม่ใช่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดบ่อย หมายความว่า นอกจากจะกำไรไม่ได้มากนัก และมีโอกาสกลับตัวสูง แต่ไม่ได้เกิดบ่อย ทำให้กำไรโดยรวมก็อาจจะไม่มาก แต่ความน่าสนใจอยู่ที่โอกาสผิดพลาดต่ำ

ต้องย้ำก่อนว่า ไม่มีระบบไหนที่เอาชนะตลาดได้แบบเด็ดขาด ดังนั้น การตั้งค่าระบบแบบนี้ก็อาจจะต้องมีการตัดขาดทุนเช่นเดียวกัน หรือจะต้องมีกลยุทธ์ที่จัดการกับการขาดทุนไว้แต่เนิ่น ๆ เป็นต้น เรามาดูรายละเอียดของระบบกัน

ระบบนี้ใช้ Indicator พื้นฐานที่ปรากฏอยู่ใน MT4 ชื่อว่า Envelope ลักษณะของมันคือ เส้น 2 เส้นที่อยู่ห่างออกจากเส้น MA นะระยะทางที่เท่ากัน มันจึงเป็นกรอบราคาที่คำนวณจากค่าเฉลี่ยนั่นเอง การเทรดในกรอบราคา เป็นไปได้แบบเดียวคือ กรอบ Overbought และ Oversold เมื่อมันพุ่งขึ้นสูงเกินไปเราก็ทำการ Sell เมื่อมันลดต่ำเร็วเก็นไปเราก็ทำการ Buy ง่าย ๆ เท่านี้เองครับ เราจะมาดูหน้าตาของ Indicator ในรูปกัน

732.png

                                                                               รูปที่ 1 แสดงจุดสัญญาณเข้าเทรดของระบบ Rare event Trading

หลักการเทรด

หลักการของ Rare Event คือ เหตุการณ์เกิดยาก ในวงกลมคือบรรดาเหตุการณ์เกิดยากทั้งหลายครับซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้อยู่ไม่นาน ดังนั้น เราก็ไม่ควรจะถือนานด้วย อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว ว่า การแกว่งตัวแรง ๆ อาจจะเกิดการดีดกลับ หรือ เกิดเหตุการณ์พุ่งไปต่อในราคาที่รุนแรง ดังนั้น เมื่อกำไรในระดับที่กำหนดเช่น 3 -5 pip ก็ควรจะปิด Position นั่นคือมันเป็นการเทรดแบบ Scalping  โดยระบบประกอบด้วย Indicator ดังนี้

Envelope Indicator :

ตั้งค่า ไว้ที่ Envelope 3 หมายความว่าเราใช้ 3 แท่งในการคำนวณค่าเฉลี่ย ขณะที่ เปอร์เซ็นต์ความผันผวน เราใช้ค่า 0.25 % นั่นคือผันผวนออกจากกรอบของค่าเฉลี่ย 0.25 % โดยการตั้งค่า Time Frame ที่จะใช้คือ 1H เนื่องจากความผันผวนที่เทรดไม่นาน จึงทำให้การถือครองออเดอร์นาน ทำให้ราคาเปลี่ยนแปลงจึงควรเล่นสั้น ๆ

เมื่อเราตั้งค่า Envelope แล้วจะได้ดังภาพที่ 1 ขั้นต่อไปเป็นเงื่อนไขการเข้าเทรด นั่นคือ

เมื่อกราฟแท่งเทียนแตะแท่งสีแดง เป็นสัญญาณ Buy เพราะราคาลงมารวดเร็วเกินไป ขณะที่เมื่อแท่งเทียนแตะแท่งสีน้ำเงินเป็นสัญญาณ Sell เนื่องจากราคาพุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็วเกินไป การเข้าเทรด เราสามารถตั้ง Pending Order เช่น Buy limit หรือ Sell Limit ไว้ล่วงหน้า เนื่องจากรไม่สามารถเฝ้าหน้าจอได้ตลอด

การทำกำไร

ส่วนสำคัญที่สุดสำหรับระบบเทรดระบบนี้คือ การหาจุดออกครับเพราะว่า Indicator หาจุดออกให้เราแล้ว ปัญหาคือ มันไม่สามารถตั้ง Take Profit ได้เพราะว่า ระยะมันใกล้เกินไปที่กว่ามันจะกลับตัว ขณะที่ Stoploss ก็ตั้งไม่ได้เช่นกัน เพราะการเหวี่ยงแรง บางครั้งก็ทำให้มันชน Stoploss และราคาดีดกลับมานั่นเอง

สิ่งที่เราทำได้คือ การนั่งเทรดและดูจังหวะที่เหมาะสมแล้วปิดออเดอร์ ซึ่งจะยากก็ตรงนี้แหละ การที่จะเทรดได้ดี สิ่งที่ควรระลึกอยู่ในใจคือ

การรู้จักพอประมาณ การกำหนดกำไรที่เหมาะสมในการเทรดไว้ล่วงหน้า
การรู้จักอ่านจังหวะ ไม่โลภ และไม่กลัวในบางเหตุการณ์มากเกินไป
ในการเทรดระบบ เช่นนี้สิ่งที่ต้องฝึกคือ การควบคุมจิตใจไม่ให้โลภและไม่ให้กลัวเกินไป นี่เป็นระบบเทรดมือที่ทรงประสิทธิภาพ แต่ก็ต้องถูกใช้โดยเทรดเดอร์ที่มีฝีมือด้วยเช่นกัน

สรุปสุดท้าย

ระบบเทรดนี้ เป็นการเทรด ในครั้งคราว ซึ่งสัญญาณการเทรดจะไม่ถี่ ดังนั้น การส่งคำสั่งเทรดจะต้องส่งอย่างระมัดระวัง และต้องไม่ใช้อารมณ์ในการเทรด การใช้อารมณ์ในการเทรดเพียง 1 – 2 ครั้งอาจจะส่งผลต่อพอร์ทลงทุนมหาศาล เนื่องจากการตั้ง Stop loss และ Take Profit ที่ทำได้ลำบาก นั่นเอง และเพื่อให้การเทรดสมบูรณ์ยิ่งขึ้น คุณสามารถใช้ระบบนี้ร่วมกับระบบการเทรดอื่น ๆ ที่เข้ากันได้ เช่น ระบบเทรดที่ให้สัญญาณบ่อย คุณก็ควรจะทำการส่ง Lot เล็ก ขณะที่ระบบเทรดที่ให้สัญญาณช้า คุณก็ควรที่จะให้ Lot พอประมาณ ไม่เล็กและไม่ใหญ่เกินไป
#2
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / ต่อ: Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - วันนี้ เวลา 03:14:58 ก่อนเที่ยง
#3
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - วันนี้ เวลา 03:05:28 ก่อนเที่ยง
#4
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / บทวิเคราะห์กราฟทางเทคนิค Forex...
กระทู้ล่าสุด โดย support-2 - วันนี้ เวลา 01:37:16 ก่อนเที่ยง
GBPUSD
GbpUsd 10-02.png
ภาพในกรอบเวลา Daily โครงสร้างของราคามีสวิงไฮและสวิงโลวล่าสุดต่ำลงเมื่อเทียบกับสวิงก่อนหน้า จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่าแนวโน้มในกรอบเวลานี้อยู่ในขาลง
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคาดีดตัวกลับขึ้นมาที่ Resistance สัมพันธ์กับ Fibonacci Retracement Zone เป็นตำแหน่งที่เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวลงต่อตามแนวโน้มเดิมจากบริเวณนี้ มองหาสัญญาณกลับตัวลงเพื่อเข้า Sell โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ

EURGBP
EurGbp 10-02.png
ภาพในกรอบเวลา Daily หลังจากที่ราคาลงไปทดสอบ Weekly Support แล้วเกิดรูปแบบกลับตัวขึ้นอย่าง Double Bottom จากนั้นราคากลับตัวขึ้นมาทำสวิงไฮใหม่ยกตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับสวิงไฮก่อนหน้า จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่าแนวโน้มในกรอบเวลานี้เปลี่ยนจากขาลงมาสู่ขาขึ้น
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคาย่อตัวกลับลงมาที่ Support สัมพันธ์กับ Fibonacci Retracement 61.8% เป็นตำแหน่งที่เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวขึ้นจากบริเวณนี้ มองหาสัญญาณกลับตัวขึ้นเพื่อเข้า Buy โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ

AUDCAD
AudCad 10-02.png
ภาพในกรอบเวลา Daily โครงสร้างของราคามีสวิงไฮและสวิงโลวล่าสุดต่ำลงเมื่อเทียบกับสวิงก่อนหน้า จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่าแนวโน้มในกรอบเวลานี้อยู่ในขาลง
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคาดีดตัวกลับขึ้นมาที่ Resistance สัมพันธ์กับ Resistance Trendline แล้วมีแรงขายกลับลงมาทำให้เรามองว่าราคากำลังจะกลับตัวลงต่อตามแนวโน้มเดิม มองหาจังหวะเข้า Sell โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ
#5
พื้นฐาน Crypto / Altcoin คืออะไร? ความแตกต่างจา...
กระทู้ล่าสุด โดย Support-3 - กุมภาพันธ์ 08, 2025, 01:53:00 หลังเที่ยง
วันนี้มาทำความรู้จักกับโลกของคริปโตเคอร์เรนซีที่น่าตื่นเต้นและน่าสนใจ++ ทุกคนคงรู้จัก Bitcoin กันดี แต่รู้หรือไม่ว่าในโลกคริปโตนั้นไม่ได้มีแค่ Bitcoin เท่านั้น? ยังมีเหรียญทางเลือกที่น่าสนใจอีกมากมายที่เรียกว่า "Altcoin" ซึ่งหลายคนอาจยังไม่รู้ว่าในบางช่วงเวลาที่เรียกว่า "Alt Season" เหรียญเหล่านี้สามารถสร้างผลตอบแทนได้มากกว่า Bitcoin เสียอีก! ไปดูกันเลยค่ะ



Altcoin คืออะไร?
•    Altcoin คือ สกุลเงินดิจิทัลทางเลือกทั้งหมดที่ไม่ใช่ Bitcoin มาจากคำว่า "Alternative Coin" ปัจจุบันมีมากกว่า 11,000 สกุลเงิน และครองส่วนแบ่งตลาดคริปโตประมาณ 40% ของมูลค่าตลาดทั้งหมด
•  เหรียญ Altcoin แต่ละตัวถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ไขข้อจำกัดของ Bitcoin เช่น Ethereum ที่เพิ่มความสามารถด้านสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) หรือ Cardano ที่เน้นความเร็วและประหยัดพลังงาน
•    Altcoin มีทั้งแบบที่เป็น Utility Token สำหรับใช้งานในระบบนิเวศดิจิทัล, Governance Token สำหรับร่วมบริหารโครงการ และ Security Token ที่เชื่อมโยงกับสินทรัพย์ในโลกจริง
•    ระบบเศรษฐศาสตร์ของ Altcoin เรียกว่า Tokenomics ซึ่งกำหนดจำนวนเหรียญและการกระจายตัว บางเหรียญมีจำนวนจำกัด บางเหรียญสามารถสร้างเพิ่มได้ไม่จำกัด
•    นักลงทุนสามารถได้มาซึ่ง Altcoin ได้หลายวิธี ทั้งการซื้อขายในตลาด การทำ Staking เพื่อรับผลตอบแทน การทำ Yield Farming เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง หรือการเข้าร่วม ICO ในช่วงเริ่มต้นโครงการ
•    Altcoin ที่ได้รับความนิยมสูง เช่น Ethereum (ETH) ที่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับแอพพลิเคชั่นกระจายศูนย์, Binance Coin (BNB) ที่ใช้ในระบบนิเวศของ Binance, และ Cardano (ADA) ที่เน้นการพัฒนาอย่างมีหลักการทางวิชาการ
•  การลงทุนใน Altcoin สามารถทำได้ผ่านแพลตฟอร์มที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. โดยสามารถเริ่มต้นได้ด้วยเงินลงทุนเพียงหลักสิบบาท แต่ควรศึกษาข้อมูลให้ดีเพราะมีความเสี่ยงและความผันผวนสูง

Bitcoin คืออะไร?
•    Bitcoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลเหรียญแรกของโลกที่สร้างขึ้นในปี 2008 โดย Satoshi Nakamoto ที่นำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ให้เกิดการกระจายศูนย์อย่างแท้จริง
•  จุดเด่นของ Bitcoin คือเป็นระบบการเงินแบบ Peer-to-Peer ที่ไม่ต้องพึ่งพาตัวกลางอย่างธนาคารหรือรัฐบาล ทำให้ทุกคนสามารถทำธุรกรรมถึงกันได้โดยตรง รวดเร็ว ค่าธรรมเนียมต่ำ และมีความปลอดภัยสูง
•    Bitcoin มีจำนวนจำกัดเพียง 21 ล้านเหรียญ โดยใช้ระบบ Proof-of-Work ในการขุดเหรียญใหม่ผ่านนักขุด (Miner) ที่ช่วยตรวจสอบธุรกรรมบนเครือข่าย
•    ทุก ๆ 4 ปี จะมีเหตุการณ์ Bitcoin Halving ที่ลดจำนวนรางวัลจากการขุดลงครึ่งหนึ่ง เกิดขึ้นทุก 210,000 บล็อก เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
•    Bitcoin ถูกออกแบบให้เป็นทั้งสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนและเป็นสินทรัพย์เก็บมูลค่า จึงมักถูกเรียกว่าเป็น "ทองคำดิจิทัล" เพราะมีคุณสมบัติคล้ายทองคำที่มีจำนวนจำกัดและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก
สามารถใช้ Bitcoin ในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ ปลอดภัย และโปร่งใส เพราะทุกธุรกรรมจะถูกบันทึกไว้บนบล็อกเชนที่ใครๆ ก็สามารถตรวจสอบได้นะคะ


ความแตกต่างระหว่าง Bitcoin และ Altcoin
Bitcoin และ Altcoin มีบทบาทที่แตกต่างกันในระบบนิเวศคริปโต โดย Bitcoin เปรียบเสมือนทองคำดิจิทัลที่มั่นคงและน่าเชื่อถือ ในขณะที่ Altcoin เป็นเหมือนนวัตกรรมทางการเงินที่มีความหลากหลายและโอกาสเติบโตสูง แต่ก็มาพร้อมความเสี่ยงที่สูงกว่าเช่นกัน
มีรายละเอียดสำคัญดังนี้
ด้านจุดกำเนิดและการพัฒนา
o    Bitcoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลเหรียญแรกที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน สร้างโดย Satoshi Nakamoto ที่หายตัวไปอย่างลึกลับ ทำให้ไม่มีผู้ควบคุมระบบอย่างแท้จริง
o    Altcoin เป็นเหรียญที่พัฒนาขึ้นในภายหลัง โดยส่วนใหญ่มีองค์กรหรือทีมพัฒนาที่ชัดเจน ยังคงมีการพัฒนาและปรับปรุงระบบอย่างต่อเนื่อง
ด้านจุดประสงค์การใช้งาน
o    Bitcoin ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนและเก็บมูลค่า มีฟังก์ชันการใช้งานพื้นฐาน แต่ได้รับความเชื่อถือสูง จนได้ฉายาว่าเป็น "ทองคำดิจิทัล"
o    Altcoin มีจุดประสงค์การใช้งานที่หลากหลายกว่า เช่น การทำสัญญาอัจฉริยะ การสร้างแพลตฟอร์มกระจายศูนย์ หรือการใช้งานเฉพาะทางต่าง ๆ
ด้านการกระจายศูนย์
o    Bitcoin มีการกระจายศูนย์อย่างแท้จริง มีโหนดผู้ตรวจสอบธุรกรรมกระจายอยู่ทั่วโลก ทำให้การแก้ไขข้อมูลทำได้ยากมาก
o    Altcoin แม้จะใช้ระบบ DAO (Decentralized Autonomous Organization) แต่ยังมีทีมพัฒนาที่สามารถเข้ามาแก้ไขระบบได้ จึงไม่ได้กระจายศูนย์เท่า Bitcoin
ด้านความน่าเชื่อถือและความผันผวน
o    Bitcoin มีความน่าเชื่อถือสูง มูลค่าตลาดมากที่สุด และมีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด ทำให้ราคามีเสถียรภาพมากกว่า
o    Altcoin มีอัตราการเติบโตที่สูงมาก แต่ก็มาพร้อมความผันผวนที่สูงเช่นกัน เนื่องจากมูลค่าตลาดและสภาพคล่องที่น้อยกว่า
ด้านเทคโนโลยี
o    Bitcoin มีฟังก์ชันการใช้งานพื้นฐาน เน้นความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือเป็นหลัก
o    Altcoin ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนรุ่นใหม่กว่า สามารถแก้ไขข้อบกพร่องของ Bitcoin และเพิ่มความสามารถใหม่ ๆ เช่น ความเร็วในการทำธุรกรรม หรือการประหยัดพลังงาน
ด้านจำนวนและการสร้างเหรียญ
o    Bitcoin มีจำนวนจำกัดที่ 21 ล้านเหรียญ และใช้ระบบ Proof-of-Work ในการขุด โดยมี Halving ทุก 4 ปีเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
o    Altcoin มีทั้งแบบจำกัดและไม่จำกัดจำนวน ขึ้นอยู่กับ Tokenomics ของแต่ละเหรียญ และมีวิธีการได้มาที่หลากหลาย เช่น Staking, Yield Farming หรือ ICO
ด้านการยอมรับในระดับสากล
o    Bitcoin ได้รับการยอมรับในระดับโลก มีประเทศและบริษัทขนาดใหญ่นำไปใช้เป็นทางการ บางประเทศถึงขั้นประกาศให้เป็นสกุลเงินที่ถูกกฎหมาย
o    Altcoin ยังได้รับการยอมรับในวงจำกัด ส่วนใหญ่จะเป็นที่นิยมในกลุ่มนักลงทุนคริปโต หรือผู้ใช้งานเฉพาะในระบบนิเวศของแต่ละเหรียญ
ด้านความเสี่ยงในการลงทุน
o    Bitcoin มีความเสี่ยงต่ำกว่าเมื่อเทียบกับคริปโตอื่น ๆ เพราะมีประวัติการซื้อขายยาวนาน มีสภาพคล่องสูง และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง
o    Altcoin มีความเสี่ยงสูงกว่า มีโอกาสที่ราคาจะพุ่งขึ้นหรือร่วงลงอย่างรุนแรง บางเหรียญอาจล้มเหลวและหายไปจากตลาด
ด้านการพัฒนาในอนาคต
o    Bitcoin มีการพัฒนาที่ค่อนข้างช้าและระมัดระวัง เน้นรักษาเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือของระบบเป็นหลัก
o    Altcoin มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง มีการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อแก้ปัญหาและตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้
ด้านการนำไปใช้งานจริง
o    Bitcoin เน้นการใช้งานเป็นสื่อกลางในการชำระเงินและเก็บมูลค่า มีร้านค้าและธุรกิจจำนวนมากทั่วโลกยอมรับ
o    Altcoin มีการใช้งานที่หลากหลายในโลก DeFi, NFT, Gaming และ Web3 แต่ส่วนใหญ่ยังจำกัดอยู่ในวงการคริปโตเป็นหลัก

ข้อดีและข้อเสียของ Altcoin
ข้อดีของ Altcoin
1.    มีการพัฒนาและแก้ไขจุดอ่อนของ Bitcoin ทำให้มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าในหลายด้าน เช่น ความเร็วในการทำธุรกรรม การประหยัดพลังงาน
2.    มีความหลากหลายในการใช้งาน ทั้งสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract), DeFi, NFT, Gaming และอื่น ๆ ทำให้ตอบโจทย์ความต้องการได้มากกว่า
3.    มีโอกาสเติบโตสูง เนื่องจากหลายโครงการยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น เมื่อประสบความสำเร็จอาจให้ผลตอบแทนที่สูงมาก
4.    มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว เพราะมีทีมพัฒนาที่ชัดเจนและยังทำงานอยู่
5.    สามารถสร้างรายได้ผ่านการ Staking หรือ Yield Farming ซึ่งให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนแบบดั้งเดิม
6.    เหมาะสำหรับการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนคริปโต เพราะมีให้เลือกหลากหลายและราคาถูกกว่า Bitcoin
7.    มีระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่เชื่อมโยงกัน ทำให้เกิดการใช้งานจริงและสร้างมูลค่าเพิ่ม
8.    สามารถเริ่มต้นลงทุนได้ด้วยเงินจำนวนน้อย เพราะราคาต่อเหรียญถูกกว่า Bitcoin มาก
9.    มีโอกาสในการสร้างชุมชนและการมีส่วนร่วมสูง ผ่านระบบ DAO และ Governance Token
10.    มีความยืดหยุ่นในการพัฒนาและปรับปรุงระบบสูง เพราะไม่ติดข้อจำกัดด้านการกระจายศูนย์เท่า Bitcoin
ข้อเสียของ Altcoin
1.    มีความผันผวนสูงมาก ราคาสามารถพุ่งขึ้นหรือร่วงลงอย่างรุนแรงได้ในเวลาอันสั้น
2.    มีความเสี่ยงสูงที่โครงการจะล้มเหลวหรือถูกทิ้งร้าง เพราะมีการแข่งขันสูงและหลายโครงการยังไม่มีการใช้งานจริง
3.    สภาพคล่องต่ำกว่า Bitcoin ทำให้การซื้อขายในปริมาณมากอาจส่งผลกระทบต่อราคารุนแรง
4.    มีความเสี่ยงจากการถูกแฮ็ก โดยเฉพาะในโครงการใหม่ที่ยังไม่ได้รับการทดสอบมากพอ
5.    การยอมรับในวงกว้างยังน้อยกว่า Bitcoin มาก ทำให้การนำไปใช้งานจริงทำได้จำกัด
6.    ยากต่อการประเมินมูลค่าที่แท้จริง เพราะหลายโครงการยังไม่มีรายได้หรือการใช้งานจริง
7.    มีความเสี่ยงจากการเป็นโครงการหลอกลวง (Scam) เนื่องจากมีเหรียญใหม่เกิดขึ้นมากมาย
8.    ขาดความต่อเนื่องในการพัฒนา หากทีมผู้พัฒนาเปลี่ยนใจหรือย้ายไปทำโครงการอื่น
9.    มีความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ เพราะหลายประเทศยังไม่มีกฎหมายรองรับชัดเจน
10.    การแข่งขันสูงระหว่าง Altcoin ด้วยกันเอง ทำให้ยากที่จะคาดเดาว่าเหรียญไหนจะอยู่รอดในระยะยาว

สรุป
•    Altcoin คือ สกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดที่ไม่ใช่ Bitcoin รู้จักกันในนามที่เรียกว่า "เหรียญทางเลือก" ที่ถูกพัฒนาขึ้นภายหลังโดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน
•    แต่ละ Altcoin มีจุดประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น การทำสัญญาอัจฉริยะ การสร้างเกม หรือการเป็นแพลตฟอร์มสำหรับ DeFi
•    ปัจจุบันมี Altcoin มากกว่า 11,000 สกุล คิดเป็น 40% ของมูลค่าตลาดคริปโตทั้งหมด โดย Ethereum (ETH) เป็น Altcoin ที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุด
•    Altcoin มีทั้งข้อดีที่มีการพัฒนาและฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายกว่า Bitcoin และข้อเสียที่มีความผันผวนสูงและความเสี่ยงในการล้มเหลวของโครงการ
•    การลงทุนใน Altcoin จึงเหมาะสำหรับผู้ที่เข้าใจเทคโนโลยีและยอมรับความเสี่ยงสูงได้ ควรศึกษาข้อมูลโครงการให้ดีและกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงนั้นเอง
#6
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / ต่อ: Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - กุมภาพันธ์ 07, 2025, 12:49:02 หลังเที่ยง
#7
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - กุมภาพันธ์ 07, 2025, 12:47:19 หลังเที่ยง
สัญญาณเทรด 7/2/2025

Sell : EURUSD

จุดเข้า : ตอนนี้

TP : 1.02700

SL :  1.04800
=============
Sig Telegrame
#8
การวิเคราะห์ทางเทคนิค / วิธีในการดูแนวโน้มระหว่างวันร่...
กระทู้ล่าสุด โดย support-1 - กุมภาพันธ์ 07, 2025, 02:27:23 ก่อนเที่ยง
สำหรับเทรดเดอร์ทุกคน แนวโน้มเป็นภาพรวมของตลาดขณะที่ต้องการจะกระทำการเทรด มันเป็นเสมือนสายน้ำที่เอาขึ้นทั้งสิ้นได้แล้วก็สามารถต่ำลงทั้งสิ้นได้เหมือนกัน สำหรับเทรดเดอร์รายวัน แนวโน้มของตลาดระหว่างวันนั้นสามารถสร้างไม่เหมือนกันระหว่าง SESSION ของกำไรกับการขาดทุนได้ โดยการเทรดไปกับแนวโน้มระหว่างวัน

เนื่องมาจากแนวโน้มเป็นภาพรวมที่ดูเหมือนกับว่าจะถูกลบออกจากการเคลื่อนไหวของแผนภูมิราคาในขณะนี้ โดยเหตุนี้เทรดเดอร์เป็นจำนวนมากจะถูกลวงล่อให้ออกจากการเคลื่อนไหวของแผนภูมิราคาหรือออกมาจากสมการแนวโน้ม พวกเขาใช้เส้นค่าถัวเฉลี่ยราคาเคลื่อน ที่อยู่ไกลเพื่อระบุแนวโน้มของตลาดและไม่คิดถึงต้นสายปลายเหตุสำหรับเพื่อการเคลื่อนของแผนภูมิราคา เทรดเดอร์กลุ่มนี้ไม่มีวัสดุรับรองที่สำคัญ

การใช้อินดิเคเตอร์เพื่อเจาะจงแนวโน้มระหว่างวันนั้นมีเหตุผล แต่ถ้าเกิดพวกเราเชื่อมโยงพวกเขากับการเคลื่อนไหวของแผนภูมิราคาได้ พวกเราจะสามารถเพิ่มความรู้ความเข้าใจของพวกเขาได้

1. อินดิเคเตอร์เส้นค่าถัวเฉลี่ยราคาเคลื่อนกับ PRICE ACTION

แนวทางแบบนี้จะใช้อินดิเคเตอร์เส้นค่าถัวเฉลี่ยราคาเขยื้อน SMA20 คู่กับการเคลื่อนไหวของแผนภูมิราคา เพื่อแจกแจงแนวโน้มระหว่างวัน โดยเบื้องต้นแล้วพวกเรากำลังมองหาการถอยกลับของกระบวนการทำ HH ในตอนแนวโน้มขาขึ้นเพื่อรับรองตลาดวัวกระทิง เวลาที่มองหาการถอยกลับของแผนภูมิราคา LL เพื่อรับรองตลาดหมีด้วยเหมือนกัน


729.png

ทดลองมองหาสิ่งพวกนี้ เพื่อการันตีแนวโน้มขาขึ้น :

1. แผนภูมิราคาพากเพียรจะไปสัมผัสเส้นค่าถัวเฉลี่ยเขยื้อน
2. แผนภูมิราคายังคงต่ำลงยิ่งกว่าเส้นค่าถัวเฉลี่ยราคาเคลื่อนอย่างต่ำหนึ่งแท่ง
3. เมื่อแผนภูมิราคาปรับพฤติกรรมขึ้นไปสูงขึ้นยิ่งกว่าเส้นค่าถัวเฉลี่ยราคาแล้ว แผนภูมิราคาจำเป็นจะต้องทำระดับย้อนกลับมาสู่เส้นค่าถัวเฉลี่ยราคาอีกที
4. ต่อไปแผนภูมิราคาจะทำตำแหน่งสูงมากขึ้น เพื่อเป็นการรับรองตลาดวัวกระทิงแผนภูมิราคาจึงควรทำระดับที่ค่อนข้างสูงกว่าแผนภูมิแท่งที่อยู่เหนือเส้นค่าถัวเฉลี่ย

ถ้าอยากการันตีแนวโน้มตลาดขาลง ระหว่างวันให้มองหาสิ่งต่อแต่นี้ไป :

1. แผนภูมิราคาจะมานะแตะต้องค่าถัวเฉลี่ยเคลื่อน
2. แผนภูมิราคายังคงสูงขึ้นมากยิ่งกว่าเส้นค่าถัวเฉลี่ยราคาอย่างต่ำหนึ่งแท่ง
3. ภายหลังที่แผนภูมิราคาปรับนิสัยลงไปแตะต้องเส้นค่าถัวเฉลี่ยแล้ว แผนภูมิราคาจะทำขั้นสูงขึ้นมาเพื่อแตะต้องเส้นค่าถัวเฉลี่ยอีกรอบ ก่อนที่จะแผนภูมิราคาจะลงไปสู่ตลาดขาลงอีกครั้ง
4. แนวโน้มตลาดหมีจะรับรองได้ ต่อเมื่อแผนภูมิราคาทำระดับที่ค่อนข้างต่ำกว่า แผนภูมิแท่งเทียนแท่งที่ต่ำสุด

2. ช่อง CHANNEL ของแผนภูมิราคากับ PRICE ACTION

ในแนวทางลำดับที่สองนี้แทนที่จะใช้ค่าถัวเฉลี่ยเขยื้อนแบบง่ายเพียงแต่เส้นเดียว พวกเราจะใช้สองเส้นโดยพวกเราจะยังคงใช้เส้นค่าถัวเฉลี่ยราคา SMA20 โดยการผลิตให้เป็นช่อง CHANNEL ด้วยเส้นแรก APPLY HIGHT และก็อีกเส้น APPLY LOW พวกเราจะได้เส้นผลสร้างวิถีทางราคาเพื่อช่วยพวกเราสำหรับเพื่อการมองหาแนวโน้มระหว่างวัน

ด้วยเหตุว่าอินดิเคเตอร์ตัวนี้ การทำงานสลับซับซ้อนกว่าแบบแรกฉะนั้นการแปลความหมายก็เลยง่ายดายยิ่งกว่า เมื่อแผนภูมิแท่งเทียนราคาสองแท่งอยู่เหนือช่อง CHANNEL อย่างสมบูรณ์พวกเราจะกำหนดว่าเป็นแถวโน้มขาขึ้น และก็เมื่อแผนภูมิราคาสองแท่งอยู่ข้างล่างของช่อง CHANNEL พวกเราจะกำหนดให้เป็นแถวโน้มขาลง

แบบอย่างข้างล่างชี้ให้เห็นว่าช่อง CHANNEL ช่วยระบุแนวโน้มความเคลื่อนไหวระหว่างวันได้ยังไง

• ถึงแม้ว่าตลาดจะมากขึ้นอย่างเร็วตั้งแต่ระยะนี้เปิดขึ้นตามแนวทางนี้พวกเราสามารถระบุแนวโน้มโค ณ จุดนี้เพียงแค่นั้น

• แท่งทั้งคู่นี้แปลงแนวโน้มระหว่างวันเป็นขาขึ้น

730.png

มีหลายแนวทางสำหรับเพื่อการสร้างช่อง CHANNEL นี้ นอกเหนือจากการใช้เส้นค่าถัวเฉลี่ยราคาเขยื้อน APPLY HIGH แล้วก็ APPLY LOW คุณยังสามารถใช้ KELTNER BANDS รวมทั้ง BOLLINGER BANDS ได้ด้วย รวมทั้งเพราะช่อง CHANNEL กลุ่มนี้ผลิตขึ้นแตกต่างคุณต้องปรับกฎในการระบุแนวโน้มระหว่างวันของคุณด้วย

3. การใช้กรอบขณะที่สูงมากขึ้น

จากที่กล่าวเอาไว้ภายในส่วนแรกเนื้อหานี้ว่า แนวโน้มเป็นภาพใหญ่ มันเป็นมุมมองในระดับที่สูงขึ้นของตลาด เพราะฉะนั้นแนวทางหนึ่งที่ได้รับความนิยมสำหรับการระบุแนวโน้มระหว่างวันเป็นมองการเคลื่อนไหวของแผนภูมิราคาในกรอบในขณะที่สูงมากขึ้น

กระบวนการนี้ พวกเราบางทีอาจมองแนวทางแนวโน้มกรอบเวลาราย 4 ชั่วโมงแม้กระนั้นมากระทำเทรดในกรอบเวลา 5 นาทีได้ ด้วยการพยายามอิงตามแนวโน้มของกรอบเวลาใหญ่ไว้ อาทิเช่นกรอบเวลาใหญ่มีลัษณะทิศทางเป็นตลาดวัวกระทิง เมื่อพวกเราจะกระทำการเทรดในกรอบเวลา 5 นาทีพวกเราจะย้ำการเทรด BUY มากยิ่งกว่าการเทรด SELL หรือถ้าเกิดพวกเราเทรดทั้งยัง BUY แล้วก็ SELL พวกเราบางทีอาจจะปิดคำบัญชา SELL แล้วถือคำบัญชา BUY ไว้มากยิ่งกว่า

4.การฉุด เส้น TREND LINE

731.png

เทรดเดอร์สาย PRICE ACTION จะถูกใจเส้น TREND LINE มากมาย เนื่องจากมันมีสาระสำหรับอีกทั้งการวิเคราะห์ทั้งยังกรอบระหว่างวันรวมทั้งกรอบระยะยาว

ด้วยการเชื่อมต่อจุด PIVOT ทำให้พวกเราจะได้มองเห็นเส้น TREND LINE ของความเอียงชันรวมทั้งจุดสำคัญที่ไม่เหมือนกัน การตีความหมายรากฐานของเส้น TREND LINE เป็นแนวโน้มการกลับตัวคราวหลังเส้น TREND LINE หลักถูก BREAK ไปได้แล้ว

วิธีการแบบนี้ง่ายดายเสียยิ่งกว่าเนื่องจากไม่จำเป็นต้องใช้อินดิเคเตอร์ใดๆก็ตามแน่ๆว่าการดูด้วยแผนภูมิไม่จะดำเนินงานได้เร็วกว่าการรอคอยอินดิเคเตอร์ ประเมินผลก่อนแสดงผล อย่างไรก็แล้วแต่เพื่อมันดำเนินงานได้คุณต้องมีความถนัดการลากเส้น TREND LINE

แนวทางที่เยี่ยมที่สุดสำหรับในการค้นหาแนวโน้มระหว่างวัน

ไม่มีกระบวนการระบุแนวโน้มระหว่างวันที่เพอร์เฟ็ค พวกเราชอบมองเห็นแบบอย่างอยู่ตลอดว่าตลาดบางครั้งอาจจะกลับมา มีทิศทางเสมือนแนวโน้มก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาได้หรืออาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีหลายสาเหตุที่พวกเราจะการันตีแนวโน้มเฉพาะเมื่อแผนภูมิราคาเริ่มมีการถอยกลับอย่างเต็มกำลังแล้ว

กรณีดังกล่าวมาแล้วข้างต้นไม่สามารถที่จะหลบหลีกได้ นี่เป็นเหตุผลที่พวกเราจะต้องมีการตั้ง STOP LOSS เพื่อให้ความหมายเสี่ยงของพวกเรา

ในแต่ละแนวทางข้างต้นอีกทั้ง 4 ล้วนมีจุดอ่อนเฉพาะของมันเอง

สำหรับทั้งคู่แนวทางแรก พวกเราจำต้องพึ่งพิงอินดิเคเตอร์ พวกเราจำต้องตกลงใจในขณะการหวนกลับของอินดิเคเตอร์พวกนี้ ถ้าหากว่าไม่มีช่วงการหวนกลับที่สมควรพวกเราบางทีอาจจะพลาดการเทรดไปได้

สำหรับวิธีการใช้กรอบขณะที่สูงมากขึ้นนั้น ขึ้นกับการเลือกกรอบในขณะที่สูงมากขึ้นของพวกเรา กรอบในเวลาที่สูงมากขึ้นสะท้อนถึงแนวโน้มระหว่างวัน กรอบเวลา 30 นาทีรวมทั้งกรอบเวลารายชั่วโมงจะได้รับความนิยมในกลุ่มเทรดเดอร์รายวัน

สำหรับวิธีการใช้เส้น TREND LINE มีความท้าที่แจ้งชัดเป็นการลากเส้นที่จะควรจะมีความหมาย หัวข้อสำคัญเป็นการลากเส้น TREND LINE ที่ใกล้เคียงแล้วก็เกี่ยวข้องกัน
#9
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / บทวิเคราะห์กราฟทางเทคนิค Forex...
กระทู้ล่าสุด โดย support-2 - กุมภาพันธ์ 07, 2025, 01:39:47 ก่อนเที่ยง
GBPCAD
GbpCad 07-02.png
ภาพในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง ราคาสร้างรูปแบบที่บ่งบอกถึงโอกาสที่จะกลับตัวลงอย่าง Head and Shoulder จากนั้นราคาได้ร่วงลงมาปิดอยู่ใต้เส้น Neckline เป็นสัญญาณยืนยันว่ารูปแบบกลับตัวที่เกิดขึ้นสมบูรณ์ จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวลงตาม Chart Pattern ที่เกิด มองหาจังหวะเข้า Sell โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ

EURUSD
EurUsd 07-02.png
ภาพในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง ราคาสร้างรูปแบบที่บ่งบอกถึงโอกาสที่จะกลับตัวขึ้นอย่าง Bullish QM Pattern
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคาย่อตัวกลับลงมาที่ Support สัมพันธ์กับ Fibonacci Retracement 78.6% แล้วมีแรงซื้อกลับขึ้นมา จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่าราคากำลังจะกลับตัวขึ้นต่อตาม Pattern ที่เกิด มองหาจังหวะเข้า Buy โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ
#10
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / ต่อ: Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - กุมภาพันธ์ 06, 2025, 01:03:29 หลังเที่ยง
Sell : GBPJPY

จุดเข้า : ตอนนี้

TP : 190.135

SL :  192.135
=================
Sig Telegrame