JEFFREY KENNEDY คือผู้ที่ได้แชร์รูปแบบกราฟราคาแท่งเทียนที่เขาได้ตั้งชื่อขึ้น ว่า POPGUN BAR PATTERN โดยรูปแบบที่ว่านี้ มีความหมายถึงการหาคลื่นแรงกระตุ้นสำหรับเทรดเดอร์
ในทางด้านการจัดการต่างๆ ล้วนมีส่วนของ ELLIOT WAVE เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยทั้งสิ้น ELLIOT WAVE เป็นรูปแบบของการวิเคราะห์วัฏจักรที่ทำงานกับการนับคลื่น ถึงแม้ว่ามันจะเป็นหัวข้อย่อยของการวิเคราะห์ทางเทคนิคความลึกและความแตกต่างของมันต่างก็พิสูจน์ให้เห็นถึงคลื่น ELLIOT WAVE ในฐานะที่เป็นการทำงานของตัวมันเอง
ในบทความนี้ จึงเหมือนการได้เรียนรู้ รูปแบบกราฟแบบใหม่อีกแบบหนึ่ง โดยหลักๆ ของรูปแบบ POPGUN BAR เทรดเดอร์จะต้องรู้เรื่อง INSIDE BAR และ OUTSIDE BAR ว่าคืออะไรก่อน
• INSIDE BAR คือ กราฟราคาแท่งเทียน แท่งต่อๆ มาที่อยู่ภายใน กราฟราคาแท่งที่ใหญ่กว่า แท่งที่ใหญ่กว่า อาจเรียกอีกชื่อว่า MOTHER BAR
• OUTSIDE BAR คือ กราฟราคาแท่งเทียน แท่งก่อนหน้า กราฟราคาแท่งที่ใหญ่กว่า โดยจะมีกี่แท่งก่อนหน้าก็ได้ แต่จะต้องเล็กกว่า แท่งกราฟยาวใหญ่ที่มาทีหลังนี้
(https://docs.google.com/uc?id=1NEAUT_RLXkr29pUkh091I0K5VQbNda9e)
และรูปแบบกราฟราคาแท่งเทียนที่ชื่อว่า POPGUN BAR นี้จะประกอบไปด้วยแถบด้านใน INSIDE BAR ตามด้วยแถบด้านนอก OUTSIDE BAR
กฎ-ของการเข้าทำการซื้อขาย ด้วยรูปแบบกราฟราคาแท่งเทียนแบบ POPGUN BAR
การมองหา การเข้าทำการซื้อ ด้วย POPGUN BAR
• ต้องเกิดกราฟราคาแท่งเทียน แบบ INSIDE BAR
• และต้องเกิด กราฟราคาแท่งเทียนแบบ OUTSIDE BAR ที่ราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด (กราฟราคาแท่งเทียน แท่งขาขึ้น)
• ให้เทรดเดอร์เปิดคำสั่งซื้อ ที่ราคาปิดของแท่งที่เป็น OUTSIDE BAR
การมองหา การเข้าทำการขาย ด้วย POPGUN BAR
• ต้องเกิดกราฟราคาแท่งเทียน แบบ INSIDE BAR
• และต้องเกิด กราฟราคาแท่งเทียนแบบ OUTSIDE BAR ที่ราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด (กราฟราคาแท่งเทียน แท่งขาลง)
• เทรดเดอร์เปิดคำสั่งขาย ที่ราคาปิดของแท่งที่เป็น OUTSIDE BAR
ตัวอย่าง-การเข้าทำการซื้อขายด้วยรูปแบบ POPGUN BAR
ตัวอย่างที่หนึ่ง
(https://docs.google.com/uc?id=1GNP-bsbDqwdTO_IiWOx3ewAYu2Didn5F)
จากภาพตัวอย่าง เทรดเดอร์จะมองเห็น INSIDE BAR สองครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งก็สามารถทำกำไรให้กับเทรดเดอร์ได้ จากกฎในการเข้าทำการซื้อ จะเห็นว่า ต้องมีกราฟราคาแท่งเทียนแท่ง MOTHER BAR ต้องมีการ BREAKOUT จาก MOTHER BAR ในลักษณะ กราฟแท่งขาขึ้น จากภาพจะเห็นว่า มีการทำ DOUBLE BOTTOM หรือ อาจจะเรียกว่ามีการไปทดสอบเส้นแนวรับอีกครั้งหนึ่งก่อน แต่ก็มีเงื่อนไขตามกฎของ POPGUN BAR เข้ามาด้วย ยิ่งจะเพิ่มความมั่นใจในการเข้าทำการซื้อเพิ่มไปอีกขั้นหนึ่ง
ตัวอย่างที่สอง
(https://docs.google.com/uc?id=1w3mxUrZLUj9xES9jUXn6Z8I3F9IMcPRU)
จากภาพตัวอย่างที่สองนี้ แสดงให้เทรดเดอร์เห็นว่า ในการเข้าทำการซื้อขายในตลาดค่าเงิน มีหลากหลายวิธีการ
• เริ่มจากการ ตีเส้นแนวโน้ม (TRENDLINE)
• มาถึงเส้นแนวรับ เกิดเป็นช่วง (SIDEWAY) แล้วกราฟก็ ทะลุเส้นแนวรับลงไป
• เกิดมีกราฟราคาแท่งเทียนรูปแบบ (INSIDE BAR)
• มีการวิ่งทะลุกรอบออกไปได้ (BREAKOUT ของ INSIDE BAR)
• และก็มาวิ่งทะลุเส้นแนวโน้ม (BREAKOUT TRENDLINE) อีกทีหนึ่ง
• คราวนี้วิ่งไปทดสอบเส้นแนวต้านที่เมื่อสักครู่เป็นเส้นแนวรับ
• เกิดรูปแบบกราฟราคาแท่งเทียนเป็นลักษณะการกลับตัว (PINBAR)
• และมีการทดสอบเส้นแนวรับที่เมื่อสักครู่เป็นแนวต้านอีกครั้งหนึ่ง
จากภาพนี้ ให้เทรดเดอร์สังเกต พฤติกรรม รูปแบบ ลักษณะ กราฟราคาแท่งเทียนทั้งหลายดู รวมถึงเส้นแนวโน้ม เส้นแนวรับ แนวต้าน ทั้งหมดอยู่ในกระบวนการทางความคิดทั้งสิ้น หมั่นฝึกฝนให้มากพอ จะเป็นหนทางนำเทรดเดอร์ไปสู่การทำกำไรต่อไปในอนาคต
ทบทวน - การเข้าทำการซื้อขายด้วยรูปแบบ POPGUN BAR
ในบทความนี้และในรูปแบบนี้มุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงจากการหดลดขนาดของช่วงแท่งเทียน (INSIDE BAR) เพื่อการขยายช่วงของแท่งเทียนออกไป (BREAKOUT INSIDE BAR) และใช้การเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมกราฟแท่งเทียน เป็นสัญญาณบอกความแข็งแกร่งของการกลับตัวหรือการทะลุไป
โดยทั่วไปแล้ว กราฟราคาแบบ OUTSIDE BAR จะไม่มีผลมากนัก การเคลื่อนไหวของราคาที่ตามมาจากแท่ง OUTSIDE BAR อาจจะไม่แน่นอนนัก