การวิเคราะห์หลายกรอบเวลาเป็นวิธีวิเคราะห์แบบบนลงล่างเพื่อศึกษาพฤติกรรมของราคานักเทรดมักจะเริ่มโดยการมองกรอบเวลาที่ยาวกว่าและขยับมายังกรอบเวลาที่สั้นกว่าอย่าง กราฟระหว่างวัน
กลยุทธ์หลายกรอบเวลาเป็นระบบการเทรดเชิงตรรกะที่นักเทรดมืออาชีพใช้ เป็นกลยุทธ์การเทรดทางเทคนิคที่ให้ความน่าจะเป็นของผลลัพธ์ตามที่คาดการณ์ไว้ได้สูง ด้วยรูปแบบการเทรดนี้เป็นรูปแบบทางเทคนิคล้วนๆ นักเทรดจึงไม่ต้องพิจารณาถึงปัจจัยพื้นฐานแต่อย่างใด
ในการวิเคราะห์หลายกรอบเวลา นักเทรดศึกษาความแตกต่างของช่วงระยะเวลาและพิจารณาว่า มีผลกระทบอย่างไรกับราคา ยิ่งกรอบเวลายาวเท่าไหร่ ก็จะยิ่งได้รับผลกระทบในเรื่องราคา ด้วย "สมาร์ทมันนี่" ทำการเทรดในกรอบเวลาที่ใหญ่กว่า
กลยุทธ์หลายกรอบเวลาจะให้ตำแหน่งที่ถูกต้องกับนักเทรด ตัวกลยุทธ์จะทำให้นักเทรดทราบถึงทิศทางของแนวโน้มของตลาด ในขณะที่ระบุจุดเข้าเทรดที่เหมาะสมในกรอบเวลาที่สั้นกว่า
เรายังต้องการกรอบเวลาต่างๆ ไปในทิศทางเดียวกัน หากกรอบเวลาที่ยาวกว่าเป็นขาขึ้น เราต้องตรวจสอบว่า กรอบเวลาที่สั้นกว่าก็เป็นขาขึ้นเช่นกัน และเช่นเดียวกัน หากกรอบเวลาที่ยาวกว่าเป็นขาลง กรอบเวลาที่สั้นกว่าก็เป็นขาลงเช่นกัน ซึ่งจะทำให้การเทรดมีความน่าจะเป็นสูงและถูกต้องมากขึ้น
แนวคิดทั่วไปเบื้องหลังการวิเคราะห์หลายกรอบเวลาประกอบด้วย
- กำหนดความเอนเอียงของทิศทางตลาดใช้กรอบเวลาที่ยาวกว่าเพื่อค้นหาแนวโน้มหลัก หากไม่พบแนวโน้ม นักเทรดควรหยุดเทรดจนกว่าจะสามารถกำหนดแนวโน้มที่ชัดเจนได้
- เรามองหาการขึ้นแล้วลงต่อ (Pullback) และการปรับตัวขึ้นภายในแนวโน้มหลัก
- เรารอการทะลุแนวในทิศทางของแนวโน้มสำหรับระดับที่เราจะเข้าทำการเทรด
การเลือกกรอบเวลา
คุณเลือกกรอบเวลาที่ใช้อย่างไร เราใช้สามกรอบเวลาเพื่อดูแนวโน้ม การขึ้นเพื่อลงต่อและการทะลุแนว อย่างแรก คุณต้องเลือกกรอบเวลาที่คุณรู้สึกสบายใจในการเทรดที่สุด ด้วยนักเทรดแต่ละคนมีความแตกต่างกัน บางคนชอบเทรดระยะสั้นมากแต่บางคนชอบเทรดระยะยาว
กฎพื้นฐานคือ คุณควรใช้กรอบเวลาที่คุณชอบเป็นกรอบเวลากลาง ในการหากรอบเวลาระยะยาว คุณจะต้องคูณกรอบเวลาของคุณด้วย 4 5 หรือ 6
ในการหากรอบเวลาระยะสั้น คุณต้องหารกรอบเวลากลางของคุณด้วย 4 5 หรือ 6
กฎเหล่านี้เป็นแค่ข้อเสนอแนะไม่ใช่กฎตายตัว หากกรอบเวลาที่คุณชอบคือกราฟระหว่างวัน เช่นกรอบราย 5 นาทีหรือ 15 นาที ขอแนะนำให้คุณใช้กราฟรายวันเป็นกรอบเวลาระยะยาวของคุณ เพราะกราฟรายวันถือเป็นกราฟที่สมาร์ทมันนี่ทำการเทรด
ตัวอย่างการตั้งค่า
- หากกรอบเวลาที่คุณชอบเทรดคือกราฟราย 1 ชั่วโมง นี่จะเป็นกรอบเวลากลางของคุณ
- หมายความว่า คุณจะใช้กราฟรายวันเป็นกรอบเวลาระยะยาว
- กราฟราย 15 นาทีเป็นกรอบเวลาระยะสั้น
ตัวอย่างการวิเคราะห์หลายกรอบเวลา
ในการทำการวิเคราะห์หลายกรอบเวลา ให้เริ่มจากกรอบเวลาระยะยาวก่อนเสมอ กรอบเวลานี้จะแสดงให้เห็นมีแนวโน้มหรือไม่และจะช่วยให้คุณกำหนดความเอนเอียงของทิศทางตลาด
ในภาพ 1 เรามีกราฟรายวันของ GBP/USD โดยการใช้ Moving averages 9 และ 18 เราสามารถระบุได้ว่า เรากำลังเข้าสู่แนวโน้มขาลงที่รุนแรง หมายความว่า รูปแบบการเทรดมีโอกาสเป็นการขายสูง
(http://postto.me/216/h1h.jpg)
ภาพ 1: กราฟรายวัน GBP/USD
บนกรอบเวลากลาง เราประเมินแรงส่งของราคาของตลาดและสัญญาณการเปลี่ยนแปลงของการซื้อมากเกินไป (Oversold) /การขายมากเกินไป (Overbought) ที่อาจจะเกิดขึ้นในทิศทางแนวโน้มที่พบในกราฟกรอบเวลาที่ยาวกว่า หากแนวโน้มโดยรวมเป็นขาขึ้น จับตาดูความเปลี่ยนแปลงของตลาดจากระดับ Oversold แต่หากแนวโน้มโดยรวมเป็นขาลง จับตาดูความเปลี่ยนแปลงของตลาดจากระดับ Overbought
(http://postto.me/216/gcu.jpg)
ภาพ 2: กราฟราย 1 ชั่วโมงของ GBP/USD
กรอบเวลาระยะสั้นจะจับเวลาตลาดและค้นหาช่วงเข้าเทรดที่ดีที่สุดในทิศทางของแนวโน้ม เราใช้กรอบเวลาระยะสั้นเพื่อระบุช่วงเข้าและช่วงออก เมื่อเราสามารถระบุระดับ Overbought หรือ Oversold ในกรอบเวลากลางได้แล้ว เราจะสลับไปที่กรอบเวลาที่สั้นกว่าเพื่อเข้าเทรด ใช้ระดับทางเทคนิคใดก็ได้เป็นตัวเริ่ม เช่นขายเมื่อทะลุแนวรับหากเราอยู่ในแนวโน้มขาลงและซื้อเมื่อทะลุแนวต้านหากเราอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
(http://postto.me/216/gcm.jpg)
ภาพ 3: กราฟราย 15 นาทีของ GBP/USD