ข่าว:

กระทู้ล่าสุด

#11
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - กันยายน 19, 2023, 11:50:36 หลังเที่ยง
#12
การวิเคราะห์ทางเทคนิค / การเทรด FOREX ที่ KILL ZONES ...
กระทู้ล่าสุด โดย support-1 - กันยายน 19, 2023, 02:43:08 หลังเที่ยง
ก่อนจะเทรด Forex ที่ KILL ZONE คำถามแรก คุณเป็นเทรดเดอร์แบบใด จากสองคนนี้ คือ เทรดเดอร์ที่ รอให้กราฟราคา เข้ามาในกรอบของคุณ และเมื่อมันเข้ามาแล้ว คุณก็เข้าทำการเทรด ด้วยเทคนิค เฉพาะตัวของคุณ หรือเป็นเทรดเดอร์ ที่มีการเทรด ไปทั่วตลาด เจอตรงไหนที่คิดว่า เทรดได้ ก็เทรดไป

เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ เป็นเทรดเดอร์ แบบที่สอง เพราะพวกเขา ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และมักทำการเทรด ในกรอบเวลา 5 – 15 นาที พวกเขามักจะไม่มี แผนการเทรดใดๆ แต่นั่นไม่สำคัญ เพราะสำหรับพวกเขา ตราบใดที่อยู่ในตลาด พวกเขาคิดว่า การทำเช่นนี้ได้กำไรบ้าง ขาดทุนบ้าง เป็นสิ่งที่เหมาะสมแล้ว

KILL ZONE คืออะไร?

ฟังดูอาจจะเหมือนโหดร้าย ไปสักนิด แต่ KILL ZONE คือ โซนที่มี ความน่าจะเป็นสูง สำหรับการตามล่า หาการเคลื่อนไหว ของแท่งเทียน ในทิศทางที่แน่นอน โซนนี้ มีคุณสมบัติที่สำคัญ สามประการ คือ

- เป็นระดับที่ระบุ โดยใช้กรอบเวลารายวัน
- มีแนวโน้ม ที่ชัดเจนอยู่เสมอ
- อยู่ที่บริเวณการย้อนกลับ หรือการกลับตัว ของราคา


การพลิกกลับ ของราคา คืออะไร?

การพลิกกลับของราคา เป็นจุดที่ กราฟแท่งเทียน ทำรูปแบบย้อนกลับ จากโซนแนวรับเก่า ไปสู่แนวต้านใหม่ หรือแนวต้านเก่า ไปสู่แนวรับใหม่ ตรงตำแหน่งพื้นที่นี้ มีความน่าจะเป็นสูงสำหรับการเทรด

ลองดูที่ภาพตัวอย่าง ด้านล่างนี้ เป็นการเคลื่อนไหวของราคา ที่สามารถทะลุ แนวรับ ลงไปได้แล้วย้อนกลับมา ทดสอบแนวรับเก่า ที่กลายเป็นแนวต้าน ไปแล้วอีกครั้ง พร้อมกับรูปแบบแท่งเทียน มันคือ จุดพลิกกลับของราคา



ภาพตัวอย่างถัดมา เราจะเห็นแนวต้านเก่า ที่ราคาทะลุขึ้นไปได้แล้ว จึงย้อนกลับมาทดสอบ เกิดเป็นการพลิกกลับไป ของราคา ที่ระดับแนวรับใหม่นี้



รูปแบบในภาพตัวอย่างนี้ เป็นสิ่งที่พบได้ทั่วไป และทรงพลังที่สุด ในตลาด FOREX และมันจะจ่ายเงินให้กับเทรดเดอร์ ที่สามารถมองออก เข้าเทรดได้ถูกจังหวะ หรือเทรดเดอร์ที่ให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด พร้อมกับเรียนรู้รูปแบบ ของเหล่านี้อย่างจริงจัง เทรดเดอร์จะเห็นการทำรูปแบบเหล่านี้ ซ้ำแล้วซ้ำอีก ในกรอบเวลาทั้งหมด เทรดเดอร์ที่เป็นงาน จะเริ่มมองหาการเทรดทันที ที่แนวรับหรือแนวต้านแรกถูกทำลาย พวกเขาจะสามารถมองเห็นการพลิกกลับของราคา ได้อย่างทันที และเริ่มถือเป็นแนวรับใหม่ หรือแนวต้านใหม่

ภาพตัวอย่างถัดมา เป็นการแสดงให้เห็นว่า การพลิกกลับของราคา ทำงานซ้ำแล้วซ้ำอีก และวิธีการนี้ทำงาน ครั้งแล้วครั้งเล่าในตลาด



วิธีการหา KILL ZONE

กฎสำคัญแรก ในการค้นหาโซนฆ่า ที่ต้องปฏิบัติตาม คือ การมองหาในกรอบรายวัน ในขณะที่คุณทำเครื่องหมาย ในโซนหลักทั้งหมดของคุณ โดยใช้ชาร์ตกรอบรายวัน ช่วงตลาดนิวยอร์กปิด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า การเทรดทั้งหมดของคุณ จะทำโดยใช้ชาร์ตกรอบรายวัน หากคุณสามารถระบุ KILL ZONEได้ในกรอบเวลา 4HR หรือ 1HR คุณก็สามารถเข้าทำการเทรดใน KILL ZONEของคุณได้

สิ่งสำคัญต่อมา คือ การระบุแนวโน้มให้ได้ หากไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจน อาจจะทำให้มองไม่เห็น KILL ZONEได้ ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้สูง ในการเทรดจากโซนแนวรับ แนวต้านแต่มันไม่ใช่ KILLZONE

เมื่อมีการระบุแนวโน้มที่สำคัญ มันคือทั้งหมด ที่เกี่ยวกับการค้นหา พื้นที่ความน่าจะเป็นสูงเป็นพิเศษ ในการทำการค้าภายในแนวโน้มนั้นๆ และนี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด มันไม่ได้เกี่ยวกับรูปแบบแท่งเทียน แต่มันคือเรื่องราวของการเคลื่อนไหวของราคา และการเทรดกำลังจะเริ่มขึ้น คุณสามารถมีสัญญาณการเคลื่อนไหว ของราคาที่ดี แต่ถ้ามันอยู่ในพื้นที่ๆ ไม่ถูกต้อง มันจะเป็นการเทรด ที่มีโอกาสน้อยในการชนะ

ภาพตัวอย่างด้านล่าง แสดงชาร์ตกรอบรายวัน ที่มีแนวโน้มขาลงที่ชัดเจน และการพลิกราคาที่ชัดเจน พร้อมเครื่องหมาย KILL ZONEตรงนี้เป็นพื้นที่ๆ มีความน่าจะเป็นสูง ที่จะทำการเทรดในระยะสั้นได้ จากทุกกรอบเวลา



การแอบส่อง หรือคอยติดตาม

เทรดเดอร์ที่ดี ไม่เพียงแต่มองหาการเทรดแบบเดิมๆ ที่มองเห็นได้ง่าย พวกเขาไล่ตามหาการเทรดของพวกเขา เหมือนเสือที่คอยซุ่มดูเหยื่ออยู่

ความแตกต่าง ระหว่างเทรดเดอร์ที่ดี กับมือสมัครเล่น คือ เทรดเดอร์ที่ดี จะรู้ว่าสิ่งที่พวกเขากำลังมองหา และพวกเขาปล่อยให้ตลาดทำงาน พวกเขาไม่ได้บังคับตลาด พวกเขาอดทนรอ ให้ตลาดมาหาพวกเขา มือสมัครเล่น จะไปอีกทางหนึ่ง พวกเขาจะเข้าตลาด ด้วยความตื่นตระหนก และไม่มีความคิด ในสิ่งที่พวกเขากำลังมองหา มันค่อนข้างต่างกันมาก เทรดเดอร์ที่ดีจะรอให้ตลาดเข้ามาหา แต่เทรดเดอร์มือสมัครเล่น จะเข้าไปหาตลาด

การเข้าเทรดระยะหวังผล KILL ZONE

เทรดเดอร์ที่เชี่ยวชาญ จะทำเงินของพวกเขา จากแนวโน้มของกราฟราคาเป็นหลัก และแม้ว่า KILL ZONEโดยปรกติจะถูกตั้งค่า ในกรอบรายวัน แต่สามารถทำการเทรด ในกรอบเวลาที่เล็กกว่านั้นได้ หลังจากตั้งค่าชาร์ตของคุณแล้ว ให้มองหาแนวรับ แนวต้าน ที่ซึ่งตลาดกำลังวิ่งไป ในทิศทางของแนวโน้ม นี่คือส่วนที่ง่ายที่สุด เทรดเดอร์ทุกคนกำลังมองหา ความน่าจะเป็นสูง ของการเคลื่อนไหว ของแท่งเทียน พวกเขาจะรอการยืนยันในสิ่งที่คิด ก่อนการลงมือ

ภาพตัวอย่างด้านล่าง แสดง KILLZONE จากการมีแนวโน้มที่ลดลงอย่างชัดเจน และภายใน KILLZONE นี้ มีเรื่องราวการ RETRACE มีแนวต้านที่เฝ้ารออยู่ สุดท้ายมีรูปแบบ BEARISH ENGULFING นี่ก็เพียงพอแล้ว สำหรับการเทรดในระยะสั้น ที่มีโอกาสสูงในการชนะ



ข้อสรุป

เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ และสร้างผลกำไรระยะยาว คือ เทรดเดอร์ที่เลือกการเทรด ของเขาเอง และรู้ว่าเมื่อใด ที่จะมีโอกาสเหล่านั้น เกิดขึ้น พวกเขาจะมอง และทำการเทรดทุกครั้ง ที่ตลาดมีสัญญาณที่โดดเด่น ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็นั่งรอซ่อนตัว อยู่ในพุ่มไม้ เพื่อรอจังหวะ ที่ตลาดเข้ามาในเขต KILLZONE ด้วย หลังจากนั้น พวกเขาจะกระโจนเข้าโจมตี ด้วยเทคนิคพิเศษอีกชั้นหนึ่ง

แทนที่จะเข้าสู่ตลาด และบังคับให้ตลาด ทำในสิ่งที่คุณต้องการ ให้คุณเริ่มทำเครื่องหมาย KILLZONE และปล่อยให้ตลาดเข้ามา เตรียมพร้อม ตรวจสอบให้แน่ใจ และเข้าทำการเทรดทันที
#13
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / ต่อ: Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - กันยายน 19, 2023, 12:10:20 หลังเที่ยง
Sell : GBPJPY
จุดเข้า : ตอนนี้

TP : 182.400
SL : 184.000
#14
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / ต่อ: Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - กันยายน 19, 2023, 08:12:04 ก่อนเที่ยง
sell XAUUSD ตอนนี้ 1934.8
Limit 1938-1940
Sl 1942
#15
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / ต่อ: Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - กันยายน 19, 2023, 04:44:06 ก่อนเที่ยง
BUY : GBPUSD
จุดเข้า : ตอนนี้

TP : 1.24400
SL : 1.23700
#16
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / บทวิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน...
กระทู้ล่าสุด โดย support-2 - กันยายน 19, 2023, 01:05:59 ก่อนเที่ยง
US30
ภาพในกรอบเวลา Daily แม้ว่าโครงสร้างหลักจะยังคงอยู่ในขาขึ้น แต่ที่ตำแหน่งปัจจุบัน ความพยายามที่จะขึ้นต่อนั้นหยุดลงเมื่อราคาขึ้นมาชน แนวต้าน สัมพันธ์กับระดับ Fibonacci Retracement 61.8% ถึง 2 ครั้ง แล้วมีแท่งเทียนที่บ่งบอกถึงแรงขายกลับลงมา จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะลงต่อ มองหาจังหวะเข้า Sell โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ
You cannot view this attachment.

NZDJPY
ภาพในกรอบเวลา Daily โครงสร้างของราคามีสวิงไฮและสวิงโลวล่าสุดสูงขึ้นเมื่อเทียบกับสวิงก่อนหน้า อีกทั้งราคายังเคลื่อนที่อยู่เหนือ Support Trendline จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่าแนวโน้มในกรอบเวลานี้อยู่ในขาขึ้น
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคาย่อตัวกลับลงมาที่ Fibonacci Retracement Zone สัมพันกับ Support Trendline แล้วมีแรงซื้อกลับขึ้นมาจนราคาทะลุขึ้นมาเหนือ Resistance Trendline จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวขึ้นต่อตามแนวโน้มเดิมจากบริเวณนี้ มองหาจังหวะเข้า Buy โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ
You cannot view this attachment.

EURAUD
ภาพในกรอบเวลา Daily โครงสร้างของราคามีสวิงไฮและสวิงโลวล่าสุดสูงขึ้นเมื่อเทียบกับสวิงก่อนหน้า อีกทั้งราคายังเคลื่อนที่อยู่เหนือ Support Trendline จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่าแนวโน้มในกรอบเวลานี้อยู่ในขาขึ้น
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคาย่อตัวกลับลงมาที่ Fibonacci Retracement Zone ใกล้กันมี Support Trendline เป็นตำแหน่งที่เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวขึ้นต่อตามแนวโน้มเดิมจากบริเวณนี้ มองหาสัญญาณกลับตัวขึ้นเพื่อเข้า Buy โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ
You cannot view this attachment.
#17
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / ต่อ: Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - กันยายน 19, 2023, 12:17:42 ก่อนเที่ยง
Sell XAUUSD ตอนนี้ 1934.2
รึรอดีๆ 1938-1940
Sl 1942
#18
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / ต่อ: Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - กันยายน 18, 2023, 11:46:27 หลังเที่ยง
#19
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - กันยายน 18, 2023, 11:26:46 หลังเที่ยง
#20
การวิเคราะห์ทางเทคนิค / ทำไมถึงจำเป็นต้องดู Volatility...
กระทู้ล่าสุด โดย support-1 - กันยายน 18, 2023, 02:30:03 หลังเที่ยง
Volatility ในตลาดเป็นการบอกถึงว่ามีการเปลี่ยนแปลงราคาอย่างมากและรวดเร็ว หรือการขึ้นหรือลงของราคาในช่วงเวลานั้นๆ ก็จะทำให้เกิดการเสี่ยงสูงในเวลาอันสั้นถ้าเปิดเทรดแล้วราคาวิ่งสวน หรือก็จะกำไรในเวลาอันสั้นเพราะความเป็นไปได้สูงเกิดขึ้นเมื่อเทรดถูกทาง โดยเฉพาะช่วงตลาดที่มีข่าวเศรษฐกิจสำคัญๆ อย่างเช่น ข่าว Non-Farm เป็นต้น ดังนั้นเมื่อตลาดมี volatility มาก สิ่งที่จะเห็นการเคลื่อนไหวราคาอย่างรวดเร็วกว่าช่วงอื่นๆ เพราะสะท้อนความกลัว ความโลภจากเทรดเดอร์เพราะความไม่แน่นอน

ใช้ Bollinger Band บอก volaitlity



ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า Bollinger Band เป็นอินดิเคเตอร์ให้ข้อมูลอะไร อย่างแรกเลย เนื่องจากเป็นอินดิเคเตอร์ เป็นการอ่านข้อมูลที่เกิดขึ้นแล้วจากราคาที่ผ่านมา สิ่งแรกเลยเป็นการยืนยันหรือรายงานว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตลาดเป็นอย่างไร หลักการใช้ทูลตัวนี้ก็ให้มองสามเส้น ที่ประกอบด้วย Upper Band, Middle band และ Lower band เพื่อดูเทรนหรือดูว่าตลาด sideway/consolidation ด้วยการดูการถ่างหรือระยะห่าง 3 เส้นประกอบกัน ถ้าเส้น upper band และ lower band ถ่างออกมา บอกถึงเทรนหรือ volatility ที่เกิดขึ้น ถ้าระยะห่าง upper band และ lower band ไม่ห่างจาก middle band เป็นช่วงตลาด consolidation หรือไม่ค่อยมี volatility ลองมองดูระยะห่าง upper band หรือ lower band แล้วดูแท่งเทียนที่เกิดขึ้น จะเห็นว่าแท่งเทียนยาวๆ ราคาก็จะวิ่งไปทางใดทางหนึ่ง เพราะการขึ้นหรือลงและการเปลี่ยนแปลงราคาเกิดขึ้นเร็วและมาก เลยทำให้เห็นแท่งเทียนยาวๆ เกิดขึ้น เทรดเดอร์ที่เทรดแบบ sideway ก็จะไม่ชอบเพราะราคาจะชน stop loss เร็ว แต่ถ้าเทรดเดอร์ที่เทรดตามขาใหญ่ ก็จะชอบเพราะออเดอร์ที่เกิดจากการเข้าเทรดและจัดการการเทรดของขาใหญ่ และกระตุ้นให้เกิดความกลัวและความโลภแก่รายย่อยเลยทำให้ราคาวิ่งเยอะ

ช่วงตลาดกับ Volatility



อีกวิธีการในการดู volatility ที่เกิดแต่ละวันคือเข้าใจช่วงตลาด แม้ว่าตลาดฟอเรกจะเปิดให้เทรด 24 ชั่วโมง 5 วันก็ตาม แต่ไม่ได้หมายความว่า volatility ที่มากพอที่จะเทรดมีตลอด ด้วยการดูช่วงตลาดการเงินหลักๆ ของโลก ก็จะมีช่วง Sydney (เวลา 04.00-14.00) Tokey (เวลา 07.00-16.00) London (เวลา 15.00-24.00) และ New York (เวลา 20.00-04.00) เมื่อเทียบกับเวลาประเทศไทย ก็จะดูทำให้รู้ว่าช่วงตลาดการเงินหลักๆ ของโลกเปิดทำการแต่ละช่วงไหนบ้างของแต่ละวัน  แล้วมาดูที่ชาร์ตเปล่าหรือ price chart ก็จะเป็นช่วงที่เห็นแท่งเทียนยาวๆ เกิดขึ้น หลักๆ เห็นแท่งเทียนยาวๆ ก็จะเป็นช่วงตลาด London และ New York ก็เลยบอกได้ว่า volatility ว่าเกิดขึ้นแต่ละวันช่วงไหนบ้างเมื่อตลาดเปิดทำงานของแต่ละช่วง

อีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อเรื่องของ volaitlity คือเรื่องข่าวที่มีเลขทางเศรษฐกิจแรงๆ ทำให้เกิด high volatility ขึ้นมากเป็นพิเศษ เช่นตัวเลขจากข่าว Non-Farm หรือ CPI เป็นต้น ข่าวพวกนี้สามารถดูได้จาก forexfactory หรือจากเว็บไชต์อื่นๆ แบบเดียวกัน  เพราะต้องไม่ลืมว่าแม้ market orders ที่เป็นตัวขับเคลื่อนราคาตลาดขึ้นหรือลงเพราะความไม่สมดุลย์ระหว่างออเดอร์ที่เกิดขึ้นแต่ละช่วง ต้องไม่ลืมว่า maket orders มาจากการออกจากการเทรดด้วย ไม่ว่าจะเป็นการออกจากการเทรดแบบ take profit หรือ stop loss หรือปิดเอง เท่ากับว่าท่านเปิดเทรดด้วย market order ทางตรงกันข้ามกับ position ที่ท่านถืออยู่ในตลาดเช่น ถ้าท่านเปิดเทรด sell ก็เป็น short position ในตลาด ถ้าท่านออกจากตลาด กำไรหรือสูญเสีย การทำงานของออเดอร์ไม่ต่างกัน เท่ากันกับท่านเปิด market order ฝั่งตรงข้ามคือเปิด buy market order ณ เวลาและราคาที่ท่านออก เพราะเมื่อมีข่าวแรงๆ เทรดเดอร์ที่เดือดร้อนมากกว่าเทรดเดอร์ที่รอหาจังหวะเข้าเทรดคือเทรดเดอร์ที่ถือ positions อยู่ในตลาด จำนวนมากหรือน้อยดูพื้นที่การเปิดเทรดด้วยแท่งเทียนได้ เพราะแท่งเทียนบอกถึงการเปิดเทรดหรือ trading transactions ที่เกิดขึ้นว่าอยู่ตรงไหน  ถ้าเทรดเดอร์ที่ถือ positions อยู่ในตลาดมากและถ้าราคาตลาดวิ่งสวนทางที่พวกเขาเปิดเทรดด้วย พวกเขาก็จะเดือดร้อน พอตอน volatility เกิดขึ้นมากตอนข่าวแรงๆ เทรดเดอร์พวกนี้เลยจะต้องออกด้วย

ทำไม Volatility สำคัญต่อการเทรด



เมื่อมองจากชาร์ตเปล่า สิ่งที่เห็นจากผลของ volatility คือ imbalance หรือความไม่สมดุลย์ระหว่างออเดอร์มีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่ายและเร็ว เลยทำให้เกิดแท่งเทียนยาวๆ หรือราคาวิ่งไปทางใดทางหนึ่งบ่อยเป็นทาง ดูช่วงที่ตลาด London เปิดจะเห็นชัด เพราะยุโรปเป็นตลาดการเงินโลกที่ใหญ่กว่าช่วง Sydney และ Tokyo ที่ตรงกับช่วงเช้าของเวลาประเทศไทย  ถือว่าเป็นตลาดเล็กเมื่อเทียบกัน ยิ่งผ่านไปหลังจากช่วงตลาดยุโรปเปิดมา แล้วมาเปิดตลาดช่วง New York อีก ตลาดหลักและใหญ่ 2 แหล่งเปิดพร้อมๆ กันยิ่งทำให้มีขาใหญ่เข้ามาเทรดมากขึ้น ตัวอย่างการอ่านช่วง volatility ด้วย Bolllinger Band และช่วง Market sesssions พร้อมทั้งเข้าใจว่าขาใหญ่ก็จะเปิดเทรดช่วงไหนเป็นหลัก และขาใหญ่เทรดอย่างไร ดูที่เลข 1 ราคาเบรค supply ที่เกิดช่วง London ของวันก่อน ราคาเบรดช่วง London เป็นช่วงตลาดการเงินหลักของโลกเปิด เป็นตลาดที่มีขาใหญ่เป็นเทรดเดอร์ ขาใหญ่เทรดด้วยจำนวนเยอะและสามารถปั่นราคาได้ การเปิดเทรดเมื่อพวกเขาเข้าเทรดได้ตามที่ต้องการ  ก็จะทำให้เกิดความไม่สมดุลย์ระหว่างชาร์ตให้เห็น พื้นที่พวกแนวรับ-แนวต้านหรือ demand/supply ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ก็จะมีความแข็งเยอะ เลยมักจะทำให้เกิดโอกาสการเทรดตลอด ดูตอนที่ราคากลับมาหา demand ที่เลข 1 และ supply ที่เลข 2 และ 3

อีกอย่างที่ต้องไม่ลืมแม้ว่าตลาดการเงินแต่ละช่วงเปิดขึ้นมา โดยเฉพาะทางยุโรปและอเมริกาเปิด ไม่ได้บอกว่า volatility จะมากเหมือนกันทุกวัน เพราะแต่ละวันก็จะต่างกันออกไป ให้ดู Bollinger Band หรือ price structure ที่เกิดขึ้นแต่ละช่วงตลาดประกอบ