ข่าว:

Ichimoku Cloud

เริ่มโดย support-1, พฤษภาคม 25, 2023, 02:42:38 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

support-1

Ichimoku Cloud หรือที่เรียกว่า Ichimoku Kinko Hyo เป็นเครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพที่จะใช้ระบุแนวรับ แนวต้าน ในการวิเคราะห์ทิศทาง และการหาน้ําหนักของทิศทางพร้อมกับการให้สัญญาณเทรด Ichimoku Kinko Hyo สามารถแปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า "one look equilibrium chart" หรือ กราฟดุลยภาพของราคา ซึ่งนักวิเคราะห์จะสามารถวิเคราะห์เทรนด์และมองหาสัญญาณเทรดในเทรนด์นั้นได้ Indicator ได้ถูกพัฒนา โดย Goichi Hosoda, นักเขียน ตีพิมพ์ในปี 1969 แต่อย่างนั้นก็ตาม Ichimoku Cloud อาจจะดูแล้วซับซ้อนเมื่อ มองมันบนกราฟราคา มันค่อนข้างตรงไปตรงมาจริงๆ แล้ว มันถูกสร้างโดยนักเขียน ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ ยิ่ง ไปกว่านั้นแนวคิดการสร้างค่อนข้างง่ายและเข้าใจได้ ซึ่งสัญญาณก็ให้ได้ดี

การคํานวณ

เครื่องมือในนั้นของ Ichimoku Cloud อยู่บนพื้นฐานของราคา High Low ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง เช่น อันแรก เป็น ค่าเฉลี่ย ของ High 9 วันและ Low 9 วัน ก่อนที่คอมพิวเตอร์จะมีใช้มีต้องคํานวณง่ายในการคํานวณราคา High Low เฉลี่ยนี้ ซึ่งใน Ichimoku Cloud ประกอบด้วย กราฟ 5 แบบ :





กราฟข้างล่างแสดงให้เห็นดัชนีอุตสาหกรรม Dow Industrials พร้อมกับ Ichimoku Cloud เส้น Conversion Line (blue) เป็นเส้นที่เคลื่อนไหวเร็ว จะเห็นว่าราคามันจะเคลื่อนไหวตามราคามากที่สุด เส้น Base Line (red) วิ่งตาม Conversion Line แต่ก็ตอบสนองต่อราคาอย่างดี ความสัมพันธ์ระหว่าง Conversion Line และ Base Line คล้ายคลึงความสัมพันธ์ระหว่าง ค่า MA 9 และ 26 MA ค่า MA 9 นั้นเร็วกว่าและใกล้เคียงกว่า เพราะว่า 26 วววันมันช้ากว่า 9 วัน และจะเห็นว่า ค่า 9 และ 26 นั้นใช้ในการคํานวณ MACD เหมือนกัน



การวิเคราะห์ ก้อนเมฆ (Analyzing the Cloud)

ก้อนเมฆ (Cloud) หรือ Kumo เป็นรูปแบบที่โดดเด่นของ Ichimoku Cloud plots ช่วง Leading Span A (สี เขียว) และ Leading Span B (สีแดง) เรียกว่า Cloud ในช่วง Leading Span A เป็นค่าเฉลี่ยของ Conversion Line และ Base Line เพราะว่า Conversion Line และ Base Line จะถูกคํานวณด้วยค่า 9 และ 26 ตามลําดับ บอบเมฆสีเขียวจะเคลื่อนไหวเร็วกว่าสีแดงดเพราะว่ามันเป็นค่าเฉลี่ย 52 วันของราคา Low มันเป็นหลักการ เดียวกับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ค่า MA ที่สั้นจะค่อนข้างไวกว่าค่าที่เยอะกว่า

มีสองวิธีที่จะระบุ Trend โดยใช้ Cloud ขั้นแรก Trend เป็นขาขึ้นเมื่อราคาอยู่เหนือ Cloud ลงเมื่อราคาต่ํากว่า Cloud เทรนดจะลง และเมื่อมันราบราคาอยู่ใน Cloud สอง เทรนด์ขาขึ้นนั้นนชัดเจนเมื่อ Leading Span A( Cloud สีเขียว) นั้นสูงขึ้นเหนือ Leading Span B( Cloud สีแดง) ซึ่งสถานการณ์นี้สร้าง เมฆสีเขียว ในทาง กลับกัน เทรนด์ขาลงก็จะเกิดแรงหนุนเมื่อ Leading Span A( เมฆสีเขียว) นั้นลดลงและต่ํากว่า Leading Span B(สีแดง) ซึ่งสถานการนี้สร้าง (เมฆสีแดง) เพราะว่า Cloud มันยกไปข้างหน้า 26 วันและมันยังให้แนวรับแนว ต้านสําหรับราคาในอนาคต

กราฟที่ 2 แสดง หุ้น IBM ซึ่งเกิดเทรนด์ขาขึ้นและมี Cloud เกิดขึ้น อย่างแรกจะเห็นว่า IBM จะอยู่ในเทรนด์ ขาขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึงเดือน มกราคม และมันซื้อขายอยู่เหนือ Cloud อย่างที่สอง จะเห็นว่า Cloud สร้าง แนวรับในเดือน กรกฎาคม ในช่วงต้นเดือนตุลาคมและต้นเดือน พฤศจิกายน อย่างที่สาม จะเห็นว่า Cloudสร้างแนวต้านในอนาคตไว้ด้วย ข้อควรจําก็คือ Cloud นั้นจะยกไปข้างหน้า 26 วัน หมายความว่า มันใช้ค่า 26 วันในการคํานวณราคาสุดท้ายเพื่อทํานายแนวรับแนวต้านในอนาคต



กราฟที่ 3 แสดงหุ้น Boeing (BA) พร้อมกับ เทรนดขาลง และ Cloud เทรนด์เปลี่ยนเมื่อ Boeing ทะลุกลุ่ม Cloud ลงมาข้างล่าง ในเดือนมิถุนายน กลุ่ม Cloud เปลี่ยนจากสีเขียวไปยังสีแดงเมื่อ Leading Span A (สีเขียว) เคลื่อนต่ํากว่า Leading Span B (สีแดง) ในเดือนกรกฎาคม จากการที่ทะลุกลุ่มเม"นี้ทําให้เกิดสัญญาณเทรนด์ เปลี่ยนแปลง ขณะที่สีเปลี่ยนแสดงถึงสัญญาณที่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลง จะเห็นว่าราคามีปฏิกิริยากับแนว ต้านในเดือน สิงหาคม และเดือน มกราคม



เทรนด์และตัวให้สัญญาณ

ราคา เส้น Conversion Line และเส้น Base Line ถูกใช้ในการวิเคราะห์ความเร็ว ความถี่และสัญญาณ มันเป็น เรื่องสําคัญที่จะต้องจําว่า สัญญาณตลาดกระทิงจะเข้ามาเมื่อราคาอยู่เหนือกลุ่ม Cloud และ Cloud เป็นสีเขียว สัญญาณหมี จะเกิดเมื่อราคาอยู่ต่ํากว่ากลุ่ม Cloud และ Cloud เป็นสีแดง หรืออีกแง่หนึ่ง สัญญาณตลาดกระทิง จะเกิดขึ้นเมื่อมีเทรนด์เกิดขึ้น (ราคาสูงกว่า Clod สีเขียว) ขณะที่สัญญาณหมีจะเกิดเมื่อเทรนด์ใหญ่ขาลงเกิดขึ้น (ราคาลงต่ํากว่า Cloud สีแดง) ซึ่งเพราะว่านี่เป็นเรื่องสําคัญไกนาเรทรดในทิศทางที่ใหญ่กว่า สัญญาณจะเป็น สัญญาณเทรดตรงข้ามจะอ่อนตัวลง ขณะที่สัญญาณตลาดกระทิงระยะสั้นภายในเทรนด์ขาลงและขาขึ้นจะแกว่งตัวในสัญญาณระยะยาวและผันผวนน้อยกว่า

Conversion-Base Line Signals

ในกราฟที่ 4 ในหุ้น Kimberly Clark (KMB) ได้สร้างสัญญาณตลาดกระทิงอยู่ สองสัญญาณในเทรนด์ขาขึ้น อย่างแรกเทรนด์ขาขึ้นเพราะว่า หุ้นเทรดเหนือ Cloud และ Cloud เป็นสีเขียว Conversion Line จะลดลงต่ํา กว่า Base Line เล็กน้อยในเดือนมิถุนายนทําให้เกิดการ Set up ของพฤติกรรมราคา การเกิดสัญญาณตัดกันทํา ให้เกิดขาขึ้นเมื่อเส้น Conversion Line เคลื่อนไหวขึ้นสูงกว่า Base Line ในเดือน กรกฎาคม สัญญาณที่สอง เกิดขึ้นเมื่อราคาหุ้นลดต่ําลงสู่แนวรับ Conversion Line เคลื่อนไหวต่ํากว่า เส้น Base Line ในเดือน กันยายน ทําให้เกิดสัญญาณ ส่วนอีกสัญญาณภาวะตลาดกระทิง ส่งผลเมื่อ Conversion Line เคลื่อนย้ายสูงกว่า Base Line ในเดือนตุลาคม บางครั้งมันยากที่จะตัดสินจุดไหนของ Conversion Line และ Base Line บนพฤติกรรมราคา




ชาร์ทที่ 5 แสดง AT&T (T) กําลังสร้างสัญญาณ ตลาดหมีภายในเทรนด์ขาลง อย่างแรก เทรนด์เป็นขาลงเมื่อ ราคาลดต่ํากว่า Cloud และ Cloud เป็นสีแดง หลังจากที่ Sideway เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม Conversion Line เคลื่อนสูงกว่า Base Line ทําให้เกิดจุดเข้า แต่มันก็ไม่ได้เกิดนานมากเนื่องจาก Conversion Line เคลื่อนไหว ย้อนกลับลงมาต่ําาวก่า Base Line ทําให้เกิดสัญญาณตลาดหมีในเดือนกันยายน วันที่ 15



สัญญาณ Price-Base Line Signals

กราฟที่ 6 แสดงหุ้น Disney สร้างสัญญาณตลาดกระทิงสองจุด ในขาขึ้น เมื่อราคาซื้อขายสูงกว่า Cloud และ มันเป็นสีเขียว ราคาเคลื่อนไหวต่ํากว่า the Base Line (red) ทําให้เกิด Set up ซึ่งการเคลื่อนไหวนี้แสดงการ เคลื่อนไหวสัญญาณ oversold ระยสั้นภายในเทรนด์ขาขึ้นขนาดใหญ่ เมื่อมันย้อนกลับขึ้นไปอีกครั้งทําให้ราคา เคลื่อนไหวสูงกว่า Base Line ทําให้เกิดสัญญาณซื้อ



กราฟที่ 7 แสดงหุ้น DR Horton (DHI) ทําให้เกิดสัญญาณหมีสองครั้งภายในเทรนด์ขาลง ด้วยหุ้นเทรดต่ํากว่า กลุ่มเมฆสีแดง ราคาเคลื่อนไหวกลับสูงกว่าเส้น Base Line (สีแดง) ทําให้เกิดสัญญาณขึ้น ซึ่งจุดนี้สร้าง Overbought ในระยะสั้นในเทรนด์ขาลงเทรนด์ใหญ่ การแกว่งตัวจบเมื่อราคาย้อนกลับต่ํากว่า Base Line ทําให้ เกิดสัญญาณตลาดหมี



สรุปการดูสัญญาณ

บทความนี้แสดงสัญญาณตลาดกระทิง 4 แบบและตลาดหมี 4 แบบมาจาก e Ichimoku Cloud และสัญญาณ การเทรดตามเทรนด์โดยใช้ Turning และ Base Lines โดยทั่วไป การเคลื่อนไหวสูงกว่าหรือต่ํากว่ารูปแบบ Cloud เทรนด์ภาพรวมภายในเทรนด์ Cloud มีการเปลี่ยนแปลงสีเนื่องจกาเทรนด์กําาหนดการเคลื่อนไหว เมื่อมี การวิเคราะห์เทรนด์เกิดขึ้น Conversion Line และ Base Line ทําหน้าที่คล้ายกับ MACD ที่แสดงสัญญาณเท รด สุดท้ายการเคลื่อนไหวของราคาที่สูงกว่าหรือต่ํากว่า Base Line จะสามารถใช้เป็นสัญญาณเข้าออกได้

สัญญาณ ตลาด Bullish :

• ราคาเคลื่อนไหวสูงกว่า Cloud (trend)
• Cloud เปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีเขียว (ebb-flow within trend)
• ราคาสูงกว่า Base Line (momentum)
• Conversion Line เคลื่อนที่สูงกว่า Base Line (momentum)

Bearish Signals:

• ราคาเคลื่อนไหวต่ํากว่า Cloud (trend)
• Cloud lauas (ebb-flow within trend)
• ราคาเคลื่อนไหวต่ํากว่า Base Line (momentum)
• Conversion Line เคลื่อนไหวต่ํากว่า  Base Line (momentum)

สรุป

Ichimoku Cloud เป็นเครื่องมือที่สามารถเข้าใจได้ ออกแบบมาเพื่อที่จะสร้างสัญญาณซื้อขายที่ชัดเจน นักเทรด สามารถตัดสินเทรนด์โดยใช้ Cloud และเทรนด์เกิดขึ้นก็สามารถหาสัญญาณเทรดโดยใช้ Conversion Line และ Base Line ในการเทรดได้ สัญญาณที่ต้องมองหาคือการตัดกันของ Conversion Line ตัดกับ Base Line. ซึ่งสัญญาณมีประสิทธิภาพและสามารถเกิดขึ้นได้ยากในเทรนด์ชัดเจน

สิ่งสําคัญคือ ให้หาสัญญาณในทิศทางเทรนด์ชัดเจน ขณะที่ Cloud ทําหน้าที่เป็นแนวรับสําหรับขาขึ้น เทรด เดอร์ก็ต้องระวังการเกิดขาลงเช่นกัน ในทางกลับกันขาลงก็ควรจะใช้สัญญาณตลาดหมีเมื่อ Could เกิดการแกว่งตัว

Ichimoku Cloud สามารถใช้ร่วมกับ indicator อื่นด้วย เทรดเดอร์สามารรถใช้วิเคราะห์เทรนด์และใช้ Cloud กับ เครื่องมืออื่น ๆ ในการวิเคราะห์จุด Overbought หรือ Oversold ได้เช่นกัน.