ข่าว:

กระทู้ล่าสุด

#91
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / บทวิเคราะห์กราฟทางเทคนิค Forex...
กระทู้ล่าสุด โดย support-2 - กุมภาพันธ์ 29, 2024, 01:53:16 ก่อนเที่ยง
US30
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง โครงสร้างของราคามีสวิงไฮและสวิงโลวล่าสุดสูงขึ้นเมื่อเทียบกับสวิงก่อนหน้า อีกทั้งราคายังเคลื่อนที่อยู่เหนือ Support Trendline จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่าแนวโน้มในกรอบเวลานี้อยู่ในขาขึ้น
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคาย่อตัวกลับลงมาที่ Support สัมพันธ์กับ Fibonacci Retracement Zone เป็นตำแหน่งที่เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวขึ้นต่อตามแนวโน้มเดิมจากบริเวณนี้ มองหาสัญญาณกลับตัวขึ้นเพื่อเข้า Buy โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ

CADCHF
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง โครงสร้างของราคามีสวิงไฮและสวิงโลวล่าสุดสูงขึ้นเมื่อเทียบกับสวิงก่อนหน้า อีกทั้งราคายังเคลื่อนที่อยู่เหนือ Support Trendline จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่าแนวโน้มในกรอบเวลานี้อยู่ในขาขึ้น
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคาย่อตัวกลับลงมาที่ Support สัมพันธ์กับ Fibonacci Retracement Zone เป็นตำแหน่งที่เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวขึ้นต่อตามแนวโน้มเดิมจากบริเวณนี้ มองหาสัญญาณกลับตัวขึ้นเพื่อเข้า Buy โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ

NZDCAD
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง ราคาสร้างรูปแบบที่บ่งบอกถึงโอกาสที่จะกลับตัวขึ้นอย่าง Inverted Head and Shoulder จากนั้นราคาได้ทะลุขึ้นมาปิดอยู่เหนือเส้น Neckline เป็นสัญญาณยืนยันว่ารูปแบบกลับตัวที่เกิดขึ้นสมบูรณ์ จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวขึ้นตาม Chart Pattern ที่เกิด
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคาย่อตัวกลับลงมาที่ Fibonacci Retracement Zone เป็นตำแหน่งที่เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวขึ้นจากบริเวณนี้ มองหาจังหวะเข้า Buy โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ
#92
การวิเคราะห์ทางเทคนิค / กราฟแท่งเทียน กับรูปแบบที่นิย...
กระทู้ล่าสุด โดย support-1 - กุมภาพันธ์ 28, 2024, 02:16:10 หลังเที่ยง
แม้ทุกท่านอาจจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า "กราฟแท่งเทียน" เป็นกราฟที่ได้รับความนิยมจากเทรดเดอร์ทั่วโลกสูงสุด มีให้บริการทุกแพลตฟอร์ม แต่อย่างไรก็ดี เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับมัน ทั้งประวัติ ลักษณะ วิธีการอ่านกราฟ และรูปแบบที่นิยมใช้มากที่สุด เพื่อให้ทุกท่านได้รู้จักกับมันมากยิ่งขึ้น

กราฟแท่งเทียน คืออะไร?
กราฟแท่งเทียน (Candlestick) หรือเรียกอีกอย่างว่า Japanese Candlestick Chart เป็นกราฟที่มีลักษณะคล้ายแท่งเทียนรูปแบบหนึ่งที่ใช้ในการบรรยายลักษณะการเคลื่อนไหวของราคาสินค้า ราคาหลักทรัพย์ ราคาอนุพันธ์ รวมถึงค่าเงิน

กราฟแท่งเทียนบอกอะไร?
กราฟแท่งเทียนบอกข้อมูลได้มากกว่าความเปลี่ยนแปลงด้านราคาในแต่ละช่วงเวลา โดยเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์จะสังเกตกราฟแท่งเทียนรูปแบบต่าง ๆ เพื่อใช้วัดแนวโน้มตลาดในอนาคต เช่น

1) ไส้เทียนด้านล่างยาว
อาจหมายถึง แรงซื้อที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ราคาสินทรัพย์ตก นับเป็นสัญญาณที่ดีของการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มสินทรัพย์นั้น

2) ไส้เทียนด้านบนยาว
อาจหมายถึง แรงขายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นการขายเพื่อทำกำไร หรือการเทขายด้วยเหตุผลต่าง ๆ ซึ่งเป็นสัญญาณที่จะมีการขายออกในราคาที่ต่ำ

3) เนื้อเทียนกินพื้นที่เกือบทั้งหมดของแท่งเทียน
อาจหมายถึง ทัศนคติในตลาดมีแนวโน้มไปในทางบวกอย่างมาก (แท่งเทียนสีเขียว) หรือมีแนวโน้มไปทางลบอย่างมาก (แท่งเทียนสีแดง) เป็นต้น

อย่างไรก็ดี ตัวอย่างข้างต้นอาจจะไม่ใช่ความจริงเสมอไป ดังนั้น เทรดเดอร์จึงต้องใช้เครื่องมืออื่น ๆ ประกอบการวิเคราะห์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

You cannot view this attachment.

ประวัติของกราฟแท่งเทียน
กราฟแท่งเทียนนั้น ต้นกำเนิดที่แท้จริงยังคงเป็นปริศนาเล็กน้อย แต่ที่ถูกกล่าวขานที่สุด คือ มันพัฒนาขึ้นมาช่วงศตวรรษที่ 18 โดย Munehisa Honma (บ้างก็ว่า Munehisa Homma) พ่อค้าข้าวชาวญี่ปุ่น เพื่อติดตามราคาตลาดและโมเมนตัมรายวัน หลังจากนั้นถูกเปิดเผยและนำมาใช้อย่างแพร่หลายในโลกตะวันตก ข้อมูลดังกล่าวถูกบันทึกไว้ในหนังสือชื่อ Japanese Candlestick Charting Techniques ของ Steve Nison ทำให้เครื่องมือนี้ถูกใช้มายาวนานจนถึงปัจจุบัน

อย่างไรก็ดี มีข้อมูลบางส่วนที่มาโต้แย้งผู้คิดค้น กล่าวคือ ผู้เขียน Nison จากหนังสือเรื่อง Beyond Candlesticks กล่าวว่า "ดูเหมือนว่า Honma จะไม่ได้ใช้กราฟแท่งเทียน ซึ่งจากการสืบค้น กราฟแท่งเทียนถูกคิดค้นขึ้นช่วงต้นยุคเมจิในญี่ปุ่น (ปลายปี ค.ศ. 1800)"

กระนั้น เราก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า กราฟแท่งเทียนกลายมาเป็นที่นิยมในปัจจุบัน และถูกใช้อย่างแพร่หลายในวงการ Forex รวมถึงสินทรัพย์อื่น ๆ โดยกราฟแท่งเทียนมักจะถูกใช้งานร่วมกับเครื่องมืออื่น ๆ ที่เป็นที่นิยม

ลักษณะของกราฟแท่งเทียน
กราฟแท่งเทียน มีลักษณะเป็นแท่งสี่เหลี่ยมมีไส้ที่ด้านล่างและบนคล้ายเทียน ดังนั้น มันจึงถูกเรียกว่า "กราฟแท่งเทียน" โดยกราฟแท่งเทียนแต่ละแท่งจะแสดงราคาสูง ต่ำ เปิด และปิดของหลักทรัพย์ในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ ตามที่ผู้ใช้ตั้งค่าการใช้งาน

You cannot view this attachment.

สำหรับการอ่านกราฟแท่งเทียนนั้น ผู้ใช้สามารถดูได้จากภาพด้านบน กล่าวคือ

ลักษณะของกราฟแท่งเทียนขาขึ้น
หากเป็น"แท่งเทียนขาขึ้น" ขึ้นสีเขียว องค์ประกอบราคาจะเป็นดังนี้

- ราคาเปิด (Open) เป็นขั้วเส้นด้านบนของเนื้อเทียน

- ราคาปิด (Close) เป็นขั้วเส้นด้านล่างของเนื้อเทียน

- ราคาสูงสุด (High) คือ ปลายไส้เทียนด้านบน

- ราคาต่ำสุด (Low) คือ ปลายไส้เทียนด้านล่าง

 
ลักษณะของกราฟแท่งเทียนขาลง
แต่หากเป็น "แท่งเทียนขาลง" สีแดง องค์ประกอบราคาจะเป็นดังนี้

- ราคาเปิด (Open) เป็นขั้วเส้นด้านล่างของเนื้อเทียน

- ราคาปิด (Close) เป็นขั้วเส้นด้านบนของเนื้อเทียน

- ราคาสูงสุด (High) คือ ปลายไส้เทียนด้านบน

- ราคาต่ำสุด (Low) คือ ปลายไส้เทียนด้านล่าง

 
อย่างไรก็ตาม แท่งเทียนที่ปรากฏอาจจะมีหลายรูปแบบ เนื่องจากพฤติกรรมของราคาที่เปลี่ยนไปตามสภาวะตลาดแต่ละช่วง บางครั้งไส้เทียนก็ยาวมาก ราคาปิดและราคาเปิดอยู่ใกล้เคียงกัน ดังนั้น จึงมีการศึกษากลุ่มแท่งเทียน เพื่อทำนายพฤติกรรมราคาของสินทรัพย์ โดยเรียกว่า "รูปแบบกราฟแท่งเทียน" (Candlestick Pattern) ซึ่งมีรายละเอียดดังจะกล่าวในหมวดต่อไป


รูปแบบกราฟแท่งเทียน
การวิเคราะห์กราฟแท่งเทียน มีทั้งรูปแบบกราฟแบบเดี่ยว ๆ และรูปแบบกราฟแบบกลุ่มแท่งเทียน ซึ่งสามารถนำไปวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาได้ โดยรูปแบบที่แตกต่างกันก็จะนำไปสู่ผลการเทรดที่แตกต่างกัน โดยบทความนี้จะยกตัวอย่างเฉพาะที่มีความสำคัญ จดจำได้ง่าย ทั้งรูปแบบแท่งเทียนเดี่ยว ๆ และกลุ่มแท่งเทียนดังต่อไปนี้

1. รูปแบบ Doji

You cannot view this attachment.

ในภาพเป็นกราฟแท่งเทียนรูปแบบ Doji โดยดูได้จากในวงกลม จะเห็นว่า รูปแบบ Doji คือ รูปแบบที่ราคาปิดและราคาเปิดแทบใกล้เคียงกันมากจนแทบจะเป็นราคาเดียวกัน และมีไส้เทียนทั้งด้านบนและด้านล่างค่อนข้างยาว โดยแท่งเทียนรูปแบบ Doji จะสามารถปรากฏขึ้นได้ทั้งกราฟในขาขึ้นและขาลง หรือปรากฏอยู่หลายแท่งพร้อมกันก็ได้เช่นกัน

การปรากฏแท่งเทียนรูปแบบ Doji จะทำให้เกิดการกลับตัวของราคา ซึ่งในวงกลมสีเทาจะเห็นว่า เมื่อเกิดกราฟรูปแบบ Doji ราคาได้เคลื่อนไหวกลับด้านและเปลี่ยนเทรนด์ สาเหตุก็เพราะว่า ในกรณีของตลาดกระทิง ตลาดซื้อจะเป็นขาขึ้น แต่เมื่อคนซื้อหมดไปและคนขายเริ่มเข้ามาแทนที่ มันก็จะทำให้เกิดการฉุดกระชากของราคา ซึ่งปริมาณการซื้อขายจะถูกแสดงออกมาเป็นไส้เทียน แล้วกลับลงมาปิดที่เราคาเปิด นั่นเพราะว่า คนซื้อพยายามจะซื้อให้มันขึ้นแต่ไม่เป็นผล ทำให้แท่งเทียนรูปแบบ Doji บ่งบอกถึงการกลับตัวของราคา ตามหลักการของอุปสงค์และอุปทานที่มีอยู่ในตลาด

2. รูปแบบ Engulfing
รูปแบบแท่งเทียนแบบ Engulfing ก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่บอกการกลับตัวของราคา โดยมีลักษณะดังต่อไปนี้

You cannot view this attachment.

รูปแบบ Engulfing ประกอบด้วยแท่งเทียนแท่งแรก ซึ่งอาจจะเป็นแท่งเทียนขาขึ้นหรือขาลงก็ได้ และจะมีแท่งเทียนด้านหลังขนาดยาวกว่า ซึ่งอาจจะเป็นแท่งเทียนขาขึ้นหรือขาลงก็ได้เช่นกัน แต่ลักษณะแท่งเทียน 2 แท่งที่อยู่ใกล้กันนั้นต้องเป็นคนละสี

จากตัวอย่างในสี่เหลี่ยมที่ 1 จะเห็นว่า กราฟเกิดแท่งเทียนรูปแบบ Engulfing แบบกลับตัวขาลง โดยแท่งเทียนแรกเป็นสีเขียวและโปร่งมีไส้ด้านบนและด้านล่าง ขณะที่แท่งที่ 2 เป็นแท่งขาลง มีไส้ด้านบนและด้านล่างเช่นเดียวกัน ซึ่งข้อสังเกตหนึ่งที่เห็นได้ชัด คือ แท่งเทียนข้างหลังจะต้องยาวครอบคลุมแท่งเทียนด้านหน้า หรือก็คือ ราคา Low ของแท่งเทียนด้านหลังต่ำกว่าแท่งเทียนด้านหน้า ส่วนราคา High ของแท่งเทียนด้านหลังก็สูงกว่าเช่นกัน นั่นหมายความว่า แท่งเทียนด้านหลังสามารถครอบคลุมการเคลื่อนไหวของแท่งก่อนหน้า ทำให้ Engulfing Pattern เป็นรูปแบบของการกลับตัว

จากรูปจะเห็นว่า การที่แท่งเทียนด้านหน้าสั้น นั่นหมายความว่า ตลาดเทรนด์ที่ผ่านมานั้นหมดแรง และเมื่อราคาเปิด High และเคลื่อนไหวต่อ แต่เจอแรงขายปะทะ ทำให้ราคาหลุดลงมาอย่างรุนแรง ซึ่งการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรง ทำให้ทิศทางของราคาเปลี่ยนอย่างทันทีทันใด ตามมาด้วยเกิดเทรนด์ของภาวะตรงข้ามกับกราฟที่ผ่านมา

3. รูปแบบ Hammer
แท่งเทียนรูปแบบค้อน หรือ Hammer Candle เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของกราฟที่แสดงการกลับตัวของราคา โดยที่ตัวเทียนสั้น ขณะที่ขนาดไส้เทียนยาว เมื่อเทียบกับตัวเทียน ดังรูปต่อไปนี้

You cannot view this attachment.

จากรูปจะเห็นว่า แท่งเทียนรูปแบบค้อนที่ยกตัวอย่างนั้น มีหัวค้อนเป็นสีดำ หรือก็คือ หัวค้อนเป็นขาขึ้นทั้งคู่ หัวค้อนนั้นจะเป็นขาขึ้นหรือขาลงก็ได้ แต่การเจอรูปแบบค้อนนั้น หมายถึง การกลับตัวของราคา ในภาพเป็นการกลับตัวจากขาขึ้นเป็นขาลงเหมือนกัน แต่ว่าทิศทางของไส้เทียนนั้นแตกต่างกันอย่างมาก ซึ่งทิศทางของไส้เทียนที่แตกต่างกัน ย่อมหมายความว่า ถ้าไส้เทียนอยู่ด้านบน โอกาสที่จะกลับตัวจะมีสูงมาก เพราะแสดงว่ามีแรงซื้อขึ้นไป ทำให้ไส้เทียนยาว แต่จู่ ๆ ก็มีแรงขายทำกำไรเข้ามามากเช่นกัน ทำให้เกิดแรงขายและมีไส้เทียนที่ยาวปรากฏขึ้นมา หมายความว่า ฝ่ายขายเป็นผู้ชนะเมื่อแท่งเทียนนั้นหดลงมาเหลือขนาดนิดเดียว

รูปแบบค้อนรูปแบบที่ 2 นั้นจะมีการกลับตัวที่สั้นกว่า เพราะเมื่อเกิดรูปแบบค้อนแล้ว ราคาดีดกลับปิดราคา High ได้ แสดงว่ามีแรงซื้อจำนวนมากเข้ามาสนับสนุน แต่ไม่อาจจะทานแรงขายระยะสั้นได้ ทำให้การเคลื่อนไหวลงก็จะไม่เกิดมากนัก เพราะแท่งเทียนรูปแบบค้อนรูปที่ 2 ที่ปรากฏเป็นรูปแบบที่ทำให้ราคาขึ้น การกลับตัวจึงกลายเป็นการกลับตัวในระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น

4. รูปแบบ Hangman
แท่งเทียนรูปแบบ Hangman หรือคนฆ่าตัวตาย เป็นรูปแบบที่คล้ายคลึงกับ Doji และ Hammer ผสมรวมกัน โดยรูปแบบ Hammer จะไม่มีไส้ด้านบน หรือส่วนปลายของค้อน ขณะที่รูป Doji จะอยู่กึ่งกลาง และไส้ด้านบนกับไส้ด้านล่างมีขนาดใกล้เคียงกัน ซึ่งแตกต่างจากรูปแบบ Hangman เพราะแท่งเทียนแบบ Hangman จะมีไส้ทั้งสองด้าน แต่ด้านใดด้านหนึ่งจะมีไส้ยาวกว่าอีกด้านหนึ่ง ทำให้มีรูปร่างคล้ายคลึงกับเกมส์ Hangman ที่เราเล่นตอนเด็ก

You cannot view this attachment.

การเกิดแท่งเทียนรูปแบบ Hangman ทำให้เกิดการกลับตัวเช่นเดียวกับรูปแบบอื่น ๆ นั่นเพราะแท่งเทียนแบบ Hangman สามารถบอกกลับตัวและการอธิบายที่คล้ายคลึงกับรูปแบบ Doji นั่นเป็นเพราะเมื่อราคากำลังเคลื่อนไหวขึ้นนั้น จู่ ๆ ราคาก็เจอกับแรงขายกระชากลงมา ทำให้เกิดไส้เทียน แต่ก็ยังไม่ลงในทันทีทันใด ซึ่งการที่ไม่ลงทันทีทันใดนี้ มันเกิดผลตามมาในการกลับตัวของเทรนด์ เพราะน้ำหนักของเทรนด์ไม่สามารถไปต่อได้

 

รูปแบบแท่งเทียนทั้ง 4 นี้ นับเป็นรูปแบบการกลับตัวทั้งหมด อย่างไรก็ดี กราฟแท่งเทียนยังมีรูปแบบอื่น ๆ อีกมากมาย บางครั้งอาจจะมีถึงหลักร้อยเลยก็ได้ ดังนั้น หากเทรดเดอร์ที่สนใจก็อาจจะยังไม่ต้องศึกษาทั้งหมด แต่ให้ศึกษาโดยเริ่มจากรูปแบบที่สำคัญ และค่อย ๆ เพิ่มพูนด้วยประสบการณ์ อย่างไรก็ดี กราฟแท่งเทียนไม่ใช่ทั้งหมดของคำตอบ ดังนั้น เทรดเดอร์จำเป็นต้องใช้เครื่องมืออื่น ๆ ในการช่วยวิเคราะห์แนวโน้มต่อไป แต่ขอให้ทุกท่านทราบว่า ประสบการณ์จะทำให้การเทรดของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
#93
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / ต่อ: Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - กุมภาพันธ์ 28, 2024, 09:03:18 ก่อนเที่ยง
Buy : USDJPY
จุดเข้า : ตอนนี้

TP : 151.600
SL : 149.700
#94
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / ต่อ: Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - กุมภาพันธ์ 28, 2024, 06:24:03 ก่อนเที่ยง
บิทคอย BUY 56800-57100
SL 56500
TP 57400/57700/58000
#95
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - กุมภาพันธ์ 28, 2024, 04:32:44 ก่อนเที่ยง
#96
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / บทวิเคราะห์กราฟทางเทคนิค Forex...
กระทู้ล่าสุด โดย support-2 - กุมภาพันธ์ 28, 2024, 02:11:56 ก่อนเที่ยง
AUDCAD
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา Daily โครงสร้างของราคามีสวิงไฮและสวิงโลวล่าสุดต่ำลงเมื่อเทียบกับสวิงก่อนหน้า จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่าแนวโน้มในกรอบเวลานี้อยู่ในขาลง
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคาดีดตัวกลับขึ้นมาที่ Resistance ถัดไปด้านบนมี Fibonacci Retracement Zone เป็นตำแหน่งที่เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวลงต่อตามแนวโน้มเดิมจากบริเวณนี้ มองหาสัญญาณกลับตัวลงเพื่อเข้า Sell โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ

USDCHF
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา Daily โครงสร้างของราคามีสวิงไฮและสวิงโลวล่าสุดสูงขึ้นเมื่อเทียบกับสวิงก่อนหน้า อีกทั้งราคาทะลุขึ้นไปเคลื่อนที่อยู่เหนือ Resistance Trendline จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่าแนวโน้มในกรอบเวลานี้เปลี่ยนจากขาลงมาอยู่ในขาขึ้น
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคาย่อตัวกลับลงมาที่ Support แล้วมีแรงซื้อกลับเข้ามา จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวขึ้นจากบริเวณนี้ มองหาจังหวะเข้า Buy โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ

NZDJPY
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา Daily โครงสร้างของราคามีสวิงไฮและสวิงโลวล่าสุดสูงขึ้นเมื่อเทียบกับสวิงก่อนหน้า จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่าแนวโน้มในกรอบเวลานี้อยู่ในขาขึ้น
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคามีทีท่าว่ากำลังจะย่อตัวกลับลงมาโดยที่ด้านล่างของราคามี Support สัมพันธ์กับ Fibonacci Retracement Zone รออยู่ เป็นตำแหน่งที่เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะลงมาทดสอบแล้วกลับตัวขึ้นต่อตามแนวโน้มเดิมจากบริเวณนี้ มองหาสัญญาณกลับตัวขึ้นเพื่อเข้า Buy โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ
#97
การวิเคราะห์ทางเทคนิค / Round Numbers (RN) ตัวเลขกลมๆ ...
กระทู้ล่าสุด โดย support-1 - กุมภาพันธ์ 27, 2024, 05:19:35 หลังเที่ยง
ราคาที่ลงท้ายด้วยตัวเลขกลมๆ 00 หรือ 000 หรือ 50 หรือ 20 สะท้อนอะไรบางอย่างให้เห็นที่ price chart ดูสิ่งที่ราคาบอก สะท้อนว่าเทรดเดอร์คิดอย่างไร จึงมีการบอกว่า Round Number เป็นตัวเลขเชิงจิตวิทยา ที่สะท้อนถึงว่าตัวเลขพวกนี้สัมพันธ์กับวิธีการคิดและตัดสินใจของเทรดเดอร์อย่างไร ทำให้ตัวเลขหลักกลมๆ กลายเป็นตัวเลขที่เทรดเดอร์มักจะโต้ตอบ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งเป็นตัวเลขที่ดึงดูด Liquidity

Round numbers กับการโต้ตอบของเทรดเดอร์

You cannot view this attachment.

Round numbers เป็นตัวเลขที่ลงท้ายด้วย 000 00 ตัวหลักๆ ตัวรองลงมาก็เป็น 50 หรือ 20 ยิ่งตัวเลข 0 มากยิ่งบอกถึงความสำคัญ และที่สำคัญอย่างที่เห็นในชาร์ตที่ยกตัวอย่างมาประกอบ ตัวเลขที่ลงท้ายด้วย 000 หรือ 00 พวกนี้มักจะกลายเป็นหรืออยู่พื้นที่แนวรับหรือแนวต้าน ที่ตรงเลขลงท้ายพวกนี้กลายเป็นพื้นที่แนวรับหรือแนวต้าน เพราะเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่มักจะอ้างถึงอะไรที่จำได้ง่ายๆ เช่น ถ้าซื้อของที่ราคา 97 บาท ก็มักจะบอกว่าราคา 100 บาท  เป็นสิ่งสะท้อนว่ามนุษย์เวลาที่ตัดสินใจเกี่ยวกับตัวเลขมักจะอิงค่าอะไรที่ง่ายๆ ขบวนการการตัดสินใจในการเทรดก็เช่นกัน ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นชัดในราคาจึงมักจะมีการโต้ตอบที่ Round numbers พวกนี้เป็นประจำ เลยทำให้ตัวเลขพวกนี้กลายเป็น Key levels สำคัญในการวิเคราะห์ เลยมักจะเรียกตัวเลขที่พื้นที่ราคาพวกนี้ว่าเป็น Psychological levels  พื้นที่มีตัวเลขพวกนี้เทรดเดอร์ก็จะใช้เพื่อ เปิดเทรด ออกเทรด หรือเป็นพื้นที่ stop levels ประจำเมื่อเกิดขึ้น

Round Numbers ถือว่าเป็นตัวเลขเชิงจิตวิทยา หรือพื้นที่แนวรับ-แนวต้านเชิงจิตวิทยาที่ทำงานและมีการโต้ตอบประจำ เพราะพฤติกรรมของมนุษย์เป็นหลัก เกี่ยวกับตัวเลขว่าจะอิงอะไรที่ง่ายๆ เป็นหลัก ออเดอร์ต่างๆ ที่เปิดขึ้นเพราะพฤติกรรมที่ทำให้เกิดการเข้าเทรด การออกเทรด หรือกำหนด stop loss เลยทำให้เกิด liquidity มากขึ้น ทำให้เกิดออเดอร์ซึ่งจะมีการเข้าและออกมาก จึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของราคาได้ง่ายและเร็ว เพราะมีความไม่สมดุลย์เกิดได้เร็ว

หา Psychological levels บนชาร์ตอย่างไร

Round numbers เป็นตัวเลขที่ลงท้ายด้วย 000 00 ตัวหลักๆ ตัวรองลงมาก็เป็น 50 หรือ 20 ยิ่งตัวเลข 0 มากยิ่งบอกถึงความสำคัญ และที่สำคัญอย่างที่เห็นในชาร์ตที่ยกตัวอย่างมาประกอบ ตัวเลขที่ลงท้ายด้วย 000 หรือ 00 พวกนี้มักจะกลายเป็นหรืออยู่พื้นที่แนวรับหรือแนวต้าน ที่ตรงเลขลงท้ายพวกนี้กลายเป็นพื้นที่แนวรับหรือแนวต้าน เพราะเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่มักจะอ้างถึงอะไรที่จำได้ง่ายๆ เช่น ถ้าซื้อของที่ราคา 97 บาท ก็มักจะบอกว่าราคา 100 บาท  เป็นสิ่งสะท้อนว่ามนุษย์เวลาที่ตัดสินใจเกี่ยวกับตัวเลขมักจะอิงค่าอะไรที่ง่ายๆ ขบวนการการตัดสินใจในการเทรดก็เช่นกัน ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นชัดในราคาจึงมักจะมีการโต้ตอบที่ Round numbers พวกนี้เป็นประจำ เลยทำให้ตัวเลขพวกนี้กลายเป็น Key levels สำคัญในการวิเคราะห์ เลยมักจะเรียกตัวเลขที่พื้นที่ราคาพวกนี้ว่าเป็น Psychological levels  พื้นที่มีตัวเลขพวกนี้เทรดเดอร์ก็จะใช้เพื่อ เปิดเทรด ออกเทรด หรือเป็นพื้นที่ stop levels ประจำเมื่อเกิดขึ้น

Round Numbers ถือว่าเป็นตัวเลขเชิงจิตวิทยา หรือพื้นที่แนวรับ-แนวต้านเชิงจิตวิทยาที่ทำงานและมีการโต้ตอบประจำ เพราะพฤติกรรมของมนุษย์เป็นหลัก เกี่ยวกับตัวเลขว่าจะอิงอะไรที่ง่ายๆ เป็นหลัก ออเดอร์ต่างๆ ที่เปิดขึ้นเพราะพฤติกรรมที่ทำให้เกิดการเข้าเทรด การออกเทรด หรือกำหนด stop loss เลยทำให้เกิด liquidity มากขึ้น ทำให้เกิดออเดอร์ซึ่งจะมีการเข้าและออกมาก จึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของราคาได้ง่ายและเร็ว เพราะมีความไม่สมดุลย์เกิดได้เร็ว

หา Psychological levels บนชาร์ตอย่างไร

You cannot view this attachment.

แม้ว่าตัวเลขที่ลงท้ายด้วย 000 หรือ 00 มักจะเป็นตัวเลขที่เกิดแนวรับ-แนวต้าน แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกตัวเลขพื้นที่จะทำหน้าที่เป็นแนวรับ-แนวต้าน ต้องมีการเลือกด้วยการดูว่าราคามีการโต้ตอบตัวเลข RN ไหนเป็นพิเศษที่ผ่านมา เพราะการทำให้เกิด liquidity ที่พื้นที่นั้นๆ ไม่ได้มาจากการเข้าเทรดอย่างเดียว แต่มาจากการออกเทรดด้วย วิธีการง่ายสุดให้ดูราคาโต้ตอบเป็นหลักแล้วก็โฟกัสที่ Round Number นั้นๆ ว่าราคาเปิดเผยอย่างไร ดูการโต้ตอบเรื่องของ rejection หรือ break หรือเป็นพวกวิ่งอยู่ในกรอบแคบๆ หรือเรียกกว่า Builldup ประกอบ เช่นที่ 1.1000 เริ่มมองที่เลข 1 เราไม่แน่ใจว่าตอนลงมาก่อนที่จะถึงเราไม่แน่ใจว่า RN ตัวนี้จะเป็นกลายเป็นพื้นที่แนวรับหรือเปล่า อย่างแรกดู price structrure และการพัฒนาการของราคาที่เกิดขึ้นประกอบ และมองย้อนกลับไปที่บอว่า RN มักจะกลายเป็นพื้นที่ Phsychological level เพราะเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่จะจำและจัดการอะไรที่ตัวเลขจำง่ายๆ ทั้งที่การมาครั้งแรก ไม่มีอะไรที่บอกว่าน่าจะเป็นแนวรับ แต่พอราคามาถึง ราคาเริ่มหยุดและ consolidation ได้เพราะอะไร หลักการอออเดอร์บอกว่าเพราะขาดความไม่สมดุลย์ระหว่างออเดอร์เพราะ sell ไม่ได้เกิน Buy นั่นเอง ดูที่การกลับมาที่เลข 2 เห็นได้ชัดเพราะครั้งแรกได้เคยเกิด rejection ให้เห็น ธรรมชาติของคนก็จะมองย้อนอดีต เรื่องเดิมๆ น่าจะเกิดขึ้น พอราคามาถึงจะเห็นว่าทำแบบเดิมๆ มีการเปิด Buy เข้าไปเลยทำให้ราคาหยุด เกิดการ match-and-fill ออเดอร์ทั้งสองข้าง รายย่อยรู้ ขาใหญ่รู้ และเรื่องสำคัญในการเทรดอีกอย่าง ต้องเข้าใจเรื่องของ liquidity ด้วย การเทรดต้องการออเดอร์ตรงข้ามเสมอ เนื่องจาก RN เป็นร่องรอยที่มีการโต้ตอบ  เลยมักจะทำให้เกิด liquidity มากตรงพื้นๆ นั้นด้วย หลักการแบบเดียวกับการเทรดแนวรับ-แนวต้าน เพราะ RN มักจะกลายมาเป็นพื้นที่แนวรับ-แนวต้าน เลยมักจะเห็นเรื่องของ stop hunt หรือ false breakout เกิดขึ้นประจำ อย่างที่เกิดก่อนที่ตรงเลข 3 จะเกิดขึ้น
การหา RN ที่กลายมาเป็น Phsychological level หรือกลายมาเป็นแนวรับแนวต้าน ให้ดูราคาเปิดเผยบอกว่าตรงที่ราคาไหน และการดูให้ดูเป็นพื้นที่ราคา หรือมองเป็นกองออเดอร์ที่อยู่รอบๆ RN ดูอย่างการโต้ตอบที่เปิดเผยที่ 1.11000

Round Numbers ที่กลายมาเป็นพื้นที่แนวรับ-แนวต้าน แยกให้ออกว่าเป็น Major หรือ Minor

You cannot view this attachment.

อย่างที่กล่าวมาการที่บอกว่า RN ไหนสำคัญหรือเป็นแหล่งดึงดูด liquidity ให้ดูราคาโต้ตอบบอก เพราะไม่ได้โต้ตอบทุก RN และการโต้ตอบแต่ละ RN ที่ถือว่าเป็น Phsychological level ต่างกันออกไปไม่ได้เท่ากัน ต้องให้ความสำคัญแยกระดับการโต้ตอบและการมองต่าง timeframe ประกอบว่า RN ไหนกลายมาเป็นพื้นที่แนวรับ-แนวต้านหลัก อันไหนเป็นพื้นที่แนวรับ-แนวต้านรอง เมื่อท่านมองชาร์ตท่านต้องดูว่าราคาโต้ตอบ RN อย่างไร เปิดเผยกลายมาเป็นแนวรับหรือแนวต้านได้หรือเปล่า และมอง timeframe ย่อยลงไป ดูการเคลื่อนไหวของราคาไปที่ RN  นั้นๆ ว่าเป็นอย่างไรจาก price structure แล้วดูราคาปิด ถ้าเบรคเป็นการเบรคอย่างไร ถ้าเด้งออกหรือ rejection เป็นอย่างไร ก็จะช่วยให้ท่านเทรดตาม price structure ที่เกิดขึ้นและใช้ประโยชน์จาก liquidity จาก RN level พวกนี้ได้อย่างถูกต้องเพิ่มความเป็นไปได้ในการเทรด เช่นอย่างภาพประกอบ มองภาพใหญ่จาก D1 และใช้ Round Numbers ประกอบเพื่อดูว่าพื้นที่ตรงไหนที่เป็นแนวรับ-แนวต้าน เช่นที่ราคา 1.10000 ดูปริบทหรือ price structure ประกอบ จะเห็นว่าราคาได้เด้งจาก RN 1.09000 ด้านล่างขึ้นไป พอไปดูราคาโต้ตอบดูที่ H1 ประกอบว่าโต้ตอบอย่างไร พอราคาเบรคและปิดบนได้เลยเปิดโอกาสให้เปิดเทรด Buy แบบง่ายๆ ได้

การหา trade setup ด้วย RN

จากที่อธิบายมา RN ให้ดูว่าเทรดเดอร์อยากโต้ตอบ price level นั้นๆ หรือเปล่า ดูการดูย้อนหลัง และดู price structure ที่เกิดขึ้น เทรดเดอร์มักจะใช้ RN กับ technical analysis อื่นๆ เช่นเรื่องของ S/R หรือ Supply/demand เป็นเรื่องของ Confluence กับ technical analysis แบบอื่นๆ การเทรดก็เหมือนกับการเทรดแบบนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นการกำหนด stop loss หรือ take profit
จะเห็นว่าการใช้ RN ประกอบชาร์ต อย่างแรกที่เห็นได้ชัดเจนคือช่วยให้เทรดเดอร์สแกน หรือหาพื้นที่สำหรับกำหนด trade setup ได้ง่ายด้วยการมองจากชาร์ตเปล่า แค่เข้าใจหลักการตลาดทำงานอย่างไร แต่ต้องแยกระดับให้ออกว่าเป็นแบบ Major หรือ Minor และต้องไม่ลืมว่าเนื่องจากพื้นที่พวกนี้มี liquidity มากเพราะเทรดเดอร์ต่างโต้ตอบทั้งที่อยู่ในตลาดและรอเข้า การล่า Liquidity จากขาใหญ่ก็มักจะเกิดเป็นประจำ
#98
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / ต่อ: Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - กุมภาพันธ์ 27, 2024, 11:15:14 ก่อนเที่ยง
XAUUSD SELL now at 2033.50
SL 2048
TP 2003
#99
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / ต่อ: Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - กุมภาพันธ์ 27, 2024, 11:12:58 ก่อนเที่ยง
บิทคอย BUY 56000-56300
SL 55700
TP 56600/56900/57200
#100
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / บทวิเคราะห์กราฟทางเทคนิค Forex...
กระทู้ล่าสุด โดย support-2 - กุมภาพันธ์ 27, 2024, 01:46:56 ก่อนเที่ยง
SILVER
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา Daily ราคาสร้างรูปแบบที่บ่งบอกถึงโอกาสที่จะกลับตัวลงอย่าง Head and Shoulder จากนั้นราคาได้ร่วงลงมาปิดอยู่ใต้เส้น Neckline เป็นสัญญาณยืนยันว่ารูปแบบกลับตัวที่เกิดขึ้นสมบูรณ์ จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวลงตาม Chart Pattern ที่เกิด มองหาจังหวะเข้า Sell โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ

AUDUSD
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา Daily โครงสร้างของราคามีสวิงไฮและสวิงโลวล่าสุดต่ำลงเมื่อเทียบกับสวิงก่อนหน้า จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่าแนวโน้มในกรอบเวลานี้อยู่ในขาลง
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคาดีดตัวกลับขึ้นมาที่ Supply Zone สัมพันธ์กับ Fibonacci Retracement 78.6% เป็นตำแหน่งที่เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวลงต่อตามแนวโน้มเดิมจากบริเวณนี้ มองหาจังหวะเข้า Sell โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ

NZDUSD
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา Daily โครงสร้างของราคามีสวิงไฮและสวิงโลวล่าสุดสูงขึ้นเมื่อเทียบกับสวิงก่อนหน้า จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่าแนวโน้มในกรอบเวลานี้อยู่ในขาขึ้น
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคาย่อตัวกลับลงมาที่ Support สัมพันธ์กับ Fibonacci Retracement Zone แล้วมีแรงซื้อกลับเข้ามา จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวขึ้นจากบริเวณนี้ มองหาจังหวะเข้า Buy โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ