ข่าว:

กระทู้ล่าสุด

#11
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - พฤษภาคม 08, 2024, 12:13:05 ก่อนเที่ยง
#12
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / ต่อ: Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - พฤษภาคม 07, 2024, 11:11:46 ก่อนเที่ยง
#13
การวิเคราะห์ทางเทคนิค / เทคนิค การเทรด Forex ทำกำไรด้ว...
กระทู้ล่าสุด โดย support-1 - พฤษภาคม 07, 2024, 11:09:34 ก่อนเที่ยง
กลยุทธ์การเทรดอีกอย่างที่ถือว่าเรียนรู้และง่ายต่อการนำไปเทรด เพราะเป็นแค่การอ่านและทำความเข้าใจเรื่องของ วอลลูมที่เพิ่มขึ้นในช่วงตอนเปิดตลาดลอนดอนเป็นหลักคือ London Breakout ด้วยการดูว่าเมื่อเปิดตลาดช่วงลอนดอนมา 1-3 ชั่วโมงแรกเกิดการ Breakout ของช่วงตลาดที่เปิดมาแต่เช้าก่อนหรือเปล่า ถ้าเกิดก็ให้เทรดทางนั้นเป็นหลัก ซึ่งอาจมีผลมาถึงช่วงตลาดอเมริกาเปิดด้วย

เข้าใจช่วงตลาดก่อน

You cannot view this attachment.

ตลาดประกอบด้วย 4 ช่วงหลัก คือ Sydney, Tokyo, London และ New York หรืออาจเรียกช่วงรวมกันระหว่าง Sydne และ Tokyo เป็นช่วง Asia ก็ได้ ก็จะเหลือแค่ 3 ช่วงหลักๆ คือ ช่วงเอเชีย (Sydney + Tokyo) ช่วงยุโรป (London) และช่วงอเมริกา (New York) เมื่อดูชาร์ตที่ประกอบด้วยช่วงตลาด ท่านจะเห็นว่าแต่ละวันส่วนมากช่วงตลาดเอเชียราคาจะ sideway เป็นหลัก ยกเว้นมีข่าวเป็นบางวัน เพราะตลาดการเงินหลักของโลกอยู่ที่ยุโรปและอเมริกา ดังนั้นเมื่อช่วงตลาด London หรือช่วงตลาดยุโรปเปิดขึ้นมา มักจะมี volatility เพิ่มขึ้นทันที ทำให้ volume เริ่มเพิ่มขึ้น ก็เลยเป็นโอกาสที่เทรดเดอร์เห็นความเพิ่มขึ้นของ volatility ที่เริ่มเกิดขึ้น ถ้าเป็น Breakout ช่วงก่อนหรือช่วง Asia มักจะเปิดโอกาสให้เทรดตาม Breakout ทางที่เกิดขึ้นนั้นๆ เป็นการเทรดแบบง่าย ด้วยการดู 1-3 ชั่วโมงแรกของช่วงตลาดลอนดอนว่าได้มี Breakout เกิดขึ้นหรือไม่ ส่วนมากก็จะเทรดคู่พวก GBP เช่น GBPUSD GBPJPY GBPAUD EURGBP เป็นต้น แต่คู่อื่นๆ เช่น EURUSD ก็เทรดได้เช่นกัน

Timeframe ไหนเหมาะสำหรับเทรด London Breakout

รอให้ช่วงตลาด Asia ปิดก่อน เมื่อตลาดลอนดอนเปิด ดูว่า 1-3 ชั่วโมงแรก แค่ดูเรื่องของ price action และเข้าใจเรื่องของ Breakout ว่าราคาเบรคกรอบช่วงแรกของวันหรือช่วงตลาด Asia ไปทางไหน อาจมองได้ว่าช่วง Asia เป็นกรอบแนวรับ-แนวต้านก็ว่าได้ เมื่อราคาเบรคทางไหนก็หาโอกาสเทรดตาม เทรดไปทางนั้นๆ เท่านั้นเอง ส่วนเรื่องของ timeframe ที่ใช้ในการกำหนด Breakout แนะนำให้ใช้ H1 เป็นหลัก เพราะถ้าเป็น H4 หรือ D1 ก็จะใหญ่เกินสำหรับการหารายละเอียด แต่ก็ควรจะใช้เพื่อกำหนดกรอบเทรนระยะยาวด้วย  แต่ถ้าเป็น M15 หรือ M30 ข้อมูลอาจน้อยไปสำหรับการกำหนดเทรน เลยแนะนำให้ใช้ชาร์ต H1 เป็นหลัก แต่ท่านอาจใช้ multi-timeframe analysis ประกอบเพื่อมองภาพรวมและจุดที่เข้าได้อย่างชัดเจน

เทรด London Breakout อย่างไร

You cannot view this attachment.


วิธีการหลักสำหรับเทรด London Breakout คือการเทรด Breakout นั่นเอง ใช้ช่วงเวลาตลาดเข้ามาเป็นตัวกำหนดว่าเกิด Breakout ทางไหนในช่วง 1-3 ชั่วโมงแรกหรือไม่ เมื่อตลาดลอนดอนเปิดมา ดังนั้นอาจบอกว่า กรอบราคาที่เกิดก่อนช่วง Asia เป็นกรอบแนวรับ-แนวต้านไปในตัวก็ว่าได้ ดังนั้นการเปิดเทรดเมื่อเห็นราคาเบรคกรอบแนวรับ-แนวต้านหลักๆ ที่กลยุทธ์นี้เป็นที่สนใจเพราะเรื่องของ volatility ที่เกิดขึ้นเมื่อตลาดยุโรปเปิดขึ้นมา โดยการเทรดสามารถใช้ได้กับหลายคู่เงินไม่ใช่แค่ GBP เท่านั้น อาจเป็น EURUSD หรือ USDJPY ได้ด้วย โดยให้เปิดชาร์ต H1 ขึ้นมาเป็นหลัก เพราะโอกาสเทรดสำหรับเทรดเดอร์ คือ 1-3 ชั่วโมงแรก ก็จะดูได้ง่ายและเห็นเทรนชัดเจนพอ  เช่นตัวอย่างภาพด้านบนเป็นคู่เงิน EURUSD เมื่อเราเปิดด้วยชาร์ต H1 ก็จะเห็นชัดว่า 1-3 ชั่วโมงแรกที่ต้องการโฟกัส และอาจมีการวิเคราะห์ต่าง timeframe ประกอบเพื่อภาพรวม เมื่อราคาเบรคไปทางไหน อย่างในภาพเป็นการเบรคลงมา จากนั้นเมื่อมอง price action ท่านจะเห็นว่าจะทำเทรนไปทางนั้นทั้งวัน แม้ช่วงตลาดอเมริกาหรือ New York เปิดมา หลักการในการเปิดเทรดคือเมื่อเห็นราคาเบรคก็เปิดเทรดได้เลย หรือบางทีอาจมีการกลับมาเทสอย่างรวดเร็วก็เปิดโอกาสให้เทรดได้ เนื่องจากการเทรดอิง Breakout ที่คาดว่าจะเกิดแต่ละวัน ดังนั้นกลยุทธ์การเทรดจะเน้นปิด position ที่เปิดภาพวันนั้นๆ เป็นหลัก

การเปิดเทรดก็เหมือนหลักการเทรด Breakout ทั่วๆ ไปคือการใช้ stop orders เช่น ถ้าราคาเบรคขึ้นบนก็เป็น buy stop orders ถ้าราคาเบรคลงล่างก็ใช้ sell stop orders และยังจะได้พวก stop loss orders จากเทรดเดอร์ที่เปิดเทรดช่วงก่อนหรือช่วง Asia มาเป็นตัวเร่งด้วย หรืออาจใช้เรื่องของ trailing stop มาช่วยก็ได้ แต่ต้องมีการกำหนด pips ขั้นต่ำ แต่ต้องระวังเพราะอาจโดนล่า stop ก่อนก็ได้ เพราะเรื่องของ volatility ที่เกิดขึ้นก่อนที่ราคาจะไปทาง Breakout จริงๆ ส่วนเรื่องของการปิดหรือทำกำไร หลักการเบื้องต้นคือปิดเมื่อช่วงตลาด London ปิด แต่ถ้าท่านเข้าใจหลักการ การส่งต่อออเดอร์ และเทรดเดอร์ที่ถือ positions อยู่ในตลาด แนะนำให้ใช้ price level ที่เคยเกิดเป็นตัวกำหนดแทน

การส่งต่อออเดอร์ของแต่ละวัน

You cannot view this attachment.

การที่จะเทรดเรื่องของ London breakout ได้ดี ท่านต้องเข้าใจความต่อเนื่องของออเดอร์ที่ส่งต่อกันระหว่างวัน เพราะว่าในการเปิดเทรดนั้น ขาใหญ่ไม่ได้เปิดเทรดทางเดียวแล้วดันราคาไปต่อเลยจนจบ มีการปิดกำไรเพื่อสะสม หรือมีการปั่นราคาเพื่อหาโอกาสเข้าเทรดอีกรอบ นี่เป็นเรื่องที่พวกเขาชำนาญ เราต้องดู price structure ที่เกิดขึ้นแต่ละวัน โดยเฉพาะที่เกิดช่วง London และ New York เป็นช่วงตลาดการเงินหลักของโลก ดูว่าช่วง Asia โต้ตอบกับ price level ที่เกิด 2 ช่วงนั้นในวันก่อนอย่างไรต่อเนื่องกัน ก็จะมองออกง่ายว่าท่านจะเทรด London Breakout ทางไหนดี ด้วยการมองย้อนกลับมา เช่นการมอง ให้มองวันที่ 3 ก่อน ดูการ rejection ที่เกิดระหว่างช่วง London และ New York โดยเฉพาะที่ 2 ช่วงยังเปิดอยู่ สัมพันธ์กับวันที่ 2 อย่างไร วันที่ 2 สัมพันธ์กับวันที่ 1 อย่างไร จะเห็นว่าช่วง Asia ของวันที่กำหนดเทรด London Breakout เป็นแค่ช่วงพักหรือ sideway แต่ยังอยู่ในอิทธพลของวันที่ 3 อย่างชัดเจน และวันที่ 3 ที่ราคาลงมาเทส support ของวันที่ 2 ราคาก็ไม่สามารถเอาชนะ swap level หรือ resistance ที่เปิดเผยวันที่ 2 และมีการเทสอีกรอบวันที่ 3 ได้ เมื่ออ่านความต่อเนื่องพวกนี้เป็น แล้วมี London Breakout เกิดขึ้นสัมพันธ์กัน ท่านจะกล้าปล่อยกำไรให้ยาวด้วยความมั่นใจได้ เพราะความเป็นไปได้สูงอยู่ข้างที่ท่านเปิดเทรด
#14
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / ต่อ: Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - พฤษภาคม 07, 2024, 09:15:34 ก่อนเที่ยง
Sell : XAUUSD
จุดเข้า : ตอนนี้

TP : 2306

SL : 2327
#15
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - พฤษภาคม 07, 2024, 08:53:42 ก่อนเที่ยง
Buy XAUUSD 2318
Limit 2312-2313
Tp 2321
Tp 2324
Tp 2328
Tp 2332
Tp 2338
Tp 2344
Tp 2352
Sl 2310
#16
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / บทวิเคราะห์กราฟทางเทคนิค Forex...
กระทู้ล่าสุด โดย support-2 - พฤษภาคม 07, 2024, 01:52:00 ก่อนเที่ยง
EURJPY
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา Daily โครงสร้างของราคามีสวิงไฮและสวิงโลวล่าสุดสูงขึ้นเมื่อเทียบกับสวิงก่อนหน้า จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่าแนวโน้มในกรอบเวลานี้อยู่ในขาขึ้น
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคาย่อตัวกลับลงมาที่ Fibonacci Retracement 78.6% สัมพันธ์กับ Support เป็นตำแหน่งที่เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวขึ้นต่อตามแนวโน้มเดิมจากบริเวณนี้ มองหาสัญญาณกลับตัวขึ้นเพื่อเข้า Buy โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ

USDJPY
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา Daily โครงสร้างของราคามีสวิงไฮและสวิงโลวล่าสุดสูงขึ้นเมื่อเทียบกับสวิงก่อนหน้า จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่าแนวโน้มในกรอบเวลานี้อยู่ในขาขึ้น
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคาย่อตัวกลับลงมาที่ Fibonacci Retracement 61.8% สัมพันธ์กับ Support เป็นตำแหน่งที่เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวขึ้นต่อตามแนวโน้มเดิมจากบริเวณนี้ มองหาสัญญาณกลับตัวขึ้นเพื่อเข้า Buy โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ

NZDUSD
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา Daily โครงสร้างของราคามีสวิงไฮและสวิงโลวล่าสุดต่ำลงเมื่อเทียบกับสวิงก่อนหน้า จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่าแนวโน้มในกรอบเวลานี้อยู่ในขาลง
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคาดีดตัวกลับขึ้นมาที่ Fibonacci Retracement 50% สัมพันธ์กับ Resistance เป็นตำแหน่งที่เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวลงต่อตามแนวโน้มเดิมจากบริเวณนี้ มองหาสัญญาณกลับตัวลงเพื่อเข้า Sell โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ
#17
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - พฤษภาคม 06, 2024, 01:40:14 หลังเที่ยง
gold
Sell 2320
2326-28
หลุดเทรน sell 2350-2353
Buy 2293
2283
2272-2275
 ;D  ;D  ;D
#18
วิเคราะห์กราฟ Crypto ประจำวัน / ต่อ: Crypto post
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - พฤษภาคม 06, 2024, 01:38:26 หลังเที่ยง
Sell : ETHUSD
จุดเข้า : ตอนนี้

TP : 2988

SL : 3190
#19
วิเคราะห์กราฟ Crypto ประจำวัน / Crypto post
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - พฤษภาคม 06, 2024, 01:38:00 หลังเที่ยง
Sell : BTCUSD
จุดเข้า : ตอนนี้

TP : 62000

SL : 64400
#20
การวิเคราะห์ทางเทคนิค / การใช้ Indicator ต่าง ๆ : Will...
กระทู้ล่าสุด โดย support-1 - พฤษภาคม 06, 2024, 10:01:08 ก่อนเที่ยง
นี่เป็น Indicator ตัวสุดท้ายของบทความการใช้ Indicator ในหมวด Oscillator โดย Indicator ตัวสุดท้ายนี้ชื่อ William % R ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อของ William Percent Range ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้วัดการแกว่งตัวของราคาประเภทหนึ่ง การแกว่งตัวของราคาประเภทนี้แกว่งอยู่ในกรอบ 100 % โดยเป็นการวัดกรอบ Overbought และ Oversold ของตลาด สัญญาณ Overbought จะเกิดขึ้นบริเวณแถบบน และสัญญาณ Oversold จะเกิดขึ้นบริเวณแถบด้านล่าง

การตั้งค่าสัยญาณ Overbought และ Oversold สำหรับค่ามาตรฐานที่ติดมากับตัวโปรแกรมนั้น เท่ากับ ระดับ 30 สำหรับสัญญาณ Oversold และสำหรับสัญญาณ Overbought เท่ากับ 70 อย่างไรก็ตามนี่ไม่ได้เป็นค่าที่ได้รับความนิยม เราจะพูดถึงการตั้งค่าที่เหมาะสมกันต่อไป โดยในบทความนี้จะมีเนื้อหาอยู่ 3 ส่วน คือ การคำนวณ William % R การใช้งาน William % R และ ข้อดีข้อเสียของมัน

การคำนวณ William Percent R

จากที่ได้กล่าวไปแล้วในตอนต้นว่า William % R นั้นเป็นการบอกกรอบของการแกว่งของราคา มันจึงเป็นการวัดการแกว่งของราคาของช่วงเวลาที่กำหนด จากค่ามาตรฐาน โดยสูตรของการคำนวณ William % R มีดังนี้

You cannot view this attachment.

จากสูตรข้างต้น แสดงตัวแปรที่อยู่ในการคำนวณ ได้แก่

Highest High = ราคาสูงสุดของจำนวนแท่งที่เราใช้ในการคำนวณ ถ้าเป็นค่าเริ่มต้นจะเท่ากับ 14 วัน หรือ 2 อาทิตย์

Close = ราคาปิดของแท่งปัจจุบัน

Lowest Low = ราคาต่ำสุดของจำนวนแท่งที่ใช้ในการคำนวณ ถ้าเป็นค่าเริ่มต้นจะเท่ากับ 14 วัน หรือ 2 อาทิตย์เช่นกัน

การคำนวณ Williams % R

1. บันทึกราคาสูงสุดและต่ำสุดของระยะเวลา 14 แท่ง

2. ในจำนวน 14 แท่งบันทึกราคาปัจจุบัน ราคาสูงสุด และ ราคาต่ำสุด ซึ่งเมื่อได้แล้วก็จะสามารถคำนวณ William % R ได้แล้ว

3. ในแท่งที่ 15 ให้บันทึกราคาปัจจุบัน ราคาสูงสุดและราคาต่ำสุด แต่ว่าเก็บข้อมูลแค่ 14 แท่งนับจากปัจจุบัน เช่นกันซึ่งจะได้ค่า William % R ค่าใหม่ที่เกิดขึ้น

4. แต่ละแท่งที่จบให้ทำการคำนวณค่า William % R ใหม่ทุกครั้ง ซึ่งผลของการคำนวณจะได้เรียงกันต่อเป็นเส้น

ปัจจุบัน การคำนวณแบบนั้นไม่จำเป็นต้องทำโดยตัวเราเองแล้วเพราะว่ามีโปรแกรมคอมพิวเตอร์สามารถทำงานให้เราได้อัติโนมัติ ซึ่ง ตัวอย่างของ กราฟ William % R แสดงในรูปที่ 2 ดังต่อไปนี้

You cannot view this attachment.

จากรูปข้างต้น แสดงให้เห็นว่า William % R นั้นมีลักษณะเป็นเส้นของการแกว่งของราคา ซึ่งเป็น Indicator ที่มีความคล้ายคลึงกับ Relative Strength Indicator หรือ RSI มาก เพราะว่ามีเส้นเดียวเช่นกัน แต่ Indicator William % นั้นจะมีความผันผวนสูงกว่ามาก เพราะว่า RSI จะไม่มีการแกว่งตัวบอกระยะของกรอบที่ชัดเจนของราคา

การใช้งาน William % R

Indicator William % R แตกต่างจาก Indicator ประเภทอื่น ๆ คือ มันสามารถใช้งานได้แค่กรอบของการแกว่งตัวเท่านั้น คือมันใช้วัดจุดเข้าออกแต่ไม่สามารถวัดเทรนด์ได้ว่าเป็นเทรนด์ขาลงหรือขาขึ้น ทำให้เราอาจจะต้องใช้กรอบของราคาตัวอื่นเป็นตัววัดเทรนด์และ ใช้มันบอกจุดเข้า เพื่อบอกความถูกแพงของราคา โดยมีหลักการใช้ดังนี้

ถ้าหาก ราคาหสินทรัพย์อยู่ต่ำกว่า เส้น Oversold หมายความว่า มีโอกาสที่ราคาจะเกิดการกลับตัว และ เราควรจะส่ง Order Buy ขณะที่ในทางตรงกันข้าม ถ้าสัญญาณ ของ William % R อยู่สูงกว่าสัญญาณ Overbought เราควรจะส่งออเดอร์ Sell แม่จะมีหลักการใช้ง่าย ๆ แค่นี้แต่เราคงไม่อยากเทรดส่วนเทรนด์กันหรอกจริงไหมเพราะว่ามันไม่ได้บอกเทรนด์อย่างไรหล่ะ

เพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์ สิ่งที่เราต้องทำคือ ใช้เทรนด์กำหนดทิศทางมันก่อน เช่น ถ้าหากว่า เราใช้   เส้น Trend Line ว่าเขาขึ้น แทนที่เราจะส่งคำสั่งทั้ง Order Long และ Short เราจะเลือกส่งออเดอร์เพียงฝั่ง Long เท่านั้น ซึ่งจะทำให้เราเทรดไม่สวนเทรนด์ ไม่ต้องเผชิญกับการขนาดทุนติดกันบ่อย ๆ

เช่นเดียวกัน ถ้าหากว่า เทรนด์อยู่ในขาลง เราก็ต้องเทรดเฉพาะการส่ง Sell เท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะทำให้เราต้องเผชิญกับความเสี่ยงของการขาดทุน การส่งคำสั่งของ Indicator William % R นั้น สิ่งที่ต้องทำคือ การรอให้การเคลื่อนไหวพ้นระดับที่เรากำหนดขึ้นมาก่อน ไม่ได้หมายความว่าถ้ามันต่ำกว่า ระดับ Oversold ก็ให้ส่งเลย ถ้าเกิดเทรนด์ไปต่อเราจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากทันที และต้องทำสลับกันในการส่งสัณญาณ Overbought ด้วยเช่นกัน

จุดอ่อนของ William % R

จุดอ่อนของ William % R ก็มีความคล้ายคลึงกับ Indicator ส่วนใหญ่เพราะว่า มันไม่สามารถที่จะบอกผลของการเทรดได้แน่นอน และที่สำคัญมันไม่ได้บอกเทรนด์ให้เราแต่ชี้เฉพาะว่า จุดนั้น ราคาถูกที่สุดในกรอบ 14 วัน ถ้ากรณีที่เราใช้ค่ามาตรฐาน แต่สิ่งสำคัญก็ต้องไม่ลืมว่า การเคลื่อนที่ของกรอบนั้น จะทำให้ราคาที่ถูกที่สุดในอดีต อาจจะเป็นราคาที่แพงที่สุดในปัจจุบัน นั่นเพราะกรอบการคำนวณมันเคลื่อนที่ไปเรื่อย ๆ นั่นเอง