ข่าว:

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - support-1

#461
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลญี่ปุ่นหลายรายออกมาเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นเตรียมแก้ไขกฎหมายปริวรรตเงินตราต่างประเทศเพื่อป้องกันไม่ให้รัสเซียหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรทางการเงินของชาติตะวันตกด้วยสินทรัพย์คริปโทเคอร์เรนซี หลังจากที่รัสเซียรุกรานยูเครน

นายฮิโรคาซุ มัตสึโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวในงานแถลงข่าวว่า รัฐบาลจะยื่นเรื่องแก้ไขพระราชบัญญัติปริวรรตเงินตราต่างประเทศและการค้าต่างประเทศในรัฐสภาสมัยประชุมปัจจุบัน เพื่อเสริมการป้องกันไม่ให้รัสเซียสามารถทำลายการคว่ำบาตรผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล

นอกจากนี้ นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ยังเรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวในการประชุมรัฐสภาวันนี้อีกด้วย โดยนายคิชิดะเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการประสานงานกับพันธมิตรชาติตะวันตกหลังจากเข้าร่วมการประชุมสุดยอด G7 ในเบลเยียมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

นายไซสุเกะ ซากาอิ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจากบริษัทมิซูโฮ รีเสิร์ช แอนด์ เทคโนโลยีส์ กล่าวว่า การแก้ไขกฎหมายดังกล่าวนั้น "น่าจะทำให้รัฐบาลสามารถบังคับใช้กฎหมายกับตลาดแลกเปลี่ยนสินทรัพย์คริปโทฯ ได้ เช่น ธนาคารต่าง ๆ และบังคับให้พวกเขาตรวจสอบโดยละเอียดว่าลูกค้าของตนเป็นเป้าหมายการคว่ำบาตรรัสเซียหรือไม่"

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นใช้มาตรการคว่ำบาตรเพื่ออายัดทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่รัสเซีย, มหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพล, ธนาคาร และสถาบันอื่น ๆ ของรัสเซียมากกว่า 100 ราย หลังเกิดกรณีรัสเซียรุกรานยูเครนโดยอ้างว่าเป็น "ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ" นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังสั่งห้ามการส่งออกสินค้าไฮเทค และเพิกถอนสถานะรัสเซียจากการเป็นชาติที่ได้รับอนุเคราะห์ยิ่ง (Most favoured nation)

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
#462
หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า บัญชี ECN หรือ ECN Trading มาก่อน และคงเคยได้ยินว่ามันดีสำหรับการเทรดฟอเร็กซ์ด้วย แต่ว่า ECN Trading คืออะไร? มีประโยชน์อย่างไรกับเทรดเดอร์ฟอเร็กซ์  เคล็ดลับ ในการเทรด ECN เพื่อให้เทรดเดอร์ทุกคนสามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและสร้างรายได้จากการลงทุนได้มากขึ้น

ECN Trading คืออะไร?

ECN ย่อมาจาก Electronic Communication Network คือ บัญชีที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถส่งคำสั่งซื้อขายเข้าไปในตลาดกลางได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องผ่านโบรกเกอร์ ทำให้เทรดเดอร์สามารถเทรดฟอเร็กซ์ได้สะดวก รวดเร็ว และทำกำไรได้อย่างเต็มที่มากขึ้น

หลักการทำงานของ ECN

การสร้างศูนย์กลางสำหรับการซื้อขาย หรือ ตลาดกลางขึ้นมาโดยใช้เครือข่ายสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์เป็นสื่อกลาง ซึ่งจะอยู่ในรูปแบบโปรโตคอล ตรงจุดนี้จะช่วยให้เทรดเดอร์มีความสะดวกสบายและทำกำไรได้มากขึ้น เพราะปกติแล้ว เทรดเดอร์จะต้องทำการซื้อขายสกุลเงินผ่านโบรกเกอร์ เนื่องจากการซื้อขายฟอเร็กซ์ไม่มีตลาดกลาง ซึ่งอาจทำให้เกิดความล่าช้าในการส่งคำสั่งซื้อขาย หรือในบางครั้งอาจทำให้เทรดเดอร์เสียโอกาสในการทำกำไร หรืออาจเกิดความขัดแย้งระหว่างตัวเทรดเดอร์กับโบรกเกอร์ ทำให้การเทรดแบบ ECN เข้ามาช่วยลดปัญหาเหล่านี้ โดยการให้เทรดเดอร์เข้าถึงการส่งคำสั่งซื้อขายไปยังตลาดกลางได้ด้วยตัวเอง

การเทรดแบบ ECN มีประโยชน์อย่างไรกับเทรดเดอร์ฟอเร็กซ์?

ด้วยความที่ ECN สามารถทำให้เทรดเดอร์ส่งคำสั่งซื้อขายเข้าไปในตลาดกลางได้ด้วยตัวเองได้โดยตรง จึงมีข้อได้เปรียบให้กับเทรดเดอร์ ได้แก่

1. สร้างความสะดวกในการซื้อขายให้กับเทรดเดอร์มากขึ้น

เนื่องจากตลาดฟอเร็กซ์ไม่มีตลาดที่เป็นศูนย์กลางหลัก ทำให้เทรดเดอร์ต้องส่งคำสั่งซื้อขายสกุลเงินผ่านทางโบรกเกอร์ แล้วจึงจะได้ทำการเปิดคำสั่งซื้อขายจริง ตรงจุดนี้อาจทำให้เทรดเดอร์เกิดความไม่สะดวกในหลายๆ อย่าง เช่น เวลาในการดำเนินการที่อาจจะล่าช้า ความคลุมเครือของโบรกเกอร์ ไปจนถึงอาจทำให้เกิดการทุจริตในโบรกเกอร์ด้วย ECN จึงช่วยอำนวยความสะดวกและสร้างความปลอดภัยให้กับเทรดเดอร์มากขึ้น

2. ลดการเกิดอาการรีโควท (Requote)

อาการรีโควท คือ การเปิดตำแหน่งซื้อขายจริงที่ไม่ตรงกับตำแหน่งที่เราส่งไป เนื่องจากความล่าช้าของเวลา กล่าวง่าย ๆ ก็คือ เป็นการคาดเคลื่อนของตำแหน่งราคาที่เราจะทำการซื้อขาย เพราะในตลาดฟอเร็กซ์ราคาจะมีการขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังมีความผันผวนและความเสี่ยงอยู่ทุกวินาที การเกิดอาการรีโควทจึงอาจทำให้เทรดเดอร์ขาดทุนได้ ซึ่ง ECN เข้ามาช่วยลดการเกิดอาการรีโควทด้วยการลดความล่าช้าและให้เทรดเดอร์เข้าซื้อขายเองโดยไม่ต้องเสียเวลาผ่านโบรกเกอร์

3. ช่วยให้เทรดเดอร์มีโอกาสในการทำกำไรมากขึ้น

เมื่อเทรดเดอร์สามารถเข้าซื้อขายสกุลเงินได้เองโดยไม่ต้องผ่านโบรกเกอร์แล้ว เทรดเดอร์ก็จะสามารถทำการเทรดได้อย่างอิสระและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น อีกทั้ง ECN ยังสร้างความสะดวกและรวดเร็วในการซื้อขายสกุลเงินให้กับเทรดเดอร์มากขึ้น จึงทำให้เทรดเดอร์มีโอกาสในการเข้าทำกำไรได้มากขึ้น

4. ลดปัญหาความขัดแย้งระหว่างเทรดเดอร์กับโบรกเกอร์

การที่เทรดเดอร์ต้องทำการซื้อขายผ่านโบรกเกอร์อยู่เป็นประจำอาจทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็น ความล่าช้าในการเปิดคำสั่งซื้อขาย อาการรีโควทที่อาจเกิดขึ้น และการทุจริตในโบรกเกอร์ ซึ่งอาจทำให้เทรดเดอร์เกิดการสูญเสีย ขาดทุน หรืออาจสูญเงินทุนไปได้ ECN จึงสามารถช่วยลดปัญหาเหล่านี้เพื่อลดความขัดแย้งระหว่างเทรดเดอร์กับโบรกเกอร์ได้

5. ค่าสเปรดต่ำทำให้เทรดเดอร์ได้กำไรมากขึ้น

เนื่องจากการเทรดแบบ ECN เป็นการเทรดที่ไม่ต้องทำการส่งคำสั่งซื้อขายผ่านโบรกเกอร์ แต่เทรดเดร์สามารถส่งคำสั่งซื้อขายเข้าไปในตลาดได้โดยตรง จึงทำให้เทรดเดอร์ไม่ต้องจ่ายค่าสเปรดในราคาที่สูงมากนัก ซึ่งค่าสเปรดก็เป็นค่าคอมมิชชั่นอย่างหนึ่ง ทำให้เทรดเดอร์สามารถทำกำไรได้มากขึ้นจากค่าสเปรดที่ต่ำนั่นเอง

เคล็ดลับดีๆ ของการเทรดฟอเร็กซ์ด้วยบัญชี ECN กับ Forex Time

บัญชี ECN เป็นระบบที่ซัพพอร์ตเทรดเดอร์ให้สามารถเข้าทำกำไรได้อย่างอิสระและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น และจะดีมากยิ่งขึ้นหากมีบัญชี ECN กับโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้ ปลอดภัย และได้รับการจดทะเบียนที่ถูกต้องตามกฎหมายสากลแล้ว ซึ่ง Forex Time เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับการรับรองแล้วจากกฎหมายสากล สามารถตรวจสอบการทำงานของโบรกเกอร์ได้ รวมถึงเทรดเดอร์ยังสามารถตรวจสอบบัญชีการเสนอ บัญชีเงินลงทุน นโยบายการถอน ค่าคอมมิชชั่น และสเปรดของโบรกเกอร์ที่จะเกิดขึ้นจริงได้อีกด้วย จึงทำให้เทรดเดอร์สามารถสร้างกำไรจากเงินทุนที่มีอยู่ได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพมากที่สุด
#463
ราคาทองคำร่วงลง ในเช้าวันจันทร์ในเอเชีย โดยการเจรจาสันติภาพระหว่างยูเครนและรัสเซียเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ส่งผลกระทบต่อทองคำซึ่งเป็นทรัพย์สินหลบภัยโดยตรง ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นและผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นก็ส่งผลต่อทองคำเช่นกัน

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ ลดลง 0.54% สู่ 1,943.6 ดอลลาร์ ค่าเงินดอลลาร์ซึ่งปกติจะเคลื่อนไหวผกผันกับทองคำ แข็งค่าขึ้นในเช้าวันจันทร์

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นในวันศุกร์ โดยพันธบัตรอายุ 10 ปีไต่ขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี เนื่องจากนักลงทุนยังคงให้น้ำหนักกับภาวะเงินเฟ้อสูงและธนาคารกลางสหรัฐที่ดำเนินนโยบายแบบเข้มงวด

ในขณะเดียวกัน ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เซจิ คิฮาระ รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่านโยบายการเงินของประเทศจะต้องไม่ผ่อนคลาย แม้ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น จะไม่เข้ามาก้าวก่ายในวันศุกร์ แต่ก็เสนอให้ซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี (JGB) ไม่จำกัดจำนวนที่ 0.25% ในเช้าวันจันทร์ หลังจากที่ อัตราผลตอบแทน JGB อายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 ปีที่ 0.245%

ยูเครนและรัสเซียจะกลับมาเจรจาสันติภาพภายในหนึ่งสัปดาห์เพื่อแก้ไขความขัดแย้งที่ได้รับการเน้นย้ำจากการรุกรานยูเครนของรัสเซียเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ประธานาธิบดียูเครนโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ยืนยันในบูรณภาพแห่งดินแดนในประเทศของเขา หลังจากที่ได้บอกไปก่อนหน้านี้ว่าเขาพร้อมสำหรับการประนีประนอม

ธนาคารกลางแห่งสหพันธรัฐรัสเซียหรือธนาคารแห่งรัสเซีย จะกลับมาซื้อทองคำจากธนาคารต่าง ๆ และจะจ่ายในราคา 5,000 รูเบิล ($48.94) ต่อกรัม ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม-30 มิถุนายน

การถือครองทองคำของ SPDR Gold Trust (P:GLD) เพิ่มขึ้น 0.5% เป็น 1,093.18 ตันในวันศุกร์ ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2564

ราคาที่สูงขึ้นทำให้พ่อค้าขายเครื่องประดับในอินเดียในช่วงสัปดาห์ก่อน ท่ามกลางอุปสงค์ทองคำที่อ่อนแอ การระบาดของไวรัสโควิด-19 ครั้งล่าสุดในจีนยังกระทบกับการซื้อทองคำในประเทศ โดยเมืองเซี่ยงไฮ้จะเข้าสู่การปิดเมืองในวันจันทร์

สำหรับโลหะมีค่าอื่นๆ เงิน ลดลง 1.2% และ แพลทินัม ลดลง 0.8% ในขณะที่ พัลลาเดียม เพิ่มขึ้น 1.3% เป็น 2,366.12 ดอลลาร์

ที่มา: investing.com
#464
ลูกศรซ้าย = เลื่อนกราฟไปทางซ้าย
ลูกศรขวา = เลื่อนกราฟไปทางขวา
Page Up = เลื่อนกราฟไปทางซ้ายแบบรวดเร็ว
Page Down = เลื่อนกราฟไปทางขวาแบบรวดเร็ว
Home = เลื่อนกราฟกลับไปในอดีตที่โปรแกรมสามารถแสดงให้ดูได้
End = เลื่อนกราฟกลับมาที่ปัจจุบัน
ปุ่มลบ (-) = ซูมกราฟออก
ปุ่มบวก (+) = ซูมกราฟเข้า
Delete = ลบเครื่องมืดที่ขีดไว้ออกจากหน้าจอ
ปุ่ม Backspace = ลบเครื่องมือที่ลากไว้ล่าสุดออกไป
ปุ่ม Enter = เปิดหน้าต่างค้นหากราฟ
ปุ่ม ESC = ปิดหน้าต่างค้นหากราฟ
F1 = เปิดคู่มือการใช้งาน MT4 เบื้องต้น (ภาษาอังกฤษ)
F2 = เปิดดูข้อมูลของกราฟย้อนหลัง
F4 = เปิด "Meta editor" (แก้ไขข้อมูลของโปรแกรมใน drive c)
F8 = เปิดหน้าต่าง "Properties" ขึ้นมา
F9 = เปิดหน้าต่าง New Order (หน้าต่างที่จะใช้ในการทำการซื้อขายหรือเทรด) ขึ้นมา
F10 = เปิดหน้าต่าง Popup Price (จะเป็นตัวเลขเล็ก ๆ วิ่งไปวิ่งมา) ขึ้นมา
F11 = ทำใจกราฟกลายเป็น Full Screen (ขยายเต็มจอ)
F12 = เลื่อนหน้าจอกลับไปทางซ้าย
Shift + F12 = ปุ่มเลื่อนราคาย้อนกลับทีละหนึ่งแท่งเทียน
Shift + F5 = เปลี่ยนกราฟที่เรียงอยู่ส่วนของ profile ของเรา
Alt + 1 = เปลี่ยนรูปแบบของกราฟเป็นรูปแบบของ Bar Chart
Alt + 2 = เปลี่ยนรูปแบบของกราฟเป็นรูปแบบ Candlestick Chart
Alt + 3 = เปลี่ยนรูปแบบของกราฟเป็นรูปแบบ Line Chart (กราฟเส้น)
Alt + W = เรียกหน้าต่างช่วยในการจัดการกราฟปัจจุบันที่ใช้อยู่ออกมา
Alt + F4 = ปุ่มออกจากโปรแกรม
Alt + Backspace = เรียกเอาเครื่องมือที่ลบไปล่าสุดกลับคืน
Ctrl + A = ปรับขนาดของหน้าจออินดิเคเตอร์ให้กลับมาอยู่ในรูปร่างปกติ (ในกรณีที่มีอินดิเคเตอร์ในหน้าจอ)
Ctrl + B = เรียกหน้าต่าง "จัดการเครื่องมือ (Object List)"ขึ้นมา
Ctrl + C = ก๊อบบี้ตัวอักษร หรือ คำใน MT4
Ctrl + D = เรียกหน้าต่าง Data Window ออกมา
Ctrl + E = เรียกใช้ Expert Advisor (EA)
Ctrl + F = เรียกใช้เครื่องมือ "Cross Hair"
Ctrl + G = เรียกใช้หรือไม่ใช้ Grid (ตาราง)
Ctrl + H = เรียกดู OHLC ( Open, High, Low, Close) ของวัน
Ctrl + I = เรียกหน้าต่าง "จัดการอินดิเคเตอร์ (Indicator List)" ขึ้นมา
Ctrl + L = เรียก Volume ของราคาให้ขึ้นมาแสดงผลบนหน้าจอ
Ctrl + M = เรียกหน้าต่าง Market Watch ออกมา
Ctrl + N = เรียกหน้าต่าง Navigator ออกมา
Ctrl + O = เรียกหน้าต่าง Option หรือ Setup ออกมา
Ctrl + P = ปรินส์กราฟออกมา (ในกรณีที่ต้องการปรินส์กราฟออกมาดูข้างนอก)
Ctrl + R = เรียกหน้าต่าง Tester ออกมา
Ctrl + S = เซฟกราฟที่ใช้เทรดเอาไว้ซึ่งจะออกมาในรูปแบบของไฟล์นามสกุล "CSV", "PRN", "HTM";
Ctrl + T = เรียกหน้าต่าง Terminal ออกมา
Ctrl + W หรือ Ctrl + F4 = ปิดหน้าต่างกราฟที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
Ctrl + Y = แสดงหรือซ่อนเส้นแบ่งวัน (Period Separator)
Ctrl + Z = เรียกเอาเครื่องมือที่ลบไปล่าสุดกลับคืน
Ctrl + F5 = เปลี่ยนกราฟที่ได้ตั้งค่าไว้ใน profile ของเรา
Ctrl + F6 = เปลี่ยนนหน้าต่างของกราฟที่เราใช้อยู่ ณ ปัจจุบันเป็นอันถัดไป
#465
ตัวย่อ สกุลเงินต่างประเทศ
AED : UAE DIRHAM   ดีแรห์ม สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
AFN : AFGHANI  อัฟกานิ
ALL : LEK เลค
AMD : ARMENIAN DRAM ดีแรห์ม อาร์เมเนีย
ANG : NETHERLANDS ANTILLIAN GUILDER กิลเดอร์ เนเธอร์แลนด์แอนทิลลิส
AOA : KWANZA ควันซา
ARS : ARGENTINE PESO เปโซ อาร์เจนตินา
AUD : AUSTRALIAN DOLLAR ดอลลาร์ ออสเตรเลีย
AWG : ARUBAN GUILDER กิลเดอร์ อารูบา
AZN : AZERBAIJANIAN MANAT (NEW) มานาท อาเซอร์ไบจาน
BAM : CONVERTIBLE MARKS มาร์ค บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
BBD : BARBADOS DOLLAR ดอลลาร์ บาร์เบโดส
BDT : TAKA ตากา BGN : BULGARIAN LEV เลฟ บัลแกเรีย
BHD : BAHRAINI DINAR ดีนาร์ บาห์เรน
BIF : BURUNDI FRANC ฟรังก์ บุรุนดี
BMD : BERMUDIAN DOLLAR ดอลลาร์ เบอร์มิวดา
BND : BRUNEI DOLLAR ดอลลาร์ บรูไนดารุสซาลาม
BOB : BOLIVIANO โบลีเวียโน
BOV : MVDOL อิมมิอูเบโดล์
BRL : BRAZILIAN REAL เรียล บราซิล
BSD : BAHAMIAN DOLLAR ดอลลาร์ บาฮามาส
BTN : NGULTRUM เองกัลทรัม
BWP : PULA พูลา
BYR : BELARUSSIAN RUBLE รูเบิล เบลารุส
BZD : BELIZE DOLLAR ดอลลาร์ เบลีซ
CAD : CANADIAN DOLLAR ดอลลาร์ แคนาดา
CDF : FRANC CONGOLAIS ฟรังก์ คองโก
CHF : SWISS FRANC ฟรังก์ สวิส
CLF : UNIDADES DE FOMENTO ยูนิแดด ดี โฟเมนโต
CLP : CHILEAN PESO เปโซ ชิลี
CNY : YUAN RENMINBI หยวนเหรินหมินปี้
COP : COLOMBIAN PESO เปโซ โคลอมเบีย
COU : UNIDAD DE VALOR REAL ยูนิแดด ดี วาโล เรียล
CRC : COSTA RICAN COLON โคโลน คอสตาริกา
CUP : CUBAN PESO เปโซ คิวบา
CVE : CAPE VERDE ESCUDO เอสคูโด เคปเวิร์ด
CYP : CYPRUS POUND ปอนด์ ไซปรัส
CZK : CZECH KORUNA คราวน์ เช็ก
DJF : DJIBOUTI FRANC ฟรังก์ จิบูตี
DKK : DANISH KRONE โครน เดนมาร์ก
DOP : DOMINICAN PESO เปโซ สาธารณรัฐโดมินิกัน
DZD : ALGERIAN DINAR ดีนาร์ แอลจีเรีย
EEK : KROON โครน เอสโตเนีย
EGP : EGYPTIAN POUND ปอนด์ อียิปต์
ERN : NAKFA นาคฟา
ETB : ETHIOPIAN BIRR เปอร์ เอธิโอเปีย
EUR : EURO ยูโร
FJD : FIJI DOLLAR ดอลลาร์ ฟิจิ
FKP : FALKLAND ISLANDS POUND ปอนด์ หมู่เกาะฟอล์กแลนด์
GBP : POUND STERLING ปอนด์สเตอลิง
GEL : LARI ลารี
GHC : CEDI เซดี
GIP : GIBRALTAR POUND ปอนด์ ยิบรอลตาร์
GMD : DALASI ดาราซี
GNF : GUINEA FRANC ฟรังก์ กินี
GTQ : QUETZAL เก็ตซาล
GWP : GUINEA-BISSAU PESO เปโซ กินีบิสเซา
GYD : GUYANA DOLLAR ดอลลาร์ กายอานา
HKD : HONG KONG DOLLAR ดอลลาร์ ฮ่องกง
HNL : LEMPIRA เลมพีรา ฮอนดูรัส
HRK : KUNA คูนา
HTG : GOURDE กอร์ด
HUF : FORINT ฟอรินท์
IDR : RUPIAH รูเปีย
ILS : NEW ISRAELI SHEKEL เชคเกิล อิสราเอล
INR : INDIAN RUPEE รูปี อินเดีย
IQD : IRAQI DINAR ดีนาร์ อิรัก
IRR : IRANIAN RIAL เรียล อิหร่าน
ISK : ICELAND KRONA โครนา ไอซ์แลนด์
JMD : JAMAICAN DOLLAR ดอลลาร์ จาเมกา
JOD : JORDANIAN DINAR ดอลลาร์ จอร์แดน
JPY : YEN เยน
KES : KENYAN SHILLING ชิลลิง เคนยา
KGS : SOM ซอม
KHR : RIEL เรียล กัมพูชา
KMF : COMORO FRANC ฟรังก์ คอโมโรส
KPW : NORTH KOREAN WON วอน เกาหลีเหนือ
KRW : WON วอน เกาหลีใต้
KWD : KUWAITI DINAR ดีนาร์ คูเวต
KYD : CAYMAN ISLANDS DOLLAR ดอลลาร์ หมู่เกาะเคย์แมน
KZT : TENGE เทงเก
LAK : KIP กีบ
LBP : LEBANESE POUND ปอนด์ เลบานอน
LKR : SRI LANKA RUPEE รูปี ศรีลังกา
LRD : LIBERIAN DOLLAR ดอลลาร์ ไลบีเรีย
LSL : LOTI โลตี
LTL : LITHUANIAN LITAS ลีทาส ลิทัวเนีย
LVL : LATVIAN LATS ลัตส์ ลัตเวีย
LYD : LIBYAN DINAR ดีนาร์ ลิเบีย
MAD : MOROCCAN DIRHAM ดีแรห์ม โมร็อกโก
MDL : MOLDOVAN LEU ลิว มอลโดวา
MGA : MALAGASY ARIARY อเรียรี่ มาดากัสการ์
MKD : DENAR ดีนาร์ มาซิโดเนีย
MMK : KYAT จัต
MNT : TUGRIK ทูกริค
MOP : PATACA พาทากา
MRO : OUGUIYA อูกุยยา / อูกียา
MTL : MALTESE LIRA ลีร์ มอลตา
MUR : MAURITIUS RUPEE รูปี มอริเชียส
MVR : RUFIYAA รูฟียา
MWK : KWACHA ควาซา มาลาวี
MXN : MEXICAN PESO เปโซ เม็กซิโก
MXV : MEXICAN UNIDAD DE INVERSION (UDI) ยูนิแดด ดี อินเวอร์ชั่น เม็กซิโก
MYR : MALAYSIAN RIGGIT ริงกิต มาเลเซีย
MZN : MOZAMBIQUE METICAL เมททิคัล โมซัมบิก
NAD : NAMIBIA DOLLAR ดอลลาร์ นามิเบีย
NGN : NAIRA ไนรา
NIO : CORDOBA ORO คอร์โดบา
NOK : NORWEGIAN KRONE โครน นอร์เวย์
NPR : NEPALESE RUPEE รูปี เนปาล
NZD : NEW ZEALAND DOLLAR ดอลลาร์ นิวซีแลนด์
OMR : RIAL OMANI เรียล โอมาน
PAB : BALBOA บัลโบอา
PEN : NUEVO SOL ซัล เปรู
PGK : KINA คีนา
PHP : PHILIPPINE PESO เปโซ ฟิลิปปินส์
PKR : PAKISTAN RUPEE รูปี ปากีสถาน
PLN : ZLOTY สล็อตตี
PYG : GUARANI กวารานี
QAR : QATARI RIAL เรียล กาตาร์
RON : NEW ROMANIAN LEU ลิว โรมาเนีย
RSD : SERBIAN DINAR ดีนาร์ เซอร์เบีย
RUB : RUSSIAN RUBLE รูเบิล รัสเซีย
RWF : RWANDA FRANC ฟรังก์ รวันดา
SAR : SAUDI RIYAL ริยัล ซาอุดีอาระเบีย
SBD : SOLOMON ISLANDS DOLLAR ดอลลาร์ หมู่เกาะโซโลมอน
SCR : SEYCHELLES RUPEE รูปี เซเชลส์
SDD : SUDANESE DINAR ดีนาร์ ซูดาน
SEK : SWEDISH KRONA โครนา สวีเดน
SGD : SINGAPORE DOLLAR ดอลลาร์ สิงคโปร์
SHP : ST. HELENA POUND ปอนด์ เซนต์เฮเลนา
SKK : SLOVAK KORUNA คราวน์ สโลวาเกีย
SLL : LEONE ลีโอน
SOS : SOMALI SHILLING ชิลลิง โซมาเลีย
SRD : SURINAM DOLLAR ดอลลาร์ ซูรินาเม
STD : DOBRA โดบรา
SVC : EL SALVADOR COLON โคโลน เอลซัลวาดอร์
SYP : SYRIAN POUND ปอนด์ ซีเรีย
SZL : LILANGENI ลิลอนเกนี
THB : BAHT บาท
TJS : SOMONI โซโมนิ
TMM : MANAT มานาท
TND : TUNISIAN DINAR ดีนาร์ ตูนิเซีย
TOP : PA'ANGA พาอานกา
TRY : TURKISH LIRA (NEW) ลีร์ ตุรกี
TTD : TRINIDAD AND TOBAGO DOLLAR ดอลลาร์ ตรินิแดดและโตเบโก
TWD : NEW TAIWAN DOLLAR ดอลลาร์ ไต้หวัน
TZS : TANZANIAN SHILLING ชิลลิง แทนซาเนีย
UAH : HRYVNIA รีฟเนีย
UGX : UGANDA SHILLING ชิลลิง ยูกันดา
USD : US DOLLAR ดอลลาร์ สหรัฐอเมริกา
USN : US DOLLAR, NEXT DAY FUNDS ดอลลาร์ สหรัฐอเมริกา เน็กซ์เดย์ฟัน
UYI : URUGUAY PESO EN UNDIDADES INDEXADAS อุรุกวัย เปโซ เอ็น อุนดิดาเดซ อินเด็กซาดาซ
UYU : PESO URUGUAYO เปโซ อุรุกวัย
UZS : UZBEKISTAN SUM โซม อุซเบกิสถาน
VEB : BOLIVAR โบลิวาร์
VND : DONG ดอง
VUV : VATU วาตู
WST : TALA ทาลา
XAF : CFA FRANC BEAC ฟรังก์ ซีเอฟเอ บีอีเอซี
XAG : SILVER เงิน
XAU : GOLD ทองคำ
XBA : EUROPEAN COMPOSITE UNIT (EURCO) อียูอาร์ซีโอ
XBB : EUROPEAN MONETARY UNIT (EMU-6) อีเอ็มยู 6
XBC : EUROPEAN UNIT OF ACCOUNT-9 (EUA-9) บัญชี อียู 9
XBD : EUROPEAN UNIT OF ACCOUNT-17 (EUA-17) บัญชี อียู 17
XCD : EAST CARIBBEAN DOLLAR ดอลลาร์ คาริบเบียลตะวันออก
XDR : SDR INT'L MONETARY FUND (I.M.F) สิทธิพิเศษถอนเงิน (กองทุนการเงินระหว่างประเทศ)
XEU : EUROPEAN CURRENCY UNIT (E.C.U.) อี ซี ยู
XFU : UIC-FRANC (SPECIAL SETTLEMENT CURRENCY) ยูไอซี ฟรังก์
XOF : CFA FRANC BCEAO ฟรังก์ ซีเอฟเอ บีซีอีเอโอ
XPD : PALLADIUM พัลเลเดียม
XPF : CFP FRANC ฟรังก์ ซีเอฟพี
XPT : PLATINUM แพลตตินัม
XXX : TRANSACTIONS WITHOUT CURRENCY  ธุรกรรมที่ไม่มีเงินสกุลใดเกี่ยวข้อง
YER : YEMENI RIAL เรียล เยเมน
ZAR : RAND แรนด์
ZMK : KWACHA ควาซา แซมเบีย
ZWD : ZIMBABWE DOLLAR ดอลลาร์ ซิมบับเว
#466
"การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน" เป็นคำเตือนที่น่าจะมีความหมายมากขึ้นเมื่อคิดจะเล่นฟอเร็กซ์ หรือเก็งกำไรจากการแลกเปลี่ยนค่าเงินตราระหว่าง 2 สกุล 2 นักเทรดไซด์ไลน์ที่ล้มลุกคลุกคลานมาเกือบปีจนพบทฤษฎีว่า ลงทุนกับฟอเร็กซ์ก็อาจรวยได้

จากนักเทรดหุ้นรายวันสู่วงการฟอเร็กซ์

นักเทรดไซด์ไลน์ที่ใช้ชื่อว่า FX บอกว่าเดิมเล่นหุ้นแบบเทรดเก็งกำไรรายวันเป็นรายได้เสริม เพื่อนในวงการเดียวกันแนะนำให้รู้จักฟอเร็กซ์จึงลองเล่น Demo ดูก่อน เห็นว่าทำกำไรได้เร็วและเก็งกำไรง่ายกว่าหุ้น เพราะเป็นตลาดใหญ่ระดับโลก การควบคุมราคาหรือปั่นค่าเงินจึงอาจทำไม่ได้ ต่างกับหุ้นที่มีการปั่น อุ้มหรือทุบราคาได้โดยกลุ่มทุนจำนวนหนึ่งเท่านั้น แต่ก็ยอมรับว่ามีความเสี่ยงมากกว่าตรงที่ยังไม่มีกฎหมายไทยรองรับ

"จะว่าเหมือนหวยก็ได้นะ เพราะโบรกเกอร์อยู่ต่างประเทศ มีตัวแทนในไทย ปกติตัวแทนก็จะได้ค่านายหน้าจากการซื้อขาย แต่ถ้าตัวแทนไม่ส่งคำสั่งซื้อขายไปที่โบรกเกอร์ต่างประเทศแล้วรับกินเสียเองก็อาจเป็นไปได้ เพราะได้มากกว่าค่านายหน้า แต่ถ้าเกิดลูกค้ามีกำไรมากๆ ก็หนีไป ไม่จ่ายเงินได้ เงินเราก็สูญ ตรงนี้เราไปฟ้องร้องอะไรไม่ได้ ก็เสี่ยง" FX กล่าว

เกือบ 1 ปีล้มลุกคลุกคลาน ได้ประสบการณ์ ปูทางเพื่ออนาคต

FX เริ่มเล่นฟอเร็กซ์มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่แล้วด้วยเงินทุนเริ่มต้น 7,000 บาท เล่นเพราะต้องการได้เงินมากๆ ในเวลาอันสั้น จนถึงวันนี้ FX บอกว่า ได้มาเสียไปตลอดเวลารวมเป็นเงินหมุนเวียนทั้งได้ทั้งเสียราว 150,000 บาท โดยเห็นแต่ตัวเลขบางครั้งกำไรเป็นหมื่น แต่ก็เสียกลับไปเป็นหมื่นเหมือนกัน ได้ถอนเงินจริงออกมาใช้บ้างนิดหน่อย

FX กล่าวว่า แรกๆ ที่เล่นก็คิดว่าแม้เงินน้อยแต่จะได้กำไรง่ายและเร็ว เมื่อได้กำไรราววันละ 5-10 ดอลลาร์สหรัฐ ก็อยากได้มากขึ้น จึงเพิ่มน้ำหนักการซื้อขายมากขึ้นจน over trade ในที่สุดก็เสีย เมื่อเสียก็อยากเอาคืน ยิ่งทุ่มน้ำหนักการซื้อมากขึ้นไปอีก และตอนแรกที่เล่นนั้นไม่ได้ให้ความสำคัญกับการศึกษาปัจจัยต่างๆ เช่น ความผันแปรของคู่เงินที่เล่น ข่าวทั่วโลกที่มีผลกระทบกับค่าเงินนั้นๆ ก็ยิ่งเสียซ้ำกลับไปอีก

"ตอนนั้นหมกมุ่นมาก ติดจอเลย เสียสมาธิในการทำงานประจำ เสียสายตา เพราะดูกราฟค่าเงินตลอดเวลา เครียดด้วยเวลาติดลบมากๆ หรือถูกกินพอร์ตแตก ตอนนี้ต้องควบคุมความโลภ และมีวินัย คือต้องตั้งค่าความพอใจว่าแค่ไหนพอ ก็ต้องพอ ไม่เล่นต่อ เพราะฟอเร็กซ์นี่เทรดได้ 24 ชั่วโมง จันทร์ถึงศุกร์ ต้องให้เวลากับการศึกษาปัจจัยต่างๆ ของคู่เงินมากขึ้น เวลา 1 ปีที่คิดว่าจะรวยก็ไม่รวยอย่างที่ฝัน แต่ก็ถือว่าไม่เสียหายนะ ได้ความรู้ ได้ประสบการณ์ ได้หลักการมาคือ ถ้าโลภ ไม่รวย จริงๆ ก็คือหลักการพอเพียงนั่นแหละ ซึ่งที่จริงแล้วใช้เวลาหน่อย สะสมไปเรื่อยๆ ไม่เร่ง ไม่โลภ ก็มีรายได้เป็นกอบเป็นกำได้จริงๆ" FX กล่าวทิ้งท้าย

หวังรวยเร็ว สุดท้ายหมดเกือบแสน

"วัน" นักเทรดอีกคนที่เล่นตามเพื่อนในออฟฟิศเดียวกัน เพราะเห็นว่าลงทุนน้อยได้เงินเร็ว เดิมเล่นหุ้นระยะยาวต้องใช้เงินไปจมเป็นแสนและได้เงินช้า ช่วงแรกลงทุน 4,000 บาท เสียทั้งหมด และลงอีก 2 ครั้งๆ ละ 4,000 บาทก็เสียทั้งหมดอีกเหมือนเดิม จึงเริ่มศึกษาข้อมูลจากเว็บไซต์และยูทูปอย่างกว้างขวาง จากคนที่ไม่เคยสนใจข่าวสารต่างประเทศ กลายมาเป็นคนรู้เรื่องราวการเมืองและระบบการเงินโลกที่ดีคนหนึ่ง และทำให้วันพบหลักการที่สำคัญว่า ต้องให้มีเงินทุนหนาพอที่จะรองรับการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินที่วิ่งขึ้นลงตลอดเวลา ดังนั้นต้องเล่นแบบไม่ทุ่มน้ำหนักการซื้อมาก แม้ว่าจะได้กำไรน้อยแต่ไม่เสีย ดีกว่าทุ่มน้ำหนักมากๆ แม้ว่าถ้าได้จะได้มาก แต่ถ้าเสียก็จะเสียมากเช่นกัน

"คือถ้าหวังได้มากก็จะเสี่ยงสูง แต่เอาแบบได้น้อยแต่ชัวร์ไม่เสี่ยงพอร์ตแตก ยังไงก็ดีกว่าฝากธนาคาร สรุปก็คือต้องจัดการความโลภให้ได้ จากที่หวังว่าจะมีรายได้มากๆ จนไม่ต้องทำงานแล้ว ก็เปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นว่า เอาไว้เป็นเงินเก็บหลังเกษียณ ตอนนี้ก็กำลังสะสมทีละเล็กทีละน้อยเพื่อให้ได้เงินคืนมาและต่อยอดไปเรื่อยๆ แต่จริงๆ นะแม้ว่าตอนนี้จะรู้เยอะแยะ รู้ทุกอย่าง แต่พอเราได้เรื่อยๆ แต่น้อยๆ เราก็จะรู้สึกอยากได้มากขึ้นอีก โลภอีก ไปตั้งน้ำหนักการเทรดสูงขึ้นเพื่อให้ได้กำไรมากๆ อีก พอติดลบเยอะๆ ก็มานั่งลุ้น ไม่ดีต่อใจ ก็วนเวียนไปแบบนี้ ผมยอมรับนะว่ายังคุมความโลภไม่ได้ตลอดเวลาก็ต้องพยายาม เพราะดีกว่าพอร์ตแตกเงินถูกกินหมด" วันกล่าว

ลมปากตัวแทน เล่นง่าย กำไรเร็ว มีร้อยได้ล้าน

นอกจากนี้ วันยังเล่าให้ฟังว่า โบรกเกอร์สาขาในประเทศไทยจะจัดหาตัวแทนหรือผู้แนะนำ เพื่อให้ไปหาลูกข่ายมาสมัครเทรด โดยผู้แนะนำก็จะได้ค่าคอมมิชชันจากการเทรดของลูกข่ายของตน และจะมีการจัดประชุมสัมมนาคนจำนวนมากเพื่อสอนตั้งแต่การสมัคร การเปิดบัญชี การเล่นและเทคนิคต่างๆ

วัน บอกว่า เท่าที่เห็นมาสัมมนา ส่วนใหญ่น่าจะราว 60% เป็นคนวัย 40 ขึ้นไปจนถึงเกษียณแล้วที่ต้องการหารายได้เสริม คนวัยเริ่มทำงานน่าจะ 20% และพวกนักศึกษาอีกประมาณ 10% ส่วนคนที่เรียนรู้ด้วยตัวเองผ่านออนไลน์เป็นคนวัยทำงาน และกำลังศึกษามากกว่าแบ่งปัน

"การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน" เป็นคำเตือนที่น่าจะมีความหมายมากขึ้นเมื่อคิดจะเล่นฟอเร็กซ์ หรือเก็งกำไรจากการแลกเปลี่ยนค่าเงินตราระหว่าง 2 สกุล "ไทยพีบีเอสออนไลน์" คุยกับ 2 นักเทรดไซด์ไลน์ที่ล้มลุกคลุกคลานมาเกือบปีจนพบทฤษฎีว่า ลงทุนกับฟอเร็กซ์ก็อาจรวยได้

จากนักเทรดหุ้นรายวันสู่วงการฟอเร็กซ์
นักเทรดไซด์ไลน์ที่ใช้ชื่อว่า FX บอกว่าเดิมเล่นหุ้นแบบเทรดเก็งกำไรรายวันเป็นรายได้เสริม เพื่อนในวงการเดียวกันแนะนำให้รู้จักฟอเร็กซ์จึงลองเล่น Demo ดูก่อน เห็นว่าทำกำไรได้เร็วและเก็งกำไรง่ายกว่าหุ้น เพราะเป็นตลาดใหญ่ระดับโลก การควบคุมราคาหรือปั่นค่าเงินจึงอาจทำไม่ได้ ต่างกับหุ้นที่มีการปั่น อุ้มหรือทุบราคาได้โดยกลุ่มทุนจำนวนหนึ่งเท่านั้น แต่ก็ยอมรับว่ามีความเสี่ยงมากกว่าตรงที่ยังไม่มีกฎหมายไทยรองรับ

"จะว่าเหมือนหวยก็ได้นะ เพราะโบรกเกอร์อยู่ต่างประเทศ มีตัวแทนในไทย ปกติตัวแทนก็จะได้ค่านายหน้าจากการซื้อขาย แต่ถ้าตัวแทนไม่ส่งคำสั่งซื้อขายไปที่โบรกเกอร์ต่างประเทศแล้วรับกินเสียเองก็อาจเป็นไปได้ เพราะได้มากกว่าค่านายหน้า แต่ถ้าเกิดลูกค้ามีกำไรมากๆ ก็หนีไป ไม่จ่ายเงินได้ เงินเราก็สูญ ตรงนี้เราไปฟ้องร้องอะไรไม่ได้ ก็เสี่ยง" FX กล่าว

เกือบ 1 ปีล้มลุกคลุกคลาน ได้ประสบการณ์ ปูทางเพื่ออนาคต
FX เริ่มเล่นฟอเร็กซ์มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่แล้วด้วยเงินทุนเริ่มต้น 7,000 บาท เล่นเพราะต้องการได้เงินมากๆ ในเวลาอันสั้น จนถึงวันนี้ FX บอกว่า ได้มาเสียไปตลอดเวลารวมเป็นเงินหมุนเวียนทั้งได้ทั้งเสียราว 150,000 บาท โดยเห็นแต่ตัวเลขบางครั้งกำไรเป็นหมื่น แต่ก็เสียกลับไปเป็นหมื่นเหมือนกัน ได้ถอนเงินจริงออกมาใช้บ้างนิดหน่อย

FX กล่าวว่า แรกๆ ที่เล่นก็คิดว่าแม้เงินน้อยแต่จะได้กำไรง่ายและเร็ว เมื่อได้กำไรราววันละ 5-10 ดอลลาร์สหรัฐ ก็อยากได้มากขึ้น จึงเพิ่มน้ำหนักการซื้อขายมากขึ้นจน over trade ในที่สุดก็เสีย เมื่อเสียก็อยากเอาคืน ยิ่งทุ่มน้ำหนักการซื้อมากขึ้นไปอีก และตอนแรกที่เล่นนั้นไม่ได้ให้ความสำคัญกับการศึกษาปัจจัยต่างๆ เช่น ความผันแปรของคู่เงินที่เล่น ข่าวทั่วโลกที่มีผลกระทบกับค่าเงินนั้นๆ ก็ยิ่งเสียซ้ำกลับไปอีก

"ตอนนั้นหมกมุ่นมาก ติดจอเลย เสียสมาธิในการทำงานประจำ เสียสายตา เพราะดูกราฟค่าเงินตลอดเวลา เครียดด้วยเวลาติดลบมากๆ หรือถูกกินพอร์ตแตก ตอนนี้ต้องควบคุมความโลภ และมีวินัย คือต้องตั้งค่าความพอใจว่าแค่ไหนพอ ก็ต้องพอ ไม่เล่นต่อ เพราะฟอเร็กซ์นี่เทรดได้ 24 ชั่วโมง จันทร์ถึงศุกร์ ต้องให้เวลากับการศึกษาปัจจัยต่างๆ ของคู่เงินมากขึ้น เวลา 1 ปีที่คิดว่าจะรวยก็ไม่รวยอย่างที่ฝัน แต่ก็ถือว่าไม่เสียหายนะ ได้ความรู้ ได้ประสบการณ์ ได้หลักการมาคือ ถ้าโลภ ไม่รวย จริงๆ ก็คือหลักการพอเพียงนั่นแหละ ซึ่งที่จริงแล้วใช้เวลาหน่อย สะสมไปเรื่อยๆ ไม่เร่ง ไม่โลภ ก็มีรายได้เป็นกอบเป็นกำได้จริงๆ" FX กล่าวทิ้งท้าย

หวังรวยเร็ว สุดท้ายหมดเกือบแสน
"วัน" นักเทรดอีกคนที่เล่นตามเพื่อนในออฟฟิศเดียวกัน เพราะเห็นว่าลงทุนน้อยได้เงินเร็ว เดิมเล่นหุ้นระยะยาวต้องใช้เงินไปจมเป็นแสนและได้เงินช้า ช่วงแรกลงทุน 4,000 บาท เสียทั้งหมด และลงอีก 2 ครั้งๆ ละ 4,000 บาทก็เสียทั้งหมดอีกเหมือนเดิม จึงเริ่มศึกษาข้อมูลจากเว็บไซต์และยูทูปอย่างกว้างขวาง จากคนที่ไม่เคยสนใจข่าวสารต่างประเทศ กลายมาเป็นคนรู้เรื่องราวการเมืองและระบบการเงินโลกที่ดีคนหนึ่ง และทำให้วันพบหลักการที่สำคัญว่า ต้องให้มีเงินทุนหนาพอที่จะรองรับการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินที่วิ่งขึ้นลงตลอดเวลา ดังนั้นต้องเล่นแบบไม่ทุ่มน้ำหนักการซื้อมาก แม้ว่าจะได้กำไรน้อยแต่ไม่เสีย ดีกว่าทุ่มน้ำหนักมากๆ แม้ว่าถ้าได้จะได้มาก แต่ถ้าเสียก็จะเสียมากเช่นกัน

"คือถ้าหวังได้มากก็จะเสี่ยงสูง แต่เอาแบบได้น้อยแต่ชัวร์ไม่เสี่ยงพอร์ตแตก ยังไงก็ดีกว่าฝากธนาคาร สรุปก็คือต้องจัดการความโลภให้ได้ จากที่หวังว่าจะมีรายได้มากๆ จนไม่ต้องทำงานแล้ว ก็เปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นว่า เอาไว้เป็นเงินเก็บหลังเกษียณ ตอนนี้ก็กำลังสะสมทีละเล็กทีละน้อยเพื่อให้ได้เงินคืนมาและต่อยอดไปเรื่อยๆ แต่จริงๆ นะแม้ว่าตอนนี้จะรู้เยอะแยะ รู้ทุกอย่าง แต่พอเราได้เรื่อยๆ แต่น้อยๆ เราก็จะรู้สึกอยากได้มากขึ้นอีก โลภอีก ไปตั้งน้ำหนักการเทรดสูงขึ้นเพื่อให้ได้กำไรมากๆ อีก พอติดลบเยอะๆ ก็มานั่งลุ้น ไม่ดีต่อใจ ก็วนเวียนไปแบบนี้ ผมยอมรับนะว่ายังคุมความโลภไม่ได้ตลอดเวลาก็ต้องพยายาม เพราะดีกว่าพอร์ตแตกเงินถูกกินหมด" วันกล่าว

ลมปากตัวแทน เล่นง่าย กำไรเร็ว มีร้อยได้ล้าน
นอกจากนี้ วันยังเล่าให้ฟังว่า โบรกเกอร์สาขาในประเทศไทยจะจัดหาตัวแทนหรือผู้แนะนำ เพื่อให้ไปหาลูกข่ายมาสมัครเทรด โดยผู้แนะนำก็จะได้ค่าคอมมิชชันจากการเทรดของลูกข่ายของตน และจะมีการจัดประชุมสัมมนาคนจำนวนมากเพื่อสอนตั้งแต่การสมัคร การเปิดบัญชี การเล่นและเทคนิคต่างๆ

วัน บอกว่า เท่าที่เห็นมาสัมมนา ส่วนใหญ่น่าจะราว 60% เป็นคนวัย 40 ขึ้นไปจนถึงเกษียณแล้วที่ต้องการหารายได้เสริม คนวัยเริ่มทำงานน่าจะ 20% และพวกนักศึกษาอีกประมาณ 10% ส่วนคนที่เรียนรู้ด้วยตัวเองผ่านออนไลน์เป็นคนวัยทำงาน และกำลังศึกษามากกว่า

"เวลาเรียนจากการอบรมหรือเรียนจากออนไลน์ก็ตาม ตัวแทนโบรกเกอร์นอกจากให้ความรู้แล้ว ก็จะเน้นสร้างฝัน ลงทุนน้อยแต่ทำกำไรมาก แบบมีร้อยได้ล้าน อะไรแบบนี้ ก็ทำให้คนเอาเงินมาลงทุนมากเพราะหวังรวยเร็ว ส่วนมากไม่มีประสบการณ์ ไม่รู้ปัจจัยอย่างรอบด้าน ก็เสียหมด เขาจะมีคนมาโชว์ให้เห็นว่าเล่นได้จริง ก็เชื่อนะว่ามีจริง แต่ไม่ใช่ทุกคน เขาก็เลือกเอาคนที่ประสบความสำเร็จมาโชว์" วัน กล่าว

สิ่งที่ทั้ง 2 นักเทรดฝากเตือนก็คือ ถ้าจะเล่นก็เล่นได้ แต่อย่าลงเงินจำนวนมาก เพราะยังไม่มีกฎหมายรองรับ ใช้ทุนน้อยๆ สะสมกำไรไปเรื่อยๆ เงินที่เอามาลงทุนต้องเป็นเงินเย็นที่คิดว่าถ้าเสียไปก็ไม่เดือดร้อน อย่ากู้เงินมาเล่น อย่าฝากคนอื่นเล่น เพราะมีกรณีเอาเงินไปลงขันกันจ้างคนอื่นเล่นแล้วปันผล สุดท้ายก็ถูกโกง ต้องศึกษาโบรกเกอร์ว่าอันไหนน่าไว้ใจ ไม่น่าไว้ใจ ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงค่าเงินที่ที่เล่น และที่สำคัญคือ รวยได้ถ้าไม่โลภ


ที่มา: ไทยพีบีเอสออนไลน์
#467
โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้ที่เพิ่งจะเริ่มเข้ามาลงทุน ในตลาด Forex มักจะเกิดความสับสน ระหว่างคำว่า Take Profit forex กับการ Stop loss เพราะ 2 คำนี้ มีหน้าที่คล้ายกัน คือ เป็นตัวช่วยในการรักษาเงินทุน ให้มีเทรดได้ต่อไปเรื่อยๆ และช่วยให้เราประสบความสำเร็จ ในการซื้อขาย หรือเทรด Forex ได้ เป็นเรื่องที่สำคัญ และมีประโยชน์อย่างมาก ควรที่จะตั้งค่านี้ในทุกออเดอร์ ที่เราทำการซื้อขาย หรือเทรด Forex

Take Profit forex กับการตั้งค่า เชิงวิชาการ
นักเทรดที่ประสบความสำเร็จ ส่วนใหญ่จะทำการกำหนดจุด Take Profit forex ซึ่งไม่ควรกำหนดตามความพึงพอใจ หรือตามความต้องการ แต่เราจะต้องมีการกำหนดจุด TP ด้วย เทคนิค forex ขั้นเทพ อย่างมีหลักการ หรือมีองค์ประกอบต่างๆ ในการตั้งค่า เพื่อความถูกต้อง และแม่นยำมากขึ้น ซึ่งการตั้งค่าเชิงวิชาการ มีดังนี้

1. ตั้งค่า ตามเส้น Trendline

หมายถึง เราจะทำการลากเส้น TrendLine ขึ้นมาก่อน จากนั้น มองหาจุดที่จะตั้งค่า TP เพื่อความแม่นยำ ควรจะใช้กราฟ TF ใหญ่ 4 hr  ขึ้นไป ซึ่งวิธีนี้จะได้ผลหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับความรู้ ความชำนาญของนักเทรดแต่ละคนด้วย

2. ตั้งค่า ตามจุดยอด ของคลื่นก่อนหน้า

หมายถึง การหาจุดต่ำสุดของคลื่นก่อนหน้า หรือการหาจุดแนวรับ แนวต้านของกราฟในรอบที่แล้ว เพื่อใช้ในการกำหนดจุด TP

3. ตั้งค่า ตามสัญญาณ ทางอินดิเคเตอร์

หมายถึง การใช้อินดิเคเตอร์ ในการช่วยหาจุดกำหนดจุด TP ในออเดอร์นั้นๆ

Take Profit forex (TP) หมายถึง ?
TP หรือ TakeProfit forex หมายถึง การกำหนดจุด TP หรือ การกำหนดจุดทำกำไร ไว้ ณ จุดใดจุดหนึ่ง ซึ่งจุดนั้นเป็นราคาที่เราได้กำไรตามเป้าหมายที่วางไว้ หรือได้กำไรจนพอใจ เมื่อราคา มาถึงจุดที่เราตั้งค่า TP ไว้ ระบบจะทำการปิดออเดอร์อัตโนมัติ และเราจะได้รับผลกำไรทันที นักเทรดโดยทั่วไป มักเรียกเทคนิค TP ว่า เป็น เทคนิค forex ขั้นเทพ เนื่องจากเทคนิคนี้ ทำให้นักเทรดส่วนใหญ่มีเงินในบัญชีได้นาน

Take Profit forex กับการตั้งค่า เชิงเทคนิค
การตั้งค่า TakeProfit forex อีกแบบหนึ่ง นั่นก็คือ การตั้งค่าเชิงเทคนิค ซึ่งการตั้งค่าเชิงเทคนิคนั้น จะแตกต่างจากการตั้งค่าเชิงวิชาการ เนื่องจากเป็นการตั้งค่าที่เกิดจากความคิดของ นักเทรด ซึ่งไม่ใช่เพียงความคิดทั่วไป แต่เป็นความคิดที่มีหลักการ มีเหตุผลมากพอที่จะเป็น เทคนิค forex ขั้นเทพ ได้เช่นกัน นั่นคือ

ตั้งค่า ตามเป้าหมาย ที่คาดหวัง ผลกำไร หรือเปอร์เซ็นต์
หมายถึง ก่อนทำการเปิดออเดอร์ เราควรวางแผนไว้ก่อนเลยว่า เมื่อเราเข้าที่ราคาเท่านี้ เราจะกำหนดจุด TP ที่ตำแหน่งใด กำไรเท่าไหร่ที่เราต้องการ แล้วก็ทำการตั้งค่าจุด TP เอาไว้เลย เมื่อราคามาถึงจุดนี้ ระบบจะได้ทำการปิดออเดอร์อัตโนมัติ มีข้อดีคือ สร้างวินัยในการเทรด เพื่อป้องกันความโลภได้อีกด้วย

ตั้งค่า  ตามแนวทางของ นักลงทุนรายใหญ่
หมายถึง เนื่องจากนักลงทุนรายใหญ่ เช่น กองทุน หรือสถาบันใหญ่ ๆ จะมีการเทรดไม่บ่อยนัก ดังนั้น เราจึงควรใช้กราฟขั้นต่ำ 4 hr หรือกราฟ Day เพื่อเข้าออเดอร์ตามนักลงทุนรายใหญ่ แล้วตั้งจุด TP ที่แนวตรงกันข้าม

ตั้งค่า ตามแนวรับ แนวต้าน เชิงจิตวิทยา Fibonacci
คือ ใช้ Fibonacci ในการช่วยหาจุดเข้า และกำหนดจุด TP โดยกางเส้น Fibonacci ลงบนกราฟ และตั้งค่า TP ตามเส้นต่างๆ ของ Fibonacci 

หากเรากำหนดจุด TP นักเทรดจะไม่ต้องเสียเวลาเฝ้ากราฟ Forex หรือเฝ้าหน้าจอ เพื่อที่จะรอปิดออเดอร์ด้วยตนเอง การกำหนดจุด TP จึงเป็นสิ่งที่ควรทำในทุกออเดอร์ เนื่องจากในการซื้อขาย หรือ เทรด Forex หากเราได้ตั้งค่าจุด TP ไว้ ณ ราคาที่เราพอใจกำไรแล้ว เมื่อราคาขึ้นมาถึงจุดที่ตั้งค่า TP ไว้ ระบบจะทำการปิดออเดอร์อัตโนมัติ เหมือนกับที่เราตั้งค่าจุด Stop Loss นั่นเอง

ได้รับผลกำไรแน่นอน
เมื่อเราตั้งค่า TakeProfit forex ในช่วงเวลาที่ระบบทำการปิดออเดอร์อัตโนมัติ นั่นหมายความว่า เราจะได้รับผลกำไร ตรงตามที่ได้กำหนดไว้แล้ว ทำให้นักเทรดเกิดความสบายใจ ไม่ต้องกังวลใจว่า กราฟจะมีการแกว่งตัว ที่จะทำให้เราขาดทุนหรือไม่ เนื่องจากเราตั้งค่าจุด TP ไว้ ณ ราคาที่เราพอใจในผลกำไร ก็จะได้ตามนั้นเลย เห็นหรือไม่ว่า การกำหนดจุด TP นั้น เป็น เทคนิค forex ขั้นเทพ เลยจริงๆ

บทสรุป
จากข้อมูลที่ได้ศึกษาไปทั้งหมดในบทความเรื่อง TakeProfit forex นี้ จะเห็นได้ว่า การกำหนดจุด TP นั้น มีความสำคัญอย่างมาก เหมือนกับการกำหนดจุด Stop Loss ที่เราควรจะต้องทำการตั้งค่าไว้ในทุกออเดอร์ ที่ทำการซื้อขาย หรือเทรด เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยง และจะช่วยรักษาเงินในบัญชีของเรา ให้มีไว้เทรดได้นานๆ หรือช่วยประกันผลกำไรของเราได้ นั่นเอง
#468
Money managemant / Overtrade คืออะไร มีสาเหตุมาจากอะไร
มีนาคม 22, 2022, 02:12:49 หลังเที่ยง
คําศัพท์สําคัญมากอีกหนึ่งคํา ที่มาให้เรียนรู้กันในวันนี้ สําหรับผู้ที่เป็น Forex Trader คือคําว่า Overtrade เรามาดูกันว่า Overtrade คืออะไร และเกี่ยวข้องอย่างไรกับเทรดเดอร์ เรามาเจาะลึกคําว่า Overtrade เทรดเดอร์มือใหม่หลายคน คงเคยได้คํายินว่า "Overtrade" มาไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นการแนะนํา จาก อาจารย์สอนเทรด Forex ทั่วไป หรือจากวีดีโอสอน Forex ตาม Youtube มักจะย้ำ กับเทรดเดอร์ว่า "อย่า Overtarde" แต่เทรดเดอร์หลายคน ก็ไม่ทราบว่า แท้จริงแล้วคําว่า Overtrade ที่จริงนั่น คืออะไร

Overtrade คืออะไร?

Overtrade คือ การเทรด Forex โดยใช้ขนาด Lot จํานวนมากจนเกินตัว เพื่อหวังว่าจะกําไรจํานวนมาก จากการ ซื้อ-ขาย ครั้งนี้ หรือจะได้กําไรมหาศาล จากการซื้อ - ขายแต่ละครั้ง แต่แล้วส่วนใหญ่ เหตุการณ์ มักจะไม่เป็นไปตามที่พวกเขาคิด เนื่องจากว่าการ Overtrade เป็นสาเหตุให้ที่ทําให้เทรดเดอร์หลายคน ต้องล้างพอร์ต หรือขาดทุนจนเงินลงทุนเหลือเป็น 0 ในบัญชี

เช่น เทรดเดอร์มีเงินใน balance S100 เทรดเดอร์เข้าออเดอร์ที่หนึ่ง กดไป 0.1 (1 จุดเท่ากับ $1) แต่ไม่ พอใจใน lots ที่เพิ่งกดไปเลยเพิ่ม lots ไปอีกหนึ่งออเดอร์กดไป lots 0.2 lots (1 จุดเท่ากับ $2) แต่ก็ยังไม่ พอใจอีก ก็เลยกดเพิ่ม lots ไปอีก 0.2 lots (1 จุดเท่ากับ 52) ทําให้ในบัญชีของเทรดเดอร์ มีจํานวน lots ที่ กดไปมากถึง 0.5 lots ทั้งๆ ที่ใน balance มีแค่ 5100 ทําให้ บัญชีเทรด Forex เสี่ยงที่จะเสียหนักมากๆ ได้ เพราะมันจะลากเงินเทรดเดอร์ไปได้แคอีกแค่ 50 จุดเท่านั้น บัญชีก็ล้างพอร์ต

สาเหตุที่เกิด Overtrade คืออะไร

1. ความโลภ
คือ ปัญหาอันดับแรก ที่ทําให้พอร์ตลงทุน ของเทรดเดอร์หลายคนเสียหาย ยิ่งอยากรวยเร็วเท่าไหร่ ยิ่ง ทําให้ขาดสติมากเท่านั้น จึงทําให้เกิดความหวังว่าในการซื้อ-ขาย แต่ละครั้ง จะต้องได้กําไรมหาศาล ทําให้เมื่อเปิดออเดอร์ โดยใช้ขนาด Lot จํานวนมากจนเกินตัว ทําให้เกิดการ Overtrade เกิดขึ้น

เมื่อ Overtrade เกิดขึ้น ก็หมายความว่า มีโอกาสล้างพอร์ตได้ทุกเมื่อ ถ้ากําลังเทรดอยู่ แล้วกําลังมีกําลัง และยังมีออเดอร์ที่ค้างอยู่ แต่ยังเปิดบวกอยู่ เทรดเดอร์อยากจะได้กําไรเพิ่ม คุณเลยจัด lots ไปหนักๆ อีก หลายๆ ออเดอร์จน Overtrade

2. อารมณ์
อารมณ์ในการเทรดอารมณ์คือตัวการ ที่ทําให้เทรดเดอร์ Overtrade อารมณ์ก็มีหลายแบบ อารมณ์ความ โกรธถ้าเทรดเดอร์ กําลังเทรดคู่เงินใด อยู่ซักคู่เงินหนึ่ง แต่ทํากําไรไม่ได้ หรือกําลังขาดทุน อย่างหนักอยู่

ทําให้โมโหตัวเอง ที่ทําให้ตัวเองขาดทุน อย่างหนักขนาดนี้ เทรดเดอร์เลยอยากจะได้เงินทุน และกําไร ที่ เทรดเดอร์คิดว่าควรจะได้คืน กลับคืนมาให้เร็วที่สุด เลยเข้าออเดอร์หลายไม้เพิ่ม lots ไปอย่างหนักหน่วง ไม่ยั้งมือ ทําให้ไม่มีทุน พอจะเปิดออเดอร์ต่อไปอีกแล้ว นี้คือ Overtrade จากอารมณ์โกรธ

3. Overtarde เพราะระบบเทรด

เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ในตลาด Forex มักจะเทรดในระยะเวลาสั้นๆ หรือเก็งกําไรด้วยระยะเวลาสั้นๆ ซื้อ ขายในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่นี้ก็ไม่ใช่ผลเสีย ผลเสียของระบบเทรดแบบ Overtrade คือ เมื่อขาดทุน แล้วถึงเวลา Stop Loss จะต้องหยุดขาดทุนอย่างรวดเร็ว แต่เทรดเดอร์ที่ไม่ประสบความสําเร็จส่วนใหญ่ มักจะไม่กล้าตัดสินใจ Stop Loss เนื่องจากว่าภายในใจ หวังเพียงราคาจะปรับตัวไปตามที่เขาคาดการณ์เอาไว้

จึงเป็นสาเหตุให้เทรดเดอร์หลายคนล้างพอร์ต อย่ามั่นใจในระบบจนเกินไป เพราะไม่มีระบบใดที่แม่นยํา ที่สุด ถ้าเทรดเดอร์เห็นระบบที่บอกทิศทางเป็นเทรนขาขึ้น และมั่นใจในระบบแล้วเพิ่ม lots ลงไปอาจ ทําให้บัญชีของเทรดเดอร์ Overtrade ได้ หรือ ระบบเทรด Forex บอกทิศทางว่า เป็นเทรนขาลงและเพิ่ม lots ลงไป เพื่อหวังจะทํากําไรได้มาก จากการเพิ่ม Lots เทรดเดอร์ก็อาจจะขาดทุนจากการเพิ่ม lots เช่น กัน

วิธีแก้ไขปัญหาเมื่อจะ Overtrade

หากคิดว่ากําลังจะ Overtrade วิธีแก้ง่ายนิดเดียว คือ ให้ทําการหยุดการเทรดนั้นทันที แล้วไปทําอย่างอื่น แทน จนลืมไปว่าเมื่อสักครู่นี้ มีอารมณ์โลภอยากรวยเร็ว โกรธหรืออยากเอาเงินคืน เมื่อรู้สึกว่าอารมณ์ เหล่านี้หมดไป ค่อยกลับมาเทรดใหม่อีกครั้ง


1. หยุดเทรดทันที เทรดเดอร์ควรหยุดทันที และพักเทรดอย่างน้อย 3 วัน เนื่องจากอารมณ์ที่จะพาให้คุณ Overtrade อีกครั้ง จะยังคงติดค้างอยู่ หากกลับไปเทรดอีกในทันที หรือในวันสองวันถัดมาก็มีโอกาส จะ Overtrade สูง

2. กลับมาเทรดด้วยบัญชี Demo หลังจากผ่านไป 3 วันแล้วกลับมาเทรด ควรเริ่มต้นจากการเทรด ด้วย
บัญชี Demo เสียก่อน อย่าเพิ่งเริ่มต้นการเทรดด้วย บัญชีเทรดจริง เพราะมีโอกาสพลาดสูงมาก การก ลับมาเริ่มด้วยบัญชี Demo จึงถือว่าปลอดภัยที่สุดเพื่อแก้ปัญหาการ Overtrade อีกครั้ง

สรุปแล้วการ Overtrade นั้น จะเกี่ยวข้องกับสภาพจิตใจของผู้เทรดมากที่สุด หากไม่สามารถควบคุมข้อนี้ได้ โอกาสที่คุณนั้นจะทําการเทรดแบบ Overtrade ก็มีสูงมากเช่นเดียวกันครับ คุณคงไม่อยากให้พอร์ตของคุณขาวสะอาด ปราศจากผลกําไรใด เพราะพิษของการทํา Overtrade อย่างแน่นอน ดังนั้น โปรดอย่าทําการ Overtrade อย่างเด็ดขาด



#469
อื่นๆ เกี่ยวกับ Forex / Full Time Trader
มีนาคม 22, 2022, 01:38:40 หลังเที่ยง
หากคุณเป็นอีกคนหนึ่ง ที่ทํางานประจํา ต้องเข้า-ออกงาน ตรงตามเวลาหรือไม่? และคุณมีความเบื่อมาก น้อยแค่ไหน ที่ต้องทําแบบนี้เป็นประจําแบบเดิมๆ จะดีกว่ามั้ย? ถ้าเราสามารถหาเงินได้โดยไม่ต้องเดิน ทางไปทํางาน สามารถทําเงินได้ทุกที่ ทุกเวลา หากคุณอยากจะมีอิสระภาพ เราขอแนะนํา ให้คุณลองเข้า มาลงทุนในตลาด Forex แล้วฝึกฝน พัฒนาตัวเอง เพื่อเป็น Full Time Trader คือ เป็นนักเทรดแบบเต็ม เวลานั้นเอง

Full Time Trader คือ อะไร ?

Full Time Trader คือ นักเทรดแบบเต็มเวลา ที่สามารถทําการซื้อขาย หรือเทรด Forex ได้ตลอด 24 ชม. ไม่มีงานอื่นเข้ามาแทรกแซง คือเน้นการทําเงินด้วยการซื้อขาย หรือเทรด Forex อย่างเดียว ผู้ที่จะเป็น Full Time Trader ได้ จะต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง ดังนี้

1. มีความสามารถในการเทรด Forex อย่างแม่นยํา คุณจะเป็น Full Time Trader ไม่ได้เลย หากว่าขาดความรู้ความสามารถในการซื้อขาย หรือเทรด Forex ซึ่งความรู้ความสามารถในการเทรด Forex ก็หาได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะเป็น จากสื่อออนไลน์ หรือจากการสัม นา ของแต่ละโบรกเกอร์ (Broker) บางโบรก มีการสอนใช้อินดิเคเตอร์ในการทําเงินด้วย

2.มีเงินทุนสํารอง ที่มากพอ ก่อนที่จะมาเป็น Full Time Trader คุณจะต้องแน่ใจว่า คุณมีเงินสํารอง มากพอสําหรับการใช้จ่ายต่างๆ ในชีวิตประจําวัน เพราะว่า การลาออกมาเทรดนั้น ค่อนข้างใช้เงินทุนพอสมควร การที่เรามีเงินสํารอง มากพอ ทําให้เราไม่ต้องเครียดจากการเทรดมากนัก เพราะอย่างน้อย เราก็ได้เตรียมเงินไว้ใช้ในยากฉุกเฉิน

3.มีระบบการเทรด Forex ที่ดี สําหรับ Full Time Trader ที่ประสบความสําเร็จนั้น ไม่ได้สําเร็จมาได้ด้วยดวงชะตาแต่อย่างใด แต่ที่ ประสบความสําเร็จได้นั้น เป็นเพราะความเพียรพยายาม ด้วยการหมั่นฝึกฝนการเทรด จนเกิดความรู้ และความชํานาญ จึงทําให้เขามีระบบการเทรดที่ดี การเทรด Forex อย่างเป็นระบบนั้น จะทําให้เขา ประสบความสําเร็จได้ง่ายยิ่งขึ้น ส่วนการเทรด Forex ด้วยอารมณ์ หรือความโลภ เป็นสิ่งที่ไม่ควรทําอย่างยิ่ง

Full Time Trader ใครๆก็เป็นได้แค่มีความตั้งใจ

หลายคนคิดว่า การเป็น Full Time Trader สามารถทําได้ไม่ยาก ใช่ครับโทําได้ไม่ยากจริงๆ และ ไม่ใช่เรื่อง ง่ายเหมือนกัน ไม่ใช่ว่า มีเงินทุนมากๆ แล้วจะประสบความสําเร็จได้เลย มันไม่ใช่ครับ มันมีอะไรมากกว่า นั้นแน่นอน

นอกจากนี้คุณจะต้องรู้จัก การใช้เทคนิค การดูกราฟในการเทรด หรือรู้จักการใช้กลยุทธ์ต่างๆ ในการ เทรด Forex ด้วย ประสบการณ์จะช่วยเราเอง ประสบการณ์จะทําให้เรารู้ว่า เทคนิคไหนกลยุทธ์รูปแบบ ไหน ที่เหมาะสมกับเรา

เทคนิคการเอาตัวรอดในตลาด Forex การเป็น FullTimeTrader ได้ เราจะต้องมีเทคนิคในการอยู่รอดในตลาด Forex ให้ได้เสียก่อน หากเรา ไม่มีเทคนิคอะไรเลย เทรดไปก็มีแต่เสียกับเสีย ซึ่งวันนี้เราได้รวบรวม เทคนิคสําคัญๆ ที่จะช่วยให้ คุณอยู่ รอดในตลาด Forex ต่อไปได้ นั่นคือ

1. ศึกษาความรู้ Forex ให้มาก

การซื้อขาย หรือเทรด Forex แบบไม่มีความรู้ไม่ได้วิเคราะห์กราฟ หรือการเทรด แบบอาศัยดวง แน่นอน ว่า วิธีการแบบนี้ ย่อมทําให้ไม่สามารถอยู่รอดในตลาด Forex ได้ ทางที่ดี คุณควรจะมีความรู้เกี่ยวกับ Forex ให้มากๆ และนําความรู้เหล่านั้น มาใช้ก่อนที่จะเปิดออเดอร์ และ Lot เพราะการเปิดออเดอร์ แต่ละ Lot มีความสําคัญมาก นั่นหมายถึง หากเข้าเทรดโดยไม่รู้ อาจจะหมดตัวได้

2. เข้าถูกทาง ก็ทํากําไรต่อไป

การเทรด Forex ต้องอาศัย ประสบการณ์ และความชํานาญในการเข้าเทรด เพราะว่าการเทรด ที่ดีนั้น เกิดมาจากการวางแผน การคิดอย่างเป็นระบบ เพราะเรากําลังเล่นกับเงินจริงๆ เทรดได้ได้จริง แต่เทรด เสีย ก็เสียจริงๆ เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้น เมื่อเราเข้าเทรดถูกทาง ก็จงปล่อยให้มันทํากําไร ต่อไป นั่นเอง

3. วางแผน และวิเคราะห์ความได้เปรียบ ก่อนเทรด

ก่อนที่เราจะตัดสินใจ เปิดออเดอร์ซื้อขาย หรือเทรด Forex นั้น จะต้องผ่านการคิดวิเคราะห์ มาก่อนแล้ว ว่า หากเราตัดสินใจ เปิดออเดอร์ซื้อขาย หรือเทรด Forex ไปแล้ว ถ้าเกิดเป็นไปตามคาดการณ์ เราจะได้ กําไร แต่ถ้าผิดคาด เราต้องหาทางหยุดขาดทุนให้ได้ก่อน จากนั้น ค่อยมองหาโอกาสในการทํากําไรต่อไป

4. หยุดเทรด เมื่อได้กําไรมากพอ

การเทรดในแต่ละวัน หากเราได้กําไรมากพอ จากการเทรด Forex นั้น เราควรหยุดเทรด และไปหากิจกรรมอื่นๆ ทําซะ หยุดคิดเรื่องเทรด ออกไปพักสมอง สังสรรค์บ้าง ปาร์ตี้บ้าง หรือไปทําบุญ ตามวัดต่างๆ หรือสถานที่ใกล้บ้านก็ได้ จะได้เป็นการรีแลคซ์ และผ่อนคลายไปในตัว หากเรามัวแต่จดจ่อกับการเทรดมากเกินไป อาจจะทําให้เราเครียดได้ เพราะฉะนั้น ได้กําไรตามเป้าแล้วต้องหยุดเทรด

Full Time Trader ทําให้ไม่ต้องทํางานประจํา

หากจะเรียกตัวเองว่าเป็น Full Time Trader ได้นั้น คุณจะต้องแน่ใจในตนเองก่อนว่า คุณมีคุณสมบัติ ของการ เทรด Forex เป็นอาชีพหรือไม่ ?
เพราะถ้าหาก คุณยังมีคุณสมบัติที่ไม่ครบถ้วน ในอนาคตคุณจะต้องสูญเงินทุน และไม่ประสบความสําเร็จ อย่างแน่นอน แต่ถ้าหาก คุณมีคุณสมบัติที่ครบถ้วน ก็สามารถมั่นใจได้เลยว่า คุณได้เป็น Full Time Trader ได้แน่นอน

สรุป Full Time Trader คือ อาชีพที่คนรุ่นใหม่ ใฝ่ฝัน

จากบทความทั้งหมด จะเห็นได้ว่า การเป็น Full Time Traderเป็นอาชีพที่น่าสนใจมากๆ สําหรับ คนรุ่น ใหม่ ที่อยากจะทําเงินบนโลกออนไลน์ และเป็นอีกอาชีพ ที่แสนจะเป็นอิสระ จึงทําให้กลายเป็นอาชีพที่ใครต่อใครหลายคนวิ่งตามความฝัน เนื่องจากในยุคนี้เป็นยุค 4G 5G ทําให้คนรุ่นใหม่ส่วนมากมองหางานที่มีความอิสระ และสามารถทําแบบออนไลน์ ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตได้เท่านั้น และการซื้อขาย หรือเทรด Forex นี้สามารถทําให้นักเทรดทุกท่าน ก้าวไปสู่การเป็น Full Time Trader ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี



#470
หนึ่งในสิ่งที่เทรดเดอร์มักจะคิดในช่วงแรกๆของการเทรด ก็คือคิดเอาเองว่าการเทรดจะทำให้คุณรวย ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้ผู้คนคิดว่าการอ่านหนังสือ การเข้าร่วมกิจกรรมเวิร์คช็อปสองสามครั้ง หรือการหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตจะทำให้พวกเขากลายเป็น Warren Buffet หรือ George Soros ได้ง่ายๆ

หากจะกล่าวถึงกลยุทธ์ด้านการเทรด จริงๆ แล้วกลยุทธ์เหล่านี้ก็สามารถนำมาใช้เพื่อก่อให้เกิดประสิทธิผลได้เช่นกัน การเทรดข่าวสามารถทำเงินให้คุณได้ การเทรดจนประสบความสำเร็จสัก 5, 10 หรือ 20 ครั้ง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเทรดเดอร์รุ่นใหม่ อย่างไรก็ตาม หากไม่มีกระบวนการคิดที่เหมาะสม ตลาดสามารถเอาทุกอย่างที่คุณได้มากลับคืนไปในเวลาที่คุณคาดไม่ถึง

แน่นอนว่าทุกคนจะต้องผ่านประสบการณ์การเรียนรู้ที่ไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะพลาดในสิ่งที่คนอื่นไม่พลาด เป็นต้น วันนี้อยากจะแบ่งปันข้อเท็จจริงเกี่ยวกับออนไลน์ เทรดดิ้ง (Online Trading) ให้ทุกคนฟัง

1. การเทรดจะทำให้คุณเสียสตางค์

ถ้าคุณไม่เคยทราบข้อเท็จจริงข้อนี้มาก่อน คุณกำลังจะได้เรียนรู้ข้อเท็จจริงที่ไม่ค่อยสวยงามนักเกี่ยวกับการเทรด ที่จะทำให้ความคิดที่ว่าการเทรดเป็นวิธีการทำเงินที่อย่างง่ายดายและรวดเร็วมลายหายไปเลย กล่าวคือ สักวันหนึ่งคุณจะพบว่าตัวเองอยู่ในสถานะของผู้เสียประโยชน์และมันก็สายเกินไปเสียแล้วที่คุณจะย้อนเวลากลับไป

บางคนอาจจะบอกว่า ความกลัวว่าตนเองจะกลายเป็นผู้เสียประโยชน์จะทำให้เราเพิ่มความพยายามในการลงทุนมาขึ้นถึงสองหรือสามเท่า ด้วยความหวังที่ว่าวันหนึ่งตลาดจะดีขึ้นและกลับมาก่อให้เกิดประโยชน์แก่เราอีกครั้ง

ส่วนมาก กลยุทธ์เหล่านี้จะได้ผลดี แต่อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้สูงว่า วันหนึ่งกลยุทธ์เหล่านี้จะไม่ได้ผลเช่นกัน และเมื่อเวลานั้นมาถึง การสูญเสียอาจจะหมายถึงการสูญเสียทุกอย่างที่คุณทำมา หรือมากกว่าด้วยซ้ำ

2. การเทรดดิ้งเป็นเรื่องยาก (ยากมาก)

ผมเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์และความพยายามในการเทรดโดยแพทย์ นักกฎหมาย และบุคคลที่ชาญฉลาดมาหลายต่อหลายครั้ง ท่ามกลางกลุ่มคนประมาณ 100 คน อาจจะมีเพียง 5 คนเท่านั้นที่ได้ประโยชน์จากการเทรดในระยะยาว  อันที่จริง เทรดดิ้งไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีอะไรหลายๆอย่างที่เราต้องเรียนรู้เกี่ยวกับเทรดดิ้ง เพราะเมื่อเราเริ่มทำการเทรด เราจะพบว่ามีกับดัก และบทเรียนหลายอย่างที่เราจะได้เรียนรู้จากการเทรดในตลาดโดยตรง

การเรียนรู้เหล่านี้อาจจะกินเวลาสักระยะหนึ่ง อีกทั้งยังมีความเป็นไปได้ว่า มันจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคุณ และคุณอาจจะนอนไม่หลับเพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องราวเหล่านี้ก็เป็นได้!

ตลาดไม่ใช่สนามเด็กเล่นที่ซึ่งทุกคนจับมือกันเพื่อทำกิจกรรมร่วมกันอย่างสนุกสนาน ในทางตรงกันข้าม ตลาดคือสนามรบ ที่ซึ่งเงินจำนวนมากคือผู้ชนะ และเงินจำนวนน้อยต้องกลายเป็นผู้แพ้ ก่อนที่คุณจะสามารถทำกำไรได้ในระยะยาว คุณจะต้อง ยอมรับความจริงที่ว่า ตลาดไม่ต่างไปจากโลกที่เราอาศัยอยู่ เป็นสถานที่ที่ต่างคนต่างก็มีสิทธิ์ในการเป็นผู้ได้ผู้เสียพอๆ กัน ใครบางคนต้องเป็นผู้เสีย เพื่อให้อีกคนหนึ่งเป็นผู้ได้ ถ้าคุณเอาจริงเอาจังกับการเทรดดิ้งจนถึงขึ้นมองว่าการเทรดเป็นช่องทางการหารายได้ช่องทางหลักแล้วละก็ คุณต้องทำใจยอมรับข้อเท็จจริงเหล่านี้เพื่อที่คุณจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อหรือเป็นผู้ที่เสียประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น

3. ความอดทนคือกุญแจสำคัญ

เทรดเดอร์จะต้องเป็นผู้ทีมีความอดทนสูง ไม่ว่าจะเป็นการอดทนรอให้มีโอกาสทางการตลาดดีๆ ผ่านเข้ามา การอดทนรอให้ตัวเองผ่านพ้นช่วงแรกของการเทรดที่คุณมักจะตกอยู่ในสถานะผู้เสียประโยชน์ การอดทนรอให้ถึงวันที่คุณได้กำไร การควบคุมอารมณ์เมื่อตลาดมีความแปรปรวน และความอดทนในการเรียนรู้และปรับปรุงทักษะของคุณอยู่สม่ำเสมอ

4. เทรดดิ้งเป็นเรื่องของคนฉลาดเท่านั้น

ตรงกันข้ามกับความเชื่อกระแสหลัก การเทรดไม่ใช่เรื่องของคนฉลาดเท่านั้น ผมเคยเจอคนฉลาดหลายๆ คนที่ไม่สามารถเข้าถึงศิลปะของการเทรดได้โดยแท้จริง ในทางตรงกันข้าม คนทั่วๆ ไปที่ใจเย็น มีความอดทน และรู้จักควบคุมอารมณ์ของตนเองกลับเป็นผู้ที่สามารถเทรดได้ดีกว่าเสียอีกเทรดเดอร์ใหม่จะยังมองไม่เห็นโอกาสเหล่านี้จนกว่าพวกเขาจะผ่านการสูญเสียมาแล้วสองสามครั้ง

และถึงแม้ว่าคุณจะทำตามกฎกติกาและกลยุทธ์ต่างๆ อยู่เสมอ คุณก็มีสิทธิจะเป็นฝ่ายสูญเสียอยู่ดี เหตุผลไม่ใช่เพราะว่ากฎกติกาไม่ถูกต้องหรือกลยุทธ์ไม่ดีพอ มันอาจจะเป็นเหตุผลง่ายๆ แค่ความโลภหรือความกลัวโดยไร้เหตุผลก็เป็นได้

อารมณ์ของคุณอาจจะเป็นสิ่งที่ตัดสินว่าคุณจะได้หรือเสียประโยชน์ เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ตลาดก็จะเดินหน้าต่อไปและทำในสิ่งที่มันต้องทำ คุณไม่สามารถเลือกว่าคุณจะเอาตัวออกจากหรือจะยืนหยัดอยู่กับหุ้นที่กำลังตกได้ ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่คุณสามารถควบคุมได้ก็คือการกระทำของคุณ และควบคุมว่าคุณจะได้หรือเสียมากน้อยเท่าไหร่ก็เท่านั้น

5. อย่ามัวทำตามผู้อื่น ให้ทำในสิ่งที่คุณต้องการ

เทรดเดอร์ส่วนมากเริ่มจากการเรียนรู้จากเวิร์คช็อป ติดตามเทรดเดอร์ผู้มีอิทธิพล และไล่อ่านกลยุทธ์เกี่ยวกับการเทรดที่มีอยู่บนอินเทอร์เน็ต เนื่องจากยังไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการเทรด เทรดเดอร์ใหม่ๆ มักจะทำตามเทรดเดอร์ที่ตนเองศึกษา แท้จริงแล้ว เทรดเดอร์แต่ละคนอ้างอิงปัจจัยและกลยุทธ์คล้ายคลึงกัน

แต่เทรดเดอร์แต่ละคนจะมีวิธีใช้มันในลักษณะที่ต่างกันออกไปการทำตามคนอื่นก็เหมือนการดู Peter Schumacher ขับรถบนทีวีและคิดเอาเองว่าคุณจะสามารถขับได้เหมือนเขา ทั้งที่จริงแล้ว คุณต้องสั่งสมทักษะการเข้าโค้ง ความชำนาญที่จะเร่งเครื่องและผ่อนเกียร์ในจังหวะที่เหมาะสม

รวมถึงทำความเข้าใจเกี่ยวกับคอนเซ็ปต์และทำให้มันกลายเป็นของคุณเอง เพราะท้ายที่สุดแล้ว ลักษณะการเทรดของคุณก็จะสะท้อนความเป็นตัวคุณนั่นเอง

#471
•   ผลสำรวจในต่างประเทศชี้ว่า คนมีความคุ้นเคยกับเงินดิจิทัลมากขึ้น ขณะที่กลุ่มคนรุ่นใหม่สนใจสินทรัพย์ประเภทใหม่นี้มากที่สุด
•   อย่างไรก็ตาม สัดส่วนคนที่ลงทุนจริงยังไม่มาก และเมื่อย้อนมองมาที่ไทย สิ่งสำคัญที่สุด ยังคงเป็นความรู้ความเข้าใจก่อนที่ปันความมั่นคั่งไปลงทุน

ในโลกการเงินที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เราจะพบว่ามีนวัตกรรมทางการเงินใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลา ซึ่งนอกจากจะขับเคลื่อนจากฝั่งผู้คิดค้นที่อาศัยพลังของเทคโนโลยีแล้ว ก็ยังมาจากฝั่งอุปสงค์หรือผู้ใช้/ผู้ถือผลผลิตของเทคโนโลยีเหล่านั้นด้วย โดยหนึ่งในกลุ่มผู้ใช้บริการที่สำคัญที่สุดคงหนีไม่พ้นกลุ่มคนรุ่นใหม่

ผลสำรวจประชากรสหรัฐฯ จำนวนกว่า 2,000 คนในปี 2019 โดย Blockchain Capital Survey ชี้ว่าผู้ตอบแบบสอบถามในสหรัฐฯ มีการรับรู้และสนใจความเป็นไปของบิทคอยน์เพิ่มขึ้นจากการสำรวจในปี 2017 ทั้งในมิติของความตระหนักรู้ (Awareness) ที่วัดจากการเคยได้ยินข่าวสารเกี่ยวกับ Bitcoin  ความรู้สึกคุ้นชิน (Familiarity) แนวโน้มที่จะลงทุนในบิทคอยน์ภายในอีก 5 ปีข้างหน้า (Propensity to Purchase)

แน่นอนว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีช่วงอายุประมาณ 18-34 มีความสนใจและลงทุนในบิทคอยน์มากกว่าช่วงอายุอื่นๆ โดยมี 18% ที่ลงทุนในบิทคอยน์ ขณะที่สัดส่วนดังกล่าว จะลดลงเมื่ออายุเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนการตีความในอีกด้านหนึ่งเช่นกัน นั่นคือ แม้จะมีคนเคยได้ยินและบริโภคข่าวสารเกี่ยวกับเงินสกุลดิจิทัลค่อนข้างมาก แต่การลงทุนจริง...กลับมีไม่มากโดยผู้ถือครองหรือลงทุนจริง (Ownership Rate) มีประมาณ 9% ของผู้ตอบทั้งหมดเท่านั้น

เมื่อย้อนมองกลับมาในไทย แม้จะยังไม่ปรากฎข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือว่าความสนใจและการลงทุนจริงในสินทรัพย์ดิจิทัลมีมากน้อยเพียงใดในแต่ละช่วงอายุ แต่ทักษะความรู้ทางการเงินและด้านดิจิทัล (Financial and Digital Literacy) ของไทย ยังห่างจากชาติตะวันตกค่อนข้างมาก โดยผลการประเมินของ OECD1  ในปี 2020 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีคะแนนความรู้ด้านการเงินที่ 56/100 เทียบกับค่าเฉลี่ยของ 26 ประเทศที่ทำการสำรวจที่ 62.8/100

ดังนั้น จึงมีคำถามถึงการลงทุนอย่าง 'เข้าใจ' และ 'รู้ทัน' ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องของสินทรัพย์ดิจิทัลใหม่ๆ ทั้งที่เกิดขึ้นแล้วและที่จะตามมาในอนาคต โดยแม้เงินดิจิทัลจะได้รับความสนใจมากขึ้นในกลุ่มคนรุ่นใหม่ของไทย และราคาของเงินดิจิทัลเอกชนสกุลดังๆ จะถีบตัวสูงขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งทำให้ได้รับการยอมรับมากขึ้นในแง่ของการเป็นทางเลือกของการกระจายการลงทุน

ทว่าทราบหรือไม่ว่า...ยังมีข้อสังเกตุในอีกด้านหนึ่งที่ควรตระหนักควบคู่กันไปด้วย
•   เงินดิจิทัล...มีหลายประเภทในปัจจุบัน ขณะที่ เงินดิจิทัลที่พัฒนาโดยเอกชน ยัง 'ไม่' สามารถใช้ชำระเงินได้ตามกฎหมายไม่ว่าจะในไทยหรือในต่างประเทศ  นอกจากนี้ ตามกฎหมายไทยนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้มีสิทธิในการออกเงินสกุลบาทแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น และการนำเงินดิจิทัลมาใช้ซื้อของกับร้านค้าที่เริ่มมีการยอมรับเงินสกุลดิจิทัลบางสกุลนั้น ผู้ซื้อและผู้ขายต้องรับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องเอง
•   เงินดิจิทัล...มีความผันผวนของราคาและมูลค่าสูง จึงทำให้ยังไม่ตอบโจทย์ในการรักษามูลค่า หรือแลกเปลี่ยนเป็นสินค้าและบริการในโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างแพร่หลาย โดยตั้งแต่ปี 2562 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ราคาทองคำผันผวนเฉลี่ย 15.3% หุ้น MSCI World ผันผวน 17% ขณะที่ เงินดิจิทัลอย่างเช่น Bitcoin ผันผวนเฉลี่ยถึง 74.7% จากผลตอบแทนเฉลี่ยของสินทรัพย์แต่ละประเภทในช่วงระยะเวลาดังกล่าว

•   เงินดิจิทัล...ยังมีความเสี่ยงจากปัญหาความน่าเชื่อถือของผู้ออกและความเสถียรของระบบที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย รวมถึงโอกาสการถูก Hack
•   เงินดิจิทัล...ถูกทางการมองว่านำไปใช้ในการทำธุรกรรมการเงินที่ผิดกฎหมาย จึงยังถูกเพ่งเล็งในหลายประเทศ

นั่นหมายความว่า หากสนใจกระจายการลงทุน ก็ควรศึกษาตั้งแต่ประเภทของสินทรัพย์ดิจิทัล ระบบนิเวศที่เกี่ยวข้อง อาทิ ความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มซื้อขาย ผู้รับฝากหลักทรัพย์ (Custody) ผู้ที่ดูแลเรื่องการโอนเงิน/ชำระเงิน รวมถึงเทคโนโลยีที่ใช้ เป็นต้น เพื่อให้มั่นใจว่าเงินลงทุนในสินทรัพย์ใหม่ๆ เหล่านี้ จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่คาดหวัง ภายใต้ความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนรับได้อย่างแท้จริง เพราะจะต้องเป็นผู้รับความเสี่ยงทั้งหมดเอง โดยเฉพาะหากซื้อขายหรือลงทุนในแพล็ตฟอร์มต่างประเทศที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของทางการไทย

อย่างไรก็ตาม นวัตกรรมทางการเงินยุคดิจิทัลไม่ได้น่าสะพรึงทั้งหมดเสมอไป และไม่ได้ดึงดูดเฉพาะแง่ของผลตอบแทนจากการเก็งกำไร เพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่ใช้รองรับการแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัล อาทิ Blockchain และคุณสมบัติของการเป็น Smart Contract (ที่สามารถเรียงกิจกรรมตามลำดับก่อนหลัง ทดแทนกระบวนการการทำธุรกรรม การอนุมัติ การตรวจสอบต่างๆ ที่ยาวเหยียดในทางปฏิบัติบนโลกการเงินปกติ) ถูกนำมาต่อยอดของการพัฒนาไปอีกมากมาย กลายเป็นนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ อาทิ DeFi และ CeFi ที่มีประโยชน์ต่อผู้บริโภคผ่านรูปแบบบริการที่ระบบสถาบันการเงินเดิมไม่เคยทำได้มาก่อน หรือทำได้ แต่มีต้นทุนสูงกว่า หรือระยะเวลาตอบสนองช้ากว่า เช่น ในกรณีของ DeFi นั้น การเชื่อมระหว่างผู้ต้องการปล่อยกู้และผู้ต้องการกู้ยืมได้โดยตรง การค้าหลักทรัพย์ระหว่างผู้ลงทุนโดยตรง การแปลงหลักทรัพย์มาเป็น Token การลงทุน บนโลกที่ไม่มีพรมแดนและไม่มีกติกามากมายมาเกี่ยวข้อง อีกทั้ง สามารถตรวจสอบได้จากการที่ทุกคนที่เกี่ยวข้องในระบบจะเห็นกิจกรรมในระบบ โดยราคาหรือต้นทุนของการทำธุรกรรมจะถูกปรับอัตโนมัติตามภาวะอุปสงค์และอุปทานในตลาด ซึ่งแปรผันตาม Parameters ที่ถูกโปรแกรมเข้าไป เป็นต้น
#472
กฎการเทรด Forex ที่คุณจะไม่ทําตามไม่ได้สําหรับ Forex หลายๆคนอาจจะเคยรู้ได้ยินคําๆนี้มา แต่อาจจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร? จริงๆแล้ว Forex ก็คือ ตลาดการลงทุนชนิดหนึ่ง โดยที่ภายในตลาด Forex จะเป็นการลงทุนในรูปแบบซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินตราชนิดต่างๆไม่ว่าจะเป็น USD EUR เป็นต้น และนอกจากสกุลเงินเหล่านี้แล้วก็ยังมีทั้งโลหะมีค่าอย่างเช่นทองคํา ซึ่งถือว่าตลาด Forex แห่งนี้มีสภาพคล่องตัวเป็นอย่างมาก ในแต่ละวันมีผู้คนนับแสนๆ ไปลงทุนในตลาด Forex แห่งนี้นั่นเอง และ Forex ก็ถือได้ว่าเป็นตลาดการลงทุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย ซึ่งต้อง บอกเลยว่ากําไรจากการเทรด Forex นั้นค่อนข้างสูงทีเดียว หลายต่อหลายคนก็พยายามที่จะ เข้าไปทํากําไรจากตลาด Forex แห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย แต่ช้าก่อน! จริงๆแล้วตลาด Forex แห่งนี้ มีความน่ากลัวซ่อนอยู่ เพราะตลาด Forex เป็นตลาดการลงทุนที่มีความผันผวนที่สุดในโลก ถ้า หากว่าคุณเทรด Forex แบบสุ่มสี่สุ่มห้า รับรองเลยว่าขาดทุนหมดพอร์ตได้อย่างแน่นอน ซึ่งใน บทความนี้เราจะมาพูดคุยเกี่ยวกับกฎการเทรด Forex ที่จะช่วยทําให้คุณอยู่รอดบนตลาดแห่งนี้ ซึ่งมีด้วยกัน 5 ข้อดังนี้

1. ห้ามหยุดเรียนรู้
กฎข้อแรกของการเทรด Forex ที่เราจะมาทําความเข้าใจกันในครั้งนี้ก็คือเรื่องของการเรียนรู้สิ่ง ต้องห้ามในการเทรด Forex ที่คุณไม่ควรทําถ้าหากอยากจะเทรด Forex ให้ได้กําไรนั่นก็คือ ห้าม หยุดเรียนรู้ เพราะใน Forex นอกจากเงินจะเป็นทุนที่สําคัญแล้ว ความรู้ก็เป็นทุนที่สําคัญเช่น เดียวกัน หากใครมีความรู้เยอะกว่าก็สามารถทํากําไรจากการเทรดได้มากกว่าและง่ายกว่านั่นเอง

2. ห้ามลืม Money Management
กฎข้อสองของการเทรด Forex ก็คือเรื่องราวของ Money Management ต้องอธิบายก่อนว่า Money management ในทาง Forex แล้วก็คือการบริหารจัดการกับเงินทุน ถ้าหากว่าคุณ สามารถจัดสรรเงินทุนของคุณได้อย่างมีระบบแบบแผน การเทรดของคุณก็จะราบรื่น เช่น คํานวณวางแผนว่าจะเปิดล็อตเท่าไหร่ ทํากําไรก็จุด ยอมขาดทุนก็จุด เป็นต้น ถ้าหากว่าคุณทําได้ เช่นนี้การทํากําไรก็จะเป็นเรื่องง่ายขึ้นนั่นเอง ดังนั้นถ้าหากว่าคุณอยากได้กําไรจากการเทรดล่ะก็ อย่าลืม Money Management เด็ดขาด

3. ห้ามเทรดแบบโอเวอร์
กฏข้อสามของการเทรด Forex ที่หลายๆคนอาจจะไม่ค่อยสามารถทําได้ก็คือ การเทรดแบบ โอเวอร์เทรด ซึ่งในจํานวนมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของนักลงทุน Forex ล้วนแล้วแต่เคยเทรดแบบ โอเวอร์เทรด ซึ่งการที่คุณเทรดด้วยวิธีการเช่นนั้น มันจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงหรือผลักภาระให้ กับพอร์ตของคุณและตัวคุณ เพราะว่าการโอเวอร์เทรดนั้นจะเป็นการเปิดล็อตด้วยจํานวนที่เยอะ กว่าทุนของคุณจะรับไหว ถ้าหากว่าเกิงกราฟกระชากหรือผันผวนทันใด มีหวังพอร์ตของคุณเจ๊ง แน่นอน ดังนั้นถ้าหากว่าคุณอยากได้กําไรจากการเทรดก็อย่าโอเวอร์เทรดล่ะ

4. อย่าเทรดแบบกล้าได้กล้าเสีย
กฏข้อสี่ของการเทรด Forex ก็คือ อย่าเทรดแบบกล้าได้กล้าเสีย เพราะการเทรดแบบกล้าได้กล้า เสีย มันไม่ต่างอะไรกับการพนัน ยิ่งคุณเทรดแบบนั้น ยิ่งจะเพิ่มความเสี่ยงให้การเทรดอีกในการ เทรด Forex จําเป็นต้องใช้หลากหลายปัจจัยเพื่อทํากําไรถ้าหากว่าคุณคิดจะทํากําไรด้วยวิธีการก ล้าได้กล้าเสีย คุณคิดผิดแล้ว!


5. วิเคราะห์กราฟให้แน่แล้วค่อยเทรด
กฏข้อสุดท้ายที่เราจะมาเรียนรู้สําหรับการเทรด Forex ก็คือ การวิเคราะห์กราฟ ถ้าหากว่าคุณ อยากจะได้กําไรในการเทรด Forex สิ่งที่ต้องทําคือการวิเคราะห์กราฟถึงความเป็นไปได้เสียก่อน แล้วจึงเทรด ถ้าหากว่าคุณยังวิเคราะห์อยู่แล้วไม่ชัวร์ อย่าใจร้อนเทรดเด็ดขาด เพราะว่ามันจะ ทําให้คุณขาดทุนได้ง่ายๆ



#473
risk- การเทรด Forex(ฟอเร็กซ์)
เอาง่ายๆ นิยามของความเสี่ยงการเทรด Forex(ฟอเร็กซ์)คือ ความเสี่ยงของราคาเคลื่อนไหวผิดจากที่คุญคาด ดังนั้นความเป็นไปได้ของการสูญเสียทางเศรษฐกิจ ยกตัวอย่างมาดูนะคะนาย ก. ซื้อหุ้นบริษัทหนึ่ง ราคา 20 บาท เขาคิดว่า ราคาจะแกว่งตัวลงจนถึง 15 บาท แต่ปรากฏว่าราคาขึ้นไปที่ 25 บาท นั่นหมายความว่ามีความเสี่ยงเท่ากับ 10 บาท จาก 15 บาทไปยัง 25 บาท ความเสี่ยงมันคือเหตุกการณ์ที่ผิดจากที่เราคาดไว้

หลังจากทำความเข้าใจความเสี่ยงการเทรด Forex(ฟอเร็กซ์)แล้ว เรามาดูประเภทของความเสี่ยงที่เราจะพบบ่อยในกระบวนการเทรด Forex(ฟอเร็กซ์)

1.ความเสี่ยงด้านการเทรด
มือใหม่มักจะไม่รู้วิธีเลือกแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือเมื่อทำการเทรด Forex(ฟอเร็กซ์) แม้ว่าจะมีแพลตฟอร์มที่ดีอยู่แล้วในประเทศไทย แต่ฉันเชื่อว่าหลายคนยังชอบเลือกแพลตฟอร์มต่างประเทศในการเทรด Forex(ฟอเร็กซ์) แพลตฟอร์มเหล่านี้มีค่าธรรมเนียมสองฝ่ายหรือไม่?

สิ่งที่ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษอีกประการหนึ่งก็คือ แหล่งข้อมูลบนแพลตฟอร์มการเทรดมีความน่าเชื่อถือหรือไม่ เนื่องจากผู้ค้าต้องดำเนินการตามข้อมูลนี้ค่ะ ถ้าข้อมูลเป็นเท็จอาจก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมากกับคุณ

2.ความเสี่ยงด้านการใช้เลเวอเรจ
การใช้เลเวอเรจการลงทุนให้ดีขึ้นสามารถเพิ่มความสามารถในการทำกำไรได้ แต่ถ้าคุณไม่ได้เข้าใจว่ากำลังทำอะไรอยู่ก็จะทำให้คุณเจออัตราความเสี่ยงที่สูงขึ้น เลเวอเรจยิ่งสูงเท่าไหร่ ความเสี่ยงก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น และแน่นอนว่าผลกำไรก็จะมากขึ้น เลเวอเรจที่สูงเป็น "ดาบสองคม" สำหรับการลงทุนใน Forex(ฟอเร็กซ์) ซึ่งสามารถกระตุ้นผลกำไรในระยะสั้นได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็สามารถทำให้คุณดิ่งลงได้เช่นกัน

3.ความเสี่ยงด้านการเมือง
การเทรด Forex(ฟอเร็กซ์)ได้รับผลกระทบอย่างมากจากนโยบายต่างๆ เมื่อสหราชอาณาจักรประกาศ Brexitเบร็กซิต เงินปอนด์ของอังกฤษก็ดิ่งลง แต่คุณจะไม่คาดคิดว่าเงินปอนด์ของอังกฤษจะเพิ่มขึ้น 10,000 จุดในชั่วข้ามคืนเมื่อมีการประกาศ Brexit อย่างเป็นทางการ

ดังนั้นเทรดเดอร์ควรให้ความสำคัญกับการเมืองเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเมื่อทำการเทรด Forex(ฟอเร็กซ์)
#474
พื้นฐาน Forex / จิตวิทยาการเทรด Forex(ฟอเร็กซ์)
มีนาคม 17, 2022, 03:32:30 หลังเที่ยง
ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่า ผู้คนมีคำถามมากมายเกี่ยวกับการเทรด Forex(ฟอเร็กซ์)อยู่ในใจ ที่นี่เราได้แสดงรายการจิตวิทยาการเทรด Forex(ฟอเร็กซ์)บางส่วนที่มือใหม่และแม้แต่มือเก่าส่วนใหญ่จะมีมาดูกันว่าคุณมีข้อใดบ้าง

1.การเทรดแบบสุ่มสี่สุ่มห้า
เทรดเดอร์เริ่มการเทรดทันทีหลังจากสมัครบัญชี Forex(ฟอเร็กซ์)และไม่ใช้กลยุทธ์และอนุญาตให้อารมณ์ตัดสินใจในการทำการเทรด วิธีการเทรด Forex(ฟอเร็กซ์)แบบนี้จะทำให้เกิดความสูญเสียอย่างแน่นอน เทรดเดอร์ต้องมีกลยุทธ์การเทรดที่สมเหตุสมผลและไม่ตัดสินใจการเทรดเนื่องจากความหลงใหลชั่วคราว

2.ความโลภ
เทรดเดอร์บางคนใฝ่ฝันที่จะทำเงินจากการเทรด Forex(ฟอเร็กซ์) แต่พากเขาเพิกเฉยความเสี่ยงและความสำคัญของการจัดการกองทุน  บางคนอยากหารายได้มากขึ้นหลังจากได้รับกำไรและหากเสียเงินก็ยังอยากจะเทรดต่อแม้แต่ยืมเงินจากผู้อื่น

3.โฟกัสที่หน้าจอมากเกินไป
เทรดเดอร์บางคนโฟกัสที่หน้าจอมากเกินไปหลังจากซื้อ Forex(ฟอเร็กซ์) และเมื่อตลาดมีความผันผวนเล็กน้อย อารมณ์ของพวกเขาเริ่มไม่สามารถควบคุมเองได้ ทำให้สร้างแรงกดดันอย่างมากต่อการลงทุน
#475
เมื่อใดก็ตามที่เราได้ยินคำว่า forex ผู้เขียนเชื่อเหลือเกินว่าหลายคนต้องการกระโดดเข้าไปในตลาดดังกล่าว เนื่องจากว่ามีผู้ที่เขียนบทความ หรือคลิปที่จูงใจให้เรานั้นอยากเทรด forex เป็นจำนวนมาก โดยปริมาณที่มากนั้นปราศจากคำเตือนที่เหมาะสม ส่งผลให้หลายคนตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่ อาทิ แชร์แม่มณี หรือแม้กระทั่งล่าสุดเลยคือ Forex-3D ดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว บทความนี้ผู้เขียนอยากขอเตือนผู้ที่สนใจเทรด forex ว่าพึงระวัง 5 ข้อต่อไปนี้เสมอ ๆ ประกอบไปด้วย

1.เข้าใจคำว่า forex อย่างแท้จริงก่อน

การเทรด forex คือการเทรดค่าเงิน ซึ่งมีความผันผวนสูงโดยปกตินั้นจะเปิดให้แต่เฉพาะธนาคารเท่านั้นที่สามารถเทรด forex ได้ แต่เนื่องจากว่ามีกลุ่มคนที่เห็นประโยชน์ ว่าคนทั่วไปสามารถเทรด forex ได้เหมือนกัน จึงมีการออกแบบและใช้ช่องทางในทางกฎหมาย ทำการเทรด forex หรือเปิดโบรกเกอร์เทรด forex ซึ่งมีทั้งโบรกเกอร์เถื่อน และโบรกเกอร์ forex แท้ ดังนั้นผู้เทรดต้องเลือกหาให้ดีก่อนเทรด

2.การเทรด forex ในประเทศไทยยังไม่ถูกกฎหมาย

ความจริงประการต่อมาคือ forex ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เทรดในประเทศไทยนะครับ ดังนั้นคนที่จะเทรด forex ได้จะต้องเทรดผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศเท่านั้น อาทิเช่น XM หรือ FBS เป็นต้น ดังนั้นหากคุณถูกโกง คุณจะไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายในประเทศไทย

3.โอกาสชนะมีเพียง 21% เท่านั้น

จากผลการศึกษาของบริษัท iq option (2018) พบว่าผู้ทีเทรด forex และประสบความสำเร็จนั้นมีเพียงร้อยละ 21 เท่านั้น ดังนั้นถ้าคุณไม่ศึกษาหรือทำความเข้าใจถึงตลาด forex ให้ดีแล้ว คุณมีโอกาสที่จะกลายเป็นผู้แพ้ในตลาดแห่งนี้สูงมาก ๆ ครับ ดังนั้นคิดให้ดีก่อนที่คุณนั้นจะเข้ามาสู่ตลาดแห่งนี้

4.ต้องการกำไร ต้องใช้เวลาศึกษา

หากคุณต้องการประสบความสำเร็จในตลาด forex อย่างจริงจัง คุณต้องแลกมากับการศึกษาในตลาดแห่งนี้อย่างจริงจังเท่านั้น จึงจะสามารถทำเงินได้ ส่วนใหญ่แล้วคนที่เทรดแล้วประสบความสำเร็จ คือสามารถยืนได้ มีอย่างน้อย ราว ๆ 3-6 เดือน และเทรดต่อเนื่องทุกวัน แบบนี้จึงจะเรียกว่าสำเร็จจริง

5.ไม่มีคำว่ารวยลัดใน forex

สุดท้ายเป็นข้อเตือนใจว่า forex ไม่ใช่เส้นทางสำหรับการรวยทางลัด ทุกคนต้องทำงานหนักจึงจะประสบความสำเร็จ แน่นอนว่าไม่เว้นแม้กระทั่งคุณเช่นเดียวกัน ดังนั้นเมื่อคิดจะประสบความสำเร็จสายนี้ก็ต้องทุ่มเทอย่างจริงจัง เลือกโบรกเกอร์ที่ดีที่สุด และลงมือทดลองเทรดจนมั่นใจแล้วค่อยขึ้นตลาดจริง น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด

#476
น้ำเต้าปูปลา ป๊อกเด้ง หรือ หวย? Forex จัดอยู่ในกลุ่มไหน?

"เวลาเทรด Forex เค้าว่าไม่เหมือนหุ้น เพราะเทรด Forex มีได้มีเสีย และเงินหมดไวมาก แบบนี้การเทรด Forex เป็นการพนันรึเปล่า? "

ประการแรกเลย... Forex เป็นการพนันมั้ย?

ขอตอบเลยค่ะว่า "ไม่ใช่"

Forex คือ การเทรดอัตราแลกเปลี่ยน หรือสกุลเงินอย่างที่เราทราบกัน เช่น EURUSD เราเทรดการเปลี่ยนแปลงในวันของสกุลเงิน สมมติเราซื้อ EURUSD มาที่ 1.45000 แล้วถือไว้สัก 2 วันจนขึ้นไปที่ 1.45500 ไปขายเอาตอนนั้น เราก็กำไร หลักการง่ายๆ เหมือนขายของซื้อต้นทุนต่ำ ขายออกราคาสูงแบบนี้

อีกตัวอย่างหนึ่ง คือ สมมติ เราเดินทางไปเที่ยวที่อเมริกา วันนี้เราแลกเงินไว้ที่ 31 บาท พอเราไปเที่ยวกลับมา ค่าเงินขึ้นไปเป็น 32 บาท เราก็เอาเงิน USD ที่เรามีไปแลกคืนเป็นไทยบาท และได้กำไรมา 1 บาท อะไรประมาณนี้ นี่คือหลักการของ Forex

แต่ครั้นจะเทรด Forex ด้วยการเดินไปธนาคาร เดินไปเดินมาหลายๆ รอบ มันก็กระไรอยู่

ทางโบรกเกอร์ก็เลยทำแพลตฟอร์มที่ใช้ในการเทรดขึ้นมา แบบที่เราไม่ต้องเดินไปเดินมาหรือหยิบจับเงินจริงๆ เราก็สามารถเคาะๆๆ เทรดในตลาดได้เลย เหมือนในตลาดหุ้นนั่นแหละ

"เวลาเทรด Forex เค้าว่าไม่เหมือนหุ้น เพราะเทรด Forex มีได้มีเสีย"

ถ้าใครเคยเทรดหุ้น คงเคยได้ยินคำว่า "ไม่ขาย ไม่ขาดทุน" (แต่อาจติดดอย) เพราะว่าหุ้นเองมีลักษณะเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าในตัว และเทรดบนเงินจริงของเรา ไม่ใช่เลเวอเรจหรือยืมเงินจากทางโบรกเกอร์มาเทรด ดังนั้นถึงแม้ว่าเราจะถือหุ้นไว้จนขาดทุนติดลบ 99% แต่เราไม่ขาด มูลค่าหุ้นก็จะอยู่ตรงนั้น ไม่โดนบังคับปิดออเดอร์

แต่! ในตลาด Forex จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป คือ เราจะเทรด Forex โดยใช้เลเวอเรจ หรือยืมเงินบางส่วนมาจากโบรกเกอร์ เพราะการซื้อ Forex จริงๆ มันต้องใช้เงินถึง 100,000USD! เราเลยมีสิ่งที่เรียกว่าเลเวอเรจมาเป็นตัวเพิ่มมูลค่าเงินที่เรามี เช่น เลเวอเรจ 1:1000 จะทำให้เราใช้เงินเพียง 100 USD ก็สามารถเทรดได้ ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ถ้าเราติดออเดอร์ใดนานๆ แล้วถึงจุดที่เงินไม่เหลือ เราจะถูกบังคับปิดออเดอร์ทันที

คุณลักษณะบางประการของตลาด Forex ที่ผันผวนรุนแรง เข้าออเดอร์ไว ออกออเดอร์ไว อาจทำให้คนเข้าใจผิด คิดว่าตลาดนี้คือการพนัน หรือ ปั่นแปะ แต่ถ้าเราศึกษาตลาดนี้จริงๆ เราจะค้นพบว่า มันก็คือการซื้อขายค่าเงินกันตามปกติ ไม่ได้ผิดกฎหมายอะไร ไม่ต้องหนีคุณตำรวจ และในต่างประเทศเราได้เห็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จจากตลาดนี้เยอะแยะ
#477
เมื่อโลกเรามีทรัพายากรจำกัด เราจึงจำเป็นที่จะต้องบริหารทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทำให้เมื่อเราเลือกทำอะไรสักอย่างหนึ่ง เราจะเสียโอกาสที่ไม่ได้ทำอีกอย่างหนึ่งง หรือในทางเศรษฐศาสตร์เราจะเรียกว่า  "ต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost)"ซึ่งในบางตำราอาจะเรียกว่าต้นทุนในการเลือก

                     "ต้นทุนค่าเสียโอกาส = มูลค่าทางเลือกที่สูงสุดที่เราไม่ได้เลือก"

เพื่อให้เห็นภาพของ"ต้นทุนค่าเสียโอกาส" ได้ชัดเจนขึ้น อย่างเช่นเมื่อเราเลือกที่จะใช้เวลาในการออกไปเที่ยวกับแฟน เราจะเสียโอกาสไปเที่ยวกับพื่อนได้ ต้นทุนค่าเสียโอกาสในกรณีนี้คือ การออกไปเที่ยวกับเพื่อน หรือถ้าเราเลือกที่จะเอาเงินไปลงทุนทำธุรกิจ เราก็จะเสียโอกาสที่จะนำเงินไปลงทุนในหุ้น ต้นทุนค่าเสียโอกาสกรณีนี้ก็คือ ผลตอบแทนที่เราคาดว่าจะได้รับหากเรานำเงินไปลงทุนในหุ้น

หรือถ้าเรามีเวลาว่างอยู่ 3 ชั่วโมง ถ้า 3 ชั่วโมงนั้น เราเอาเวลาไปสอนพิเศษเราจได้เงิน 1,000 บาท แต่ถ้าเอาเวลาไปเล่นดนตรีตามร้านอาหารเราจะได้รับ 600 บาท หรือถ้าเอาเวลาไปเป็นผู้ช่วยอาจารย์ในการตรวจงานะได้รับเงิน 300 บาท ถ้าเราเลือกไปสอนพิเศษเราะมีต้นค่าเสียโอกาสเท่ากับ 600 บาท ถ้าเราเลือกไปเล่นดนตรีตามร้านอาหารเราจะมีต้นทุนค่าเสียโอกาสเท่ากับ 1,000 บาท

ประโยชน์ของต้นทุนค่าเสียโอกาส จะช่วยทำให้เรารู้จักการประเมิณทางเลือกว่า ณ เวลาหนึ่งๆ เราควรเลือกที่จะทำหรือไม่ทำอะไร เพื่อที่จะได้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่ง "ต้นทุนค่าเสียโอกาส" มีความแตกต่างากต้นทุนทางบัญชี ต้นทุนค่าเสียโอกาสจะมองไปถึงต้นทุนแฝงที่มองไม่เห็น แต่ต้องบอกว่าการคำนวณต้นทุนค่าเสียโอกาสในทางปฏิบัติทำได้ค่อนข้างยาก เพราะจำเป็นต้องคาดคะเนจากเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง
#478
การเทรด Forex สามารถเข้าถึงได้ น่าตื่นเต้น มีความรู้ และนำเสนอโอกาสมากมายให้กับนักเทรด ถึงแม้สิ่งเหล่านี้ฟังดูน่าสนใจ แต่นักเทรดในตลาดจำนวนมากล้มเหลวจากผลลัพธ์การเทรด จริงๆ แล้วมีเปอร์เซ็นต์ของนักเทรด Forex จำนวนมากที่กำลังสูญเสียเงิน โดยทั่วไปการศึกษาเรื่องเทรด Forex และการเรียนรู้วิธีเทรดอาจเป็นเรื่องยาก

บทความนี้จะสอนคุณเกี่ยวกับวิธีกลายเป็นนักเทรด Forex ที่ประสบความสำเร็จ และวิธีเทรดบนตลาดออนไลน์ นอกจากนี้จะมีตัวอย่างการเทรดที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่ ขณะที่คุณกำลังอ่านบทความนี้ คุณได้ก้าวเข้าสู่เส้นทางของการกลายเป็นนักเทรด Forex ที่ประสบความสำเร็จ ด้านล่างจะมีวิธีปฏิบัติสำหรับทั้งนักเทรดมือใหม่และมืออาชีพ

กำหนดเป้าหมาย

สิ่งแรกที่ต้องทำสำหรับการเทรด Forex คือทำความเข้าใจว่าเป้าหมายของคุณคืออะไร

เมื่อรู้สิ่งที่ต้องการแล้ว คุณต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง อ้างอิงตามความเป็นจริง และวางเป้าหมายเชิงปริมาณ ยกตัวอย่างเช่น ผลตอบแทนต่อปี 20%, ทำกำไร 5,000 USD , ได้รับ 100 pip ต่อเดือนหรือบางอย่างที่คล้ายกัน ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจอย่างไร เป้าหมายของคุณต้องวัดผลได้ง่าย อีกสิ่งที่สำคัญคือการกำหนดเป้าหมายที่สามารถบรรลุได้บนกรอบเวลาระยะยาว แนะนำให้กำหนดเป้าหมายประจำปีแทนเป้าหมายประจำเดือน

เมื่อคุณกำหนดเป้าหมายการเทรดหลักประจำปีแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่จะเริ่มเรียนรู้วิธีการเพื่อทำให้สำเร็จ วิธีที่ดีที่สุดคือมองหาว่ามีทรัพยากรใดบ้างสำหรับคุณ สิ่งนี้รวมถึงปริมาณของเงินฝากและเวลาที่คุณต้องการใช้ในการเทรด เมื่อคุณมีมุมมองที่ชัดเจนมากขึ้น ให้ทำตามขั้นตอนต่อไป

เมื่อรู้แล้วว่าคุณต้องการอะไรและจะลงทุนอะไรบ้างก็ได้เวลาวางแผน การวางแผนนี้ควรรวมถึงคู่สกุลเงินที่จะทำการเทรดและปริมาณเทรดที่คุณต้องการ สิ่งนี้เป็นเรื่องยากหากไม่มีกลยุทธ์ที่เหมาะสม ดังนั้นคุณต้องวางแผนล่วงหน้า และทำตามขั้นตอนต่อไป

ความสำคัญของการศึกษา Forex

ตลาด Forex เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น นักเทรดต้องเข้าใจขาขึ้นและขาลงของตลาด ไม่มีสูตรสำเร็จหรือกฎที่จะรับประกันความสำเร็จในการเทรด Forex แต่เป็นการรวมหลายสิ่งเข้าด้วยกัน หากต้องการประสบความสำเร็จในตลาดนี้ นักเทรดต้องอดทน ฝึกฝนทักษะ และเทรดอย่างระมัดระวัง

คุณจะสามารถพูดคุยเกี่ยวกับอัตราราคา กราฟ และการเทรด เมื่อคุณเริ่มมีความรู้เกี่ยวกับการเทรด Forex เบื้องต้น ตลาดฟอเร็กซ์อาจเป็นสิ่งล่อใจจนทำให้คุณมองข้ามการเรียนรู้ แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งคุณต้องถอยกลับ ใช้เวลาเพื่อศึกษา และสร้างความก้าวหน้าอย่างสมเหตุสมผล คุณต้องประเมินผลลัพธ์การเทรดเป็นระยะ ทำความเข้าใจกับเหตุผลที่คุณทำเงินได้และสูญเสียเงิน มาดูกันว่าทำไมคุณควรเรียนรู้วิธีการเทรด Forex ที่ถูกต้อง

วิธีเทรด Forex ใน 7 ขั้นตอนง่ายๆ

ขั้นที่ 1: อย่าผัดวันประกันพรุ่ง

นี่คือขั้นตอนสำคัญในการเป็นนักเทรด Forex คนที่ประสบความสำเร็จไม่เคยรอวันพรุ่งนี้เพื่อทำสิ่งที่สามารถทำวันนี้ได้ เรื่องนี้สำคัญอย่างยิ่งเมื่อทำการเทรด Forex คุณต้องคว้าทุกโอกาสเพื่อบรรลุเป้าหมายการเทรดของคุณ นี่คือเหุผลที่คุณต้องปรับปรุงนิสัยเพื่อหลีกเลี่ยงการผัดวันประกันพรุ่ง วิธีที่ดีที่สุดคืออย่าปล่อยให้โอกาสหลุดมือ

ขั้นที่ 2: ฝึกฝน

มีประโยคความหมายดีๆ ที่คุณอาจเคยได้ยิน – "การฝึกฝนเป็นเส้นทางสู่ความสำเร็จ" บัญชีทดลองช่วยให้คุณสามารถฝึกฝนการเทรดได้โดยไม่มีความเสี่ยง แทนที่รีบเข้าสู่ตลาดจริง และทำให้เงินของคุณตกอยู่ในความเสี่ยง คุณสามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงได้ และฝึกฝนจนกว่าคุณจะพร้อมใช้งานบัญชี Forex จริง บัญชีทดลองยังเป็นประโยชน์เมื่อคุณต้องการทดสอบกับแพลตฟอร์มการเทรด (MetaTrader 4) และทำความคุ้นเคยกับคุณสมบัติต่างๆ

ขั้นที่ 3: การรับรู้

หากต้องการทำกำไรได้สูงสุด คุณต้องรู้จักการจัดการความเสี่ยง สำหรับเรื่องนี้คุณต้องรู้จักตัวเอง ขั้นแรกของการรู้จักตัวเองคือกำหนดเงินลงทุนและการยอมรับความเสี่ยงในระดับที่เหมาะสม สรุปว่าคุณต้องสามารถวิเคราะห์จุดประสงค์และเป้าหมายของคุณได้ เพื่ดเทรดตามสิ่งเหล่านี้ นี่คือสิ่งสำคัญที่สุดเกี่ยวกับวิธีเทรด Forex สำหรับมือใหม่

ขั้นที่ 4: ลงทุนในระดับที่รับได้

หนึ่งในเคล็ดลับที่ดีที่สุดสำหรับนักเทรดมือใหม่คือเริ่มต้นด้วยจำนวนเงินเล็กน้อยและเพิ่มเงินในบัญชีด้วยกำไรเท่านั้น ไม่ใช่ด้วยการฝากเงินเพิ่ม คุณไม่ต้องลงทุนจำนวนมากเพื่อทำกำไร คุณสามารถเพิ่มเงินลงทุนของคุณได้ ไม่ว่าจะมีจำนวนน้อยเท่าไรก็ตาม การเริ่มต้นด้วยเงินไม่มากจะช่วยลดความเสี่ยงจากการสูญเสียจำนวนมากหากเทรดด้วยยอดเงินที่สูง สิ่งนี้เป็นส่วนสำคัญสำหรับการเข้าใจวิธีทำงานของตลาด Forex และวิธีเทรด Forex ให้ประสบความสำเร็จ

ขั้นที่ 5: เริ่มต้นด้วยคู่สกุลเงินเดียว

โลกการเทรดสกุลเงินมีความซับซ้อนเนื่องจากธรรมชาติของตลาดที่ไม่สามารถคาดเดาได้ รวมถึงลักษณะต่างๆ และความเหนียวแน่นของผู้เข้าร่วมตลาด การเป็นนักเทรดที่สมบูรณ์แบบในโลกทางการเงินทำได้ยาก ด้วยเหตุผลนี้จึงแนะนำให้เริ่มที่คู่สกุลเงินเดียวก่อน โดยเริ่มจากสกุลเงินที่คุณคุ้นเคยและสามารถอัปเดตข่าวสารได้ง่าย ควรเลือกสกุลเงินที่มีการเทรดอย่างกว้างขวาง สิ่งนี้จะทำให้คุณเรียนรู้การเทรด Forex ได้ง่ายขึ้น

ขั้นที่ 6: ควบคุมอารมณ์ของคุณ

หากคุณพบว่าตัวเองกำลังกังวลเกี่ยวกับตลาดและได้รับผลกระทบในการเทรด อย่าทำตามอารมณ์ของคุณ ความรู้สึกตกใจ ละโมบ หรือความตื่นเต้นจะทำให้เส้นทางการเทรด Forex ของคุณต้องพังทลาย แทนที่จะเป็นแบบนั้น การเทรดของคุณต้องคำนึงถึงหลักเหตุผลและอยู่บนพื้นฐานความจริง

นักเทรดทุกคนควรมีกลยุทธ์การเทรดที่กำหนดไว้ล่วงหน้า เพื่อปฏิบัติตามและเทรดตามกลยุทธ์ อย่าเปลี่ยนใจกลางคันตามอารมณ์ของคุณทันทีระหว่างเทรด คุณจะมีโอกาสตัดสินใจผิดพลาด ซึ่งสามารถทำให้คุณเสียเงินจำนวนมากได้ แม้ว่าเคล็ดลับนี้ไม่ใช่คำตอบโดยตรงเกี่ยวกับวิธีการเทรด Forex แต่มันสามารถช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่มีมูลค่ามหาศาลได้

ขั้นที่ 7: จดบันทึก

เราทุกคนต่างเรียนรู้จากความผิดพลาด และสิ่งนี้สามารถนำไปใช้กับการเทรด Forex ได้เป็นอย่างดี จดบันทึกความสำเร็จและความล้มเหลวของคุณ รวมทั้งข้อผิดพลาดสำคัญและขั้นตอนที่ใช้ เพื่อทำให้บรรลุกำไรที่คุณต้องการ นี่คือขั้นตอนสำคัญสำหรับการเรียนรู้วิธีประสบความสำเร็จในการเทรด Forex

ตอนนี้เราทราบข้อมูลพื้นฐานเรียบร้อยแล้ว ต่อไปมาดูกันที่ขั้นตอนที่จำเป็นหากคุณต้องการเป็นนักเทรด Forex มืออาชีพ

1: พัฒนากลยุทธ์การเทรด

การเป็นนักเทรด Forex ที่ประสบความสำเร็จ คุณต้องมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน หมายถึง คุณต้องมีความคิดเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของตลาดที่เป็นไปได้ และการดำเนินการที่สอดคล้อง การเทรดฟอเร็กซ์มีกลยุทธ์การเทรดมากมาย คุณอาจเลือกเทรดระยะสั้น เช่น วิธีเทรดสั้น (Scalping) หรือระยะยาว อีกเรื่องที่สำคัญคือการพัฒนากลยุทธ์ที่สะดวกต่อการใช้งาน การพัฒนากลยุทธ์ดังกล่าวคือขั้นตอนการลองผิดลองถูกที่ต้องใช้เวลาและความอดทน

คุณต้องเข้าใจว่าคุณกำลังทำอะไรและทำไมคุณถึงทำเช่นนั้น ในส่วนนี้ บัญชีทดลองจะเป็นเครื่องมือที่ประเมินค่าไม่ได้ เพราะช่วยให้คุณทดสอบกลยุทธ์ของคุณโดยที่ความเสี่ยงเป็นศูนย์ อย่าหมดกำลังใจว่าต้องใช้เวลามาก จงพยายามต่อไป และคุณจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

2: อย่าเทรดในบัญชีทดลองมากเกินไป

หลายคนต้องการเป็นนักเทรด Forex แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้ โดยทั่วไปนักเทรด Forex มืออาชีพคือคนที่สามารถเทรดเพื่อเลี้ยงชีพได้ วิธีเดียวที่คุณสามารถทำเงินได้คือการเทรดบนบัญชีจริง ด้วยเหตุผลนี้ สิ่งสำคัญคือการเปลี่ยนไปใช้บัญชีเทรดจริงให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ หากคุณกำลังจะใช้บัญชีทดลอง คุณต้องตั้งเป้าหมายว่าจะสลับไปใช้บัญชีเทรดจริง

หากคุณอยากรู้ว่าควรเปลี่ยนจากบัญชีทดลองเป็นบัญชีเทรดจริงเมื่อไร เรื่องนี้มีคำตอบ คุณต้องมั่นใจว่าคุณเข้าใจตลาดเป็นอย่างดี รู้จักความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเทรด Forex และเทรดบนบัญชีทดลองได้สำเร็จก่อนที่คุณทำการเทรดของจริง นอกจากนี้อย่าลืมว่าคุณควรสลับไปใช้บัญชีเทรดจริงในเวลาที่เหมาะสม และแนะนำว่านักเทรดไม่ควรเลื่อนการเทรดจริงออกไปเพราะการเทรดเงินจริงนำมาซึ่งปัจจัยทางจิตวิทยาของการเทรดที่จะทำให้ได้รับประสบการณ์

3: วิธีเป็นนักเทรดที่ประสบความสำเร็จใน Forex

สุดท้าย เมื่อคุณมีกลยุทธ์การเทรดและใช้บัญชีเทรดจริงแล้ว คุณควรทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

1. กำหนด  stop-loss สำหรับทุกการเทรด ไม่เช่นนั้นคุณจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงความล้มเหลว

2. พัฒนาแผนการเทรดและทำตามที่วางแผน

3. อย่าเสี่ยงมากกว่า 2% ของเงินที่เหลือในบัญชีต่อการเทรดครั้งเดียว

4. แยกอารมณ์ของคุณจากการเทรด

5. อย่าเทรดเพื่อชดเชยสิ่งที่สูญเสีย

6. เทรดเมื่อคุณรู้สึกว่าใช่

7. อย่ากลัวที่จะสูญเสีย นักเทรดทุกคนต้องเจอ

นี่เส้นทางที่ถูกต้องในการเป็นนักเทรด Forex ที่ประสบความสำเร็จ คุณจะพบกับความสูญเสียและความเครียดมากมายตลอดทาง แต่อย่ายอมแพ้ ความพยายามและความมุ่งมั่นจะช่วยชดเชยประสบการณ์แย่ๆ ที่คุณเคยมี
#479
ความหมายของ Pip และ Point คืออะไร ? เป็นคําถาม ที่มักจะได้ยินบ่อยๆ ในนักเทรดมือใหม่ ที่ยังไม่มี ประสบการณ์ในการซื้อขาย หรือเทรด Forex และมักจะสงสัยว่าการใช้งานของ Pip และ Point นั้น แตก ต่างกันอย่างไร? ก็สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากบทความของเราในวันนี้เราจะมาอธิบายถึงความ หมาย ความแตกต่าง พร้อมทั้งยกตัวอย่าง เปรียบเทียบเรื่องของ Pip และ Point ให้ทุกคนได้เข้าใจตรงกัน ดังต่อไปนี้

Pip และ Point คืออะไร?>> Pip

Pip
หมายถึง หน่วยในการเทรด Forex ที่ใช้วัดปริมาณ การเคลื่อนไหวของราคา โดยเป็นการอ่านค่า จุดทศนิยม หรือการนับจุดทศนิยมในตําแหน่งที่ 2 และ 4 ดังตัวอย่าง ต่อไปนี้

ตัวอย่าง Pip

1.ราคาค่าเงินของคู่เงิน USD/CHF อยู่ที่ 0.8820 จากนั้น ราคาได้เคลื่อนที่ไปที่ราคา 0.8825 เราจะอ่าน ค่าเงินคู่นี้ว่า คู่เงิน USD/CHF มีการเคลื่อนที่ไป 5 Pip
2.ราคาค่าเงินของคู่เงิน EUR/JPY อยู่ที่ 887.50 จากนั้นราคาได้เคลื่อนที่ไปที่ราคา 887.80เราจะอ่านค่า เงินคู่นี้ว่า คู่เงิน EUR/JPY มีการเคลื่อนที่ไป 30 Pip
3. ราคาค่าเงินของคู่เงิน USD/CAD อยู่ที่ 1.1100 จากนั้นราคาได้เคลื่อนที่ไปที่ราคา 1.1140 เราจะอ่าน ค่าเงินคู่นี้ว่า คู่เงิน USD/CAD มีการเคลื่อนที่ไป 40 Pip

Pip และ Point คืออะไร ? >> Point

Point หรือใครๆ ก็เรียกว่า จุด หมายถึง หน่วยในการเทรด Forex ที่ใช้วัดปริมาณการเคลื่อนไหวของราคา ในตลาด Forex โดยเป็นการอ่านค่า จุดทศนิยม หรือการนับจุดทศนิยม ในตําแหน่งที่ 3 และ 5 ดังตัวอย่างต่อไปนี้

ตัวอย่าง Point

ในเรื่องของ Pip และ Point คือ อะไร ? คงจะได้ศึกษาตัวอย่างของคําว่า Pip กันไปแล้ว ต่อไปเราจะขอยก ตัวอย่างของ Point ให้ทุกท่านได้ศึกษา และได้เห็นภาพ เพื่อความเข้าใจที่มากขึ้น โดยเราได้ยกตัวอย่าง Point ไว้ดังนี้

• ราคาค่าเงินของคู่เงิน USD/CHF อยู่ที่ 0.2380 จากนั้น ราคาได้เคลื่อนที่ไปที่ราคา 0.23803 เราจะอ่านค่าเงินคู่นี้ว่า คู่เงิน USD/CHF มีการเคลื่อนที่ไป 3 Point หรือ 3 จุด

• ราคาค่าเงินของคู่ EUR/JPY อยู่ที่ 567.500 จากนั้น ราคาได้เคลื่อนที่ไปที่ราคา 567.510 เราจะอ่านค่าเงินคู่นี้ว่า คู่เงิน EUR/JPY มีการเคลื่อนที่ไป 10 Point หรือ 10 จุด

• ราคาค่าเงินของคู่ USD/CAD อยู่ที่ 1.260 จากนั้นราคาได้เคลื่อนที่ไปที่ราคา 1.290 เราจะอ่านค่าเงินคู่นี้ว่า คู่เงิน USD/CAD มีการเคลื่อนที่ไป 30 Point หรือ 30 จุด

จากตัวอย่างของทั้ง 2 คํานี้ จะเห็นว่า การอ่านค่าจุดทศนิยมของ Pip และ Point มีความหมายที่เหมือน กัน คือ เป็นหน่วยการเทรด Forex ที่ใช้วัดปริมาณการเคลื่อนไหวของราคาใน ตลาด Forex และเป็นการ อ่านค่าจุดทศนิยม หรือการนับจุดทศนิยม

โดยหลักการจําของเรื่อง Pip Point คือ ใน 1 Lot คําว่า Pip ใช้อ่านจุดทศนิยมตําแหน่งที่ 2 และ 4 ส่วน คําว่า Point ใช้อ่านจุดทศนิยม ตําแหน่งที่ 3 และ 5 และเมื่อนํา Pip Point มาเปรียบเทียบกัน ก็จะได้เป็น 1Pip เท่ากับ 10 Point

ความแตกต่างกันระหว่าง Pip และ Point คืออะไรบ้าง ?


จากหลักการจํา ว่า 1 Pip = 10 Point ที่กล่าวมาเมื่อสักครู่นี้ หลายๆ คน อาจจะยังนึกภาพไม่ออก เราจึง จะมานําเสนอ ยกตัวอย่าง Pip Point มาเปรียบเทียบให้ดู เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ดังนี้

1. ราคาค่าเงินของคู่เงิน USD/CHF อยู่ที่ 0.10200 จากนั้น ราคาได้เคลื่อนที่ไปที่ราคา 0.10210
• เราจะอ่านค่าเงินคู่นี้ว่า คู่เงิน USD/CHF มีการเคลื่อนที่ไป 1 Pip หรือ 10 Point

2.ราคาค่าเงินของคู่ EUR/JPY อยู่ที่ 815.500 จากนั้น ราคาได้เคลื่อนที่ไปที่ราคา 815.520
• เราจะอ่านค่าเงินคู่นี้ว่า คู่เงิน EUR/JPY มีการเคลื่อนที่ไป 2 Pip หรือ 20 Point

3. ราคาค่าเงินของคู่ USD/CAD อยู่ที่ 2.730 จากนั้นราคาได้เคลื่อนที่ไปที่ราคา 2.830
• เราจะอ่านค่าเงินคู่นี้ว่า คู่เงิน USD/CAD มีการเคลื่อนที่ไป 10 Pig หรือ 100 Point

สรุป Pip และ Point คือ อะไร ? มีวิธีการนับอย่างไร ?

โดยสรุปแล้วเรื่องของ Pip และ Point คือ อะไร ? มีข้อสังเกตุอีกอย่าง คือ หากเป็นสมาชิก กับโบรกเกอร์ที่มีการเริ่มต้นเทรด Forex ด้วยจุดทศนิยม ตําแหน่งที่ 2 หรือ 4 นักเทรดจะไม่สามารถนับเป็น Point ได้เลย โดยจะต้อง เริ่มนับเป็น Pip เท่านั้น ดังนั้น ควรจะทําการเทรด ควรศึกษาวิธีการเทรดของ แต่ละโบรกเกอร์นั้น ให้ดีด้วยเช่นกัน
#480
พื้นฐาน Forex / ทำไมเราควรทำ Trading Journal?
มีนาคม 14, 2022, 12:23:39 หลังเที่ยง
สำหรับ Trading Journal นั้น ก็คือการจดบันทึก เก็บสถิติการเทรดของเรานั่นเอง
ซึ่งหลาย ๆ ท่านอาจจะไปสับสนกับตัว Order History ที่อยู่ใน MT4 ซึ่งเป็นส่วนที่บันทึกรายละเอียดออเดอร์ซื้อขายของเราเอาไว้ทั้งหมด ไม่ว่าจะราคาที่เข้า จุด Stop loss หรือ Take Profit แต่ถึงแม้จะมีรายละเอียดเหล่านี้ Order History นี้ก็ไม่มีประโยชน์เลย หากคุณไม่ได้ทำ Journal ของตนเองด้วย

#ทำไมกันล่ะ???
นั่นก็เพราะว่า Trading Journal ที่เราจะทำกันนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการจดบันทึกออเดอร์ ราคาซื้อ/ขาย , กำไร/ขาดทุน เท่านั้น
สิ่งที่เราจะต้องจดบันทึใน Journal นี้ ก็คือการบันทึกอารมณ์ความรู้สึก ความคิดของเราก่อนตัดสินใจเปิดออเดอร์ ระหว่างที่ออเดอร์รันอยู่ ทำไมจึงตั้ง SL หรือ TP ในราคานี้ ? และเมื่อตัดสินใจปิดออเดอร์ นั้นเพราะอะไร?

เคยเป็นกันไหม???
เวลาอินดิเคเตอร์หรือระบบเทรด ที่เราใช้ ให้สัญญาณเทรด บอกว่าควรจะ BUY ในราคานี้ แต่ความรู้สึกของเราบอกว่า.."ไม่ดีกว่า คิดว่าจะลงอีก" ก็เลยไม่เปิดออเดอร์ เสร็จแล้วหลังจากนั้น กราฟก็วิ่งขึ้นทันที หรือ
ตอนเราเปิดออเดอร์ไปแล้ว เช่น ถ้ามี BUY อยู่ แต่เห็นราคาผันผวนรุนแรง ลงมาทำให้ออเดอร์ของเราติดลบ รู้สึกกลัวว่าจะขาดทุน ก็เลยรีบปิดออเดอร์นั้นเมื่อเท่าทุนทันที แล้วหลังจากนั้นอีก 5 นาที กราฟพุ่งงงกระฉูดไปถึงราคา Target ที่เราตั้งใจจะปิดกำไรตั้งแต่แรก
เราก็ได้แต่นั่งมองและคิดว่า โถ่ววว ไม่น่าเลย...รู้อย่างงี้นะ............. ทำให้แม้ว่าเราจะเข้าออเดอร์ถูกทาง แต่ก็ไม่สามารถที่จะทำกำไรได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยเสียที
และที่แย่ไปกว่านั้นคือ มันมักจะเกิดขึ้นซ้ำ ๆ บ่อย ๆ เพราะเราก็จะเกิดอารมณ์ และเกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาดในแบบเดิมๆ

การทำ Trading Journal นั้น จึงมีข้อดี ในการช่วยให้คุณ
- เห็นภาพรวมของการเทรดของตนเองชัดเจนขึ้น ว่าส่วนใหญ่แล้ว เราใช้ระบบเทรด หรือใช้อารมณ์ในการตัดสินใจลงทุนมากกว่ากัน
- ได้เห็นว่าระบบเทรดของคุณใช้งานได้ประสิทธิภาพดีจริงหรือไม่?? มีจุดอ่อนที่ต้องแก้ไขตรงไหน และมีจุดแข็งตรงไหน? นำข้อมูลนี้ไปพัฒนาต่อยอดต่อไป
- ได้เรียนรู้จักตลาด คุณจะได้รู้ว่า จังหวะไหนควรเข้าเทรด จังหวะไหนควรรอ ข่าวหรืออิเว้นท์ที่ส่งผลกับตลาดคืออะไร และเป็นอย่างไร
- และที่สำคัญที่สุดคือ ได้รู้จักอารมณ์ของตนเอง เราทำอะไรลงไปเมื่อเกิดความกลัวหรือกังวล ปรับลดขนาดล็อตไซต์ หรือจัดการความเสี่ยง ให้เข้ากับสไตล์การเทรดของตนเอง

ถึงแม้ว่าการจดบันทึกการเทรดนี้จะฟังแล้วดูง่าย แต่ก็ดูจะน่าเบื่อด้วยเช่นกัน ก็เลยไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกันที่เทรดเดอร์จะสามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม การพัฒนาตนเองระบบเทรดให้ประสบความสำเร็จนั้น ก็จะต้องเป็นรางวัลของคนที่มีความอดทน มีวินัยและตั้งใจอย่างแน่นอน