ข่าว:

กระทู้ล่าสุด

#1
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / ต่อ: Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - วันนี้ เวลา 11:54:04 ก่อนเที่ยง
Buy : XAUUSD
จุดเข้า : ตอนนี้

TP : 2331

SL : 2310
#2
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / ต่อ: Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - วันนี้ เวลา 11:06:42 ก่อนเที่ยง
#3
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / บทวิเคราะห์กราฟทางเทคนิค Forex...
กระทู้ล่าสุด โดย support-2 - วันนี้ เวลา 02:15:55 ก่อนเที่ยง
GBPCAD
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา Daily โครงสร้างของราคามีสวิงไฮและสวิงโลวล่าสุดต่ำลงเมื่อเทียบกับสวิงก่อนหน้า จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่าแนวโน้มในกรอบเวลานี้อยู่ในขาลง
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคาดีดตัวกลับขึ้นมาที่ Fibonacci Retracement Level 78.6% เป็นตำแหน่งที่เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวลงต่อตามแนวโน้มเดิมจากบริเวณนี้ มองหาสัญญาณกลับตัวลงเพื่อเข้า Sell โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ

NZDUSD
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา Daily โครงสร้างของราคามีสวิงไฮและสวิงโลวล่าสุดต่ำลงเมื่อเทียบกับสวิงก่อนหน้า จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่าแนวโน้มในกรอบเวลานี้อยู่ในขาลง
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคาดีดตัวกลับขึ้นมาที่ Supply Zone สัมพันธ์กับ Fibonacci Retracement Zone เป็นตำแหน่งที่เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวลงต่อตามแนวโน้มเดิมจากบริเวณนี้ มองหาสัญญาณกลับตัวลงเพื่อเข้า Sell โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ

USDCAD
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา Daily โครงสร้างของราคามีสวิงไฮและสวิงโลวล่าสุดสูงขึ้นเมื่อเทียบกับสวิงก่อนหน้า จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่าแนวโน้มในกรอบเวลานี้อยู่ในขาขึ้น
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคาย่อตัวกลับลงมาที่ Fibonacci Retracement Zone สัมพันธ์กับ Support เป็นตำแหน่งที่เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวขึ้นต่อตามแนวโน้มเดิมจากบริเวณนี้ มองหาสัญญาณกลับตัวขึ้นเพื่อเข้า Buy โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ
#4
การวิเคราะห์ทางเทคนิค / การใช้อินดิเคเตอร์ ZigZag พื้น...
กระทู้ล่าสุด โดย support-1 - วันนี้ เวลา 01:01:39 ก่อนเที่ยง
ZigZag เป็นอินดิเคเตอร์อีกตัวที่ได้รับการนิยมในการดูการเคลื่อนราคาเพื่อช่วยกำหนดเทรน และการเปลี่ยนเทรนจากสิ่งที่เกิดขึ้น จะช่วยกรองการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ จากการขึ้นหรือลงเล็กน้อยของราคา ที่มักจะทำให้เกิดสัญญาณหลอกสำหรับการวิเคราะห์ และช่วยให้ท่านเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนและเทรนหลักได้ง่ายจากสิ่งที่เกิดขึ้น โดยรูปแบบ ZigZag ก็จะแสดงจุด Higher และ Lower บนชาร์ตที่ได้เงื่อนไข เมื่อการเคลื่อนของราคาระหว่างจุด Swing high และ Swing low มีค่าการเปลี่ยนแปลงมากกว่าค่าเปอร์เช็นตที่กำหนดสำหรับค่าผันผวนเท่านั้น [ค่าหลักที่มีค่า 5] ด้วยวิธีการกรองการเคลื่อนของราคาแบบนี้ เลยทำให้ ZigZag กรองการเคลื่อนไหวที่เล็กน้อยออกไป เลยทำให้หาเทรนหลักหรือการเคลื่อนหลักได้ชัดเจน

You cannot view this attachment.

เรื่องจาก ZigZag ไม่ได้ถูกจัดอยู่ในประกลุ่มประเภทหลักของอินดิเคเตอร์ของ Metatrader ที่มี Trend, Oscillators, Volumes และ Bill Williams จะอยู่ส่วนที่เป็น Custom เมื่อท่านเลือกใช้ ค่าสำหรับกำหนดมีแค่ 3 ค่าหลักๆ คือ Depth = 12, Deviation = 5 และ Backstep = 3 ที่เป็นค่าหลักหรือ Defaults มาเมื่อตอนเรียกใช้ ท่านสามารถปรับได้ การแสดงผลบนชาร์ตเปล่า จะเห็นว่าได้แสดงเส้นต่อเนื่องกัน ระหว่างจุด Swing high/Swing low หรือการตีเส้นต่อเนื่องกันระหว่างจุด Higher และ Lower เท่านั้นเอง และข้อมูลพวกนี้มาจากสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ดังนั้นภาพที่ได้ของ ZigZag ถือว่าเป็นข้อมูลที่ช้า หรือประเภท lagging information เพราะจริงๆ แล้ว ZigZag ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เกิดขึ้นให้ชัดเจนว่าเกิดขึ้นอย่างไร ด้วยการกรองการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ออกไป ไม่ได้บอกว่าอะไรน่าจะเกิดขึ้น แต่บอกแค่ว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงสำคัญที่จุดตรงไหน

เข้าใจ ZigZag settings สำคัญก่อนใช้

You cannot view this attachment.

ZigZag ใช้ตัวแปรหลัก 3 ตัวในการกำหนดการเปลี่ยนแปลงราคาสำหรับจุด Swing ว่าต่ำหรือสูงตามเงื่อนไขเพื่อหาจุด Higher และ Lower แล้วลากเส้นต่อเนื่องกันตามภาพที่แสดงที่ชาร์ต  ตัวแปรหลักคือ


- Depth = 12 ในที่นี้จำนวน 12 ถ้าเป็นในการกำหนดค่า setting ของอินดิเคเตอร์อื่นๆ ก็เท่ากับ Periods นั่นเอง หมายถึงจำนวนแท่งเทียนขั้นต่ำ เช่นถ้าต้องการหาค่า Higher และ Lower จากกรอบแท่งเทียนที่มากขึ้นก็กำหนดมากขึ้น เช่นอย่างกำหนด ZigZag สำหรับดู timeframe M5 อาจกำหนดเป็น 20 เพื่อให้กรอบมากขึ้น เพราะค่า 12 เหมาะสำหรับ H1, H4 และ D1
- Deviation = 5 ค่าเบียงเบน สำหรับดูว่าก่อนการที่จะสร้าง Higher หรือ Lower ต้องมีการเปลี่ยนแปลงขั้นต่ำของการเคลื่อนเท่าไร เพื่อกรองหรือลดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยออกไป เลยทำให้ ZigZag เป็นทูลในการดูการเคลื่อนไหวหลักที่เกิดขึ้นได้ดี
- Backstep = 3  อย่างน้อยต้องไม่น้อยกว่า 3 แท่งเทียน ถ้าจะเกิด Higher หรือ Lower

เนื่องจากการสร้าง ZigZag ก็จะต่างกันออกไปแล้วแต่ timeframe ที่ใช้ หลักการ timeframe เช่น H4 สำหรับ 1 แท่งเทียน เมื่อมองจากชาร์ต H1 ก็เท่ากับ 4 แท่งเทียน ถ้าเป็น M30 ก็มี 8 แท่งเทียน ดังนั้นตัวแปรหลักที่ต้องเข้าใจคือ Depth ที่ต้องปรับให้สัมพันธ์กับที่ท่านต้องการ ส่วน Deviation และ Backstetp ส่วนมากจะไม่ปรับ แต่หลักการให้ท่านเทียบสัดส่วนเอา ถ้า timeframe ที่ใช้ต่างกันมากเช่น ถ้าการมองต่าง timeframe ห่างกันไม่มากก็จะไม่ปรับ เพราะกรอบ Depth จะเน้นเรื่องของพฤติกรรมการเปลี่ยนแปลงของราคาของสินค้าที่เทรดเป็นหลัก

จากตัวอย่างด้านบน ชาร์ต M5 ที่มีการปรับค่า Depth ต่างกัน ทางด้านซ้ายค่า Depth = 12 ส่วนทางด้านขวา Depth = 20 ดูการสร้างจุดสวิงของ ZigZag ที่ต่างขึ้นมาตรงกรอบสีฟ้าที่ชาร์ตทางด้านซ้ายมือ หรือที่กำหนดค่า Depth น้อยกว่า หลักการกำหนด Depth จะต่างกันออกไป ถ้าต้องการปรับจูนให้ตรงกับสินค้าที่เทรด เพราะว่าพฤติกรรมการเปลี่ยนแปลงของแต่ละสินค้าต่างกัน แต่ให้กำหนดค่า Defaults ไปก่อน แล้วค่อยๆ ปรับ แต่ต้องเข้าใจเรื่องของ Depth ต่าง timeframe ด้วย ถ้า timeframe เล็กลงมาอาจเปลี่ยนขึ้น พร้อมทั้ง deviation ด้วย

การใช้งาน ZigZag สำหรับการเทรด

You cannot view this attachment.


ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า ZigZag ใช้ข้อมูลที่เกิดขึ้นแล้ว ดังนั้นข้อมูลแค่บอกสิ่งที่เกิดขึ้นว่ามีการเปลี่ยนแปลงสำคัญตรงไหน  หรืออธิบายแบบนี้ว่า ทูลนี้ใช้เพื่อกรองสัญญาณเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เพื่อจะได้ดูว่าการเคลื่อนจริงๆ เป็นอย่างไร ที่เกิดจากจุด A ไปยังจุด B ด้วยการสร้างจุด High และ Low แต่ละช่วงการเคลื่อนไหว  ดังนั้น เทรดเดอร์ก็จะใช้ ZigZag เพื่อประกอบหลักการ Technical Analysis เช่น การเทรดแนวรับ-แนวต้าน  อย่างอื่นเป็นหลัก เพราะว่า ZigZag ช่วยให้หาจุดที่เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนว่าเกิดขึ้นตรงไหน และที่สำคัญด้วยการใช้ Deviation เข้าไปด้วย ตัว ZigZag เลยกรองการเปลี่ยนแปลงที่น้อยกว่าค่า Deviation ออกไปด้วย เลยช่วยให้โฟกัสการเปลี่ยนแปลงหลักของภาพรวมการเคลื่อนของราคาได้ง่ายและเร็ว

สิ่งแรกที่เห็นได้ชัดเจนสุดเพราะว่า ZigZag ให้เห็นการเคลื่อนแต่ละช่วงชัดเจนด้วยจุด Higher และ Lower เลยช่วยให้เทรดเดอร์เห็น Market Structure ชัดเจน จะเห็นว่ามีการใช้ ZigZag ช่วยในการกำหนดการพัฒนา Swing high/low ด้วย มีการใช้การกำหนดแนวรับ-แนวต้าน ที่เป็นพื้นฐานของการนำเอา ZigZag ไปเป็นส่วนสำคัญในการกำหนด Technical Analysis [เช่นช่วยกำหนดรูปแบบชาร์ต Double Tops/Bottoms, 1-2-3 หรือ Head and Shoulders เป็นต้น] และใช้กับ Technical Analysis อย่างอื่นด้วย

การที่จะตีความจุด Highs และ Lows ต่างๆ ที่เกิดจาก ZigZag จำเป็นต้องเข้าใจตรรกะที่อยู่เบื้องหลังก่อน แล้วค่อยจะตีความจากสิ่งที่ ZigZag บอก เพราะต้องไม่ลืมว่า ZigZag แค่บอกว่ามีการเปลี่ยนแปลงสำคัญๆ หรือมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญเกิดขึ้นตรงไหน ไม่ได้บอกสิ่งที่จะเกิดขึ้น จุด High หรือ Low เกิดจากผลการสู้กันระหว่าง Byers และ Sellers แล้วตามด้วยผลว่าฝ่ายไหนเป็นผ่ายชนะ เพราะการที่ราคาจะสร้างจุด High หรือ Low ได้ ราคาต้องวิ่งไปทางเดียวอย่างชัดเจน ก่อนที่จะตีกลับมาอย่างรวดเร็ว ด้วยกำลังออเดอร์อีกข้าง จุดพวกนี้เลยเป็นจุดสำคัญที่บอกว่า มีอีกข้างเข้ามาเทรด และสามารถดันราคาเปลี่ยนเทรน หรือช่วงการเคลื่อนของราคาได้ตรงไหน ตามหลักการมองแนวรับ-แนวต้าน จุดพวกนี้เลยเป็นแนวรับ-แนวต้านสำคัญ

ดูที่เลข 1 พอ Low นั้นโดนเบรคลงไป ทำให้เรารู้ว่าแนวรับโดนเบรค ด้วยสิ่งที่เกิดขึ้นและ ZigZag ช่วยให้เราเห็นพื้นที่ได้ง่าย พร้อมความเข้าใจตลาดและออเดอร์ทำงานอย่างไร แม้ตัว ZigZag ไม่ได้บอกจุดที่ราคาจะโต้ตอบในอนาคต แต่ความเข้าใจตลาดและหลักการทำงานออเดอร์และพฤติกรรมเทรดเดอร์ ทำให้เราหาพื้นที่ราคาจะโต้ตอบได้ง่าย หรือ เลข 3 และ 4 เป็นอีกตัวอย่างที่จุด High และ Low ที่บอกโดย ZigZag กลายเป็นแนวรับ-แนวต้านด้วย

ดังนั้นสิ่งที่ ZigZag บอกเราคือพื้นที่ๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงชัดเจนของช่วงนั้นๆ เลยเป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับ Technical Analysis หลายๆ อย่าง เบื้องต้นคือแนวรับ–แนวต้านที่กล่าวในที่นี้ ส่วนขยายจะกล่าวในบทความต่อไป
#5
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - วันนี้ เวลา 12:04:11 ก่อนเที่ยง
#6
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / ต่อ: Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - เมื่อวานนี้ เวลา 10:50:43 ก่อนเที่ยง
ทอง  จุด sell ใหม่ 2350
2358
2365
#7
การวิเคราะห์ทางเทคนิค / สัญญาณ Divergence คืออะไร ? รู...
กระทู้ล่าสุด โดย support-1 - เมื่อวานนี้ เวลา 02:46:12 ก่อนเที่ยง
บทความนี้จะพาทุกท่านมารู้จักสัญญาณของกราฟในการทำกำไรตัวหนึ่ง ที่เป็นที่นิยมกันอย่างมากในการดูเพื่อกินกำไรคำใหญ่ โดยมันถูกเรียกว่าการเกิด "สัญญาณ Divergence" ซึ่งเป็นสัญญาณการกลับตัวของเทรนด์ ที่เทรดเดอร์หลาย ๆ คนนำวิธีนี้ไปปรับใช้ในระบบการเทรดของตัวเอง และสามารถทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ หากคุณพร้อมแล้ว มาเริ่มทำความรู้จักได้เลย

สัญญาณ Divergence คืออะไร ?
ปกติแล้วคุณสามารถทำกำไรได้จากการดูสัญญาณหลากหลายรูปแบบ โดยสัญญาณ Divergence ก็เป็นวิธีที่เทรดเดอร์หลายคนนิยมใช้กัน เป็นการบ่งบอกถึง สัญญาณการกลับตัวของเทรนด์ มีวิธีการดูง่าย ๆ โดยการดูกราฟราคาสินทรัพย์นั้น ร่วมกับ Indicator เพื่อหาทิศทางที่ 2 สิ่งนี้เคลื่อนไหวไม่สอดคล้องกัน เพื่อให้คุณสามารถทำกำไรก้อนใหญ่ได้ ด้วยการเทรดโดยสังเกตดูสัญญาณ Divergence อีกข้อดีคือ คุณแทบจะสามารถซื้อหรือขายสินทรัพย์นั้น ๆ ได้ในราคาดีที่สุดของเทรนด์เลยก็ว่าได้

ขอยกตัวอย่าง เช่น เมื่อกราฟของสินทรัพย์ที่คุณกำลังเทรดอยู่ในช่วงเทรนด์ขาขึ้น แล้วสักพักราคาได้เกิดสัญญาณ Divergence คุณก็สามารถเปิดคำสั่ง Sell ไว้ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ (วิเคราะห์ว่าราคาจะกลับมาเป็นเทรนด์ขาลง) และกลับกันเมื่อสินทรัพย์ที่คุณเทรดมีลักษณะกราฟเป็นช่วงเทรนด์ขาลง แล้วสักพักราคาได้เกิดสัญญาณ Divergence คุณก็สามารถคาดการณ์ได้ว่า กราฟเทรนด์ขาลงกำลังจะจบแล้ว คุณจึงใช้โอกาสนี้ในการเปิดคำสั่ง Buy ไว้รอได้เลย (วิเคราะห์ว่าราคาจะกลับมาเป็นเทรนด์ขาขึ้น)

You cannot view this attachment.

และหากสัญญาณ Divergence อยู่ใน Timeframe ใหญ่ ก็ถือว่าเป็นการเพิ่มความมั่นใจขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ว่าสัญญาณ Divergence ครั้งนี้จะมีโอกาสสูง ที่ทำให้กราฟสามารถกลับตัวได้ ซึ่งหากคุณสามารถดูสัญญาณ Divergence เป็นแล้ว มันจะช่วยทำให้คุณสามารถลดความเสี่ยงในการขาดทุนลงไปได้ค่อนข้างมาก และทำให้คุณสามารถสร้างกำไรได้มากเช่นกัน

แต่ก่อนที่คุณจะนำเทคนิคการดูสัญญาณ Divergence ไปใช้ คุณจะต้องรู้เกี่ยวกับรูปแบบการเกิด สัญญาณ Divergence กันก่อน เพื่อลดความผิดพลาดในการมองสัญญาณ Divergence ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มกันเลยครับ

รูปแบบของสัญญาณ Divergence
การที่เราจะตัดสินใจในการออกออเดอร์แต่ละครั้งนั้น ต้องมาพร้อมกับการวิเคราะห์ ตามสไตล์การเทรดของแต่ละคน ส่วนคนที่จะนำเทคนิคการดูสัญญาณ Divergence นี้ไปใช้ร่วมกับสไตล์การเทรดของตัวเอง เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร  โดยการดูสัญญาณ Divergence มีทั้งจริงและหลอก จึงแบ่งมันออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้

สัญญาณ Divergence แบบปกติ
Divergence แบบปกติ จะใช้ในการบอกว่า กราฟอาจจะมีการกลับตัวของเทรนด์ในอีกไม่นานนี้ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับกรอบเวลา (Timeframe) หากว่าใช้กรอบเวลาที่เล็ก ๆ อย่าง 1-15 m จะใช้เวลาในการเกิดการกลับตัวเร็ว แต่หากว่าใช้กรอบเวลาที่ใหญ่ขึ้นมาอย่าง 30m - 4h ใช้ค่อนข้างใช้เวลาในการเกิดการกลับตัว โดย Divergence แบบปกติสามารถที่จะแบ่งออกได้ 2 สัญญาณ ดังนี้

1. Bullish Divergence
ถ้ากราฟราคาเกิดรูปแบบ Lower Lows (LL), แต่ว่าตัว Oscillator เกิด Higher Lows (HL) เราเรียกลักษณะการเกิดแบบนี้ว่า Bullish Divergence หรือว่าสัญญาณการเกิด สัญญาณ Divergence ขาขึ้นแบบปกติ ซึ่งจะเกิดขึ้นหลังจากการจบเทรนด์ขาลง

You cannot view this attachment.

2. Bearish Divergence
ถ้าราคาได้เกิด Higher High (HH) แต่ว่าตัว Oscillator กลับเกิด Lower High (LH) คุณก็จะได้สัญญาณ Bearish Divergence หรือ สัญญาณ Divergence ขาลงแบบปกติ โดย Divergence ลักษณะนี้สามารถพบได้ในขาขึ้น หรือหลังจากที่ราคาเกิดราคาสูงสุดครั้งใหม่ ถ้าตัว Oscillator เกิด Lower High คุณอาจจะคาดได้ว่าราคากำลังจะเกิดจุดกลับตัวและร่วงลงมา

You cannot view this attachment.

การเกิด Divergence แบบปกติเหมาะสำหรับการเข้าออร์เดอร์ในจุดที่ต่ำสุดหรือสูงสุด ซึ่งคุณจะใช้ในการมองว่าจุดไหนจะเป็นจุดกลับตัว ส่วนตัวสัญญาณ Oscillator นั้น ถ้ามันเริ่มที่จะมีการ Divergence แล้ว ถึงแม้พฤติกรรมของราคายังจะเกิด Higher High or Lower Low นั่นหมายความว่าเทรนด์อาจจะไม่เปลี่ยนแปลงก็ได้

สัญญาณ Divergence แบบแฝง (Hidden Divergence)
Divergence แบบแฝง (Hidden Divergence) นอกจากจะให้สัญญาณจุดกลับตัวแล้วยังใช้ในการบอกสัญญาณว่าจะเกิดเทรนด์ต่อเนื่องได้ด้วย และผมอยากให้คุณจำไว้อยู่เสมอว่าเทรนด์เป็นเสมือนเพื่อนสนิทในการเทรดของคุณ ดังนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณได้สัญญาณว่าจะเกิดเทรนด์อย่างต่อเนื่อง คุณก็ควรจะรู้ว่าควรจะต้องทำอย่างไรกับมัน โดย Hidden Divergence สามารถที่จะแบ่งออกเป็น 2 สัญญาณเช่นเดียวกันกับ Divergence ปกติ ได้แก่

1. Hidden Bullish Divergence
Hidden Bullish Divergence หรือ Divergence แบบแฝง เกิดขึ้นเมื่อราคาได้เกิด Higher Low (HL) (การปิดสูงกว่าราคา Low) แต่ว่าตัว Oscillator กลับให้สัญญาณ Lower Low (LL) สัญญาณนี้หมายความว่าราคาของสินทรัพย์นั้น กำลังจะเปลี่ยนเป็นเทรนด์ขาขึ้น

You cannot view this attachment.

2. Hidden Bearish Divergence
เมื่อราคาเกิด Higher Low ให้จับตาดูว่าถ้าตัว Oscillator มีความเคลื่อนไหวคล้ายกัน แต่ถ้าตัว Oscillator ไม่ได้เกิดสัญญาณ Lower Low คุณก็จะได้สัญญาณ Hidden Divergence หรือสัญญาณ Divergence แฝงมา ซึ่งรูปแบบนี้จะเกิดเมื่อตลาดให้สัญญาณ Lower High (LH) แต่ตัว Oscillator กำลังทำรูปแบบ Higher High (HH) คุณอาจจะคิดว่าเป็นรูปแบบของเทรนด์ขาลง เมื่อคุณเจอรูปแบบ Hidden Bearish Divergence โดยมันจะหมายความว่า โอกาสที่ราคาจะเคลื่อนไหวในทิศทางขาลงอย่างต่อเนื่องนั้นเป็นไปได้สูง

นอกจากนี้ถ้าคุณเล่นแบบ Trend Follower (เทรดตามเทรนด์) คุณควรจะใช้เวลาในการศึกษารูปแบบ Hidden Divergence นี้บ้าง เพราะถ้าคุณเอาใจใส่การดูสัญญาณการเกิด Hidden Divergence มันอาจจะช่วยคุณเข้าเทรนด์ในช่วงที่กำลังเกิดเทรนด์ได้ ซึ่งตอนนี้คุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับ Regular (แบบปกติ) และ Hidden (แบบแฝง) Divergence จากบทความนี้แล้ว หวังว่าคุณจะสามารถนำไปปรับใช้เพื่อสร้างผลกำไรจากการดูสัญญาณ Divergence และให้จำไว้เสมอว่า Regular Divergences เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าอาจจะเกิดจุดกลับเทรนด์ ส่วน Hidden Divergences เป็นสัญญาณว่าเทรนด์จะยังคงไปต่อ

อินดิเคเตอร์ที่ใช้ในการหาสัญญาณ Divergence
Divergence เป็นสัญญาณที่จำเป็นที่จะต้องใช้อินดิเคเตอร์ในการช่วยหา เนื่องจากกราฟราคาไม่สามารถที่จะให้สัญญาณดังกล่าวได้เอง โดยเทรดเดอร์สามารถที่จะหาสัญญาณ Divergence ได้จากอินดิเคเตอร์เหล่านี้

Relative Strength Index (RSI)

ตัวอย่างกราฟ Divergence RSI

You cannot view this attachment.

Moving Average Convergence Divergence (MACD)

ตัวอย่างกราฟ Divergence MACD

You cannot view this attachment.

Stochastic Oscillator (Stoch)

ตัวอย่างกราฟ Divergence Stoch

You cannot view this attachment.

Awesome Oscillator (AO)

ตัวอย่างกราฟ Divergence AO

You cannot view this attachment.

จะสังเกตได้ว่าอินดิเคเตอร์ทั้ง 4 ตัวที่ได้กล่าวไปข้างต้นนั้น เป็นอินดิเคเตอร์ประเภท Oscillator ทั้งหมด แต่มีเพียงตัวเดียวไม่ได้แสดงผลในรูปแบบ "เส้น" นั่นก็คือ Awesome Oscillator แต่ก็สามารถที่จะให้สัญญาณ DIvergence ได้เหมือนกันกับตัวอื่น ๆ เพียงแต่ว่าจะให้สัญญาณ Overbought/Oversold ได้ดีเท่าตัวอื่น ๆ เพียงเท่านั้น

ข้อควรระวังในการใช้ Divergence
สัญญาณต่าง ๆ ในตลาด เป็นเพียงแค่สัญญาณที่จะทำให้เทรดเดอร์สามารถที่จะคาดการณ์สิ่งต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นกับกราฟเพียงเบื้องต้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ควรที่จะคำนึงถึงข้อควรระวังของสัญญาณ Divergence ดังต่อไปนี้

- Divergence ไม่ได้กลับตัวทุกครั้งหรือกลับตัวทันที
การที่กราฟได้เกิดสัญญาณ Divergence นั้น ไม่ได้แปลว่าราคาจะเกิดการกลับตัวในทุก ๆ ครั้ง หรือจะกลับตัวในทันที การที่ Divergence จะเกิดการกลับตัวนั้นจะต้องพึ่งปัจจัยหลายอย่าง เช่น การเกิด Price Action ที่บริเวณแนวรับ-แนวต้าน เป็นต้น และหากว่าในช่วงนั้นมีปัจจัยพื้นฐานแทรกเข้ามา การเกิดสัญญาณ Divergence แทบจะไม่มีผลกับกราฟเลย

- คาดเดาว่าจะเกิด Divergence
การคาดการณ์ หรือการคาดเดาเป็นนิสัยปกติของเทรดเดอร์ แต่สำหรับ Divergence เทรดเดอร์ไม่ควรที่จะคาดการณ์ว่ากราฟกำลังจะเกิดสัญญาณ Divergence และทำการเข้าเทรดเพื่อดักหน้าราคาไปก่อน การกระทำแบบนี้จะทำให้เทรดเดอร์เสียนิสัย และยังทำให้ขาดทุนเป็นจำนวนมากได้

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Divergence
Q : สัญญาณ Divergence Convergence คืออะไร ?
A : สัญญาณ Divergence คือสัญญาณการกลับตัว สังเกตได้จากเมื่อกราฟราคา และอินดิเคเตอร์เคลื่อนที่ตรงข้ามกัน ส่วน Convergence คือสัญญาณที่บอกว่าราคามีโอกาสที่จะไปต่อในแนวโน้มเดิม สังเกตได้จากเมื่อกราฟราคาและอินดิเคเตอร์เคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกัน

Q : Divergence Convergence แปลว่าอะไร ?
A : Divergence แปลว่า ความแตกต่าง ส่วน Convergence แปลว่า การบรรจบกัน

Q : Divergence Forex คืออะไร ?
A : สัญญาณที่บ่งบอกถึงการกลับตัวในตลาด Forex

สรุปสัญญาณ Divergence
Divergence คือ สัญญาณการกลับตัวของกราฟราคา ซึ่งมีอยู่ 2 แบบ คือ Divergence ปกติ และ Hidden Divergence ซึ่ง Hidden Divergence เป็นการส่งสัญญาณให้เทรดเดอร์ได้ทราบว่ากราฟพร้อมที่จะวิ่งไปต่อในเทรนด์ดังกล่าว ซึ่งจะต่างกับ Divergence แบบปกติ โดยมีข้อสังเกตสำคัญคือ กราฟจะต้องเกิดที่บริเวณแนวรับ-แนวต้าน และอินดิเคเตอร์ต้องเกิดการขัดแย้งกันกับทิศทางของราคา และเกิดในช่วง Overbought/Oversold ถึงจะเป็นสัญญาณที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม การเทรด Forex นั้น ไม่ได้พึ่งพาแค่การวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือทางปัจจัยพื้นฐานเท่านั้น แต่จำเป็นที่จะต้องพึ่งพา "วินัย" อีกด้วย จะสังเกตว่าเราจะกล่าวถึงเรื่องวินัยในส่วนสรุปทุก ๆ บทความ เนื่องจากทางเราเห็นว่าวินัยเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้เทรดเดอร์ไปสู่ความสำเร็จนั่นเอง

Source : Fxbrokerscam
#8
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / บทวิเคราะห์กราฟทางเทคนิค Forex...
กระทู้ล่าสุด โดย support-2 - เมื่อวานนี้ เวลา 01:43:49 ก่อนเที่ยง
GBPUSD
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา Daily โครงสร้างของราคามีสวิงไฮและสวิงโลวล่าสุดต่ำลงเมื่อเทียบกับสวิงก่อนหน้า จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่าแนวโน้มในกรอบเวลานี้อยู่ในขาลง
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคาดีดตัวกลับขึ้นมาที่ Fibonacci Retracement Zone สัมพันธ์กับ Resistance เป็นตำแหน่งที่เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวลงต่อตามแนวโน้มเดิมจากบริเวณนี้ มองหาสัญญาณกลับตัวลงเพื่อเข้า Sell โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ

EURUSD
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา Daily โครงสร้างของราคามีสวิงไฮและสวิงโลวล่าสุดต่ำลงเมื่อเทียบกับสวิงก่อนหน้า จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่าแนวโน้มในกรอบเวลานี้อยู่ในขาลง
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคาดีดตัวกลับขึ้นมาที่ Fibonacci Retracement Zone สัมพันธ์กับ Resistance เป็นตำแหน่งที่เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวลงต่อตามแนวโน้มเดิมจากบริเวณนี้ มองหาสัญญาณกลับตัวลงเพื่อเข้า Sell โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ

EURGBP
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา Daily โครงสร้างของราคามีสวิงไฮและสวิงโลวล่าสุดสูงขึ้นเมื่อเทียบกับสวิงก่อนหน้า จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่าแนวโน้มในกรอบเวลานี้อยู่ในขาขึ้น
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคาย่อตัวกลับลงมาที่ Fibonacci Retracement Zone สัมพันธ์กับ Demand Zone เป็นตำแหน่งที่เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวขึ้นต่อตามแนวโน้มเดิมจากบริเวณนี้ มองหาสัญญาณกลับตัวขึ้นเพื่อเข้า Buy โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ
#9
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / ต่อ: Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - เมื่อวานนี้ เวลา 12:29:25 ก่อนเที่ยง


จุดอ้างอิงทำกำไร (ระดับที่เป็น)

1.2520

จุดที่ต้องการ

สถานะขายshortกว่า 1.2520 เป้าหมายต่อไปที่ 1.2485 และ 1.2470

ทางเลือกการลงทุน

สูงกว่า 1.2520 คาดหมายว่ามีแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่องที่ 1.2540 และ 1.2560 เป็นเป้าหมาย

ความเห็นในเชิงเทคนิค

หาก 1.2520 ยังคงเป็นแนวต้าน คาดหมายว่าจะเกิดราคาที่แกว่งตัวแบบผันผวนที่มีมุมมองเชิงลบ

แนวรับและแนวต้าน

1.2560

1.2540

1.2520

1.2502 สุดท้าย

1.2485

1.2470

#10
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - เมษายน 28, 2024, 11:56:35 หลังเที่ยง