"สัดส่วนทองคำ" เกี่ยวกับการเทรด Forex อย่างไร? หลายคนอาจทราบเพียงว่า ทฤษฎีแห่งความสมดุลนี้แฝงตัวอยู่ในธรรมชาติ และถูกนำมาใช้ในวงการออกแบบอย่างแพร่หลาย เพราะพวกเขาเชื่อว่า มันสามารถสร้างความงามที่อิงตามธรรมชาติได้ อย่างไรก็ดี ในวงการ Forex รวมถึงตลาดหลักทรัพย์อื่น ๆ สัดส่วนทองคำนี้ได้ถูกนำมาใช้เป็น Indicator ในการหาแนวรับ - แนวต้านของกราฟ เพราะการเคลื่อนที่ของราคามีความสอดคล้องกับสัดส่วนทองคำ นับเป็นหนึ่งในเรื่องมหัศจรรย์มากเลยใช่ไหมล่ะครับ? ดังนั้น สัดส่วนทองคำ หรือก็คือ "Fibonacci" จึงกลายเป็น Indicator ที่เป็นที่นิยมมาก และวันนี้ เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จัก Indicator ชนิดนี้กัน!
Fibonacci คืออะไร
Fibonacci คือ ลำดับเลขฟีโบนัชชี ที่ถูกค้นพบโดย Leonardo Fibonacci นักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลี แต่ภายหลังมีการสันนิษฐานว่า ลำดับชุดตัวเลขนี้ถูกคิดค้นมานานมากกว่า 100 ปี จากชาวอินเดีย ส่วนแนวคิดหลักของลำดับเลขชุดนี้ คือ การนำตัวเลขก่อนหน้า 2 ลำดับ มารวมกัน และได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นตัวเลขปัจจุบัน หรือลำดับถัดไป ซึ่งในการคำนวณจะเริ่มจากชุดตัวเลข 0 และ 1 หากทุกคนยังงงกันอยู่ ทีมงานของเราก็ได้ทำรูปแสดงสูตรคำนวณ Fibonacci ออกมาให้ทุกคนเข้าใจง่ายขึ้น ดังนี้
You cannot view this attachment.
จากผลลัพธ์ด้านบน นำมาสู่ภาพก้นหอยได้อย่างไร? ผมขออธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ เลยคือ ผลลัพธ์เหล่านั้นสามารถนำมาต่อทบกันได้เรื่อย ๆ โดยสามารถแทนที่ได้จากรูปสี่เหลี่ยมดังภาพด้านล่าง คือ สี่เหลี่ยม 1 + สี่เหลี่ยม 1 จะได้เท่ากับสี่เหลี่ยม 2 และสี่เหลี่ยม 2 (1+1) + สี่เหลี่ยม 3 ก็จะเท่ากับสี่เหลี่ยม 5 เมื่อนำมาต่อกันเรื่อย ๆ ก็จะกลายเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าในอัตราส่วนเดียวกันขยายขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด วนเป็นวงจนมีลักษณะคล้ายก้นหอยดังรูปนั่นเอง
You cannot view this attachment.
เราจะเห็นได้ว่า ตัวเลขเหล่านี้มีความสัมพันธ์กัน และสร้างความสมดุลจนเกิดเป็นชื่อเรียกว่า สัดส่วนทองคำ ซึ่งตัวเลขสัดส่วนนี้ถือเป็นกุญแจสำคัญของฟิสิกส์ว่าด้วยเอกภพและจักรวาล และเป็นที่นิยมในสถาปัตยกรรมต่าง ๆ เช่น โครงสร้างวิหารพาเธนอนของกรีก หรือปีรามิดของเมืองกิซ่าประเทศอียิปต์ก็เช่นกัน หรือแม้แต่ร่างกายของคนเราก็เป็นไปตามสัดส่วนทองคำ เพราะระยะตั้งแต่สะดือถึงศีรษะ และสะดือถึงปลายเท้า จะมีสัดส่วน 0.382 และระยะจากสะดือถึงเท้าจะมีสัดส่วนความยาวเท่ากับ 0.618 พอดี นอกจากนี้ สัดส่วนของเกลียว DNA ก็มีสัดส่วนที่เป็นไปตามสัดส่วนทองคำด้วยครับ ด้วยความสำคัญขนาดนี้ทำให้เราเรียกมันว่า "สัดส่วนทองคำ" (Golden Ratio)
แล้วสัดส่วนทองคำมีค่าเท่ากับเท่าไหร่? จากภาพด้านบน เราสามารถนำด้าน B หารด้วยด้าน A ก็จะได้ผลลัพธ์เริ่มต้นที่ 1.5 แต่เมื่อเรานำตัวเลขของทั้งสองด้านหารกันไปเรื่อย ๆ ผลลัพธ์จะเริ่มนิ่งมากขึ้น จนค่าที่ออกมาอยู่ที่ 1.618 มีเพียงทศนิยมด้านหลังเท่านั้นที่เปลี่ยนไป หรืออาจกล่าวได้ว่า ลำดับเลขฟีโบนัชชีใด ๆ ที่หารด้วยตัวเลขที่อยู่ในลำดับถัดไป จะมีค่าใกล้เคียงกับ 618 ครับ ดังนั้น สัดส่วนทองคำจึงมีค่าเท่ากับ 1.618 ดังภาพประกอบด้านล่าง
You cannot view this attachment. You cannot view this attachment.
ความสำคัญของ Fibonacci
ตัวเลข Fibonacci เป็นตัวเลขที่มีการใช้ในทางวิชาการ เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย และสามารถใช้ในการคำนวณหาค่าอื่น ๆ ได้อีกมากมาย ตัวอย่างการใช้งานในเชิงวิชาการ ได้แก่
1) ใช้ในการคำนวณวิเคราะห์ Euclid's Algorithm เพื่อหาค่า Greatest common divisor ของ integer 2 ชุด
2) ใช้สร้างแบบจำลองทางเศรษฐศาสตร์ Brock-Mirman Economic Growth Model หรือแบบจำลองการเติบโตทางเศรษฐกิจ ของ Brock – Mirman
3) ใช้แสดงในสมการ Diophantine Equation ซึ่งจะนำไปสู่การแก้โจทย์ของ Hilbert's Tenth Problem
4) ใช้ในการวางแผนเล่นโป๊กเกอร์ ซึ่งเป็นการคำนวณโดยใช้ซอร์ฟแวร์ โดยโปรเจ็กต์นี้มีชื่อว่า Scrum Methodology
5) ใช้ในการวิเคราะห์ทางการเงิน ตลาดการเงิน และใช้เป็น Indicator เรียกว่า Fibonacci Retracement หรือลำดับการพักฐานของ Fibonacci
นอกจากที่กล่าวมาแล้ว Fibonacci ยังมีการใช้ในศาสตร์ด้านอื่น ๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะวิธีการทางปรัชญา และหลักการสร้างทฤษฎีต่าง ๆ มากมาย
Fibonacci กับ Forex เกี่ยวพันกันอย่างไร?
หลายคนอาจจะสงสัยใช่ไหมว่า Fibonacci เกี่ยวกับ Forex ได้อย่างไร ดังนั้นจะมาเล่ารายละเอียดให้ฟังกัน โดยเริ่มจาก "1.618" ผลลัพธ์แห่งความลงตัวของสัดส่วนทองคำ พวกเขานำผลลัพธ์นี้มายกกำลังจนได้ตัวเลขมาจำนวนหนึ่ง ดังนี้
You cannot view this attachment.
You cannot view this attachment.
จากผลลัพธ์ที่นำสัดส่วนทองคำมายกกำลัง เราจะเห็นว่า เมื่อใช้ Indicator ตีเส้น ตัวเลขที่ปรากฏบนเส้นเหล่านั้นจะตรงกับผลลัพธ์ของเลขยกกำลัง ซึ่งนี่ก็คือความเชื่อมโยงของ Fibonacci และ Indicator ในตลาด Forex รวมถึงตลาดหลักทรัพย์อื่น ๆ นั่นเป็นเพราะหลายคนเชื่อว่า Fibonacci สามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกสิ่ง รวมถึงนักเทรดเชิงเทคนิคก็เช่นกัน พวกเขาได้นำสัดส่วนทองคำนี้มาประยุกต์ใช้ในการเทรด ซึ่งหลายคนก็ประสบความสำเร็จจากเครื่องมือนี้ ทำให้มันเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายขึ้นนั่นเอง
Fibonacci ที่นิยมในตลาด Forex
1. Fibonacci Retracement
Fibonacci Retracement เป็น Indicator ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะใช้ในการดูแนวรับ แนวต้าน เพื่อหาจุดเข้า - ออก ของกราฟ
You cannot view this attachment.
> การหาแนวรับ : ใช้เครื่องมือวางที่จุดต่ำสุด (Low) และจุดสูงสุด (High) จากนั้น จะปรากฏตัวเลขยกกำลังสัดส่วน Fibonacci ให้ทุกคนนำเส้น Horizontal Line มาวางไว้ที่ระดับ 0.5 , 0.618 และ 0.786 ทั้ง 3 เส้นนี้จะแสดงโซนแนวรับ อย่างไรก็ดี ทุกคนสามารถเพิ่มเส้นที่ระดับ 1 เพื่อตั้งจุด Stop Loss ก็ได้เช่นกัน
You cannot view this attachment.
> การหาแนวต้าน : ใช้เครื่องมือวางที่จุดสูงสุด (High) และจุดต่ำสุด (Low) ลากจากบนลงล่าง ย้อนกลับจากการหาแนวรับ จากนั้น เมื่อได้โซนนัยสำคัญมาที่แสดงเลขยกกำลังสัดส่วน Fibonacci แล้ว ให้เลื่อนไปวางที่ฐานกราฟที่กำลังปรับตัวขึ้นแทน แล้วค่อยนำ Horizontal Line มาวางไว้ที่ระดับ 1 และ 1.618 ซึ่งจะแสดงถึงโซนแนวต้าน หากกราฟมีการปรับตัวสูงขึ้นจากระดับที่วางไว้ นั่นอาจหมายถึงปริมาณการซื้อขายที่เกินคาด ตลาดเกิดความผันผวน หรือนักเทรดเกิด Fomo ได้
อย่างไรก็ตาม เครื่องมือ Fibonacci Retracement เหมาะกับการหาแนวรับมากกว่า สำหรับนักเทรดที่ไม่ค่อยถนัดมาก เพราะแนวต้านจำเป็นต้องมีการเลื่อนเครื่องมือ ดังนั้น จึงมี Fibonacci Extension เข้ามาช่วยแก้ปัญหา
2. Fibonacci Extension
Fibonacci Extension มักถูกใช้เพื่อดูแนวโน้มการเคลื่อนที่ของราคาครับ เนื่องจากสามารถวางจุดได้ 3 ครั้ง ซึ่งต่างจาก Fibonacci Retracement ที่วางจุดได้ 2 ครั้ง (จุดต่ำสุดไปสูงสุด หรือจุดสูงสุดไปต่ำสุด) โดยมีวิธีใช้งานดังนี้
You cannot view this attachment.
> การหา Uptrend : ใช้เครื่องมือวางที่จุดต่ำสุด A (Low) จุดสูงสุด B (High) และจุดต่ำสุด C (Low) จากนั้น จะปรากฏตัวเลขยกกำลังสัดส่วน Fibonacci ให้ทุกคนนำเส้น Horizontal Line มาวางไว้ที่ระดับ 1 และ 1.618 หากกราฟเคลื่อนไปแตะระดับดังกล่าวก็จะหมายถึง กราฟเป็นขาขึ้น จากภาพตัวอย่างด้านบน ได้นำกราฟเก่ามาเพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นว่า เมื่อพ้นจุด C แล้ว กราฟมีการขยับขึ้นไปถึงเส้นระดับ 1.618 ในที่สุด ก่อนจะเกิดการกลับตัว
You cannot view this attachment.
> การหา Downtrend : ใช้เครื่องมือวางที่จุดสูงสุด A (High) จุดต่ำสุด B (Low) และจุดสูงสุด C (High) จากนั้น จะปรากฏตัวเลขยกกำลังสัดส่วน Fibonacci ให้ทุกคนนำเส้น Horizontal Line มาวางไว้ที่ระดับ 1 และ 1.618 หากกราฟเคลื่อนไปแตะระดับดังกล่าวก็จะหมายถึง กราฟเป็นขาลง จากภาพตัวอย่างด้านบน ผมได้นำกราฟเก่ามาเพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นเช่นกันว่า เมื่อพ้นจุด C แล้ว กราฟมีการขยับตัวลงไปถึงเส้นระดับ 1.618 ในที่สุด ก่อนจะเกิดการกลับตัว
โดยสรุปแล้ว Fibonacci ก็คือลำดับเลขที่ใช้ในการคำนวณสมการต่าง ๆ อีกทั้ง ยังแฝงตัวอยู่ในธรรมชาติ สิ่งรอบตัวเรา และเป็นกุญแจในการไขข้อสงสัยหลายอย่างได้ ดังนั้น มันจึงถูกหยิบยกมาใช้ในอุตสาหกรรมการเงิน เพื่อใช้เป็น Indicator ในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา และแนวรับ - แนวต้านของ Forex รวมถึงสินทรัพย์อื่น ๆ อย่างไรก็ดี แม้มันจะมีจุดเด่นที่น่าพิศวง แต่นักเทรดก็ไม่ควรใช้ Indicator เพียงตัวเดียวในการเทรด เพราะมันก็อาจจะผิดพลาดได้ ดังนั้น จึงควรใช้ตัวอื่น ๆ ร่วมด้วย รวมถึงอย่าลืมฝึกการใช้เครื่องมือก่อนนำไปใช้จริง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียง หรือตรงกับความเป็นจริงที่สุดด้วย
Fibonacci คืออะไร
Fibonacci คือ ลำดับเลขฟีโบนัชชี ที่ถูกค้นพบโดย Leonardo Fibonacci นักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลี แต่ภายหลังมีการสันนิษฐานว่า ลำดับชุดตัวเลขนี้ถูกคิดค้นมานานมากกว่า 100 ปี จากชาวอินเดีย ส่วนแนวคิดหลักของลำดับเลขชุดนี้ คือ การนำตัวเลขก่อนหน้า 2 ลำดับ มารวมกัน และได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นตัวเลขปัจจุบัน หรือลำดับถัดไป ซึ่งในการคำนวณจะเริ่มจากชุดตัวเลข 0 และ 1 หากทุกคนยังงงกันอยู่ ทีมงานของเราก็ได้ทำรูปแสดงสูตรคำนวณ Fibonacci ออกมาให้ทุกคนเข้าใจง่ายขึ้น ดังนี้
You cannot view this attachment.
จากผลลัพธ์ด้านบน นำมาสู่ภาพก้นหอยได้อย่างไร? ผมขออธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ เลยคือ ผลลัพธ์เหล่านั้นสามารถนำมาต่อทบกันได้เรื่อย ๆ โดยสามารถแทนที่ได้จากรูปสี่เหลี่ยมดังภาพด้านล่าง คือ สี่เหลี่ยม 1 + สี่เหลี่ยม 1 จะได้เท่ากับสี่เหลี่ยม 2 และสี่เหลี่ยม 2 (1+1) + สี่เหลี่ยม 3 ก็จะเท่ากับสี่เหลี่ยม 5 เมื่อนำมาต่อกันเรื่อย ๆ ก็จะกลายเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าในอัตราส่วนเดียวกันขยายขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด วนเป็นวงจนมีลักษณะคล้ายก้นหอยดังรูปนั่นเอง
You cannot view this attachment.
เราจะเห็นได้ว่า ตัวเลขเหล่านี้มีความสัมพันธ์กัน และสร้างความสมดุลจนเกิดเป็นชื่อเรียกว่า สัดส่วนทองคำ ซึ่งตัวเลขสัดส่วนนี้ถือเป็นกุญแจสำคัญของฟิสิกส์ว่าด้วยเอกภพและจักรวาล และเป็นที่นิยมในสถาปัตยกรรมต่าง ๆ เช่น โครงสร้างวิหารพาเธนอนของกรีก หรือปีรามิดของเมืองกิซ่าประเทศอียิปต์ก็เช่นกัน หรือแม้แต่ร่างกายของคนเราก็เป็นไปตามสัดส่วนทองคำ เพราะระยะตั้งแต่สะดือถึงศีรษะ และสะดือถึงปลายเท้า จะมีสัดส่วน 0.382 และระยะจากสะดือถึงเท้าจะมีสัดส่วนความยาวเท่ากับ 0.618 พอดี นอกจากนี้ สัดส่วนของเกลียว DNA ก็มีสัดส่วนที่เป็นไปตามสัดส่วนทองคำด้วยครับ ด้วยความสำคัญขนาดนี้ทำให้เราเรียกมันว่า "สัดส่วนทองคำ" (Golden Ratio)
แล้วสัดส่วนทองคำมีค่าเท่ากับเท่าไหร่? จากภาพด้านบน เราสามารถนำด้าน B หารด้วยด้าน A ก็จะได้ผลลัพธ์เริ่มต้นที่ 1.5 แต่เมื่อเรานำตัวเลขของทั้งสองด้านหารกันไปเรื่อย ๆ ผลลัพธ์จะเริ่มนิ่งมากขึ้น จนค่าที่ออกมาอยู่ที่ 1.618 มีเพียงทศนิยมด้านหลังเท่านั้นที่เปลี่ยนไป หรืออาจกล่าวได้ว่า ลำดับเลขฟีโบนัชชีใด ๆ ที่หารด้วยตัวเลขที่อยู่ในลำดับถัดไป จะมีค่าใกล้เคียงกับ 618 ครับ ดังนั้น สัดส่วนทองคำจึงมีค่าเท่ากับ 1.618 ดังภาพประกอบด้านล่าง
You cannot view this attachment. You cannot view this attachment.
ความสำคัญของ Fibonacci
ตัวเลข Fibonacci เป็นตัวเลขที่มีการใช้ในทางวิชาการ เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย และสามารถใช้ในการคำนวณหาค่าอื่น ๆ ได้อีกมากมาย ตัวอย่างการใช้งานในเชิงวิชาการ ได้แก่
1) ใช้ในการคำนวณวิเคราะห์ Euclid's Algorithm เพื่อหาค่า Greatest common divisor ของ integer 2 ชุด
2) ใช้สร้างแบบจำลองทางเศรษฐศาสตร์ Brock-Mirman Economic Growth Model หรือแบบจำลองการเติบโตทางเศรษฐกิจ ของ Brock – Mirman
3) ใช้แสดงในสมการ Diophantine Equation ซึ่งจะนำไปสู่การแก้โจทย์ของ Hilbert's Tenth Problem
4) ใช้ในการวางแผนเล่นโป๊กเกอร์ ซึ่งเป็นการคำนวณโดยใช้ซอร์ฟแวร์ โดยโปรเจ็กต์นี้มีชื่อว่า Scrum Methodology
5) ใช้ในการวิเคราะห์ทางการเงิน ตลาดการเงิน และใช้เป็น Indicator เรียกว่า Fibonacci Retracement หรือลำดับการพักฐานของ Fibonacci
นอกจากที่กล่าวมาแล้ว Fibonacci ยังมีการใช้ในศาสตร์ด้านอื่น ๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะวิธีการทางปรัชญา และหลักการสร้างทฤษฎีต่าง ๆ มากมาย
Fibonacci กับ Forex เกี่ยวพันกันอย่างไร?
หลายคนอาจจะสงสัยใช่ไหมว่า Fibonacci เกี่ยวกับ Forex ได้อย่างไร ดังนั้นจะมาเล่ารายละเอียดให้ฟังกัน โดยเริ่มจาก "1.618" ผลลัพธ์แห่งความลงตัวของสัดส่วนทองคำ พวกเขานำผลลัพธ์นี้มายกกำลังจนได้ตัวเลขมาจำนวนหนึ่ง ดังนี้
You cannot view this attachment.
You cannot view this attachment.
จากผลลัพธ์ที่นำสัดส่วนทองคำมายกกำลัง เราจะเห็นว่า เมื่อใช้ Indicator ตีเส้น ตัวเลขที่ปรากฏบนเส้นเหล่านั้นจะตรงกับผลลัพธ์ของเลขยกกำลัง ซึ่งนี่ก็คือความเชื่อมโยงของ Fibonacci และ Indicator ในตลาด Forex รวมถึงตลาดหลักทรัพย์อื่น ๆ นั่นเป็นเพราะหลายคนเชื่อว่า Fibonacci สามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกสิ่ง รวมถึงนักเทรดเชิงเทคนิคก็เช่นกัน พวกเขาได้นำสัดส่วนทองคำนี้มาประยุกต์ใช้ในการเทรด ซึ่งหลายคนก็ประสบความสำเร็จจากเครื่องมือนี้ ทำให้มันเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายขึ้นนั่นเอง
Fibonacci ที่นิยมในตลาด Forex
1. Fibonacci Retracement
Fibonacci Retracement เป็น Indicator ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะใช้ในการดูแนวรับ แนวต้าน เพื่อหาจุดเข้า - ออก ของกราฟ
You cannot view this attachment.
> การหาแนวรับ : ใช้เครื่องมือวางที่จุดต่ำสุด (Low) และจุดสูงสุด (High) จากนั้น จะปรากฏตัวเลขยกกำลังสัดส่วน Fibonacci ให้ทุกคนนำเส้น Horizontal Line มาวางไว้ที่ระดับ 0.5 , 0.618 และ 0.786 ทั้ง 3 เส้นนี้จะแสดงโซนแนวรับ อย่างไรก็ดี ทุกคนสามารถเพิ่มเส้นที่ระดับ 1 เพื่อตั้งจุด Stop Loss ก็ได้เช่นกัน
You cannot view this attachment.
> การหาแนวต้าน : ใช้เครื่องมือวางที่จุดสูงสุด (High) และจุดต่ำสุด (Low) ลากจากบนลงล่าง ย้อนกลับจากการหาแนวรับ จากนั้น เมื่อได้โซนนัยสำคัญมาที่แสดงเลขยกกำลังสัดส่วน Fibonacci แล้ว ให้เลื่อนไปวางที่ฐานกราฟที่กำลังปรับตัวขึ้นแทน แล้วค่อยนำ Horizontal Line มาวางไว้ที่ระดับ 1 และ 1.618 ซึ่งจะแสดงถึงโซนแนวต้าน หากกราฟมีการปรับตัวสูงขึ้นจากระดับที่วางไว้ นั่นอาจหมายถึงปริมาณการซื้อขายที่เกินคาด ตลาดเกิดความผันผวน หรือนักเทรดเกิด Fomo ได้
อย่างไรก็ตาม เครื่องมือ Fibonacci Retracement เหมาะกับการหาแนวรับมากกว่า สำหรับนักเทรดที่ไม่ค่อยถนัดมาก เพราะแนวต้านจำเป็นต้องมีการเลื่อนเครื่องมือ ดังนั้น จึงมี Fibonacci Extension เข้ามาช่วยแก้ปัญหา
2. Fibonacci Extension
Fibonacci Extension มักถูกใช้เพื่อดูแนวโน้มการเคลื่อนที่ของราคาครับ เนื่องจากสามารถวางจุดได้ 3 ครั้ง ซึ่งต่างจาก Fibonacci Retracement ที่วางจุดได้ 2 ครั้ง (จุดต่ำสุดไปสูงสุด หรือจุดสูงสุดไปต่ำสุด) โดยมีวิธีใช้งานดังนี้
You cannot view this attachment.
> การหา Uptrend : ใช้เครื่องมือวางที่จุดต่ำสุด A (Low) จุดสูงสุด B (High) และจุดต่ำสุด C (Low) จากนั้น จะปรากฏตัวเลขยกกำลังสัดส่วน Fibonacci ให้ทุกคนนำเส้น Horizontal Line มาวางไว้ที่ระดับ 1 และ 1.618 หากกราฟเคลื่อนไปแตะระดับดังกล่าวก็จะหมายถึง กราฟเป็นขาขึ้น จากภาพตัวอย่างด้านบน ได้นำกราฟเก่ามาเพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นว่า เมื่อพ้นจุด C แล้ว กราฟมีการขยับขึ้นไปถึงเส้นระดับ 1.618 ในที่สุด ก่อนจะเกิดการกลับตัว
You cannot view this attachment.
> การหา Downtrend : ใช้เครื่องมือวางที่จุดสูงสุด A (High) จุดต่ำสุด B (Low) และจุดสูงสุด C (High) จากนั้น จะปรากฏตัวเลขยกกำลังสัดส่วน Fibonacci ให้ทุกคนนำเส้น Horizontal Line มาวางไว้ที่ระดับ 1 และ 1.618 หากกราฟเคลื่อนไปแตะระดับดังกล่าวก็จะหมายถึง กราฟเป็นขาลง จากภาพตัวอย่างด้านบน ผมได้นำกราฟเก่ามาเพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นเช่นกันว่า เมื่อพ้นจุด C แล้ว กราฟมีการขยับตัวลงไปถึงเส้นระดับ 1.618 ในที่สุด ก่อนจะเกิดการกลับตัว
โดยสรุปแล้ว Fibonacci ก็คือลำดับเลขที่ใช้ในการคำนวณสมการต่าง ๆ อีกทั้ง ยังแฝงตัวอยู่ในธรรมชาติ สิ่งรอบตัวเรา และเป็นกุญแจในการไขข้อสงสัยหลายอย่างได้ ดังนั้น มันจึงถูกหยิบยกมาใช้ในอุตสาหกรรมการเงิน เพื่อใช้เป็น Indicator ในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา และแนวรับ - แนวต้านของ Forex รวมถึงสินทรัพย์อื่น ๆ อย่างไรก็ดี แม้มันจะมีจุดเด่นที่น่าพิศวง แต่นักเทรดก็ไม่ควรใช้ Indicator เพียงตัวเดียวในการเทรด เพราะมันก็อาจจะผิดพลาดได้ ดังนั้น จึงควรใช้ตัวอื่น ๆ ร่วมด้วย รวมถึงอย่าลืมฝึกการใช้เครื่องมือก่อนนำไปใช้จริง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียง หรือตรงกับความเป็นจริงที่สุดด้วย