Pullback trading หรือการเข้าซื้อขายแบบกราฟวิ่งย้อนกลับ กลยุทธ์นี้เป็นวิธีการซื้อขายทั่วๆ ไป เทรดเดอร์รายใหม่ จะชอบความเรียบง่าย และเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์มากๆ จะชอบที่จะอยู่ฝั่งเดียวกับแนวโน้มของเทรน แต่การเข้าสู่ตลาดในขณะที่ ตลาดกำลังทำการ Pullback หรือวิ่งย้อนกลับนั้นเป็นเพียงขั้นตอนแรกเท่านั้น ตัวเทรดเดอร์เอง จำเป็นที่จะต้องมีความระมัดระวังในการป้องกันความเสี่ยงของตัวเอง และยังต้องรักษาผลกำไรไว้อย่างรอบคอบอีกด้วย
จากที่กล่าวมา สิ่งที่เทรดเดอร์ต้องทำคือ เทรดเดอร์จำเป็น ต้องหยุดการขาดทุนและจัดการหา กลยุทธ์วิธีการทำกำไรในตำแหน่งที่เทรดเดอร์เข้าตลาดให้ได้
ในบทความนี้ เทรดเดอร์จะได้เรียนรู้ กลยุทธ์การจัดการกับตำแหน่งหรือจุดในการเข้าเทรด โดยมี 3 หัวข้อใหญ่ คือ
1. กำหนดจุด หยุดการขาดทุนในขั้นต้น
2. กำหนดจุด เป้าหมายของการทำกำไร
3. ติดตามเส้นทางของการหยุดการขาดทุน
ภาพตัวอย่าง ด้านล่าง เป็น ระบบการเทรดแบบพื้นฐาน คือการรอให้กราฟ เบรคราคาและรอให้กราฟวิ่งย้อนกลับมาอีกครั้ง ซึ่งเป็นการออกแบบมาเป็นอย่างดีสำหรับกลยุทธ์การซื้อขายแบบกราฟวิ่งย้อนกลับ (Pullback trading) ถ้าตัวเทรดเดอร์เอง ฝึกฝนบ่อยๆ และคุ้นเคยกับกลยุทธ์นี้ มันจะเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายมาก
แต่อย่างไรก็ตามตัวเทรดเดอร์เองก็สามารถปรับใช้เทคนิคเหล่านี้กับ วิธีการเทรดทุกๆ คู่เงินหรือทุกๆ ช่วงเวลาของการวิ่งย้อนกลับของกราฟเลยทีเดียว
# 1: กำหนดจุด หยุดการขาดทุนในขั้นต้น
- การหยุดการขาดทุนขั้นต้น เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ อันดับแรกต้องจำกัดความเสี่ยงของคุณ
- อันดับสองต้องมีพื้นฐานในการคำนวณอัตราส่วนระหว่างความเสี่ยงต่อผลตอบแทนของคุณ
- รูปแบบของการหยุด (การขาดทุน) หรือการมองเห็นจุดที่เทรดเดอร์จะหยุดเทรด รูปแบบการหยุด คือวิธีการ มองหาจุดที่จะเข้าเทรด ในช่วงการเกิดรูปแบบการวิ่งย้อนกลับของกราฟ (Pullback setup) นั่นเอง
- การมองหาจุดการหยุดขาดทุนจาก รูปแบบของแท่งเทียน แนวความคิดในการมองรูปแบบแท่งเทียน เป็นได้ทั้งในช่วงที่ ให้เทรดเดอร์มีจุดเข้าสู่ตลาด และออกจากตลาดได้เช่นกัน
การคาดหวังของเทรดเดอร์ ในการมองหาจุดที่จะเข้าเทรดในรูปแบบการวิ่งย้อนกลับของกราฟ มักจะทำให้เทรดเดอร์เองได้ไปพร้อมกันกับแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นด้วย ดังนั้นรูปแบบการหยุดนี้ คือรูปแบบความคิดที่มีเหตุผลเป็นไปได้ค่อนข้างมาก
You cannot view this attachment.
# 2: ตั้งเป้าหมาย ของการทำกำไรโดยมีการจำกัด การเปิดคำสั่งซื้อหรือคำสั่งขาย
- การกำหนดเป้าหมายของกำไรจะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเปิดคำสั่งซื้อหรือขายได้ อย่างมีระเบียบวินัย ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการต่อสู้กับความโลภและการคาดเดาราคาซึ่งจะทำให้ตัวเทรดเดอร์เองเกิดความลังเล
- ในทางเทคนิค เทรดเดอร์มักจะมองหา บริเวณแนวรับหรือแนวต้าน ไว้เป็นเป้าหมายในการทำกำไร เทรดเดอร์สามารถแยกแยะโซนเหล่านี้ได้โดยดูจากบริเวณที่ราคาเคยไปอยู่บริเวณใด บริเวณหนึ่งนานๆ หรือดูจากจุดกลับตัวที่มีความหมาย และเป้าหมายที่ไตร่ตรองไว้แล้วโดยใช้รูปแบบแท่งเทียนมาวิเคราะห์อีกครั้ง
- สำหรับการออกคำสั่งซื้อในกลยุทธ์แบบราคาย้อนกลับ ให้เทรดเดอร์กำหนดเป้าหมายกำไรในบริเวณที่เป็นแนวต้าน เพราะบริเวณโซนเหล่านี้คือโซนที่ราคาในตลาดอาจย้อนกลับลงได้
- สำหรับการออกคำสั่งขายในกลยุทธ์แบบราคาย้อนกลับ ให้เทรดเดอร์กำหนดเป้าหมายกำไรในบริเวณที่เป็นแนวรับ เพราะบริเวณโซนเหล่านี้คือโซนที่ราคาในตลาดอาจย้อนกลับขึ้นไปได้
You cannot view this attachment.
การมีเป้าหมายราคาพร้อมด้วยจุดในการหยุดการขาดทุน จะช่วยให้เทรดเดอร์ทราบถึงอัตราส่วน ความคุ้มค่าของผลตอบแทนที่มีต่อความเสี่ยง เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ มักจะใช้การเทรดแบบราคาย้อนกลับ (pullback) เพียงอย่างเดียว ในขณะที่เทรดเดอร์เองก็คาดว่าจะเป็นการแนวโน้มที่เริ่มต้นใหม่ ดังนั้นเทรดเดอร์ควรรักษากำไรไว้ที่แนวโน้มล่าสุดก่อน
ในบางสถานการณ์ เทรดเดอร์อาจพบว่าการเทรดแบบที่ว่านี้เหมาะสมที่สุด เพื่อให้ผลกำไรของเทรดเดอร์วิ่งต่อไปอีก ในกรณีดังกล่าว เทรดเดอร์เองอาจต้องใช้เครื่องมืออีกอันหนึ่ง ชื่อว่า trailing stop ให้เข้าใจง่ายขึ้น เรียกว่า การหยุดขาดทุนแบบเลื่อนราคาตาม
# 3: การหยุดขาดทุนแบบเลื่อนราคาตาม
การหยุดขาดทุนแบบเลื่อนราคาตาม คือคำสั่งหยุดการขาดทุนที่สามารถเลื่อนตามราคาจริงไปได้ มันเป็นกลยุทธ์การจัดการตำแหน่งการหยุดการขาดทุน ที่เป็นที่นิยมสำหรับเทรดเดอร์จำนวนมาก ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นัก เพราะวิธีหยุดการขาดทุนแบบนี้ ทำให้ประสบความสำเร็จในหลายวัตถุประสงค์
- ลดความเสี่ยงของเทรดเดอร์เมื่อเวลาผ่านไป
- รักษาผลกำไรของเทรดเดอร์
- ช่วยให้สามารถเพิ่มกำไรได้ในสถานการณ์ที่เหมาะสม
การหยุดขาดทุนแบบเลื่อนราคาตาม หลังจากที่ราคาเลื่อนไป กลยุทธ์นี้แข็งแรงและทำงานได้ดีที่สุดเมื่อเทรดเดอร์คาดหวังว่า จะมีคลื่นราคาที่แข็งแกร่ง
You cannot view this attachment.
คำแนะนำสำหรับเทรดเดอร์รายใหม่
มันเป็นเรื่องง่ายมาก ที่จะปล่อยให้อารมณ์ของเทรดเดอร์ เป็นตัวกำหนดการตัดสินใจเข้าเทรด ไม่ว่าจะฝั่งซื้อ หรือฝั่งขาย ก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เทรดเดอร์มีเงินในพอร์แล้ว
ดังนั้นขอให้เทรดเดอร์รายใหม่ใช้วิธีการจัดการ วางแผนในการเข้าเทรดโดยหาจุดเข้า หาเป้าหมาย และอย่าลืมการหยุดการขาดทุนแบบเลื่อนตาม ในเทรดเดอร์รายใหม่ อย่าพยายามเปลี่ยนกลยุทธ์มากจนเกินไปเพราะนั่นจะทำให้ กลยุทธ์หลักไม่สามารถทำงานได้ดี และเกิดความสับสนว่า กลยุทธ์ที่ตัวเทรดเดอร์เองเลือกนั้นได้ผลจริงหรือไม่
สรุป
โปรดจำไว้ว่า เทรดเดอร์ไม่จำเป็นต้องเปิดออเดอร์ทุกๆ ครั้งที่มีการย้อนกลับของราคา (Pull back) ดังนั้นอย่าหงุดหงิดหากเทรดเดอร์จำเป็นต้องคืนผลกำไรบางส่วนกลับสู่ตลาด
อย่าลืมว่า สิ่งที่เทรดเดอร์ต้องการจริงๆ คือการคาดหวังเชิงบวกในการเทรดของตัวเทรดเดอร์เอง เพื่อให้พอร์ตของตัวเทรดเดอร์ดีขึ้นและใหญ่ขึ้น ให้ลองปรับแนวทางการจัดการตำแหน่งในการเข้าเทรดเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว จากนั้นแล้ว เทรดเดอร์ก็ต้องปรับขนาดของการออกออเดอร์ ให้เหมาะสมขึ้น เพื่อเพิ่มผลกำไรของตัวเทรดเดอร์เองในอนาคต
จากที่กล่าวมา สิ่งที่เทรดเดอร์ต้องทำคือ เทรดเดอร์จำเป็น ต้องหยุดการขาดทุนและจัดการหา กลยุทธ์วิธีการทำกำไรในตำแหน่งที่เทรดเดอร์เข้าตลาดให้ได้
ในบทความนี้ เทรดเดอร์จะได้เรียนรู้ กลยุทธ์การจัดการกับตำแหน่งหรือจุดในการเข้าเทรด โดยมี 3 หัวข้อใหญ่ คือ
1. กำหนดจุด หยุดการขาดทุนในขั้นต้น
2. กำหนดจุด เป้าหมายของการทำกำไร
3. ติดตามเส้นทางของการหยุดการขาดทุน
ภาพตัวอย่าง ด้านล่าง เป็น ระบบการเทรดแบบพื้นฐาน คือการรอให้กราฟ เบรคราคาและรอให้กราฟวิ่งย้อนกลับมาอีกครั้ง ซึ่งเป็นการออกแบบมาเป็นอย่างดีสำหรับกลยุทธ์การซื้อขายแบบกราฟวิ่งย้อนกลับ (Pullback trading) ถ้าตัวเทรดเดอร์เอง ฝึกฝนบ่อยๆ และคุ้นเคยกับกลยุทธ์นี้ มันจะเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายมาก
แต่อย่างไรก็ตามตัวเทรดเดอร์เองก็สามารถปรับใช้เทคนิคเหล่านี้กับ วิธีการเทรดทุกๆ คู่เงินหรือทุกๆ ช่วงเวลาของการวิ่งย้อนกลับของกราฟเลยทีเดียว
# 1: กำหนดจุด หยุดการขาดทุนในขั้นต้น
- การหยุดการขาดทุนขั้นต้น เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ อันดับแรกต้องจำกัดความเสี่ยงของคุณ
- อันดับสองต้องมีพื้นฐานในการคำนวณอัตราส่วนระหว่างความเสี่ยงต่อผลตอบแทนของคุณ
- รูปแบบของการหยุด (การขาดทุน) หรือการมองเห็นจุดที่เทรดเดอร์จะหยุดเทรด รูปแบบการหยุด คือวิธีการ มองหาจุดที่จะเข้าเทรด ในช่วงการเกิดรูปแบบการวิ่งย้อนกลับของกราฟ (Pullback setup) นั่นเอง
- การมองหาจุดการหยุดขาดทุนจาก รูปแบบของแท่งเทียน แนวความคิดในการมองรูปแบบแท่งเทียน เป็นได้ทั้งในช่วงที่ ให้เทรดเดอร์มีจุดเข้าสู่ตลาด และออกจากตลาดได้เช่นกัน
การคาดหวังของเทรดเดอร์ ในการมองหาจุดที่จะเข้าเทรดในรูปแบบการวิ่งย้อนกลับของกราฟ มักจะทำให้เทรดเดอร์เองได้ไปพร้อมกันกับแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นด้วย ดังนั้นรูปแบบการหยุดนี้ คือรูปแบบความคิดที่มีเหตุผลเป็นไปได้ค่อนข้างมาก
You cannot view this attachment.
# 2: ตั้งเป้าหมาย ของการทำกำไรโดยมีการจำกัด การเปิดคำสั่งซื้อหรือคำสั่งขาย
- การกำหนดเป้าหมายของกำไรจะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเปิดคำสั่งซื้อหรือขายได้ อย่างมีระเบียบวินัย ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการต่อสู้กับความโลภและการคาดเดาราคาซึ่งจะทำให้ตัวเทรดเดอร์เองเกิดความลังเล
- ในทางเทคนิค เทรดเดอร์มักจะมองหา บริเวณแนวรับหรือแนวต้าน ไว้เป็นเป้าหมายในการทำกำไร เทรดเดอร์สามารถแยกแยะโซนเหล่านี้ได้โดยดูจากบริเวณที่ราคาเคยไปอยู่บริเวณใด บริเวณหนึ่งนานๆ หรือดูจากจุดกลับตัวที่มีความหมาย และเป้าหมายที่ไตร่ตรองไว้แล้วโดยใช้รูปแบบแท่งเทียนมาวิเคราะห์อีกครั้ง
- สำหรับการออกคำสั่งซื้อในกลยุทธ์แบบราคาย้อนกลับ ให้เทรดเดอร์กำหนดเป้าหมายกำไรในบริเวณที่เป็นแนวต้าน เพราะบริเวณโซนเหล่านี้คือโซนที่ราคาในตลาดอาจย้อนกลับลงได้
- สำหรับการออกคำสั่งขายในกลยุทธ์แบบราคาย้อนกลับ ให้เทรดเดอร์กำหนดเป้าหมายกำไรในบริเวณที่เป็นแนวรับ เพราะบริเวณโซนเหล่านี้คือโซนที่ราคาในตลาดอาจย้อนกลับขึ้นไปได้
You cannot view this attachment.
การมีเป้าหมายราคาพร้อมด้วยจุดในการหยุดการขาดทุน จะช่วยให้เทรดเดอร์ทราบถึงอัตราส่วน ความคุ้มค่าของผลตอบแทนที่มีต่อความเสี่ยง เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ มักจะใช้การเทรดแบบราคาย้อนกลับ (pullback) เพียงอย่างเดียว ในขณะที่เทรดเดอร์เองก็คาดว่าจะเป็นการแนวโน้มที่เริ่มต้นใหม่ ดังนั้นเทรดเดอร์ควรรักษากำไรไว้ที่แนวโน้มล่าสุดก่อน
ในบางสถานการณ์ เทรดเดอร์อาจพบว่าการเทรดแบบที่ว่านี้เหมาะสมที่สุด เพื่อให้ผลกำไรของเทรดเดอร์วิ่งต่อไปอีก ในกรณีดังกล่าว เทรดเดอร์เองอาจต้องใช้เครื่องมืออีกอันหนึ่ง ชื่อว่า trailing stop ให้เข้าใจง่ายขึ้น เรียกว่า การหยุดขาดทุนแบบเลื่อนราคาตาม
# 3: การหยุดขาดทุนแบบเลื่อนราคาตาม
การหยุดขาดทุนแบบเลื่อนราคาตาม คือคำสั่งหยุดการขาดทุนที่สามารถเลื่อนตามราคาจริงไปได้ มันเป็นกลยุทธ์การจัดการตำแหน่งการหยุดการขาดทุน ที่เป็นที่นิยมสำหรับเทรดเดอร์จำนวนมาก ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นัก เพราะวิธีหยุดการขาดทุนแบบนี้ ทำให้ประสบความสำเร็จในหลายวัตถุประสงค์
- ลดความเสี่ยงของเทรดเดอร์เมื่อเวลาผ่านไป
- รักษาผลกำไรของเทรดเดอร์
- ช่วยให้สามารถเพิ่มกำไรได้ในสถานการณ์ที่เหมาะสม
การหยุดขาดทุนแบบเลื่อนราคาตาม หลังจากที่ราคาเลื่อนไป กลยุทธ์นี้แข็งแรงและทำงานได้ดีที่สุดเมื่อเทรดเดอร์คาดหวังว่า จะมีคลื่นราคาที่แข็งแกร่ง
You cannot view this attachment.
คำแนะนำสำหรับเทรดเดอร์รายใหม่
มันเป็นเรื่องง่ายมาก ที่จะปล่อยให้อารมณ์ของเทรดเดอร์ เป็นตัวกำหนดการตัดสินใจเข้าเทรด ไม่ว่าจะฝั่งซื้อ หรือฝั่งขาย ก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เทรดเดอร์มีเงินในพอร์แล้ว
ดังนั้นขอให้เทรดเดอร์รายใหม่ใช้วิธีการจัดการ วางแผนในการเข้าเทรดโดยหาจุดเข้า หาเป้าหมาย และอย่าลืมการหยุดการขาดทุนแบบเลื่อนตาม ในเทรดเดอร์รายใหม่ อย่าพยายามเปลี่ยนกลยุทธ์มากจนเกินไปเพราะนั่นจะทำให้ กลยุทธ์หลักไม่สามารถทำงานได้ดี และเกิดความสับสนว่า กลยุทธ์ที่ตัวเทรดเดอร์เองเลือกนั้นได้ผลจริงหรือไม่
สรุป
โปรดจำไว้ว่า เทรดเดอร์ไม่จำเป็นต้องเปิดออเดอร์ทุกๆ ครั้งที่มีการย้อนกลับของราคา (Pull back) ดังนั้นอย่าหงุดหงิดหากเทรดเดอร์จำเป็นต้องคืนผลกำไรบางส่วนกลับสู่ตลาด
อย่าลืมว่า สิ่งที่เทรดเดอร์ต้องการจริงๆ คือการคาดหวังเชิงบวกในการเทรดของตัวเทรดเดอร์เอง เพื่อให้พอร์ตของตัวเทรดเดอร์ดีขึ้นและใหญ่ขึ้น ให้ลองปรับแนวทางการจัดการตำแหน่งในการเข้าเทรดเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว จากนั้นแล้ว เทรดเดอร์ก็ต้องปรับขนาดของการออกออเดอร์ ให้เหมาะสมขึ้น เพื่อเพิ่มผลกำไรของตัวเทรดเดอร์เองในอนาคต