เมื่อโลกเรามีทรัพายากรจำกัด เราจึงจำเป็นที่จะต้องบริหารทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทำให้เมื่อเราเลือกทำอะไรสักอย่างหนึ่ง เราจะเสียโอกาสที่ไม่ได้ทำอีกอย่างหนึ่งง หรือในทางเศรษฐศาสตร์เราจะเรียกว่า "ต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost)"ซึ่งในบางตำราอาจะเรียกว่าต้นทุนในการเลือก
"ต้นทุนค่าเสียโอกาส = มูลค่าทางเลือกที่สูงสุดที่เราไม่ได้เลือก"
เพื่อให้เห็นภาพของ"ต้นทุนค่าเสียโอกาส" ได้ชัดเจนขึ้น อย่างเช่นเมื่อเราเลือกที่จะใช้เวลาในการออกไปเที่ยวกับแฟน เราจะเสียโอกาสไปเที่ยวกับพื่อนได้ ต้นทุนค่าเสียโอกาสในกรณีนี้คือ การออกไปเที่ยวกับเพื่อน หรือถ้าเราเลือกที่จะเอาเงินไปลงทุนทำธุรกิจ เราก็จะเสียโอกาสที่จะนำเงินไปลงทุนในหุ้น ต้นทุนค่าเสียโอกาสกรณีนี้ก็คือ ผลตอบแทนที่เราคาดว่าจะได้รับหากเรานำเงินไปลงทุนในหุ้น
หรือถ้าเรามีเวลาว่างอยู่ 3 ชั่วโมง ถ้า 3 ชั่วโมงนั้น เราเอาเวลาไปสอนพิเศษเราจได้เงิน 1,000 บาท แต่ถ้าเอาเวลาไปเล่นดนตรีตามร้านอาหารเราจะได้รับ 600 บาท หรือถ้าเอาเวลาไปเป็นผู้ช่วยอาจารย์ในการตรวจงานะได้รับเงิน 300 บาท ถ้าเราเลือกไปสอนพิเศษเราะมีต้นค่าเสียโอกาสเท่ากับ 600 บาท ถ้าเราเลือกไปเล่นดนตรีตามร้านอาหารเราจะมีต้นทุนค่าเสียโอกาสเท่ากับ 1,000 บาท
ประโยชน์ของต้นทุนค่าเสียโอกาส จะช่วยทำให้เรารู้จักการประเมิณทางเลือกว่า ณ เวลาหนึ่งๆ เราควรเลือกที่จะทำหรือไม่ทำอะไร เพื่อที่จะได้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่ง "ต้นทุนค่าเสียโอกาส" มีความแตกต่างากต้นทุนทางบัญชี ต้นทุนค่าเสียโอกาสจะมองไปถึงต้นทุนแฝงที่มองไม่เห็น แต่ต้องบอกว่าการคำนวณต้นทุนค่าเสียโอกาสในทางปฏิบัติทำได้ค่อนข้างยาก เพราะจำเป็นต้องคาดคะเนจากเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง
เป็นประโยชน์มากครับ