ข่าว:

กระทู้ล่าสุด

#91
การวิเคราะห์ทางเทคนิค / คู่มือสู่แท่งเทียนแบบ Spinning...
กระทู้ล่าสุด โดย support-1 - มีนาคม 22, 2024, 02:50:18 ก่อนเที่ยง
จับจังหวะทำกำไรแบบเซียนด้วยการอ่านค่าแนวโน้มของ Spinning Top จากกราฟแท่งเทียน รูปแบบของแท่งเทียน จะบอกแนวโน้มของตลาดจากแรงกระเพื่อขอหมีและกระทิงในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ

แท่งเทียนแบบ Spinning Top คืออะไร
แท่งเทียนแบบ Spinning Top (Spinning Top Candlestick) เป็นรูปแบบหนึ่งของกราฟแท่งเทียนซึ่งเป็นกราฟเทคนิค ลักษณะคือตัวแท่งจะสั้นมีหางทั้งบนและล่าง หางจะสั้นหรือยาวก็ได้ขนาดความยาวหางทั้งบนและล่างควรจะไล่ ๆ กัน



แท่งเทียนแบบนี้จะบอกใบ้ทิศทางของราคาหลักทรัพย์ในอนาคต เป็นสัญญาณการเปิดสัญญาหรือซื้อขายสำหรับนักลงทุน



แท่งเทียนแบบ Spinning Top เป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นเมื่อผู้ซื้อและผู้ขายสร้างสมดุลในอำนาจ ราคาปิดและเปิดเท่ากันในแต่ละช่วงเวลาอาจจะหนึ่งนาที ห้านาที สิบห้านาที หนึ่งชั่วโมงหรือช่วงเวลาใดก็แล้วแต่ที่นักลงทุนตั้งค่า Timeframe ไว้เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมของคนในตลาดที่สะท้อนออกมาผ่านราคา  แท่งเทียนรูปแบบนี้จะปรากฏเป็นแท่งสีเขียวราคาเปิดอยู่ต่ำกว่าราคาปิด สะท้อนตลาดกำลังจะมีแนวโน้มขาขึ้น และสีแดงราคาเปิดสูงกว่าราคาปิด สะท้อนตลาดกำลังจะมีแนวโน้มขาลง

แท่งเทียนแบบ Spinning Top เกิดได้ยังไงบ้าง
พฤติกรรมของนักเทรดกำหนดรูปแบบของกราฟแท่งเทียน นักเทรดแบ่งออกเป็นกลุ่มกระทิงที่จะผลักแท่งเทียนให้เลื่อนสูงขึ้น และกลุ่มหมีที่ดึงให้แท่งเทียนลดระดับต่ำลง นักลงทุนคนหนึ่งจะเป็นกระทิงหรือหมีขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ในตลาดราคาจะมีแนวโน้มขาลงหรือขาขึ้นชัดเจนขึ้นอยู่กับอำนาจการซื้อขายของกลุ่มกระทิงหรือกลุ่มหมีที่มีมากกว่ากัน

ในช่วงตลาดขาขึ้นนักเทรดกระทิงมักส่งราคาสูงกว่าราคาเปิดในช่วงเวลาก่อนหน้าซึ่งเป็นไปได้ว่านักเทรดหมีอาจจะดึงราคาลงมาในเวลาเดียวกันพอดี และในช่วงตลาดขาลงนักเทรดหมีมักส่งราคาต่ำกว่าราคาเปิด ซึ่งนักเทรดกระทิงก็อาจจะพยายามดึงราคาขึ้นไปอย่างได้จังหวะพอดีเช่นกัน ราคาที่มาจากนักเทรดกระทิงและนักเทรดหมีต่างกันบ้างแต่น้อยมากจึงทำให้แท่งเทียนออกมาเป็นรูปแบบ Spinning Top

เรารู้อะไรจากแท่งเทียนแบบ Spinning Top
แท่งเทียนแบบ Spinning Top สื่อถึงการชะลอการตัดสินใจที่ส่งผลต่อการซื้อขายอย่างมีนัยยะสำคัญของนักลงทุน หรือการตัดสินใจที่จะไม่กำหนดราคาให้สูงหรือต่ำอย่างเด็ดขาด ถ้าสถานการณ์ความไม่แน่ใจยังดำเนินต่อไป กราฟแท่งต่อ ๆ ไปก็จะปรากฏขึ้นด้านข้างโดยไม่แสดงแนวโน้ม (Sideway) อย่างไรก็ตามสีและตำแหน่งของแท่งเทียนก็ให้สัญญาณว่าในอนาคตอันใกล้ แนวโน้มขาขึ้นหรือลงกำลังจะปรากฏให้เห็น



ในขาขึ้นที่จุดสูงสุด มักพบแท่งเทียนแบบ Spinning Top ซึ่งเป็นสีแดงแสดงว่านักเทรดกระทิง (Bull Trader) กำลังจะสูญเสียการควบคุมเพื่อกำหนดราคา แนวโน้มกำลังจะเปลี่ยนเป็นขาลง และในทางกลับกัน ถ้าหากเจอแท่งเทียนแบบ Spinning Top ในกราฟขาลงซึ่งเป็นสีเขียวก็แสดงว่านักเทรดหมีกำลังสูญเสียอำนาจการกำหนดราคาไปอยู่ทางฝั่งกระทิงซึ่งจะทำให้ราคาพุ่งทะยานขึ้น



การดูสัญญาณจากแท่งเทียนเพียงแท่งเดียว หรือดูจาก Spinning Top เพียงรูปแบบเดียว เป็นเรื่องเสี่ยงเกินไป ในเบื้องต้น ถ้าพบกับแท่งเทียนแบบ Spinning Top แล้ว ไม่ควรบุ่มบ่ามแต่ควรรอสัญญาณยืนยันอื่น เช่น แท่งเทียนที่ปรากฏขึ้นตามมา 2-3 แท่งควรเป็นไปในทิศทางที่คาดไว้ เช่น Spinning Top เป็นสีแดงก็รอเห็นกราฟแท่งเทียนปรากฏตามมาเป็นสีแดงติด ๆ กัน 2-3 แท่ง และไม่ได้อยู่ในช่วงแคบก็ค่อยเชื่อว่าตลาดเป็นขาลง และตัดสินใจลงทุนในช่วงขาลง หรือถ้า Spinning Top เป็นสีเขียว ก็รอจนเห็นแท่งเทียนสีเขียวอื่น ๆ ตามมาพร้อมกับระคาที่ดันตัวสูงขึ้นไปอีก ค่อยสรุปว่ากำลังเจอกับขาขึ้น

จะเทรดเมื่อเป็น แท่งเทียนแบบ Spinning Top ได้ยังไง
มีหลายวิธีในการเทรดเมื่อเห็นแท่งเทียนแบบ Spinning Top สิ่งแรกที่ต้องทำเน้นอีกครั้งว่าคือการยืนยันว่ากำลังเห็นสัญญาณอยู่ ไม่ใช่แค่แท่งเทียนบังเอิญแสดงรูปแบบ Spinning Top และหลังจากนั้นไม่ปรากฏว่าราคาปรับเป็นขาขึ้นหรือขาลงหรือเป็นไปในทิศทางที่ไม่ได้คาดซึ่งจะทำให้ขาดทุนได้



นักเทรดจำนวนมากใช้ตัววัดทางเทคนิคเข้ามายืนยันประกอบการเทรด เพราะว่าตัววัดทางเทคนิคจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมมากกว่าแค่ข้อมูลราคาที่เปลี่ยนไป เช่น

1.Moving Average Convergence-Divergence (MACD) คือ ตัวชี้วัดที่บอกทิศทางแนวโน้มของหุ้น เป็นเครื่องมีที่มีแนวคิดจากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 2 เส้นที่มีค่าแตกต่างกัน คำนวณจากราคาปิดย้อนหลัง

2.Relative Strength Index (RSI) คือ เครื่องมือที่ใช้วัดการแกว่งตัวของราคาว่ามีภาวะการซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือการขายมากเกินไป (Oversold) มีค่าตั้งแต่ 0 ถึง 100 หากมีการซื้อมากไป เมื่อราคาพุ่งไปสูงแล้ว อาจจะไม่เพิ่มสูงต่อ ปริมาณการซื้อลดลง ราคาเริ่มลดลง หรือเมื่อราคาลดลงต่ำแล้ว อาจจะไม่ลดต่อ ปริมาณการซื้อกลับมาเพิ่มขึ้น เราสามารถดูที่เส้น RSI ประกอบกราฟแท่งเทียนเพื่อหาสัญญาณราคากลับตัวเป็นขาขึ้นหรือขาลง

3.Stochastic Oscillator เน้นเปรียบเทียบราคาปิดในช่วงระยะเวลาหนึ่ง มีค่าระหว่าง 0 ถึง 100 เช่นเดียวกับ RSI แต่ประกอบด้วยเส้น 2 เส้น เส้นหนึ่งคือ %K ซึ่งเป็นสัดส่วนระหว่างราคาปิดกับราคาต่ำสุด กับส่วนต่างระหว่างราคาสูงสุดกับราคาต่ำสุด ส่วน %D คือเส้นค่าเฉลี่ยของ %K อีกที เมื่อ %K ตัดขึ้นเหนือ %D (ค่าเฉลี่ยของตัวเอง) และเกิดขึ้นที่ค่าชี้วัดมากกว่า 80 จะเป็นสัญญาณซื้อ และในทางตรงกันข้ามเมื่อ %K ตัดลงมาต่ำกว่า %D (ค่าเฉลี่ยของตัวเอง) และเกิดขึ้นที่ค่าชี้วัดต่ำกว่า 20 เป็นสัญญาณขาย

ตัวอย่างกราฟแท่งเทียนแบบ Spinning Top

You cannot view this attachment.

จากภาพกราฟตัวอย่าง กราฟแท่งเทียน Spinning Top ขาลงสีแดงปรากฎขึ้นด้านซ้ายก่อนที่ราคาของคู่เงิน EURUSD หรือ ยูโรกับดอลลาห์สหรัฐ จะปรับเป็นขาลง โดยในช่วงที่สังเกตเห็น Spinning Top ถ้าไม่ได้ดูร่วมกับเครื่องมืออื่นว่าจะเป็นขาลง จะต้องรอให้แน่ใจก่อน เพราะหลังจากนั้นมี Sideway อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่ราคาจะปรับลดลงจริง ๆ



เมื่อดูต่อไป สิ้นสุดขาลง ก่อนที่ราคาในขาลงจะกลับตัวเป็นขาขึ้นอีกครั้ง ปรากฎกราฟแท่งเทียน Spinning Top ขาขึ้นสีเขียวซึ่งจริง ๆ แล้วยังเป็น Spinning Top ที่ไม่สมบูรณ์แบบเพราะหางด้านบนและด้านล่างสั้นยาวไล่ ๆ แต่ไม่เท่ากัน แต่ถัดจากนั้นไม่นานเราสามารถเห็น Spinning Top ขาลงสีแดงได้อีกครั้ง โดยตลาดในเวลาถัดไปยังไม่ปรับตัวลงทันที แต่หลังจากนั้นไม่นานก็เป็นขาลงดังในรูปต่อไป

You cannot view this attachment.

จะเห็นว่าจริง ๆ แล้วการใช้ Spinning Top เพียงอย่างเดียวค่อนข้างจะคาดเดาแนวโน้มในอนาคตให้แน่นอนได้ยาก เพราะอาจจะมี Sideway เข้ามาแทรก หรือการปรับตัวสวนทางระยะสั้น ๆ ซึ่งสำหรับมือใหม่อาจทำให้ตกใจและชิงขาดขาดทุนเป็นการ Cut Loss ได้ ดังนั้นหากใช้เครื่องมือทางเทคนิคประกอบจะทำให้ตัดสินใจได้ดีกว่า ดังในภาพต่อมา

You cannot view this attachment.

เลือกใช้ Stochastic Oscillator เข้ามาประกอบ และอ่านค่าดังที่ได้อธิบายไปข้างต้นแล้ว เมื่อ %K ตัดขึ้นเหนือ %D (ค่าเฉลี่ยของตัวเอง) ที่ค่าชี้วัดมากกว่า 80 จะเป็นสัญญาณขาขึ้น หรือการเปิดสัญญาซื้อ และในทางตรงกันข้ามเมื่อ %K ตัดลงมาต่ำกว่า %D (ค่าเฉลี่ยของตัวเอง) ที่ค่าชี้วัดต่ำกว่า 20 เป็นสัญญาณขาย



TOP1 Markets มีบทวิเคราะห์ด้วยเครื่องมือทางเทคนิค ซึ่งช่วยให้คุณได้เรียนรู้ไปพร้อมกับทดลองใช้งาน สนใจเปิดบัญชีซื้อขายได้ทันที ที่ 

Doji กับ Spinning Top ต่างกันตรงไหน

You cannot view this attachment.

กราฟแท่งเทียนแบบ Spinning Top มีรูปลักษณ์ใกล้เคียงกับแบบ Doji แต่สิ่งที่ต้องพึงใส่ใจคือขนาดแท่ง กราฟแบบ Doji จะมีขนาดแท่งที่เล็กกว่า แสดงถึงความเป็นกลางในด้านราคาซื้อขายหรือความกดดันระหว่างผู้ซื้อสองฝั่งใกล้เคียงกัน แท่งเทียนแบบ Spinning Top จะพบมากกว่าที่จุดสูงหรือต่ำสุดเมื่อแนวโน้มจะเปลี่ยนแปลง ในขณะที่แบบ Doji มักจะตามมาหลัง Spinning Top อีกที หรือขณะที่กราฟดำเนินไปในลักษณะ Sideway

ข้อจำกัดของการใช้แท่งเทียนแบบ Spinning Top
หลาย ๆ ครั้งจะพบแท่งเทียนแบบ Spinning Top เมื่อราคากำลังจะเข้าสู่ Sideway (ราคาปรับตัวขึ้นลงในช่วงแคบ ๆ ไม่แสดงแนวโน้ม) หรืออยู่ในช่วง Sideway  แล้ว การนำ Spinning Top มาใช้เพื่อคะเนแนวโน้มจึงเกิดปัญหาขึ้นได้ว่าบางครั้งถึงจะเห็นกราฟแบบ Spinning Top แต่ราคากลับไม่มีการปรับตัวเปลี่ยนแปลงดังที่คาดไว้



สายเก็งกำไรระยะสั้นหลายท่านเน้นการเห็นกำไรในทันทีหลังเปิดสัญญาหรือซื้อขาย โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนที่เน้นกินส่วนต่างขนาดเล็ก ดังนั้นเพื่อไม่ให้ผิดพลาดหรือรอนาน เมื่อจะตัดสินใจลงทุน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้ตลาดคอนเฟิร์มด้วยการเห็นการปรับทิศทางกับตาตัวเองไปสักระยะหนึ่งหรือมีสัญญาณจากเครื่องมือทางเทคนิคอื่น ๆ



นอกจากนี้ แท่งเทียน Spinning Top ยังไม่ได้ทำให้กำหนดราคาเป้าหมายหรือว่าช่วยหาทางออกเหมือนกับแนวรับหรือแนวต้าน  นักเทรดต้องมีเทคนิควิธีการอื่น ๆ เสริม อย่างรูปแบบกราฟแท่งเทียนแบบอื่น หรือตัววัดอื่นเพื่อให้รู้จุดที่จะปิดสัญญาณหรือทำการขายเพื่อทำกำไร

บทส่งท้าย
กราฟแท่งเทียนมีหลายรูปแบบ ไม่สามารถพึ่งพารูปแบบเดียวมาเป็นกลยุทธ์ทำกำไรได้ดีหรือสมบูรณ์ Spinning Top เป็นหนึ่งในรูปแบบที่สามารถสังเกตเห็นได้ง่าย จริง ๆ แล้วมันเป็นเหมือนสัญญาณให้ตรวจสอบหาจังหวะเข้าซื้อหรือขายด้วยเครื่องมือทางเทคนิคอื่น ๆ



นอกจากเทคนิคและกลยุทธ์ ในการลงทุน การเทรดกับโบรกเกอร์ที่ไว้ใจได้เป็นเรื่องสำคัญมาก TOP1 Markets โบรกเกอร์ CFDs ให้บริการเทรดออนไลน์ทั้ง Forex, สินค้าโภคภัณฑ์, หุ้น, ดัชนี และผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่น ๆ แม้ในยามตลาดผันผวนก็สามารถทำกำไรได้ ให้บริการมากกว่า 10 ประเทศ ไม่คิดค่าคอมมิชชั่น ด้วยรางวัลบริการทางการเงินคุณภาพเยี่ยม มีแพลทฟอร์ตการเทรดที่ดีที่สุดในปี 2021 ปัจจุบันมีนักเทรดกว่า 1.35 ล้านคนทั่วโลกกำลังใช้บริการอยู่ เริ่มต้นเทรดเพียงใช้เงินฝากขั้นต่ำ 50 USD  มีโบนัสสูงสุดสำหรับการเทรด 4,000 USD และ รับ Leverage เพื่อเพิ่มอำนาจซื้อขายสูงสุดที่ 1,000 เท่า

#92
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / บทวิเคราะห์กราฟทางเทคนิค Forex...
กระทู้ล่าสุด โดย support-2 - มีนาคม 22, 2024, 12:07:21 ก่อนเที่ยง
EURJPY
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง โครงสร้างของราคามีสวิงไฮและสวิงโลวล่าสุดสูงขึ้นเมื่อเทียบกับสวิงก่อนหน้า อีกทั้งราคายังเคลื่อนที่อยู่เหนือ Support Trendline จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่าแนวโน้มในกรอบเวลานี้อยู่ในขาขึ้น
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคาเพิ่งจะทะลุขึ้นมาทำสวิงไฮใหม่ยกตัวสูงขึ้นอยู่เหนือแนวต้าน ถือเป็นสัญญาณยืนยันการไปต่อในแนวโน้มขาขึ้น มองหาจังหวะเข้า Buy โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ

GBPAUD
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง ราคาสร้างรูปแบบสามเหลี่ยม Symmetrical Triangle จากนั้นราคาได้ทะลุลงมาปิดอยู่ด้านล่างของกรอบสามเหลี่ยม เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ารูปแบบสามเหลี่ยมที่เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นรูปแบบที่บ่งบอกถึงโอกาสที่ราคาจะลง มองหาจังหวะเข้า Sell โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ
#93
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - มีนาคม 21, 2024, 10:24:54 ก่อนเที่ยง
XAUUSD SELL now at 2207.60
SL 2203
TP 2145
#94
การวิเคราะห์ทางเทคนิค / Fibonacci
กระทู้ล่าสุด โดย support-1 - มีนาคม 21, 2024, 04:01:54 ก่อนเที่ยง
Fibonacci คืออะไร ตัวเลขทองคำที่ Trader สายลงทุนชื่นชอบและนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการหาจุดกลับตัว จัดว่าเป็นเครื่องมือที่นิยมและเป็นลำดับเลขที่พบเจอได้ตามทั่วไป เมื่ออยู่ในตลาดการเทรดถูกนำมาเทียบเป็นสัดส่วนของการเคลื่อนที่จนถูกเรียกว่าเป็นสัดส่วนทองคำ

มาดูกันดีกว่า Fibonacci คืออะไรกันแน่?
Fibonacci คืออะไร เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินชื่อ Fibonacci มาแล้วบ้าง เมื่ออยู่ในตลาดการเทรดถูกนำมาเชื่อมเข้ากับ Number ที่มีความเชื่อมโยงเข้ากันและมีความหมายในแต่ละสัดส่วน เช่น 0, 1, 2, 3, 5, 8, 13 ...จะเห็นได้ว่าสัดส่วนตัวเลขที่พบเป็นสัดส่วนทองคำ ในแวดวงการลงทุนจะใช้เป็นกฎเกณฑ์การเคลื่อนไหวของราคที่ดำเนินไปอย่างมีแบบแผน ทำให้การหาตัวเลขทองคำเหล่านี้มีผลต่อการซื้อขายสินทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

You cannot view this attachment.

Table of Contents
มาดูกันดีกว่า Fibonacci คืออะไรกันแน่?
ประเภททั้งหมดของ Fibonacci คืออะไร แล้วมันมีกี่แบบ?
Fibonacci Retracement
Fibonacci Extension
Fibonacci Projection
เทคนิคการตี Fibonacci คืออะไร
Fibonacci คืออะไร ตัวเลขทองคำที่ Trader สายลงทุนชื่นชอบและนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการหาจุดกลับตัว จัดว่าเป็นเครื่องมือที่นิยมและเป็นลำดับเลขที่พบเจอได้ตามทั่วไป เมื่ออยู่ในตลาดการเทรดถูกนำมาเทียบเป็นสัดส่วนของการเคลื่อนที่จนถูกเรียกว่าเป็นสัดส่วนทองคำ

มาดูกันดีกว่า Fibonacci คืออะไรกันแน่?
Fibonacci คืออะไร เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินชื่อ Fibonacci มาแล้วบ้าง เมื่ออยู่ในตลาดการเทรดถูกนำมาเชื่อมเข้ากับ Number ที่มีความเชื่อมโยงเข้ากันและมีความหมายในแต่ละสัดส่วน เช่น 0, 1, 2, 3, 5, 8, 13 ...จะเห็นได้ว่าสัดส่วนตัวเลขที่พบเป็นสัดส่วนทองคำ ในแวดวงการลงทุนจะใช้เป็นกฎเกณฑ์การเคลื่อนไหวของราคที่ดำเนินไปอย่างมีแบบแผน ทำให้การหาตัวเลขทองคำเหล่านี้มีผลต่อการซื้อขายสินทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Fibonacci
ความเป็นมาของตัวเลขฟีโบนัชชี เกิดขึ้นในช่วงสมัยกลางยุโรป เชื่อกันว่าการเกิดขึ้นของฟีโบนัชชีถูกคิดค้นด้วยนักคณิตศาสตร์ตั้งแต่ 400-200 ปีก่อนคริสตกาล และถูกนำมาใช้งานกันอย่างแพร่หลายจนถึงทุกวันนี้ ความ Amazing ของอนุกรมตัวเลขไที่นำมาใช้ในการเทรดซึ่งเป็นสัดส่วนของกฎธรรมชาติเพื่อนำมาคาดการณ์หาแนวรับ แนวต้าน เป้าหมายราคา เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการเข้าถึงจุดซื้อ จุดขาย ได้ดีรวมถึงการใช้ร่วมกับเครื่องมือที่หลากหลาย

ประเภททั้งหมดของ Fibonacci คืออะไร แล้วมันมีกี่แบบ?
เมื่อต้องการ Trade ได้อย่างมีประสิทธิภาพควรทำความเข้าใจ Fibonacci คืออะไร มีกี่ประเภท เพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแบ่งได้ ดังนี้

You cannot view this attachment.

Fibonacci Retracement
ใช้ในการวัดกะระยะการย่อหรือการเด้งของ Graph เพื่อต้องการหาโอกาสที่เส้นกราฟจะเดินไปถึงจุดไหน หากกราฟเป็นเทรนขาขึ้นจะใช้ในการย่อลงมาของกราฟ แต่ในทางกลับกันหากเป็นราคาขาลงมาก็ใช้ในการวัดการเด้งของกราฟ สัดส่วนจะเริ่มจาก 0% -100% ความสำคัญของการดูกราฟที่มีโอกาสซื้อขายจับจังหวะได้แม่นยำขึ้น

Fibonacci Extension
รูปแบบนี้คือการใช้วัดราคาสามารถยืดออกไปได้ไกลแค่ไหน โดยแสดงค่าตั้งแต่ 100% ขึ้นไป เลือกการเทรดได้ตามประสบการณ์ ซึ่งเป็นช่วงกว้างอาจต้องเป็น Professional

Fibonacci Projection
เหมาะสำหรับการใช้ดูการเคลื่อนไหวของราคา หลังจากที่มีการย่อหรือการเด้งใน Trend ทั้งนี้เพื่อต้องการดูว่าจะมีโอกาสเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนว่าจะถึงตามเป้า หรือดูแนวต้าน แนวรับ สำหรับราคาที่มักจะใช้งานบ่อย ๆ คือ 100, 161.8

You cannot view this attachment.

เทคนิคการตี Fibonacci คืออะไร
การเรียนรู้ใช้งานเทคนิค Fibonacci คืออะไร จัดว่าเป็น Great Tools อีกหนึ่งประเภทที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ให้ความสนใจและนำมาใช้งานกันมาก หากต้องการสัดส่วนการเทรดอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

- ควรศึกษา Market Trends ต้องมีความชัดเจนจึงจะใช้งานเครื่องมือได้ดี แนวโน้มของตลาดต้องชัดเจน จึงจะสามารถค้นหาจุดสูงสุด จุดต่ำสุดได้
- คาดการณ์ความเคลื่อนไหว Asset Price ได้ชัวร์มากขึ้น ความสำคัญของการเลือกตลาดที่ให้สัญญาณที่น่าเชื่อถือโดยเฉพาะตลาดใหญ่ย่อมดีกว่าตลาดขนาดเล็กอย่างแน่นอน
- ความแน่นอนและความแม่นยำในการ Confirm Signal ควรเลือกใช้เครื่องมือควบคู่กันหลายตัว ช่วยให้การวิเคราะห์เกิดความแม่นยำและสามารถจับทิศทางได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญช่วยให้การคาดการณ์ได้ดีกว่าการใช้เพียงเครื่องมือชนิดเดียว แนะนำควรเลือกใช้ Ichimoku Cloud , Bollinger Bands
#95
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / บทวิเคราะห์กราฟทางเทคนิค Forex...
กระทู้ล่าสุด โดย support-2 - มีนาคม 21, 2024, 01:56:50 ก่อนเที่ยง
AUDUSD
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง ราคาสร้างรูปแบบที่บ่งบอกถึงโอกาสที่จะกลับตัวขึ้นอย่าง Inverted Head and Shoulder จากนั้นราคาได้ทะลุขึ้นมาปิดอยู่เหนือเส้น Neckline เป็นสัญญาณยืนยันว่ารูปแบบกลับตัวที่เกิดขึ้นสมบูรณ์ จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวขึ้นตาม Chart Pattern ที่เกิด มองหาจังหวะเข้า Buy โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ

NZDUSD
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา Daily โครงสร้างของราคามีสวิงไฮและสวิงโลวล่าสุดสูงขึ้นเมื่อเทียบกับสวิงก่อนหน้า จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่าแนวโน้มในกรอบเวลานี้อยู่ในขาขึ้น
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคาย่อตัวกลับลงมาที่ Fibonacci Retracement Zone สัมพันธ์กับ Support เป็นตำแหน่งที่เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวขึ้นต่อตามแนวโน้มเดิมจากบริเวณนี้ มองหาสัญญาณกลับตัวขึ้นเพื่อเข้า Buy โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ

EURAUD
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา Daily โครงสร้างของราคามีสวิงไฮและสวิงโลวล่าสุดต่ำลงเมื่อเทียบกับสวิงก่อนหน้า จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่าแนวโน้มในกรอบเวลานี้อยู่ในขาลง
ตำแหน่งปัจจุบัน ราคาดีดตัวกลับขึ้นมาที่ Fibonacci Retracement Zone เป็นตำแหน่งที่เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวลงต่อตามแนวโน้มเดิมจากบริเวณนี้ มองหาสัญญาณกลับตัวลงเพื่อเข้า Sell โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ
#96
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / ต่อ: Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - มีนาคม 20, 2024, 09:18:32 ก่อนเที่ยง
ทองคำ BUY 2150-2155
SL 2145
TP 2160/2165/2170
#97
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / ต่อ: Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - มีนาคม 20, 2024, 08:04:50 ก่อนเที่ยง
Buy BTCUSD 61800
Tp 62000
Tp 62250
Tp 62500
Tp 62800
Tp 63200
Tp 63600
Tp 64000
Tp 64500
Tp 65000
Tp 66000
Sl 60800
#98
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / Forex Signal
กระทู้ล่าสุด โดย narjant - มีนาคม 20, 2024, 08:03:25 ก่อนเที่ยง
#99
วิเคราะห์กราฟ Forex ประจำวัน / บทวิเคราะห์กราฟทางเทคนิค Forex...
กระทู้ล่าสุด โดย support-2 - มีนาคม 20, 2024, 01:48:44 ก่อนเที่ยง
GBPNZD
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา Daily ราคาสร้างรูปแบบที่บ่งบอกถึงโอกาสที่จะกลับตัวขึ้นอย่าง Inverted Head and Shoulder จากนั้นราคาได้ทะลุขึ้นมาปิดอยู่เหนือเส้น Neckline เป็นสัญญาณยืนยันว่ารูปแบบกลับตัวที่เกิดขึ้นสมบูรณ์ จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวขึ้นตาม Chart Pattern ที่เกิด มองหาจังหวะเข้า Buy โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ

EURNZD
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา Daily ราคาย่อตัวกลับลงมาที่ Support แล้วสร้างรูปแบบที่บ่งบอกถึงโอกาสที่จะกลับตัวขึ้นอย่าง Double Bottom จากนั้นราคาได้ทะลุขึ้นมาปิดอยู่เหนือเส้น Neckline เป็นสัญญาณยืนยันว่ารูปแบบกลับตัวที่เกิดขึ้นสมบูรณ์ จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวขึ้นตาม Chart Pattern ที่เกิด มองหาจังหวะเข้า Buy โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ

EURCAD
You cannot view this attachment.
ภาพในกรอบเวลา Daily ราคาย่อตัวกลับลงมาที่ Fibonacci Retracement Zone แล้วสร้างรูปแบบที่บ่งบอกถึงโอกาสที่จะกลับตัวขึ้นอย่าง Double Bottom จากนั้นราคาได้ทะลุขึ้นมาปิดอยู่เหนือเส้น Neckline เป็นสัญญาณยืนยันว่ารูปแบบกลับตัวที่เกิดขึ้นสมบูรณ์ จากภาพดังกล่าวทำให้เรามองว่ามีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวขึ้นตาม Chart Pattern ที่เกิด มองหาจังหวะเข้า Buy โดยตั้งจุดตัดขาดทุนและคาดหวังเป้าหมายทำกำไรตามภาพประกอบ
#100
การวิเคราะห์ทางเทคนิค / On Balance Volume (OBV) คืออะไ...
กระทู้ล่าสุด โดย support-1 - มีนาคม 20, 2024, 01:35:43 ก่อนเที่ยง
You cannot view this attachment.

On Balance Volume หรือ OBV คือเครื่องมือที่วัดปริมาณการซื้อขายสะสม เพื่อวัดแรงซื้อแรงขาย ใช้ในการยืนยันทิศทางแนวโน้ม และหาจุดกลับตัวของราคา ถูกพัฒนาโดย Joe Granville โดยทฤษฎีของ Granville นั้นเชื่อว่า Volume นำราคา ซึ่งหมายความว่า ข้อมูลปริมาณการซื้อขายสามารถบ่งชี้ถึงทิศทางราคาในอนาคตได้
 
OBV จะปรับตัวขึ้นก็ต่อเมื่อ Volume ของวันที่หุ้นขึ้น มากกว่า Volume ของวันที่หุ้นลง ในทางตรงกันข้าม OBV จะปรับตัวลงก็ต่อเมื่อ Volume ของวันที่หุ้นลง มากกว่า Volume ของวันที่หุ้นขึ้น

- การปรับตัวขึ้นของ OBV บ่งชี้ให้เห็นว่า ราคามีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต
- การปรับตัวลงของ OBV บ่งชี้ให้เห็นว่า ราคามีโอกาสปรับตัวลงในอนาคต

ทั้งนี้ ค่าของ OBV ไม่ค่อยมีนัยสำคัญ เราจะโฟกัสที่ทิศทางการขึ้นลงของ OBV มากกว่า
 
การยืนยันแนวโน้ม

OBV สามารถใช้ยืนยันทิศทางของแนวโน้มการแกว่งตัวของราคา โดยหาก OBV เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับราคา แปลว่า ทั้ง Volume และ ราคา สอดคล้องกัน เป็นการยืนยันทิศทางของแนวโน้มนั้น หรือจังหวะที่ OBV เปลี่ยนทิศทาง และราคาก็เปลี่ยนทิศทางเช่นเดียวกัน เป็นการยืนยันสัญญาณการเปลี่ยนแนวโน้ม

You cannot view this attachment.

ตัวอย่างเช่น กราฟ หุ้น DTAC ในช่วงที่แนวโน้มเป็นขาขึ้น ราคาและ OBV ยืนยันทิศทางฝั่งขาขึ้นด้วยการขึ้นทำ Higher High (ทำ High ใหม่) พร้อมกัน ซึ่งเป็นการ Comfirm ซึ่งกันและกัน และในขณะที่ทางขวามือ เป็นการยืนยันว่า แนวโน้มขาขึ้นได้จบลง ด้วยการที่ราคาหลุดเส้น Uptrend Line และทำ Lower Low เช่นเดียวกับ OBV ก็ทำภาพลักษณะคล้ายกัน

การสังเกต Divergence

การเกิดสัญญาณ Divergence สามารถบ่งชี้ถึงสัญญาณการเปลี่ยนแนวโน้มของราคา โดย

- Bullish Divergence : ราคาทำ Lower Low แต่ OBV ทำ Higher Low
- Bearish Divergence : ราคาทำ Higher High แต่ OBV ทำ Lower High

You cannot view this attachment.

  ตัวอย่างการเกิดสัญญาณ Divergence ระหว่างราคา กับ OBV

Bullish Divergence : ราคาทำ Low ใหม่ แต่ OBV กลับยก Low สูงขึ้น เป็นสัญญาณ Bullish Divergence บ่งชี้ถึงสัญญาณการปรับตัวขึ้นในอนาคต

Bearish Divergence : ราคาขึ้นแตะ High เดิม แต่ OBV กลับทำ High ที่ต่ำกว่า เป็นสัญญาณ Bearish Divergence บ่งชี้ถึงสัญญาณการปรับตัวลงในอนาคต

สรุป
On Balance Volume (OBV) เป็นเครื่องมือชี้วัดที่ค่อนข้างใช้ง่าย ทรงประสิทธิภาพ และยังสามารถวัดแรงซื้อแรงขาย จากปริมาณการซื้อขาย (Volume) ซึ่งนักลงทุนสามารถนำ OBV ไปใช้ในการยืนยันทิศทางของแนวโน้ม และยังสามารถหาจุดกลับตัวของราคาจากการดู Divergence ได้อีกด้วย อีกทั้งเมื่อนำไปประกอบเครื่องมืออื่นใน Technical analysis ก็จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน เพิ่มโอกาสการชนะ และสร้างกำไรในการเทรดได้เป็นอย่างดี