Crypto Bubble คืออะไร?
Crypto Bubble หรือ ฟองสบู่คริปโต คือ สถานการณ์ที่ราคาของสกุลเงินดิจิทัลพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและผิดปกติ จนราคาสูงเกินมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์นั้น
Crypto Bubble หรือ ฟองสบู่คริปโต เปรียบเสมือนลูกโป่งที่เป่าลมจนพองตัวมาก ๆ ราคาของเหรียญคริปโตจะพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและผิดปกติ จนสูงเกินมูลค่าที่แท้จริง แต่เหมือนลูกโป่งที่เป่าจนเกินขีดจำกัด สุดท้ายฟองสบู่ก็จะแตก และราคาจะร่วงลงอย่างรุนแรง
ลักษณะเด่นของฟองสบู่คริปโต
• ราคาพุ่งขึ้นเร็วมาก โดยไม่มีเหตุผลชัดเจน
• คนเข้ามาซื้อเพราะเห็นคนอื่นทำกำไร (ไม่ใช่เพราะเข้าใจ)
• สื่อและโซเชียลมีเดียพูดถึงกันมาก
• สุดท้ายราคาจะร่วงลงแรงมาก
(https://www.thailandtraderclub.com/index.php?action=dlattach;attach=8039;image)
ทำไมฟองสบู่คริปโตถึงเกิดขึ้น?
ความกลัวพลาดโอกาส (FOMO)
• เห็นคนอื่นทำกำไรจากคริปโต
• กลัวว่าจะพลาดโอกาสรวย
• รีบซื้อโดยไม่ศึกษาข้อมูล
• ยิ่งคนซื้อมาก ราคายิ่งขึ้น ยิ่งมีคนกลัวพลาดมากขึ้น
นักลงทุนมือใหม่เข้ามาเยอะ
• ได้ยินข่าวคนรวยจากคริปโต
• คิดว่าการลงทุนคริปโตง่าย ๆ
• ไม่เข้าใจความเสี่ยง
• ลงทุนด้วยอารมณ์มากกว่าข้อมูล
สื่อและโซเชียลมีเดียป่วนการ
• ข่าวหัวข้อใหญ่เรื่องคริปโต
• เซเลบเบอร์แนะนำคริปโต
• วิดีโอใน TikTok/YouTube สอนเทรดคริปโต
• กลุ่มไลน์-เทเลแกรมแชร์ข้อมูลการลงทุน
คนดังและเพื่อน ๆ เริ่มซื้อ
• เห็นเพื่อนทำกำไรจากคริปโต
• คนดังโพสต์เรื่องซื้อคริปโต
• คิดว่าถ้าคนอื่นซื้อ เราก็ควรซื้อ
• ไม่ได้คิดด้วยตัวเอง
สัญญาณเตือนฟองสบู่คริปโต
ราคาพุ่งขึ้นเร็วผิดปกติ
• ราคาเพิ่มขึ้น 100-1000% ในเวลาไม่กี่เดือน
• ไม่มีข่าวดีหรือพัฒนาการใหม่ ๆ มารองรับ
• การเติบโตแรงเกินกว่าที่ควรจะเป็น
ทุกคนเริ่มพูดถึงคริปโต
• คนขับแท็กซี่ถามเรื่องคริปโต
• ข่าวคริปโตอยู่หน้าหนังสือพิมพ์
• คนที่ไม่เคยลงทุนเริ่มสนใจ
• มีโฆษณาแอปเทรดคริปโตเยอะขึ้น
ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นมาก
• คนซื้อ-ขายเยอะจนแอปล่ม
• มีคนเปิดบัญชีใหม่เป็นแสน ๆ คน
• ระบบแพลตฟอร์มเทรดรองรับไม่ไหว
ราคาผันผวนมาก
• วันหนึ่งขึ้น-ลง 20-30%
• ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไง
• ราคาขึ้น-ลงตามข่าวลือเล็ก ๆ น้อย ๆ
เรื่องจริงของฟองสบู่คริปโตที่แตกไปแล้ว
Terra (LUNA) พังเมื่อ พ.ค. 2022
เกิดอะไรขึ้น:
• Terra เป็นระบบที่มี LUNA และ UST (เหรียญที่ควรมีค่า 1 ดอลลาร์)
• มีคนขาย UST จำนวนมหาศาล
• ระบบพังทำให้ UST ไม่ใช่ 1 ดอลลาร์อีกต่อไป
• LUNA ราคาร่วงจากหลักพัน ๆ บาท เหลือเกือบศูนย์
ความเสียหาย:
• นักลงทุนสูญเสียเงินรวมกว่า 2 ล้านล้านบาท
• Bitcoin และคริปโตอื่น ๆ ราคาตกตามไปด้วย
• เริ่มต้น "ฤดูหนาวคริปโต" ที่ราคาอยู่ในช่วงต่ำนาน
FTX ล่มสลายเมื่อ พ.ย. 2022
เกิดอะไรขึ้น:
• FTX เป็นแพลตฟอร์มเทรดคริปโตใหญ่อันดับ 2 ของโลก
• Sam Bankman-Fried (เจ้าของ) เอาเงินลูกค้าไปเล่นการพนัน
• เมื่อคนรู้ เลยวิ่งไปถอนเงินพร้อมกัน
• แต่ FTX ไม่มีเงินเพราะเอาไปหมดแล้ว
ความเสียหาย:
• ลูกค้า FTX สูญเสียเงินกว่า 2.5 แสนล้านบาท
• Sam ถูกจับและถูกตัดสินจำคุก 25 ปี
• คนเสียความเชื่อมั่นในแพลตฟอร์มเทรดคริปโต
Bitconnect โครงการหลอกลวง (2016-2018)
เกิดอะไรขึ้น:
• Bitconnect สัญญาผลตอบแทน 1-40% ต่อเดือน
• บอกว่าจะเทรด Bitcoin ให้
• จริง ๆ เอาเงินคนใหม่จ่ายให้คนเก่า (แบบแชร์ลูกโซ่)
• เมื่อไม่มีคนใหม่เข้ามา ระบบก็พัง
ความเสียหาย:
• นักลงทุนโดนหลอกไปกว่า 800 ล้านบาท
• BCC ราคาร่วงจาก 463 เหรียญ เหลือเกือบศูนย์
• กลายเป็นตัวอย่างการฉ้อโกงคริปโตที่โด่งดังที่สุด
Bitcoin ปี 2017-2018
เกิดอะไรขึ้น:
• ธ.ค. 2017 Bitcoin ราคาเกือบ 20,000 เหรียญ (ประมาณ 650,000 บาท)
• ทุกคนตื่นเต้น คิดว่าจะรวย
• แต่พอถึงต้นปี 2018 ราคาร่วงเหลือ 7,000 เหรียญ
• คนที่ซื้อช่วงบนขาดทุนมากกว่า 60%
บทเรียน:
• การขึ้น-ลงแรงเป็นเรื่องปกติของคริปโต
• คนที่อดทนและไม่ขายแพนิค สุดท้ายก็ได้กำไรกลับคืน
• การลงทุนระยะยาวดีกว่าการเก็งกำไรระยะสั้น
วิธีป้องกันตัวเองจากฟองสบู่คริปโต
อย่าใส่เงินทั้งหมดในคริปโต
• กฎ 5-10%: เงินลงทุนในคริปโตไม่ควรเกิน 5-10% ของเงินทั้งหมด
• กระจายความเสี่ยง: ลงทุนหุ้น, พันธบัตร, ทอง, อสังหาฯ ด้วย
• เงินที่ยอมเสียได้: ใช้เฉพาะเงินที่หากเสียไปจะไม่กระทบชีวิต
ศึกษาก่อนลงทุน
• อ่านข้อมูลเหรียญ: เข้าใจว่าเหรียญนั้นทำอะไร แก้ปัญหาอะไร
• ดูทีมพัฒนา: มีคนจริงหรือไม่ มีประวัติดีไหม
• ไม่เชื่อคำโฆษณา: อย่าเชื่อโฆษณาที่สัญญากำไรแน่นอน
• ถามตัวเอง: ถ้าไม่มีใครพูดถึง เราจะซื้อไหม?
ระวังสัญญาณอันตราย
• คำสัญญากำไรสูง: ถ้าใครสัญญากำไร 100% แน่นอน = หลอกลวง
• กดดันให้ตัดสินใจเร็ว: "โอกาสนี้หาไม่ได้อีกแล้ว"
• ต้องชวนคนอื่น: แบบแชร์ลูกโซ่ที่ต้องหาคนใหม่มาเข้า
• ไม่มีข้อมูลชัดเจน: ไม่บอกว่าเอาเงินไปทำอะไร
ใช้กลยุทธ์ DCA (Dollar-Cost Averaging)
• ซื้อทีละน้อย: แทนที่จะซื้อก้อนใหญ่ครั้งเดียว
• ซื้อเป็นระยะ: เช่น เดือนละ 1,000 บาท
• ไม่สนใจราคาขณะนั้น: ซื้อต่อเนื่องไม่ว่าราคาจะขึ้นหรือลง
• ลดความเสี่ยง: ไม่ต้องเดาจังหวะที่เหมาะสม
รู้จักทำกำไร
• ไม่โลภ: ถ้าได้กำไรแล้วควรขายบางส่วน
• ขายเป็นขั้น ๆ: กำไร 50% ขาย 20%, กำไร 100% ขาย 30%
• เก็บเงินสด: เพื่อซื้อเมื่อราคาลดลง
• อย่าคิดว่าจะขายจุดสูงสุด: เป้าหมายคือได้กำไร ไม่ใช่กำไรสูงสุด
ฟองสบู่แตกแล้วทำยังไง?
(https://www.thailandtraderclub.com/index.php?action=dlattach;attach=8041;image)
อย่าขายแพนิค
• ใจเย็น ๆ: อย่าเร่งขายเพราะกลัว
• ดูระยะยาว: ถ้าเหรียญมีพื้นฐานดี ราคาอาจกลับขึ้นมาได้
• จำไว้: Bitcoin เคยร่วงหลายครั้งแล้ว แต่ก็กลับขึ้นมาทุกครั้ง
ประเมินสถานการณ์
• ดูพอร์ตโฟลิโอ: เสียหายแค่ไหน กระทบชีวิตไหม
• วิเคราะห์เหรียญ: เหรียญไหนยังมีอนาคต เหรียญไหนควรตัดขาดทุน
• ปรับแผน: อาจต้องลดสัดส่วนคริปโตลง
หาโอกาสในวิกฤต
• ซื้อเพิ่มเมื่อราคาถูก: ถ้ามีเงินเหลือและเชื่อมั่นในระยะยาว
• เลือกเหรียญที่แข็งแกร่ง: Bitcoin, Ethereum มักฟื้นตัวได้ดีกว่าเหรียญเล็ก ๆ
• อดทน: การฟื้นตัวอาจใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปี
เรียนรู้จากความผิดพลาด
• บันทึกประสบการณ์: เขียนไว้ว่าทำผิดตรงไหน
• ปรับกลยุทธ์: เปลี่ยนวิธีการลงทุนให้ดีขึ้น
• เพิ่มความรู้: ศึกษาเพิ่มเติมก่อนลงทุนครั้งต่อไป
ตอนนี้มีฟองสบู่หรือเปล่า?
สัญญาณที่น่าสนใจ
Bitcoin:
• ราคาทำสถิติสูงสุดใหม่เรื่อย ๆ
• สถาบันการเงินใหญ่ ๆ เริ่มซื้อ
• มี Bitcoin ETF ทำให้ซื้อง่ายขึ้น
• ดูมีพื้นฐานแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อน
Meme Coins (เหรียญมีม):
• Dogecoin, Shiba Inu และอื่น ๆ
• ตลาดรวมมูลค่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์
• ขึ้นลงตามกระแสโซเชียลมีเดีย
• น่าจะอยู่ในช่วงฟองสบู่ เพราะไม่มีประโยชน์ใช้สอยจริง
คำแนะนำ
• ระวังเหรียญมีม: อาจขึ้นเร็ว แต่ลงเร็วเช่นกัน
• โฟกัสเหรียญหลัก: Bitcoin, Ethereum มีโอกาสอยู่รอดได้สูงกว่า
• อย่าโลภ: ถ้าได้กำไรแล้วควรขายบางส่วน
• เตรียมพร้อม: อาจจะมีการปรับฐานใหญ่เกิดขึ้นได้
สรุป: ฟองสบู่คริปโตคือโอกาสหรืออันตราย?
เป็นทั้งโอกาสและอันตราย
• อันตราย: ถ้าลงทุนแบบไม่รู้เรื่อง ตามกระแส เอาเงินทั้งหมดเสี่ยง
• โอกาส: ถ้ารู้จักสัญญาณ ลงทุนอย่างมีสติ และบริหารความเสี่ยงดี
กฎทองสำหรับการลงทุนคริปโต
• ลงทุนเท่าที่ยอมเสียได้
• กระจายความเสี่ยง
• ศึกษาก่อนลงทุน
• ไม่โลภ ไม่กลัว
• คิดระยะยาว
ข้อควรจำ
ตลาดคริปโตเป็นเหมือนมหาสมุทรที่มีคลื่นใหญ่เสมอ มีทั้งช่วงที่คลื่นสูงมาก (ฟองสบู่) และต่ำมาก (ตลาดหมี) ผู้ที่รอดได้คือคนที่รู้จักว่ายน้ำ มีเสื้อชูชีพ (การบริหารความเสี่ยง) และไม่ตื่นตระหนกเมื่อเจอคลื่นใหญ่
คำแนะนำสุดท้าย: หากคุณยังใหม่กับการลงทุนคริปโต ควรเริ่มจากการศึกษาและลงทุนเพียงเล็กน้อยก่อน อย่าเพิ่งฝันถึงการรวยจากคริปโตในชั่วข้ามคืน เพราะการลงทุนที่ดีคือการลงทุนที่ทำให้คุณนอนหลับสบายได้