ThailandTraderClub.com

Crypto Trading and Defi => พื้นฐาน Crypto => หัวข้อที่ตั้งโดย: Support-3 เมื่อ สิงหาคม 28, 2025, 01:57:27 หลังเที่ยง

ชื่อ: ทำความรู้จัก Altcoins เหรียญคริปโตทางเลือก
โดย: Support-3 เมื่อ สิงหาคม 28, 2025, 01:57:27 หลังเที่ยง
      ในโลกของสกุลเงินดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน ชื่อของ "Bitcoin" (บิตคอยน์) ยังคงเป็นที่รู้จักและโดดเด่นที่สุดในฐานะราชาแห่งคริปโตเคอร์เรนซี อย่างไรก็ตาม ภูมิทัศน์ของสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นกว้างใหญ่และเต็มไปด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหนึ่งในนั้นคือ "Altcoins" หรือเหรียญคริปโตทางเลือก ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญและสร้างสีสันให้กับตลาดอย่างมาก บทความนี้จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ Altcoins อย่างละเอียดในทุกแง่มุม

(https://www.thailandtraderclub.com/index.php?action=dlattach;attach=9043;image)

Altcoins คืออะไร? จุดกำเนิดและเหตุผลที่เกิดขึ้น
      "Altcoin" เป็นคำที่ย่อมาจาก "Alternative Coin" ซึ่งหมายถึง สกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ทั้งหมดที่ไม่ใช่ Bitcoin พูดง่ายๆ คือ คริปโตเคอร์เรนซีใดๆ ก็ตามที่ถูกสร้างขึ้นมาหลัง Bitcoin จะถูกจัดว่าเป็น Altcoin ทั้งสิ้น
●    จุดกำเนิด Altcoin เหรียญแรกที่ถือกำเนิดขึ้นคือ Namecoin ในปี 2011 ตามมาด้วย Litecoin ในปีเดียวกัน ซึ่งมักถูกเปรียบเปรยว่าเป็น "แร่เงินแห่งโลกดิจิทัล" ในขณะที่ Bitcoin คือ "ทองคำ"
●    เหตุผลที่เกิดขึ้น การเกิดขึ้นของ Altcoins มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อปรับปรุงและต่อยอดจากเทคโนโลยีของ Bitcoin โดยมีเป้าหมายที่หลากหลายแตกต่างกันไป เช่น
      ○    แก้ไขข้อจำกัดของ Bitcoin Bitcoin มีข้อจำกัดบางประการ เช่น ความเร็วในการทำธุรกรรมที่ค่อนข้างช้า และค่าธรรมเนียมที่อาจสูงขึ้นในช่วงที่มีการใช้งานหนาแน่น Altcoins จำนวนมากจึงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้โดยเฉพาะ
      ○    นำเสนอฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่าง Altcoins ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนมูลค่า แต่ยังถูกพัฒนาให้มีฟังก์ชันที่หลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น เช่น การเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์มสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contracts), การใช้ในระบบนิเวศของเกม (GameFi), หรือการเป็นตัวแทนของสินทรัพย์ในโลกแห่งความจริง (Tokenization)
      ○    ทดลองกลไกฉันทามติ (Consensus Mechanism) ใหม่ๆ ในขณะที่ Bitcoin ใช้กลไก Proof-of-Work (PoW) ซึ่งต้องใช้พลังงานในการขุดสูง Altcoins จำนวนมากได้ทดลองใช้กลไกอื่นๆ เช่น Proof-of-Stake (PoS) ที่ประหยัดพลังงานมากกว่า หรือกลไกอื่นๆ ที่มีคุณสมบัติแตกต่างออกไป

ประเภทของ Altcoins ความหลากหลายในโลกคริปโต
Altcoins สามารถแบ่งออกได้หลายประเภทตามวัตถุประสงค์และเทคโนโลยีที่ใช้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายและนวัตกรรมที่ไม่หยุดนิ่งในวงการนี้
●    เหรียญที่พัฒนาต่อยอดจาก Bitcoin (Bitcoin Forks)
      ○    เป็นเหรียญที่เกิดจากการแยกตัว (Fork) ออกมาจากโค้ดของ Bitcoin โดยมีการปรับเปลี่ยนคุณสมบัติบางอย่าง
      ○    ตัวอย่าง Bitcoin Cash (BCH) ที่เพิ่มขนาดบล็อกเพื่อรองรับธุรกรรมได้มากขึ้น, Bitcoin SV (BSV) ที่เน้นการเป็นระบบเงินสดอิเล็กทรอนิกส์เพียร์ทูเพียร์ตามวิสัยทัศน์ดั้งเดิมของซาโตชิ นากาโมโตะ
●    Stablecoins (เหรียญที่มีมูลค่าคงที่)
      ○    เป็นเหรียญที่ถูกออกแบบมาให้มีมูลค่าคงที่ โดยมักจะผูกกับสินทรัพย์อื่นในอัตรา 1:1 เช่น เงินดอลลาร์สหรัฐ ทองคำ หรือสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ
      ○    วัตถุประสงค์ เพื่อลดความผันผวนของราคาและใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนที่มั่นคงในระบบนิเวศคริปโต
      ○    ตัวอย่าง Tether (USDT), USD Coin (USDC), Dai (DAI)
●    Utility Tokens (เหรียญเพื่อการใช้งาน)
      ○    เป็นเหรียญที่ให้สิทธิ์ผู้ถือในการเข้าถึงสินค้าหรือบริการบางอย่างบนแพลตฟอร์มหรือระบบนิเวศนั้นๆ
      ○    ลักษณะเด่น ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นสื่อกลางในการชำระเงินโดยตรง แต่มีประโยชน์ใช้สอย (Utility) ภายในเครือข่ายของตัวเอง
      ○    ตัวอย่าง Ethereum (ETH) ซึ่งใช้เป็น "ค่าแก๊ส" (Gas Fee) สำหรับการทำธุรกรรมและใช้งานแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApps) บนเครือข่าย Ethereum, Binance Coin (BNB) ที่ใช้เป็นส่วนลดค่าธรรมเนียมบนแพลตฟอร์ม Binance
●    Security Tokens (โทเคนหลักทรัพย์)
      ○    เป็นโทเคนที่แสดงความเป็นเจ้าของในสินทรัพย์อ้างอิงบางอย่าง เช่น หุ้น, อสังหาริมทรัพย์, หรือกองทุน
      ○    ลักษณะเด่น ผู้ถือ Security Token จะมีสิทธิ์ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนนั้นๆ เช่น เงินปันผล และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง
●    Meme Coins (เหรียญมีม)
      ○    เป็นเหรียญที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอินเทอร์เน็ตมีมหรือเรื่องตลกต่างๆ
      ○    ลักษณะเด่น มูลค่าของเหรียญประเภทนี้มักจะขับเคลื่อนโดยกระแสความนิยมในโซเชียลมีเดียและชุมชนผู้สนับสนุน มากกว่าปัจจัยพื้นฐานทางเทคโนโลยีหรือการใช้งานจริง
      ○    ตัวอย่าง Dogecoin (DOGE), Shiba Inu (SHIB)
●    Governance Tokens (เหรียญเพื่อการกำกับดูแล)
      ○    เป็นเหรียญที่ให้สิทธิ์ผู้ถือในการมีส่วนร่วมกับการบริหารและตัดสินใจทิศทางของโปรเจกต์หรือแพลตฟอร์มนั้นๆ ผ่านการโหวต
      ○    วัตถุประสงค์ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและกระจายอำนาจการควบคุมให้กับชุมชน
      ○    ตัวอย่าง Uniswap (UNI), Aave (AAVE)

ความแตกต่างสำคัญระหว่าง Bitcoin และ Altcoins

(https://www.thailandtraderclub.com/index.php?action=dlattach;attach=9045;image)

●    ด้านจุดกำเนิดและสถานะ
      ○    Bitcoin (BTC) เป็นสกุลเงินดิจิทัลแรกของโลก (The First Mover) เปรียบเสมือน "ทองคำดิจิทัล" และเป็นมาตรฐานที่เหรียญอื่นๆ มักถูกนำไปเปรียบเทียบด้วย
      ○    Altcoins คือเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีอื่นๆ ทั้งหมด ที่ไม่ใช่ Bitcoin (ย่อมาจาก Alternative Coins) ถูกสร้างขึ้นมาทีหลัง โดยมีจำนวนหลายพันสกุลในตลาด
●    ด้านวัตถุประสงค์และการใช้งาน
      ○    Bitcoin มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเป็น "เงินสดอิเล็กทรอนิกส์แบบ Peer-to-Peer" และเป็น "สินทรัพย์เพื่อรักษามูลค่า" (Store of Value) เนื่องจากมีจำนวนจำกัด
      ○    Altcoins ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์ที่หลากหลายกว่ามาก เช่น เพื่อแก้ไขข้อจำกัดของ Bitcoin, เพื่อใช้ในระบบนิเวศเฉพาะทาง (เช่น เกม, การเงินแบบกระจายศูนย์), หรือเพื่อเป็นเหรียญที่มีมูลค่าคงที่ (Stablecoins)
●    ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม
      ○    Bitcoin ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนรุ่นแรก และมีกลไกฉันทามติแบบ Proof-of-Work (PoW) ซึ่งเน้นความมั่นคงปลอดภัยสูงสุด แต่มีความเร็วในการทำธุรกรรมที่ช้ากว่า
      ○    Altcoins เป็นแหล่งรวมของนวัตกรรมและการทดลองทางเทคโนโลยีใหม่ๆ มีการใช้กลไกฉันทามติที่หลากหลายกว่า เช่น Proof-of-Stake (PoS) ที่เร็วกว่าและประหยัดพลังงานกว่า รวมถึงการนำเสนอฟังก์ชันสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contracts) ที่ซับซ้อน
●    ด้านนโยบายทางการเงินและจำนวนเหรียญ
      ○    Bitcoin มีนโยบายการเงินที่ตายตัวและคาดการณ์ได้ โดยมีจำนวนจำกัดสูงสุดที่ 21 ล้านเหรียญ และมีกลไก Halving ที่ลดจำนวนเหรียญใหม่ลงครึ่งหนึ่งทุกๆ 4 ปี
      ○    Altcoins มีนโยบายการเงินที่ยืดหยุ่นกว่า บางเหรียญมีจำนวนไม่จำกัด หรือมีกลไกการเผาเหรียญ (Coin Burn) ซึ่งผู้สร้างสามารถเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงนโยบายได้
●    ด้านความน่าเชื่อถือและความเป็นอิสระ
      ○    Bitcoin มีความเป็นอิสระและกระจายศูนย์อย่างแท้จริง การทำงานอ้างอิงกับหลักคณิตศาสตร์และโค้ดคอมพิวเตอร์ ไม่มีใครเป็นเจ้าของหรือควบคุมได้
      ○    Altcoins หลายโปรเจกต์ยังต้องพึ่งพาความเชื่อมั่นในตัวผู้สร้างหรือทีมพัฒนา ซึ่งหากทีมงานละทิ้งโปรเจกต์ไป อาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าและความน่าเชื่อถือของเหรียญได้
●    ด้านความผันผวนและความเสี่ยง
      ○    Bitcoin แม้จะมีความผันผวนสูง แต่เมื่อเทียบกับ Altcoins ส่วนใหญ่แล้ว Bitcoin ถือว่ามีเสถียรภาพและสภาพคล่องสูงกว่า เนื่องจากมีขนาดตลาดที่ใหญ่ที่สุด
      ○    Altcoins มีความผันผวนของราคาสูงกว่า Bitcoin อย่างมีนัยสำคัญ มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่า แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงที่จะล้มเหลวหรือมูลค่ากลายเป็นศูนย์ได้สูงกว่าเช่นกัน

ความเสี่ยงและผลตอบแทนที่ควรรู้ก่อนลงทุนใน Altcoins
      การลงทุนใน Altcoins มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงมากในระยะเวลาอันสั้น หรือที่เรียกว่า "Altcoin Season" ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาของ Altcoins โดยรวมปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วกว่า Bitcoin อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนที่สูงย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงเช่นกัน
●    ความเสี่ยงที่ต้องพิจารณา
      ○    ความผันผวนของราคาที่รุนแรง ราคาของ Altcoins สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วและรุนแรง อาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงหลายสิบเปอร์เซ็นต์ภายในวันเดียว
      ○    ความเสี่ยงจากการหลอกลวง (Scams) มีโปรเจกต์ Altcoins จำนวนมากที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อหลอกลวงนักลงทุน (Rug Pull) โดยไม่มีผลิตภัณฑ์หรือการใช้งานจริง
      ○    สภาพคล่องต่ำ Altcoins จำนวนมากโดยเฉพาะเหรียญขนาดเล็ก อาจมีสภาพคล่องในการซื้อขายต่ำ ทำให้การซื้อหรือขายในปริมาณมากเป็นไปได้ยากและอาจส่งผลกระทบต่อราคาอย่างมีนัยสำคัญ
      ○    ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ กฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลยังคงมีการเปลี่ยนแปลงและไม่มีความชัดเจนในหลายประเทศ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าและการยอมรับของ Altcoins ได้
      ○    ความล้มเหลวของโปรเจกต์ โปรเจกต์ Altcoins จำนวนมากไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้และอาจล้มเหลวในที่สุด ส่งผลให้มูลค่าของเหรียญลดลงจนกลายเป็นศูนย์
●    โอกาสและผลตอบแทน
      ○    ศักยภาพในการเติบโตสูง เนื่องจาก Altcoins จำนวนมากยังมีมูลค่าตลาดที่ไม่สูงมากนัก จึงมีโอกาสที่มูลค่าจะเติบโตได้หลายเท่าตัวหากโปรเจกต์ประสบความสำเร็จ
      ○    การกระจายความเสี่ยง การลงทุนใน Altcoins ที่มีพื้นฐานดีและมีกรณีการใช้งานที่แตกต่างกัน สามารถช่วยกระจายความเสี่ยงออกจาก Bitcoin ได้
      ○    การเข้าถึงนวัตกรรมใหม่ๆ การลงทุนใน Altcoins เปิดโอกาสให้นักลงทุนได้เป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่อาจเปลี่ยนแปลงโลกในอนาคต

อนาคตของ Altcoins ในโลกการเงินดิจิทัล
อนาคตของ Altcoins ยังคงเป็นสิ่งที่น่าจับตามองและเต็มไปด้วยความเป็นไปได้ที่หลากหลาย
●    การแข่งขันที่รุนแรง จำนวนของ Altcoins เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่การแข่งขันที่สูงขึ้น โปรเจกต์ที่มีเทคโนโลยีที่เหนือกว่า มีกรณีการใช้งานที่ชัดเจน และมีชุมชนที่แข็งแกร่งเท่านั้นจึงจะสามารถอยู่รอดและเติบโตได้ในระยะยาว
●    นวัตกรรมที่ไม่หยุดยั้ง เราจะได้เห็นการเกิดขึ้นของ Altcoins ที่มีฟังก์ชันการใช้งานใหม่ๆ ที่เราอาจยังจินตนาการไม่ถึงในปัจจุบัน โดยเฉพาะในด้าน Decentralized Finance (DeFi), Non-Fungible Tokens (NFTs), GameFi และ Web3
●    การยอมรับในวงกว้าง หากมี Altcoin ใดที่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีประโยชน์และแก้ปัญหาในโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็มีโอกาสที่จะได้รับการยอมรับและนำไปใช้งานในวงกว้างมากขึ้น
●    ความชัดเจนด้านกฎระเบียบ เมื่อกฎระเบียบมีความชัดเจนมากขึ้น จะช่วยคัดกรองโปรเจกต์ที่ไม่ดีออกไป และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยในการเข้ามาลงทุนในตลาด Altcoins มากขึ้น

4 Altcoins ยอดนิยม เหรียญทางเลือกที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม
1. Ethereum (ETH) แพลตฟอร์มอัจฉริยะที่เป็นมากกว่าสกุลเงิน
      Ethereum ไม่ได้เป็นเพียงสกุลเงินดิจิทัล แต่คือแพลตฟอร์มบล็อกเชนแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) ที่ทรงพลังและมีปริมาณการซื้อขายสูงเป็นอันดับสองในตลาด สิ่งที่ทำให้ ETH โดดเด่นและแตกต่างคือเทคโนโลยี "Smart Contract" (สัญญาอัจฉริยะ)
●    หัวใจคือ Smart Contract คือโปรแกรมที่ทำงานได้ด้วยตัวเองตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ล่วงหน้าบนบล็อกเชน ทำให้สามารถสร้างข้อตกลงที่โปร่งใส ปลอดภัย และไม่ต้องอาศัยตัวกลาง
      ○    ตัวอย่างในชีวิตจริง ลองนึกถึงการซื้อขายที่ดิน หากผู้ซื้อและผู้ขายไม่ไว้ใจกัน สามารถใช้ Smart Contract เป็นตัวกลางได้ โดยผู้ซื้อจะโอนเงินเข้าไปในสัญญา และเมื่อมีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินสำเร็จ เงินจะถูกโอนไปยังผู้ขายโดยอัตโนมัติ สร้างความยุติธรรมให้ทั้งสองฝ่าย
●    รากฐานของนวัตกรรม ด้วยความสามารถของ Smart Contract ทำให้นักพัฒนาทั่วโลกสามารถสร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApps), ระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi), และตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (NFTs) บนเครือข่าย Ethereum ได้อย่างอิสระ ETH จึงเป็นมากกว่าเหรียญ แต่เป็นเสาหลักของระบบนิเวศดิจิทัลยุคใหม่

2. Ripple (XRP) ปฏิวัติการโอนเงินข้ามพรมแดน
      Ripple ถูกสร้างขึ้นโดยมีเป้าหมายที่ชัดเจน คือการแก้ปัญหาการทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างประเทศที่ทั้งช้า มีค่าธรรมเนียมสูง และขาดความโปร่งใส
●    ออกแบบเพื่อสถาบันการเงิน แตกต่างจากเหรียญส่วนใหญ่ที่มีความเป็นสาธารณะ (Decentralized) ระบบของ XRP ถูกออกแบบให้มีความเป็นส่วนกลาง (Centralized) เพื่อให้สถาบันการเงินและธนาคารสามารถนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐานเดียวกัน
●    เร็วและถูก XRP สามารถช่วยให้การโอนเงินข้ามประเทศเสร็จสิ้นได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที (Real-time) ด้วยค่าธรรมเนียมที่ถูกมาก เมื่อเทียบกับระบบเดิมที่อาจใช้เวลาหลายวัน
●    การยอมรับในระดับโลก ด้วยประสิทธิภาพที่โดดเด่น ทำให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่และสถาบันการเงินหลายแห่งทั่วโลก รวมถึงธนาคารในประเทศไทย ให้ความสนใจและนำร่องทดลองใช้เทคโนโลยีของ Ripple เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ

3. Litecoin (LTC) แร่เงินดิจิทัลที่รวดเร็วยิ่งกว่า
      Litecoin ถือกำเนิดขึ้นในปี 2011 โดยถูกพัฒนาต่อยอดมาจากโค้ดของ Bitcoin และมักได้รับการขนานนามว่าเป็น "แร่เงินแห่งโลกดิจิทัล" ในขณะที่ Bitcoin คือ "ทองคำ" โดยมีเป้าหมายหลักคือการเป็นเหรียญที่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
●    เร็วกว่า 4 เท่า จุดเด่นที่สุดของ LTC คือความเร็วในการสร้างบล็อกใหม่ ซึ่งใช้เวลาเพียง 2.5 นาที ในขณะที่ Bitcoin ใช้เวลาถึง 10 นาที นั่นหมายความว่าการยืนยันธุรกรรมบนเครือข่าย Litecoin นั้นรวดเร็วกว่าถึง 4 เท่า
●    รองรับปริมาณธุรกรรมได้มากกว่า ด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น ทำให้เครือข่าย LTC สามารถรองรับปริมาณธุรกรรมได้มากกว่า Bitcoin ในช่วงเวลาเดียวกัน จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการชำระเงินซื้อสินค้าและบริการที่ต้องการความรวดเร็ว

4. Bitcoin Cash (BCH) ทางเลือกของ Bitcoin ที่เน้นปริมาณธุรกรรม
Bitcoin Cash เกิดขึ้นจากการ "Hard Fork" หรือการแยกตัวออกมาจากเครือข่ายของ Bitcoin โดยตรง เพื่อแก้ปัญหาคอขวดที่สำคัญ นั่นคือข้อจำกัดด้านขนาดของบล็อก
●    บล็อกใหญ่กว่าถึง 8 เท่า ในช่วงที่แยกตัวออกมา Bitcoin มีขนาดบล็อกเพียง 1 MB ซึ่งทำให้การทำธุรกรรมหนาแน่นและเกิดความล่าช้านานหลายชั่วโมงหรืออาจถึงหลายวัน Bitcoin Cash จึงถูกสร้างขึ้นโดยเพิ่มขนาดบล็อกเป็น 8 MB (และพัฒนาให้ใหญ่ขึ้นอีกในปัจจุบัน)
●    เร็วขึ้นและค่าธรรมเนียมต่ำลง การมีบล็อกที่ใหญ่ขึ้นทำให้ BCH สามารถประมวลผลและยืนยันธุรกรรมได้ในปริมาณที่มากกว่าและรวดเร็วกว่า BTC หลายเท่า ส่งผลให้ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้มันเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเหรียญเพื่อการใช้จ่ายโดยเฉพาะ

สรุป
      Altcoins คือ ส่วนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมและความหลากหลายในโลกของคริปโตเคอร์เรนซี แม้ว่าจะมาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูง แต่ก็เปิดโอกาสให้นักลงทุนได้สัมผัสกับเทคโนโลยีแห่งอนาคตและสร้างผลตอบแทนที่น่าทึ่ง การศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด ทำความเข้าใจในเทคโนโลยีและวัตถุประสงค์ของแต่ละเหรียญ รวมถึงการประเมินความเสี่ยงที่ยอมรับได้ คือกุญแจสำคัญในการเดินทางในโลกของเหรียญคริปโตทางเลือกเหล่านี้