นักลงทุนหลายคนที่เข้ามาในโลกของตลาด Forex และได้ทำการศึกษาการเปิดบัญชีและซื้อขายกันในบัญชีทดลองกันไปแล้วน่าจะเริ่มมีคำถามในเรื่องของการวิเคราะห์กราฟกันอย่างแน่นอน เนื่องจากทุกคนคงต้องการจะรู้ว่า ต้องใช้อะไรในการวิเคราะห์กราฟ ถึงจะสามารถหาจุดเข้าและทำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาเปรียบเปรียบว่าระหว่าง Technical Analysis กับ Fundamental Analysis อันไหนดีกว่ากัน
หลักการทำงาน Technical Analysis VS Fundamental Analysis
Technical Analysis คืออะไร ?
Technical Analysis เป็นการวิเคราะห์แนวโน้มโดยใช้สถิติที่ถูกคำนวณ ประมวลผลออกมาในรูปแบบ Indicator ที่เราใช้กันในโปรแกรมเทรด MT4/MT5 แต่ไม่ใช่แค่ Indicator เท่านั้น การวิเคราะห์ทาง Technical ก็ยังร่วมไปถึง ทฤษฎีการวิเคราะห์ อย่างเช่น Dow Theory, Price Action, แนวรับ-แนวต้าน อีกด้วย โดยการวิเคราะห์เหล่านี้จะเป็นการศึกษาและให้ความสำคัญกับพฤติกรรมของราคา เช่น ราคาปิด-เปิด, ราคาสูงสุด-ต่ำสุด, รูปแบบของกราฟราคา และแรงซื้อ-แรงขายในตลาด ซึ่งนักวิเคราะห์ทาง Technical เชื่อว่า กราฟราคานั้นได้ซึมซับพฤติกรรมของตลาดทั้งหมดออกมาแล้ว เทรดเดอร์จะนำสถิติที่เห็นจาก Indicator หรือทฤษฎีการวิเคราะห์ต่าง ๆ เหล่านี้มาเก็บสถิติ และสร้างเป็นเงื่อนไขในการเข้าออเดอร์ซื้อขาย ซึ่งมักจะใช้ในการวิเคราะห์คาดการณ์ในระยะสั้น
Fundamental Analysis คืออะไร ?
Fundamental Analysis เป็นการวิเคราะห์โดยใช้ความรู้จากการศึกษาปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจัยพื้นฐานที่ว่านี้ รวมไปถึงสภาพเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายการเงิน, การคลัง, ตัวเลขเศรษฐกิจ, การประกาศแถลงต่าง ๆ ของบุคคลสำคัญ และภูมิศาสตร์การเมือง
ซึ่งเมื่อเหตุการณ์, ข่าว หรือตัวเลขเศรษฐกิจใดปล่อยออกมา การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานนั้นจะถูกใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลว่ากราฟราคาควรที่จะเคลื่อนไหวหรือตอบสนองต่อเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจนี้อย่างไร
ปัจจัยพื้นทางเศรษฐกิจนี้ สามารถเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ เช่น การประกาศลด QE, การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หรือตัวเลขอัตราเงินเฟ้อ
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ เมื่อมีข่าวออกมาสู่สาธารณะ มักจะทำให้เกิดปฎิกิริยากับนักลงทุนและนักเก็งกำไรในตลาด เช่นการคาดการณ์ว่า FED จะลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้กราฟราคาสามารถผันผวนหรือที่เรียกกันว่าการ Price In ซึ่งสามารถทำให้เกิดการซื้อหรือขายก่อนหน้าได้เป็นวันหรืออาทิตย์เลยทีเดียว ก่อนที่จะมีประกาศจริง ๆ จาก FED ด้วยซ้ำ
จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเทรดเดอร์ที่ลงทุนในตลาด Forex ถึงตื่นตัวในช่วงเวลาประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ ซึ่งในช่วงเวลาก่อนประกาศต่าง ๆ นั่น ก็สามารถเกิดความผันผวนก่อนได้ ก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาสนุกสนานของสายยิง หรือสายซิ่งกันเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานนั้น เป็นการมองแนวโน้มในภาพใหญ่ และเป็นการศึกษาทำความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบของข่าว เพื่อใช้ในการตัดสินใจทำการซื้อขายนั่นเอง
การเปรียบเทียบ Technical Analysis กับ Fundamental Analysis
(http://postto.me/216/6p0.png)
หลังจากที่อ่านการวิเคราะห์ทั้ง 2 รูปแบบแล้ว เชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงจะเลือกใช้แบบ Technical เนื่องจากการประมวลผลออกมาในรูปแบบ Indicator แต่ถ้าถามว่าแบบไหนดีกว่ากัน? ต้องใช้แบบไหน? ขอแนะนำว่า ควรใช้ทั้ง 2 อย่างไปพร้อม ๆ กัน เพราะถ้าหากคุณเทรดโดยใช้ Technical มากเกินไป ในบางครั้งการวิเคราะห์ทางเทคนิคนี้ก็อาจถูกทำลายลงได้เมื่อเจอกับเหตุการณ์สำคัญ ๆ ทางเศรษฐกิจ และอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มไปคนละทิศทางเลยก็ได้
ในทางกลับกัน หากเทรดเดอร์วิเคราะห์ด้วยปัจจัยพื้นฐานมากเกินไป อาจทำให้พลาดโอกาสในการทำกำไรแบบระยะสั้นที่สามารถเกิดขึ้นได้จากรูปแบบพฤติกรรมราคาของ Technical ได้เช่นกัน
จากที่กล่าวมาข้างต้น สิ่งที่สำคัญคือเราต้องติดตามข่าวสาร และระมัดระวังตัวเลขหรือข่าวทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็อย่าลืมใช้ความรู้ทาง Technical หาจังหวะในการเข้าซื้อ-ขายไปด้วย จะช่วยให้คุณสามารถเทรดได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งนำไปสู่การทำกำไรที่ยั่งยืนในตลาด