วิธีการซื้อขายคริปโตเบื้องต้น สำหรับมือใหม่

เริ่มโดย Support-3, มีนาคม 15, 2025, 04:07:15 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

Support-3

      โลกของสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างคริปโตเคอร์เรนซีกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและดึงดูดผู้คนจำนวนมากให้เข้ามาลงทุน แต่สำหรับผู้เริ่มต้น การซื้อขายคริปโตอาจดูซับซ้อนและน่ากังวล คู่มือนี้จะพาคุณเรียนรู้ขั้นตอนพื้นฐานในการเริ่มต้นซื้อขายคริปโตอย่างปลอดภัย ตั้งแต่การเลือกแพลตฟอร์ม การสร้างบัญชี ไปจนถึงเทคนิคการซื้อขายเบื้องต้นที่จำเป็น คุณจะได้รับความรู้ที่จำเป็นเพื่อก้าวเข้าสู่โลกการลงทุนรูปแบบใหม่นี้อย่างมั่นใจ แม้คุณจะไม่มีประสบการณ์มาก่อนก็ตามค่ะ



การเริ่มต้นซื้อขายคริปโตสำหรับมือใหม่
1. การเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มต้น
•    ทำความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับคริปโต
  • ศึกษาแนวคิดพื้นฐานให้เข้าใจว่าคริปโตเคอร์เรนซีคืออะไร บล็อกเชนทำงานอย่างไร และเหตุใดจึงมีความเสี่ยงสูง
  • ทำความเข้าใจคริปโตยอดนิยม โดยเริ่มจากการศึกษา Bitcoin และ Ethereum ซึ่งเป็นคริปโตที่ใหญ่ที่สุดและมีสภาพคล่องสูง
  • เรียนรู้คำศัพท์พื้นฐาน เช่น Wallet, Exchange, Public Key, Private Key, Blockchain, และ Hash
•    ประเมินความเสี่ยงและงบประมาณ
  • กำหนดงบประมาณที่ชัดเจน โดยนำเฉพาะเงินที่คุณสามารถสูญเสียได้มาลงทุน (ไม่ควรเกิน 5-10% ของเงินออมทั้งหมด)
  • วางแผนการลงทุนว่าต้องการลงทุนระยะสั้นหรือระยะยาว
  • เตรียมใจรับความผันผวนของตลาดคริปโต ซึ่งราคาอาจเพิ่มหรือลดลงอย่างรวดเร็ว
•    เตรียมเอกสารสำหรับการยืนยันตัวตน
  • บัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต (ศูนย์ซื้อขายส่วนใหญ่จะขอเอกสารเหล่านี้)
  • ใบขับขี่หรือบิลค่าสาธารณูปโภค เพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันที่อยู่
  • เตรียมถ่ายรูปใบหน้า หากแพลตฟอร์มต้องการเพื่อยืนยันตัวตน
  • เตรียมอีเมลและเบอร์โทรศัพท์สำหรับการลงทะเบียนและการยืนยันตัวตน
2. การเลือกและสมัครใช้งานศูนย์ซื้อขาย
•    เลือกศูนย์ซื้อขายคริปโตที่เหมาะสม
  • ตรวจสอบความน่าเชื่อถือ โดยเลือกศูนย์ซื้อขายที่ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (เช่น ก.ล.ต. ในประเทศไทย)
  • เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมการซื้อขายและค่าธรรมเนียมการฝาก-ถอนเงิน
  • ตรวจสอบสภาพคล่องและปริมาณการซื้อขาย โดยเลือกศูนย์ซื้อขายที่มีปริมาณการซื้อขายสูง
  • พิจารณาจำนวนคริปโตที่รองรับว่ามีเหรียญที่คุณสนใจหรือไม่
  • ศึกษามาตรการรักษาความปลอดภัยของศูนย์ซื้อขาย เช่น การเก็บสินทรัพย์ในกระเป๋าเย็น (Cold Storage)
•    สมัครใช้งานศูนย์ซื้อขาย
  • เข้าเว็บไซต์หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของศูนย์ซื้อขายที่เลือก
  • กดปุ่มสมัครสมาชิก (มักจะอยู่ที่มุมขวาบนของหน้าเว็บไซต์)
  • กรอกข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ ชื่อจริง นามสกุล อีเมล เบอร์โทรศัพท์
  • สร้างรหัสผ่านที่มีความปลอดภัย (ผสมตัวอักษร ตัวเลข และอักขระพิเศษ)
  • ยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งาน
  • ยืนยันอีเมลโดยคลิกลิงก์ยืนยันที่ส่งไปยังอีเมลของคุณ
  • ยืนยันเบอร์โทรศัพท์โดยกรอกรหัส OTP ที่ส่งไปยังเบอร์โทรศัพท์ของคุณ
•    ยืนยันตัวตน (KYC - Know Your Customer)
  • เข้าสู่หน้ายืนยันตัวตน (มักเรียกว่า Verification หรือ KYC)
  • อัปโหลดภาพบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
  • อัปโหลดหลักฐานยืนยันที่อยู่ เช่น บิลค่าน้ำ ค่าไฟ
  • ถ่ายรูปใบหน้าตามคำแนะนำเพื่อยืนยันตัวตน
  • รอการตรวจสอบซึ่งอาจใช้เวลา 1-3 วันทำการ
•    เพิ่มความปลอดภัยให้บัญชี
o    เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนสองชั้น (2FA):
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Google Authenticator หรือ Authy บนสมาร์ทโฟน
- ไปที่ส่วนการตั้งค่าความปลอดภัยของบัญชี
- เลือกตั้งค่า 2FA และทำตามขั้นตอนที่แนะนำ
- สแกน QR code ด้วยแอปพลิเคชัน 2FA
- บันทึกรหัสกู้คืน (Recovery Code) ไว้ในที่ปลอดภัย

  • ตั้งรหัส PIN สำหรับการถอนเงิน (หากมีตัวเลือกนี้)
  • เปิดการแจ้งเตือนสำหรับกิจกรรมที่สำคัญ เช่น การล็อกอิน หรือการถอนเงิน
3. การผูกบัญชีธนาคารและการฝากเงิน
•    ผูกบัญชีธนาคาร
  • ไปที่ส่วนผูกบัญชีธนาคาร (มักอยู่ในเมนู "ตั้งค่า", "บัญชีของฉัน" หรือ "วิธีการชำระเงิน")
  • เลือกธนาคารของคุณจากรายการธนาคารที่รองรับ
  • กรอกหมายเลขบัญชีและชื่อเจ้าของบัญชี
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าบัญชีธนาคารอยู่ภายใต้ชื่อเดียวกับที่ใช้ในการสมัคร
  • อัปโหลดหลักฐาน เช่น สำเนาหน้าสมุดบัญชีหรือรายการเดินบัญชี (หากมีการขอ)
  • ปฏิบัติตามขั้นตอนการยืนยันที่ศูนย์ซื้อขายกำหนด
•    ฝากเงินเข้าบัญชีซื้อขาย
  • ไปที่หน้าฝากเงิน (หาเมนู "ฝากเงิน" หรือ "เติมเงิน")
  • เลือกวิธีการฝากเงินที่เหมาะสม:
- โอนเงินผ่านธนาคาร: โอนเงินจากบัญชีธนาคารของคุณไปยังบัญชีธนาคารของศูนย์ซื้อขาย
- ฝากผ่านบัตรเครดิต/เดบิต: บางแพลตฟอร์มรองรับการฝากผ่านบัตร (มักมีค่าธรรมเนียมสูงกว่า)
- QR Code: ใช้แอปธนาคารสแกน QR Code เพื่อชำระเงิน

  • กรอกจำนวนเงินที่ต้องการฝาก (ควรเริ่มด้วยจำนวนเล็กน้อยเพื่อทดสอบก่อน)
  • ทำการโอนเงินหรือชำระเงินตามวิธีที่เลือก
  • รอการยืนยัน ซึ่งเงินจะเข้าบัญชีซื้อขายของคุณภายใน 5-30 นาที ขึ้นอยู่กับวิธีการและศูนย์ซื้อขาย
4. การซื้อคริปโตเคอร์เรนซี
•    ทำความเข้าใจหน้าซื้อขาย
  • เข้าสู่หน้าซื้อขายโดยคลิกที่เมนู "ซื้อขาย", "ตลาด" หรือ "เทรด"
  • ศึกษาส่วนประกอบสำคัญของหน้าจอ:
- กราฟราคา: แสดงการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงเวลาต่างๆ
- สมุดคำสั่งซื้อขาย (Order Book): แสดงคำสั่งซื้อและขายปัจจุบัน
- ประวัติการซื้อขาย: แสดงรายการซื้อขายล่าสุดในตลาด
- ส่วนส่งคำสั่งซื้อขาย: ส่วนที่ใช้สำหรับส่งคำสั่งซื้อหรือขาย

•    เลือกคริปโตที่ต้องการซื้อ
  • ค้นหาคริปโตที่สนใจโดยใช้ช่องค้นหาหรือดูจากรายการเหรียญยอดนิยม
  • ศึกษาข้อมูลพื้นฐานของคริปโตนั้น:
- ดูราคาปัจจุบันและการเปลี่ยนแปลงราคา 24 ชั่วโมง
- ตรวจสอบปริมาณการซื้อขายและมูลค่าตลาดโดยรวม
- อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการ (ถ้ามี)

  • เลือกคู่เทรดที่ต้องการ เช่น BTC/THB หมายถึงการซื้อ Bitcoin ด้วยเงินบาทไทย
•    ส่งคำสั่งซื้อแบบทันที (Market Order)
  • เลือกประเภทคำสั่ง "Market" ซึ่งเป็นการซื้อทันทีที่ราคาตลาดปัจจุบัน
  • กรอกจำนวนที่ต้องการซื้อ โดยสามารถระบุเป็นจำนวนเงิน (เช่น 1,000 บาท) หรือจำนวนเหรียญ (เช่น 0.001 BTC)
  • ตรวจสอบรายละเอียดให้ครบถ้วน ทั้งมูลค่ารวมที่ต้องชำระและค่าธรรมเนียมการซื้อขาย
  • กดปุ่มซื้อหรือยืนยันคำสั่ง
  • รอให้คำสั่งซื้อดำเนินการเสร็จสิ้น ซึ่งมักจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที
  • ตรวจสอบยอดคงเหลือว่าคริปโตอยู่ในพอร์ตของคุณแล้ว
•    ส่งคำสั่งซื้อแบบกำหนดราคา (Limit Order)
  • เลือกประเภทคำสั่ง "Limit" ซึ่งเป็นการซื้อเมื่อราคาลงมาถึงราคาที่คุณกำหนด
  • กำหนดราคาที่ต้องการซื้อ (เช่น หากราคา BTC ปัจจุบันคือ 1,200,000 บาท แต่คุณต้องการซื้อที่ 1,150,000 บาท)
  • กรอกจำนวนที่ต้องการซื้อ (จำนวนเงินหรือจำนวนเหรียญ)
  • ตรวจสอบมูลค่ารวมที่จะชำระเมื่อคำสั่งได้รับการจับคู่และค่าธรรมเนียมการซื้อขาย
  • กดปุ่มซื้อหรือยืนยันคำสั่ง
  • ติดตามสถานะคำสั่ง ซึ่งจะรออยู่ในสมุดคำสั่งซื้อขายจนกว่าราคาจะลงมาถึงราคาที่กำหนด หรือจนกว่าคุณจะยกเลิกคำสั่ง
5. การขายคริปโตเคอร์เรนซี
•    ตัดสินใจขายคริปโต
  • ประเมินตลาดและราคาปัจจุบันว่าเหมาะสมกับการขายหรือไม่
  • ตรวจสอบว่าบรรลุเป้าหมายกำไรหรือถึงระดับขาดทุนที่ยอมรับได้หรือไม่
  • ศึกษาข่าวและสถานการณ์ปัจจุบันที่อาจส่งผลต่อราคา
•    เข้าสู่หน้าซื้อขาย
  • เลือกคู่เทรดของคริปโตที่ต้องการขาย (เช่น BTC/THB)
  • ไปที่หน้าส่งคำสั่งขาย (มักจะเป็นแท็บ "ขาย" หรือ "Sell" อยู่ข้างแท็บ "ซื้อ")
•    ส่งคำสั่งขายแบบทันที (Market Order)
  • เลือกประเภทคำสั่ง "Market" เพื่อขายทันทีที่ราคาตลาดปัจจุบัน
  • กรอกจำนวนเหรียญที่ต้องการขาย หรือเลือกปุ่ม "ขายทั้งหมด" หรือ "Max" (ถ้ามี)
  • ตรวจสอบจำนวนเงินที่คาดว่าจะได้รับและค่าธรรมเนียมการซื้อขาย
  • กดปุ่มขายหรือยืนยันคำสั่ง
  • รอให้คำสั่งขายดำเนินการเสร็จสิ้น (มักจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที)
  • ตรวจสอบยอดเงินในบัญชีหลังจากขายสำเร็จ
•    ส่งคำสั่งขายแบบกำหนดราคา (Limit Order)
  • เลือกประเภทคำสั่ง "Limit" เพื่อขายเมื่อราคาขึ้นไปถึงราคาที่คุณกำหนด
  • กำหนดราคาที่ต้องการขาย (เช่น หากราคา BTC ปัจจุบันคือ 1,200,000 บาท แต่คุณต้องการขายที่ 1,250,000 บาท)
  • กรอกจำนวนเหรียญที่ต้องการขาย
  • ตรวจสอบจำนวนเงินที่จะได้รับเมื่อคำสั่งได้รับการจับคู่และค่าธรรมเนียมการซื้อขาย
  • กดปุ่มขายหรือยืนยันคำสั่ง
  • ติดตามสถานะคำสั่ง ซึ่งจะรออยู่ในสมุดคำสั่งซื้อขายจนกว่าราคาจะขึ้นไปถึงราคาที่กำหนด หรือจนกว่าคุณจะยกเลิกคำสั่ง
6. การถอนเงินและคริปโต
•    การถอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร
  • ไปที่หน้าถอนเงินโดยหาเมนู "ถอนเงิน" หรือ "Withdraw"
  • เลือกสกุลเงินที่ต้องการถอน (เช่น บาท THB)
  • เลือกบัญชีธนาคารปลายทางที่ได้ผูกไว้
  • กรอกจำนวนเงินที่ต้องการถอน
  • ตรวจสอบค่าธรรมเนียมการถอน (ถ้ามี)
  • ยืนยันการถอนโดยกรอกรหัส 2FA หรือรหัส PIN ถอนเงิน (หากมี) และยืนยันรายละเอียดอีกครั้ง
  • รอรับเงินซึ่งจะเข้าบัญชีธนาคารของคุณภายใน 1-3 วันทำการ
•    การถอนคริปโตไปยังกระเป๋าเงินภายนอก (External Wallet)
  • เตรียมกระเป๋าเงินปลายทางที่รองรับคริปโตที่ต้องการถอน และเตรียมที่อยู่กระเป๋าเงิน (Wallet Address) ให้พร้อม
  • ไปที่หน้าถอนคริปโต (หาเมนู "ถอนคริปโต" หรือ "Withdraw Crypto")
  • เลือกคริปโตที่ต้องการถอน (เช่น Bitcoin BTC)
  • คัดลอกและวางที่อยู่กระเป๋าเงินปลายทางอย่างระมัดระวัง (การโอนผิดที่อยู่อาจทำให้คริปโตสูญหายถาวร)
  • เลือกเครือข่ายที่ถูกต้อง (บางคริปโตใช้ได้หลายเครือข่าย เช่น USDT มีทั้งบน Ethereum, Tron, Binance Smart Chain)
  • กรอกจำนวนเหรียญที่ต้องการถอนและตรวจสอบจำนวนขั้นต่ำในการถอน
  • ตรวจสอบค่าธรรมเนียมการถอน
  • ยืนยันการถอนโดยกรอกรหัส 2FA และยืนยันรายละเอียดอีกครั้ง
  • รอการยืนยันจากเครือข่ายบล็อกเชน ซึ่งอาจใช้เวลา 10 นาที - 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความแออัดของเครือข่าย
7. เทคนิคและกลยุทธ์สำหรับมือใหม่
•    กลยุทธ์การลงทุนพื้นฐาน
  • การลงทุนแบบต้นทุนเฉลี่ย (DCA - Dollar-Cost Averaging):
- แบ่งเงินลงทุนออกเป็นหลายส่วน และซื้อเป็นประจำทุกเดือน
- ต้องกังวลเรื่องจังหวะการเข้าซื้อ เหมาะสำหรับตลาดที่มีความผันผวน
- ตัวอย่าง: ซื้อ Bitcoin 1,000 บาททุกเดือน ไม่ว่าราคาจะเป็นเท่าไร
- การซื้อและถือ (HODL - Hold On for Dear Life):
- ซื้อคริปโตและถือไว้ในระยะยาว (เป็นปีหรือนานกว่านั้น)
- ไม่ขายเมื่อตลาดตกและไม่ซื้อเพิ่มเมื่อตลาดขึ้น
- เหมาะสำหรับผู้ที่เชื่อในศักยภาพระยะยาวของเทคโนโลยีบล็อกเชน

•    การตั้งค่าการหยุดขาดทุน (Stop Loss)
  • ตั้งค่าการหยุดขาดทุนอัตโนมัติโดยตั้งคำสั่งขายอัตโนมัติที่ราคาต่ำกว่าราคาซื้อประมาณ 10-20% เพื่อจำกัดการขาดทุนหากราคาลดลงอย่างรวดเร็ว
  • ตั้งเป้าหมายกำไร (Take Profit) โดยตั้งคำสั่งขายอัตโนมัติที่ราคาสูงกว่าราคาซื้อตามเป้าหมายที่ต้องการ (เช่น 20%, 50%, 100%)
•    เทคนิคการอ่านกราฟเบื้องต้น
  • การดูเทรนด์ราคา:
- เทรนด์ขาขึ้น (Uptrend): ราคาสร้างจุดสูงสุดและต่ำสุดที่สูงขึ้นเรื่อยๆ
- เทรนด์ขาลง (Downtrend): ราคาสร้างจุดสูงสุดและต่ำสุดที่ต่ำลงเรื่อยๆ
- เทรนด์แนวราบ (Sideways): ราคาเคลื่อนไหวในกรอบแคบ

  • การดูแท่งเทียน (Candlestick):
- แท่งสีเขียว/ขาว: ราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด (ราคาขึ้น)
- แท่งสีแดง/ดำ: ราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด (ราคาลง)
- ไส้เทียนด้านบน: แสดงความพยายามดันราคาขึ้น
- ไส้เทียนด้านล่าง: แสดงความพยายามกดราคาลง[
/i]
•    การจัดการความเสี่ยง
  • ปฏิบัติตามกฎ 1-5% โดยไม่ลงทุนในการเทรดเดียวเกิน 1-5% ของเงินลงทุนทั้งหมด
  • กระจายการลงทุนในหลายคริปโต ไม่ควรลงทุนในเหรียญเดียว
  • ลงทุนเฉพาะเงินที่สูญเสียได้ ไม่นำเงินที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันหรือเงินออมเพื่อเหตุฉุกเฉินมาลงทุน
  • จดบันทึกการเทรดทุกครั้ง รวมถึงเหตุผลในการซื้อขายและผลลัพธ์ เพื่อใช้ในการเรียนรู้และปรับปรุง
8. ข้อควรระวังและข้อควรรู้เพิ่มเติม
•    ระวังการหลอกลวง (Scam)
  • ระวัง Phishing โดยไม่คลิกลิงก์จากอีเมลหรือข้อความที่ไม่น่าเชื่อถือ
  • หลีกเลี่ยงกลุ่มปั๊มดั๊มป์ (Pump and Dump) ที่พยายามชักชวนให้ซื้อเหรียญที่ไม่เป็นที่รู้จักโดยอ้างว่าราคาจะพุ่งสูงขึ้น
  • ศึกษาโครงการให้ดีก่อนลงทุน โดยตรวจสอบทีมงาน เว็บไซต์ และเอกสารทางเทคนิค (Whitepaper)
•    ผลกระทบทางภาษี
  • เข้าใจว่ากำไรจากคริปโตเป็นรายได้ที่ต้องเสียภาษีในหลายประเทศรวมถึงไทย
  • จดบันทึกธุรกรรมทั้งหมดไว้เพื่อการเสียภาษี โดยเก็บหลักฐานการซื้อขาย ราคาซื้อ ราคาขาย และวันที่
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเสียภาษีคริปโต
•    ความปลอดภัยเพิ่มเติม
  • ใช้อีเมลแยกสำหรับคริปโตโดยเฉพาะ แทนที่จะใช้อีเมลที่ใช้งานทั่วไป
  • ไม่เก็บคริปโตปริมาณมากไว้ในศูนย์ซื้อขาย แต่พิจารณาถอนไปเก็บในกระเป๋าเงินส่วนตัว (Hardware Wallet)
  • อัปเดตระบบปฏิบัติการ แอปพลิเคชัน และซอฟต์แวร์กระเป๋าเงินให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ
•    แหล่งข้อมูลเพื่อการเรียนรู้เพิ่มเติม
  • ติดตามเว็บไซต์ข่าวและข้อมูลคริปโตที่น่าเชื่อถือ เช่น CoinDesk, Cointelegraph, The Block
  • ใช้เครื่องมือติดตามราคาคริปโต เช่น CoinMarketCap, CoinGecko
  • เข้าร่วมชุมชนคริปโตเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ เช่น Twitter, Reddit (r/cryptocurrency), Telegram

ตัวอย่างการซื้อขาย BTCUSD: คู่มือการเทรดอย่างละเอียด



1. ทำความเข้าใจ BTC/USD คืออะไร
      BTC/USD คือคู่เทรดที่ระบุว่าคุณกำลังซื้อหรือขาย Bitcoin (BTC) โดยใช้ดอลลาร์สหรัฐ (USD) เป็นสกุลเงินในการชำระ ราคาที่แสดงคือจำนวนเงินดอลลาร์ที่คุณต้องจ่ายเพื่อซื้อ Bitcoin 1 เหรียญ
ตัวอย่างเช่น:
•    ถ้า BTC/USD = $61,950 หมายความว่า 1 Bitcoin มีมูลค่าเท่ากับ 61,950 ดอลลาร์สหรัฐ
•    การซื้อ 0.1 BTC จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ $6,195 (ไม่รวมค่าธรรมเนียม)
•    การขาย 0.1 BTC จะได้รับเงินประมาณ $6,195 (ไม่รวมค่าธรรมเนียม)
2. ทำความเข้าใจหน้าจอการซื้อขาย (Trading Interface)
หน้าจอการซื้อขายบนแพลตฟอร์มเทรดคริปโตมักประกอบด้วยส่วนต่างๆ ดังนี้:
1.    กราฟราคา (Price Chart): แสดงความเคลื่อนไหวของราคา BTC/USD ตามช่วงเวลา
  • แท่งเทียนสีเขียว: ราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด (ราคาขึ้น)
  • แท่งเทียนสีแดง: ราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด (ราคาลง)
2.    สมุดคำสั่งซื้อขาย (Order Book): แสดงคำสั่งซื้อและขายที่รอการจับคู่
  • ด้านบน (สีแดง): คำสั่งขาย (Ask)
  • ตรงกลาง: ราคาตลาดปัจจุบัน
  • ด้านล่าง (สีเขียว): คำสั่งซื้อ (Bid)
3.    ฟอร์มส่งคำสั่ง (Order Form): ส่วนที่คุณใช้ส่งคำสั่งซื้อหรือขาย
  • เลือกประเภทคำสั่ง: Market, Limit, Stop, Stop-Limit
  • ระบุจำนวน BTC: ปริมาณที่ต้องการซื้อหรือขาย
  • มูลค่ารวม: จำนวนเงิน USD ที่ใช้ซื้อหรือได้รับจากการขาย
3. ตัวอย่างการซื้อ BTC ด้วย Market Order
ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบราคาตลาด
•    ตรวจสอบราคา BTC/USD ปัจจุบันในแพลตฟอร์ม: $61,950 ต่อ 1 BTC
•    ดูความเคลื่อนไหวของราคาในช่วงที่ผ่านมาเพื่อประเมินแนวโน้ม
ขั้นตอนที่ 2: กำหนดจำนวนที่ต้องการซื้อ
•    ตัดสินใจซื้อ 0.1 BTC
•    คำนวณมูลค่ารวม: 0.1 BTC × $61,950 = $6,195
ขั้นตอนที่ 3: ส่งคำสั่งซื้อ Market Order
•    เลือกประเภทคำสั่ง: "Market" (ซื้อทันทีที่ราคาตลาดปัจจุบัน)
•    กรอกจำนวน: 0.1 BTC
•    ตรวจสอบมูลค่ารวมและค่าธรรมเนียม (สมมติว่าค่าธรรมเนียม 0.1% = $6.20)
•    กดปุ่ม "ซื้อ" (Buy)
ขั้นตอนที่ 4: การซื้อเสร็จสมบูรณ์
•    คำสั่งซื้อถูกจับคู่กับผู้ขายที่ราคาตลาดทันที
•    คุณได้รับ 0.1 BTC ในบัญชี
•    เงิน USD ถูกหักจากบัญชีรวม $6,201.20 (รวมค่าธรรมเนียม)

4. ตัวอย่างการขาย BTC ด้วย Limit Order
สมมติว่าหลังจากซื้อ Bitcoin แล้ว คุณต้องการขายเมื่อราคาสูงขึ้น
ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบราคาตลาด
•    ราคา BTC/USD ปัจจุบัน: $61,950
•    คุณคาดการณ์ว่าราคาจะเพิ่มขึ้นและต้องการขายที่ราคาที่สูงกว่า
ขั้นตอนที่ 2: เลือกประเภทคำสั่ง Limit Order
•    เลือกประเภทคำสั่ง: "Limit" (ขายเมื่อราคาถึงหรือสูงกว่าราคาที่กำหนด)
•    กำหนดราคาที่ต้องการขาย: $62,500 ต่อ 1 BTC (สูงกว่าราคาปัจจุบัน)
ขั้นตอนที่ 3: กำหนดจำนวนและส่งคำสั่ง
•    กรอกจำนวน: 0.1 BTC
•    คำนวณมูลค่ารวมที่จะได้รับ: 0.1 BTC × $62,500 = $6,250
•    ตรวจสอบค่าธรรมเนียม (สมมติว่า 0.1% = $6.25)
•    กดปุ่ม "ขาย" (Sell)
ขั้นตอนที่ 4: รอการจับคู่คำสั่
•    คำสั่งของคุณจะถูกบันทึกในสมุดคำสั่งซื้อขาย (Order Book)
•    คำสั่งจะรออยู่จนกว่าราคาตลาดจะถึง $62,500 หรือสูงกว่า
•    เมื่อราคาถึงระดับที่กำหนด คำสั่งจะถูกจับคู่และการขายจะเสร็จสมบูรณ์
•    คุณจะได้รับเงิน $6,243.75 (หลังหักค่าธรรมเนียม)
5. คำนวณกำไร/ขาดทุน
เมื่อทั้งการซื้อและขายเสร็จสมบูรณ์ คุณสามารถคำนวณกำไรหรือขาดทุนได้ดังนี้:
กำไร/ขาดทุน = จำนวนเงินที่ได้รับจากการขาย - จำนวนเงินที่จ่ายไปตอนซื้อ – ค่าธรรมเนียมทั้งหมด
ในตัวอย่างนี้:
•    ซื้อ 0.1 BTC ที่ราคา $61,950/BTC = $6,195
•    ขาย 0.1 BTC ที่ราคา $62,500/BTC = $6,250
•    ค่าธรรมเนียมรวม = $6.20 + $6.25 = $12.45
กำไรสุทธิ = $6,250 - $6,195 - $12.45 = $42.55
6. ข้อควรระวังและเทคนิคการเทรด BTC/USD
1.    ความผันผวนของราคา: ราคา Bitcoin มีความผันผวนสูง สามารถเปลี่ยนแปลงขึ้นลงอย่างรวดเร็ว
2.    ค่าธรรมเนียม: ตรวจสอบค่าธรรมเนียมการซื้อขายบนแพลตฟอร์มที่คุณใช้ เพราะอาจส่งผลต่อกำไรโดยรวม
3.    Spread: สังเกตส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขาย (Spread) ซึ่งอาจกว้างในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง
4.    การจัดการความเสี่ยง:
  • ไม่ลงทุนมากกว่าที่คุณพร้อมจะสูญเสีย
  • พิจารณาใช้คำสั่ง Stop-Loss เพื่อจำกัดการขาดทุน
  • กระจายการลงทุนในหลายช่วงเวลา (Dollar-Cost Averaging)
5.    เวลาที่เหมาะสม: ตลาด BTC/USD เปิดตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ แต่ช่วงเวลาที่มีสภาพคล่องสูงสุดมักเป็นช่วงที่ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เปิดทำการ

สรุป
      การซื้อขายคริปโตเป็นช่องทางการลงทุนที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูง แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงเช่นกัน สำหรับมือใหม่ ควรเริ่มต้นด้วยการศึกษาและทำความเข้าใจพื้นฐานให้ดีก่อน ลงทุนในจำนวนที่พร้อมจะเสียได้ เลือกแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ และเริ่มต้นด้วยกลยุทธ์การลงทุนที่ไม่ซับซ้อน
      การเรียนรู้และพัฒนาทักษะการซื้อขายอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญ เริ่มต้นอย่างช้าๆ และค่อยๆ เพิ่มความซับซ้อนของกลยุทธ์การลงทุนเมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น
      คำเตือน: [คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ผลตอบแทนในอดีตไม่ใช่สิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนในอนาคต