[support-1]

เรื่องราวของ การเทรดด้วย PRICE ACTION มีมากมายถ้าจะแบ่งเป็น PART น่าจะแบ่งได้หลาย PART มากๆ โดยเฉพาะกับเทรดเดอร์มือใหม่กับคำถามที่ว่า PRICE ACTION คืออะไร? ดูเหมือนจะยังคงเป็นคำถามยอดฮิตที่ถูกถามบ่อยๆ มีเทรดเดอร์จำนวนมากที่ยังไม่เข้าใจใน PRICE ACTION หรือมีความพยายามจดจำรูปแบบ PRICE ACTION แต่ก็ยังไม่รู้วิธีในการเข้าเทรด

ในบทความนี้ฉันขอหยิบส่วนหนึ่งในเรื่องราวของ PRICE ACTION มาแนะนำให้เทรดเดอร์ ได้เห็นถึงการเคลื่อนไหวของกราฟราคาและอธิบายว่าจะนำไปใช้ประโยชน์อย่างไรในการเทรดได้บ้าง พร้อมหรือยัง? มาเริ่มกันเลย...

เรามาเริ่มด้วยพื้นฐานของ PRICE ACTION กันก่อน มันจะมีคำศัพท์พื้นฐานบางอย่างของการเทรดด้วย PRICE ACTION ที่ทุกคนต้องเรียนรู้ :

UP BAR – แท่งเทียนขาขึ้นหรือ BULLISH BAR เป็นกราฟที่ทำลักษณะ HIGHER HIGH และ HIGHER LOW โดยจะสูงกว่าแท่งเทียนก่อนหน้า กราฟแท่ง UP BAR จะเป็นการแสดงถึงแนวโน้มขาขึ้น โดยทั่วไปแล้วจะมีราคาปิดจะสูงกว่าราคาเปิด โดยรวมมักเกิดในแนวโน้มขาขึ้นแต่บางครั้งคุณสามารถเห็นกราฟแท่งที่ราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิดในแนวโน้มขาขึ้นได้เช่นกัน

DOWN BAR – แท่งเทียนขาลง หรือ BEARISH BAR เป็นกราฟที่ทำลักษณะ LOWER HIGH และ LOWER LOW โดยทั่วไปกราฟแท่ง DOWN BAR จะมีราคาปิดที่ต่ำกว่าราคาเปิด และมักจะเกิดในแนวโน้มขาลง เหมือนกับ UP BAR คือในแนวโน้มขาลงก็สามารถมีกราฟแท่ง UP BAR ได้เช่นกัน



INSIDE BAR – บางครั้งอาจเรียกว่ากราฟในแถบช่วงแคบๆ INSIDE BAR จะมีกราฟแท่งที่เล็กกว่าแท่งแรก อาจจะมีกราฟแท่งที่เล็กกว่าหลายแท่งที่สามารถเป็น UP BAR หรือ DOWN BAR ก็ได้ กราฟรูปแบบ INSIDE BAR มักแสดงถึงความไม่แน่ใจของตลาด ทำให้เห็นว่าในช่วงเวลานี้ ตลาดไม่มีการตัดสินใจทั้งผู้ซื้อหรือผู้ขายไม่สามารถควบคุมได้

OUTSIDE BAR – จะมีลักษณะคล้าย MOTHER BAR คือเป็นกราฟที่มีความสูงกว่า กราฟแท่งก่อนหน้ารวมถึงกราฟแท่งถัดไป บางครั้งจะมีรูปแบบ ENGULFING เข้ามาต่อเนื่อง

สัญญาณ การเทรดด้วย PRICE ACTION คืออะไร?ขณะที่ตลาดเคลื่อนไหวพวกเขาทิ้งสิ่งที่ฉันเรียกว่ารอยเท้า FOOTPRINT ไว้ รอยเท้านี้เป็นเบาะแสของกราฟราคาที่ผ่านมา มันจะแสดงออกมาในรูปแบบ PRICE ACTION มีการส่งสัญญาณการเข้าเทรดหรือให้การตั้งค่าก่อนการเทรดหรืออาจต่อยอดสร้างเทคนิคการเทรดให้กับเทรดเดอร์ต่อไปได้

สิ่งที่เรากำลังมองหาคือสัญญาณการเคลื่อนไหวของราคาเพื่อเป็นการยืนยันสำหรับการเข้าสู่ตลาด เราจะดูวิธีการรวมการเคลื่อนไหวของราคาเข้ากับการรวมตัวกันในตลาดเพื่อค้นหารายการเทรดที่มีความน่าจะเป็นสูง

ในภาพตัวอย่างด้านล่างเป็นหนึ่งในเทคนิคการเทรดด้วย PRICE ACTION ที่เป็นที่ชื่นชอบ การตั้งค่าการย้อนกลับของกราฟราคาประกอบกับกราฟรูปแบบ PIN BAR เหล่านี้ที่มีทั้งสามารถใช้การได้และล้มเหลว เพื่อแสดงว่าการตั้งค่าบางอย่างจะไม่สามารถใช้งานได้ทั้งหมด



การเทรดด้วย PRICE ACTION กับการบรรจบกัน

การบรรจบกัน: ในเรื่องของการเทรด FOREX แล้วการจะหาตำแหน่งในการเข้าเทรด อย่างน้อยที่สุดที่เทรดเดอร์ทุกคนพึงมีคือการบรรจบกันหรือการรวมตัวกันของสองสิ่ง ดังนั้นโดยทั่วไปเมื่อเรามองหาพื้นที่ที่ไหลมารวมกันในตลาดเรากำลังมองหาพื้นที่ที่มีสองระดับขึ้นไปหรือเครื่องมือวิเคราะห์กำลังตัดกัน

ในภาพตัวอย่างด้านล่างเรากำลังดูตัวอย่างของ PRICE ACTION ด้วยการบรรจบกัน จุดไหลมาบรรจบกันในตลาดเป็นจุดที่ให้น้ำหนักกับการตั้งค่าการเทรดในภาพตัวอย่างแท่งกราฟรูปแบบ PIN BAR เกิดขึ้นภายหลังจากที่ BREAK เส้นแนวรับลงไปได้แล้ว และกำลังจะ PULL BACK แต่ไม่สามารถ BREAK เส้นแนวต้านที่ชัดเจนในตลาดได้รวมถึงเทรดเดอร์อาจจะสังเกตเห็นเส้นค่าเฉลี่ยราคา (EMA) แบบไดนามิกระหว่าง PERIOD 8 และ 21 วันได้ (เส้นสีแดงและสีน้ำเงิน) ในภาพเป็นแนวโน้มขาลง เส้นค่าเฉลี่ยตัดกันลงมา




หากคุณมีการตั้งค่าการเทรดด้วย PRICE ACTION ที่สอดคล้องกับแนวโน้มรวมไปถึงการบรรจบกันของเส้นค่าเฉลี่ยและของแนวรับ แนวต้านคุณจะมีถึง 3 ปัจจัยของการเข้าเทรด SELL ให้ได้เห็น ที่ซึ่งมาจากการตั้งค่าของรูปแบบ PIN BAR

วิธีการใช้ PRICE ACTION เพื่อกำหนดแนวโน้มของตลาด:

รูปแบบการสวิงของกราฟราคาถือเป็นส่วนหนึ่งของ PRICE ACTION ในภาพตัวอย่างที่แนวโน้มสองฝั่ง โดยเราจะดูจากการสวิงในกรอบเวลาที่เรากำหนดถ้ามันทำจุดสูงสุด HIGHER HIGH และจุดต่ำสุด HIGHER LOW ที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ เราจะกำหนดให้เป็นแนวโน้มขาขึ้น ในทำนองเดียวกันถ้ากราฟราคาทำสวิงที่จุดต่ำลง LOWER HIGH และทำจุดต่ำลงไปอีก LOWER LOW เราจะกำหนดให้เป็นแนวโน้มขาลง



ยังมี PART ย่อยลงไปอีกในเรื่องรูปแบบกราฟราคา เช่น สามเหลี่ยม, ชายธง, ฯลฯ เราจะเรียกกว่าการบรรจบกันของสิ่งหรือการควบรวม มักจะเกิดขึ้นในช่วงของการเปลี่ยนแนวโน้ม โดยเมื่อกราฟราคาอยู่ในรูปแบบการรวมตัวกันมันจะเกิดเป็นช่วงช่องการเทรดกล่าวคือเป็นการเทรดในช่วงโดยไม่มีรูปแบบแนวโน้มที่จะทำให้ราคาสูงขึ้นหรือต่ำลง

การเทรดด้วย PRICE ACTION กับแนวโน้มที่มีการรวมเข้าด้วยกัน

ให้ทำการเทรดไปกับแนวโน้มยังคงเป็นวลีที่ค่อนข้างทั่วไปซึ่งมักทำให้เกิดความสับสนสำหรับผู้เริ่มต้นที่ยังไม่พบเทคนิคการเทรดที่มีประสิทธิภาพ สำหรับการเทรดไปกับแนวโน้มโดยปรกติถ้าเป็นแนวโน้มขาขึ้นเราจะเน้นการเทรด BUY มากกว่าการเทรด SELL ในทำนองเดียวกันการเทรดในแนวโน้มขาลงก็เน้น SELL มากกว่า

ส่วนการเทรดในแนวโน้มที่มีการรวมกัน เราควรจะเน้นการเทรดในช่วงที่มีขอบเขตใหญ่กว่าแทนที่จะอยู่ในช่วงการรวมที่ขาดๆ หายๆ การรวมที่ใหญ่พอสามารถทำการเทรดได้ แต่ต้องทำในกรอบเวลาที่ต่ำกว่าจะเป็นการดีที่สุด

สรุป การเทรด PRICE ACTION ในบทความนี้

ตอนนี้คุณอาจจะมีความเข้าใจที่ดีขึ้น เกี่ยวกับพื้นฐานของ PRICE ACTION คุณควรเริ่มเรียนรู้ที่จะทำมองหาการเทรดในกรอบเวลารายวันก่อนมันเป็นสิ่งสำคัญมากที่คุณจะต้องเรียนรู้ วิธีการเข้าเทรดในกรอบรายวันแล้วจึงลดลงในเรื่องของกรอบเวลา

เหตุผลง่ายๆ กราฟราคากรอบรายวันให้มุมมองที่ชัดเจนและแม่นยำที่สุดของ PRICE ACTION ในตลาด คุณอาจจะเห็นว่าฉันไม่ได้แนะนำจุดเข้าเทรดหรือจุดออกจากการเทรด จุดวาง STOP LOSS หรือ TAKE PROFIT ใดๆ ในบทความนี้ เพราะคุณต้องมีรากฐานที่แข็งแกร่งก่อนการเข้าสู่ตลาดและก้าวไปเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ