[support-1]

ในวันนี้จะพูดถึง การเทรดรูปแบบ PULLBACK ที่อาจล้มเหลว มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? การเทรดในตลาด FOREX หรือตลาดกราฟใดๆ จะมีรูปแบบการเทรดอยู่มากมาย การตีกรอบช่วงช่องราคา ก่อนที่จะทำการเทรด ในช่วงหรือทำการเทรดนอกช่วง คุณจะต้องมองหาการตั้งค่าการเทรด ในแบบที่คุณต้องการให้ได้ก่อน  ขั้นตอนการตีกรอบแบบพื้นฐาน คือ การตีกรอบตามโซนแนวรับ แนวต้าน หรือตามจังหวะการสวิงของกราฟราคา แล้วจึงมองหาการตั้งค่าการเทรด ที่ตัวคุณถนัด จากนั้น จึงมองหาทริกเกอร์ในการเข้าเทรดอีกครั้ง

การเทรดในช่วงช่องมีการเทรดในรูปแบบ BREAK OUT จากช่องและการเทรดในรูปแบบ PULLBACK ในช่องเมื่อกราฟแท่งเทียน ชนแนวรับหรือแนวต้านแล้ว และเทรดแบบ BREAK OUT ไปแล้ว PULLBACK มาในช่องหรืออยู่นอกช่องอีกทีหนึ่งแล้ว จึงเข้าเทรด

PULLBACK คือ การที่กราฟราคากลับตัว กลับมาที่ทิศทางแนวโน้มในปัจจุบัน เช่นสมมุติว่า กราฟราคาสามารถ BREAKOUT เส้นแนวต้านออกไปได้แล้วสักระยะหนึ่งก็จะมีการย้อนกลับที่โซนแนวต้านที่ BREAKOUT ไปแล้วอีกรอบหนึ่ง เป็นการวิ่งย้อนแนวโน้มกลับมา ก่อนที่จะวิ่งย้อนกลับไปในทิศทางเดิมอีกครั้ง การมองหารูปแบบ PULLBACK จึงได้รับความนิยมมาก เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ที่เข้าเทรดไม่ทันในช่วงที่กราฟราคามีการ BREAKOUT ไปก็จะรอจังหวะการ PULLBACK นี้เพื่อเข้าทำการเทรดตามแนวโน้มไปด้วยหรือเทรดเดอร์ที่เทรดทันการ BREAKOUT ก็อาจจะเพิ่มคำสั่งเทรดเพิ่มเติมไปอีกได้เช่นกัน

คราวนี้เรามาพูดถึงการ PULL BACK หลอก นั่นคือการย้อนกลับมาของกราฟราคาที่เส้นหรือระดับโซนแนวต้านหรือแนวรับที่ BREAKOUT ไปในตอนแรกแต่กราฟราคากลับวิ่งลงไปในทิศทางที่สวนกับแนวโน้มปัจจุบันเลย เป็นการเปลี่ยนแนวโน้มตลาดกราฟราคาในช่วงกรอบเวลานั้นๆ หรืออาจจะเปลี่ยนแนวโน้มไปเลย

ฟังดูเหมือนจะให้เทรดช่วง PULLBACK หรือไม่ให้เทรดช่วง PULLBACK กันแน่! ...

ใจเย็นก่อน! คุณจะต้องพิจารณาบางสิ่งบางอย่างเพิ่ม เช่น:

- ตลาดยังมีแนวโน้มอยู่หรือตลาดอยู่ในรูปแบบรวมกันแล้ว?
- ตลาดมีโมเมนตัมทำช่วง IMPULSE หรือไม่?

ไม่มีการรับประกันใดๆ แม้แต่รูปแบบกราฟราคาที่ตามหลังการลดลงมาและการไหลลงอย่างปกติ บางครั้งอาจมีความล้มเหลวและเป็นสิ่งสำคัญที่คุณต้องเข้าใจว่าการ PULLBACK ก็สามารถล้มเหลวได้เช่นกัน




การเทรดรูปแบบ PULLBACK ที่ล้มเหลว

ในขณะที่กราฟราคาเคลื่อนผ่านหรือ BREAK OUT ระดับเส้นเทรนด์ไลน์หรือช่วงช่องที่คุณกำหนดไว้แล้วมักจะทำรูปแบบง่ายๆ ตามนี้:

1. กราฟราคาจะเคลื่อนไหวด้วยโมเมนตัมในทิศทางของแนวโน้มโดยรวม
2. กราฟราคาจะย้อนกลับจากระดับเส้นเทรนด์ไลน์ที่ไปถึง
3. กราฟราคาจะมีการรวมตัวกัน

คุณต้องแน่ใจว่าการ PULLBACK มีลักษณะบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับหนึ่งในสามข้อที่กล่าวมา

การรวมกันภายหลัง การเทรดรูปแบบ PULLBACK

จากภาพตัวอย่าง เราจะเห็นการเคลื่อนไหวโดยทั่วไปที่มักจะเกิดขึ้น:

1. กราฟราคาเริ่มขยับตัวขึ้นและในที่สุดก็กลายเป็นเทรนด์ขาขึ้น (ในขั้นตอนนี้ เราจะไม่กล่าวถึงว่าก่อนจะมีการเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาขึ้นนั้น กราฟราคาได้ทำการครบรอบก่อนหน้าไปก่อนแล้วหรือไม่ ในบทความนี้เราจะกล่าวถึงขั้นตอนของการ PULLBACK แล้วเท่านั้น)
2. การ PULLBACK เป็นเรื่องธรรมดาหลังจากกราฟราคาเริ่มมีการเปลี่ยนแนวโน้ม ไม่ว่าจะเปลี่ยนจากแนวโน้มขาขึ้นเป็นขาลงหรือจากแนวโน้มขาลงเป็นขาขึ้นก็ตาม
3. กราฟราคาทำสวิง HIGHER HIGH และ HIGHER LOW ซึ่งนี่คือรูปแบบของแนวโน้มขาขึ้น ถ้าแนวโน้มขาลงก็จะทำสวิง LOWER LOW และ LOWER HIGH ในจังหวะนี้เองที่เรามองหาการเทรดในรูปแบบ PULLBACK จากโมเมนตัมที่ทำจังหวะมาจากตำแหน่งก่อนหน้า
4. ถึงตอนนี้ กราฟราคากลับทำการรวมตัวกันแทนที่จะย่อตัว PULLBACK แล้วพุ่งขึ้นต่อ

ถ้าสมมุติคุณทำการเทรด BUY ที่จุดนี้ นั่นคือปัญหาการ PULLBACK หลอกคุณอาจจะต้องลอยไป ลอยมา กลับการไม่มีแนวโน้มของตลาด แน่นอนว่าสร้างความหงุดหงิดให้กับคุณมาก ในภาพตัวอย่างจะเห็นว่าในที่สุดกราฟราคาก็วิ่งขึ้นไปตามการสวิงที่มาในตอนแรกแต่อย่าลืมว่าหน้างานกราฟราคาจริงคุณจะยังไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น นั่นหมายความว่าคุณอาจโดน STOP LOSS ไปก่อนแล้วหรือถ้าคุณทนถือคำสั่งเทรดเอาไว้ก็ไม่ได้หมายความว่ากราฟราคาจะไปในทิศทางของคุณ




คุณอาจตัดสินใจที่จะเข้าสู่การเทรดด้วยความคิดที่ว่ากราฟราคาจะย้อนกลับมาแล้วจะมีการ BREAK OUT ขึ้นไปอีกครั้งแต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปนี่เป็นความล้มเหลวในรูปแบบ PULLBACK และจังหวะนี้เองที่คุณจะต้องมองหาวิธีการในการเข้าเทรดในรูปแบบอื่นแทนอย่างรวดเร็ว

คุณต้องศึกษาหาแนวทางในการเทรดอื่นๆ เพื่อเพิ่มลงในกล่องเครื่องมือการเทรดของคุณฝึกใช้อย่างสม่ำเสมอในสถานการณ์ปรกติและสถานการณ์ฉุกเฉิน คล้ายการแก้ไม้กรณีที่คุณเข้าทำการเทรดผิดจังหวะกับคำพูดที่ว่า TREND IS YOUR FRIEND หรือเทรดตามจังหวะกราฟราคาทำสวิง ฯลฯ แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้นกราฟราคาในตลาดมีความผันผวนไม่แน่นอนหรืออาจจะแน่นอนแต่คุณมองไม่เห็น เช่นว่าทำไมเกิดการล้มเหลวในการ PULLBACK อาจเป็นเพราะในกรอบเวลาใหญ่กว่า กราฟราคาชนแนวรับหรือแนวต้านไปแล้วการย่อตัวที่ทำท่าเหมือนการ PULLBACK จึงเป็นเพียงการย่อตัวในกรอบเวลาเล็กเท่านั้น

ให้คุณทำความเข้าใจ กับรูปแบบความล้มเหลวต่างๆ และต้องสามารถตั้งค่าการเทรดอื่นๆ ขึ้นมาแทนที่ให้ทันเวลา

ทั้งหมดจะไม่สูญหายไปถ้าคุณสะกดรอยตามการตั้งค่าการเทรดตั้งแต่แรกและดูว่ามันล้มเหลวหรือไปต่อ ในกรณีรูปแบบ PULLBACK สามารถกำหนดสถานการณ์ที่แตกต่างกันได้ทั้งเป็นไปตามรูปแบบและไม่เป็นไปตามรูปแบบ

PULL BACK ที่ล้มเหลวจากการเคลื่อนไหวของกราฟราคาที่หลากหลายอาจทำให้เทรดเดอร์เปลี่ยนความคิดและเปลี่ยนเทคนิคการเทรดเป็นการเทรดแบบ BREAKOUT แทน โดยอาจจะกำหนดช่วงช่องขึ้นมาอีกชุดหนึ่งหรือ ฯลฯ

สิ่งสำคัญคือ ตัวเทรดเดอร์ต้องรู้ตัวเองดี เมื่อการตั้งค่าการเทรด ที่พวกเขากำลังดูยังคงถูกต้อง ในการทำเช่นนั้น คุณจะต้องไม่เพียง แต่รู้ว่าอะไรที่ทำให้ประสบความสำเร็จ แต่ยังต้องรู้ว่า อะไรคือการตั้งค่าที่ล้มเหลว และสุดท้ายคุณจะแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไร