คำแนะนำสำหรับการเลือกและจัดการ Trade setup

เริ่มโดย support-1, กรกฎาคม 04, 2023, 03:39:05 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

support-1

การเทรดแม้ว่าจะสามารถเปิดเทรดได้ตลอดตราบใดที่ตลาดเปิดอยู่ แต่โอกาสการเทรดไม่ได้เกิดขึ้นตลอด เพราะในเรื่องของต้นทุนการเทรดนั้นเทรดเดอร์ต้องแบกรับภาระคนเดียวหมดโบรกเกอร์ไม่ได้สนใจ เพราะตราบใดที่มีการเปิดเทรดเกิดขึ้น ยิ่งมากยิ่งดี พวกเขาก็ยิ่งมีรายได้  เพราะเทรดเดอร์ต้องจ่ายต้นทุนการเทรดและค่าบริการของโบรกสำหรับเทรดเองหมด เช่นค่าคอมมิสชั่นและสเปรด การเข้าใจเงื่อนไขการเลือก trade setup และเมื่อเปิดเทรดแล้วเข้าใจว่าจะจัดการการเทรดอย่างไรเป็นเรื่องจำเป็น

การเลือก Trade setup



อย่างแรกสำคัญสุดก่อนเทรดต้องทำตาม trading plan หมายความว่ามีแผนการ ตั้งแต่การวิเคราะห์เพื่อหา trade setup และเงื่อนไขการเข้าเทรดอย่างไร แต่ภายในวันหนึ่งๆ อาจมีหลายๆ setups เกิดขึ้นเพราะตลาดฟอเรกมีคู่เงินให้เทรดมาก เช่นคู่หลักๆ USDJPY, EURUSD, AUDUSD, GBPUSD, GBPJPY เป็นต้น เพราะตลาดสัมพันธ์กับค่าเงิน เมื่อค่าเงินหนึ่งๆ เกิดการเคลื่อนไหวชัดเจน ก็จะทำให้เกิด trade setup หลายคู่เงินที่เกี่ยวข้องกันได้ เช่นอย่างค่าเงิน GBP คู่ที่สัมพันธ์ เช่น GBPUSD, GBPJPY, GBPAUD, GBPCHF, EURGBP เป็นต้น และยังต้องดูว่าเป็นช่วงที่ตลาดเคลื่อนไหวมากหรือส่วนมากวิ่งอยู่ในกรอบแคบๆ ดังนั้นการกำหนด trade setup ท่านตอบคำถามพวกนี้ได้หรือเปล่า ในแต่ละ setup ที่ท่านเห็น

• Risk:Reward ชัดเจนพอหรือเปล่า เมื่อจะเปิดเทรดท่านต้องเห็นว่ากำหนด stop loss และ take profit ที่ไหน

• คุณเห็นจุดที่ทำให้การเทรดนั้นๆ มั่นใจและเชื่อว่าจะเป็นไปทางที่คุณเทรดหรือเปล่า หรือเรียกกว่า trading odds ทางที่ท่านเปิดเทรดหรือเปล่า ตัวที่ทำให้ท่านมั่นใจว่าความเป็นไปได้สูงอยู่ทางที่ท่านเปิดเทรด

•เห็น price structure ที่สนับสนุนหรือไปทางที่ท่านเห็น trade setup หรือเปล่า

•มีการยืนยันจาก price action หรือเปล่า ถ้าท่านเปิดเทรดแบบต้องเห็นการยืนยันก่อนเข้าเทรด

เช่นตัวอย่างการมองและเลือก trade setup ตามหลักการคัดเลือก ดูที่เรื่องของ Risk:Reward จะเห็นว่าเรากำหนดรอเทรนตรงที่วงกลม เพราะเป็นการเทรดการย่อตัวกลับมาเทสของ Impulsive move เปิดเทรดที่วงกลม ส่วนสีแดงคือส่วนของ Risk เราก็จะกำหนด Stop loss ด้านล่างส่วนของ Reward ถึงด้านบน สัดส่วนน่าจะอยู่ที่ 1 ต่อ 5 ได้สำหรับเรื่อง Risk:Reward ยิ่งส่วน Risk น้อย ส่วน Reward มากยิ่งดี ส่วนที่สองมาดูว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ทำให้เรามั่นใจว่า high probability อยู่ทางที่เปิดเทรดหรือเปล่า ไม่ใช่เปิดแค่เห็นว่าราคาย่อตัวมาก็เทรด เพราะตรงส่วนนี้จะเพิ่มความมั่นใจในการเทรดของท่านและทำให้ท่านทนถือรอนานได้ตามเป้าที่กำหนดในข้อแรก ไม่ได้เทรดด้วยความกลัวหรือวิ่งตามตลาด แต่เทรดด้วยการเห็นว่าความเป็นไปได้อยู่ข้างท่านและยังไม่เปลี่ยน  impulsive move ที่เกิดขึ้นบอกว่าขาใหญ่เข้าเทรดหลังจากที่เทรนลงมาแล้วสร้าง Support ด้านล่าง และตามด้วยเบรคขึ้นมา ยิ่งเมื่อมองเรื่องของ price structure ประกอบจะเห็นว่าเทรนลง มีแต่เทรดเดอร์อยากเปิด sell แต่พอราคาลงไปเกิน support และราคาไม่สามารถเบรคลงไปได้ แต่สุดท้ายเบรคขึ้นด้วย ดังนั้นโอกาสเทรดเลยเกิดขึ้นเมื่อมีการกลับมาเทสที่ราคาได้เบรคทำ Impulsive move ขึ้นไป อีกทั้งมีออเดอร์ที่จะมาจากเทรดเดอร์ที่ถือ Positions อยู่ในตลาดด้วย

การจัดการการเทรด



การจัดการการเทรดเป็นเรื่องสำคัญพอๆ กับการเลือก trade setup เพราะเมื่อเปิดเทรดแล้วสิ่งที่ตามมาคือการจัดการ เปิดเทรดแล้วราคาไม่ได้วิ่งทันที อาจขึ้นแล้วลง แล้ววิ่งอยู่ในกรอบ ราคาจะวิ่งไปได้เมื่อความไม่สมดุลย์เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง การจัดการการเทรดเป็นเรื่องของเมื่อเราเปิดเทรดเราต้องมีความเชื่อว่าเทรนที่เราเปิดเทรดจะเกิดขึ้นหรือไปทางที่เราเทรด ถ้าไม่มีความเชื่อใน trade setup นั้นๆ ที่เปิดเทรดจะไม่เกิดการเปิดเทรดเกิดขึ้น

ความเชื่อและมั่นใจใน trade setup ที่เราเปิดเทรดจำเป็น เพราะสภาพจิตต่อการเทรดจะมีผลต่อขบวนการตัดสินใจของเราหลังจากที่เราเปิดเทรด ยิ่งถ้าเป็นการเทรดด้วยล็อตเยอะก็จะส่งผลกระทบมาก เบื้องต้นเลยความผิดพลาดที่เทรดเดอร์มักจะมีกันคือ เราจะรู้สึกกลัวเมื่อราคาวิ่งสวนทางที่เราเปิดเทรด ตาม trade setup ที่เรากำหนด และอีกอย่างที่ตรงข้ามกัน เทรดเดอร์ยึดติดกับ trade setup ที่เปิดเทรดมากเกินไป แม้ว่า price structure ได้เปลี่ยนข้อมูลไปแล้วก็ไม่ยอมปิดเสีย เลยทำให้เกิดการลากยาวได้ ดังนั้นความเชื่อใน trade setup เป็นเรื่องจำเป็น แต่ต้องปรับเปลี่ยนไปตาม price structure ที่เกิดขึ้นด้วยว่าเป็นอย่างไร ไม่ใช่ออกเทรดเพราะความกลัว ต้องปรับกลยุทธ์การจัดการให้เข้ากับ price structure ที่เกิดขึ้นด้วย

อย่างภาพด้านบนเมื่อเปิดเทรดมองที่ชาร์ต H1 จะเห็นว่าราคาไม่ได้วิ่งทันที พื้นที่ที่เรากำหนดความเสี่ยงก็ไม่กระทบ และไม่มี Price action ที่บอกว่าราคาจะเปลี่ยน ภาพโดยรวมยังอยู่ในความเป็นไปได้ของ trade setup ของเรา  แต่กว่าราคาจะขึ้นได้ 6 แท่งเทียนของ H1 ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงกว่า วิ่งอยู่ในกรอบ ถ้าเราไม่เชื่อใน trade setup ที่เราเทรด เราอาจออก หรือเพราะเห็นราคาไม่ไปไหนเลยเกิดความกลัว เริ่มไม่เชื่อ แต่เลือกออกด้วยกำไรไม่กี่ pips หรือเสียเล็กน้อย แต่พอผ่าน 6 แท่งเทียนราคาก็ขึ้นอย่างรวดเร็วและไกลด้วย สุดท้ายได้แค่มองเห็นราคาขึ้น

ดังนั้นเรื่องของการคัดเลือก trade setup ต้องเลือกให้เป็นว่ามีความเป็นไปได้มากพอหรือเปล่า ได้เงื่อนไขที่กำหนดหรือเปล่า และอีกอย่างราคาจะวิ่งไปทางที่วิ่งไปง่ายเสมอ ทางที่มีออเดอร์ตรงข้ามน้อย การที่ออเดอร์ตรงข้ามน้อยลงเพราะมีการชึมชับเกิดขึ้นด้วย และเพราะไม่มีเทรดเดอร์อยากเปิดเทรดทางนั้นๆ พอความไม่สมดุลย์เกิดขึ้นเลยทำให้ราคาวิ่งไปง่าย แต่ความไม่สมดุลย์ไม่ได้เกิดขึ้นทันที และการล่า liquidity เพื่อเข้าเทรดเป็นสิ่งที่ขาใหญ่ทำประจำเพื่อเข้าเทรด อย่างชาร์ต H1 จะเห็นว่ายังมีหางแท่งเทียนลงมาอีกก่อนขึ้นไปจริงๆ เมื่อเปิดเทรดแล้ว การจัดการการเทรดต้องรู้ทันอารมณ์ที่จะเกิดขึ้นตามมา ว่าราคาวิ่งอย่างไรถึงกระทบต่อการตัดสินใจ ความอดทนเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อให้ trade setup ไปทางที่เราเปิดเทรด ถ้า price structure ไม่เปลี่ยน ก็ยังมั่นใจและทนในการเปิดเทรดที่ trade setup นั้นๆ ความมั่นใจ ความอดทน และเวลา เป็นเรื่องที่ต้องผ่านให้ได้เมื่อได้เปิดเทรดแล้ว