[support-1]

Market Sentiment เป็นข้อมูลที่บอกถึงว่าเทรดเดอร์เทรดอย่างไรที่ยังถือ positions อยู่ในตลาดทำให้รู้ง่ายๆ ว่าตลาดเทรนเป็นอย่างไรขึ้นหรือลง เพราะ Sentiment บอกถึง positions ที่กำลังถืออยู่ในตลาดของแต่ละคู่เงินเป็นอย่างไร ดังนั้นการรู้ข้อมูลตรงนี้ เป็นตัวกรองช่วย trade setup ก็จะเพิ่มความเป็นไปได้ เพราะช่วยให้รู้ว่าเทรดตามเทรนหรือจังหวะที่จะเทรดสวนเทรนแบบขาใหญ่ หรือใช้ข้อมูลนี้ในการเทรดแบบขาใหญ่หรือเทรดตามขาใหญ่ได้ว่าพวกเขาได้เงื่อนไขเข้าเทรดหรือยัง

Sentiment บอกว่ารายย่อยเทรดอย่างไร



เรื่องจาก Sentiment เป็นตัวบอกถึงการถือ Positions อยู่ในตลาดเป็นอย่างไร เช่นอย่างตัวอย่างที่ยกมาประกอบ EURUSD จะเห็นว่าการถือ Short positions มีมากถึง 77.0% ส่วนที่เปิด Buy หรือที่ถือ Long position แค่ 23.0%



ตัวอย่างที่ 2 เวลาเดียวกันแต่เป็น Sentiment ที่ดูจาก cTrader ที่ถือ Short positions ที่คาดว่าราคาจะลง มีถึง 68% และที่ถือ Long positions ที่คาดว่าราคาจะขึ้นมีถึง 32%



และตัวอย่างสุดท้ายที่ยกมาประกอบเป็นข้อมูลเรื่องของ Sentiment ด้วยการดูจาก SWFX Sentiment Index ของโบรกเกอร์ Dukascopy ที่เปิด short positions หรือสีแดง 71.73% ส่วนที่ถือ long positions หรือที่เปิดเทรดเข้าตลาดด้วยคำสั่ง Buy ที่ 28%

ทั้ง 3 แหล่งที่ยกมาประกอบเรื่องของ Sentiment จะเห็นว่าเป็นไปลักษณะเดียวกันหมด คือสัดส่วนที่ถือ Short positions ที่คาดว่าราคาน่าจะลงเยอะมากกว่าส่วนที่เป็น Long positions มาก สิ่งที่เรารู้จากเรื่องของ Sentiment ทำให้รู้ว่าข้างไหนถือ positions มากและน้อย เลยเอื้อต่อการเทรดของขาใหญ่ได้

ขาใหญ่ใช้ Sentiment ช่วยในการเทรดอย่างไร



สิ่งแรกที่ต้องรู้ก่อนคือออเดอร์ทำงานอย่างไร การเปิดเทรดเกิดขึ้นได้ ณ ราคาและเวลาที่ต้องการเปิดเทรดได้อย่างไร แล้วจะเข้าใจว่าขาใหญ่ใช้ Sentiment ในการเทรดอย่างไร การเทรดฟอเรกเป็น margin trading ข้อแรก เมื่อจะเปิดเทรด Buy ต้องมีออเดอร์ตรงข้ามคือ Sell ที่ราคาเดียวกัน ที่มีวอลลูมเท่ากับที่เปิดเทรด ณ ราคาและเวลานั้น พูดง่ายๆ คือการเทรดจะเกิดขึ้นได้ต้องการออเดอร์ตรงข้ามเสมอ เมื่อจะเปิด Sell ก็ต้องมีออเดอร์ตรงข้ามคือ Buy  เมื่อเกิดการจับคู่กันได้ (match-and-fill) การเทรดค่อยเกิดขึ้นหรือเรียกว่า trading transaction ข้อสอง การออกจากการเทรดก็เช่นกันไม่ว่าจะเป็นการออกด้วย take profit, หรือ stop loss หรือปิดเอง ก็ทำงานเช่นเดียวกันคือ ต้องการออเดอร์ตรงข้ามจากที่ท่านถือ position อยู่ ดังนั้นถ้าการออกจะเกิดขึ้นที่ท่านต้องการได้ ก็ต้องมีออเดอร์ตรงข้ามที่พื้นที่ท่านต้องการปิดด้วย ไม่งั้นราคาที่ท่านปิด ก็จะวิ่งไปหาราคาต่อไปที่มีออเดอร์ตรงข้าม ก็เลยทำให้ราคาเคลื่อนไปจากจุดที่ท่านต้องการปิดได้ มองกลับมาที่ขาใหญ่เทรดอย่างไร ที่เราเรียกว่าขาใหญ่ อาจเป็นพวก Hedge Fund หรือเทรดเดอร์พวกสถาบันการเงินหรือธนาคาร เรียกรวมว่าขาใหญ่ หรือ Smart Traders เทรดเดอร์พวกนี้เทรดด้วยจำนวนวอลลูมเยอะ เมื่อขาใหญ่เห็นก็จะเข้าเทรดตรงกันข้าม เพราะเมื่อรายย่อยที่ถือ positions อยู่ในตลาด ก็จะเท่ากับการเปิดออเดอร์ทางที่ขาใหญ่เทรด เลยทำให้ขาใหญ่กำไรได้ง่ายและเร็ว

อย่างภาพประกอบด้านบน ตอนที่ราคาดันขึ้นมา รายย่อยก็เปิด short positions เรื่อยๆ ขาใหญ่ก็ได้เข้าตลาดได้ง่าย สะสม positions มาเรื่อยๆ จนเข้าตลาดได้ตามที่ต้องการ สิ่งหนึ่งแม้ว่าขาใหญ่เปิดเทรดด้วยจำนวนวอลลูมเยอะ ถ้าพวกเขาเปิดทีเดียว ออเดอร์ตรงข้ามไม่พอ และยังเปิดเผยด้วยว่าพวกเขาเทรดทางไหน เมื่อรายย่อยเห็นก็จะเทรดทางเดียวกัน พวกเขาก็ไม่มีออเดอร์ตรงข้ามพวกเขาก็จะไม่ได้เขาเทรด ณ ราคาที่ต้องการได้  ดังนั้นวิธีการที่ขาใหญ่ทำคือการกระจายออเดอร์ เมื่อมองแท่งเทียนจะเป็นช่วง consolidation พอราคาเบรค High ขึ้นไป เทรดเดอร์รายย่อยที่ถือ short positions ส่วนมาก ก็จะมีการออก เลยทำให้ขาใหญ่มีออเดอร์ทางที่พวกเขาเปิดเทรดตามมาทีหลัง เพราะการจำต้องออกจากตลาดของรายย่อยที่ถือ short positions พวกที่จำต้องออก

หรืออีกวิธีการหนึ่งที่นิยมใช้เรื่อง Sentiment ช่วยในการเทรดสวนเทรน หรือถ้ามองจาก technical analysis เช่นเรื่องของ Divergence เช่นดูจากการพัฒนาราคากับอินดิเคเตอร์ที่ไม่ทำ Higher High หรือ Lower Low ทางเดียวกัน แต่สวนทางกัน เพราะการพัฒนาราคา ที่เป็นเทรนทางใดทางหนึ่ง สิ่งที่จะเห็นคือ สถานะ Overbought หรือ Oversold ก็จะเกิดขึ้น แต่ price และอินดิเคเตอร์ เปิดเผยการพัฒนาคนละทาง และได้เรื่องของ Sentiment มาประกอบด้วย ก็จะเพิ่มความเป็นไปได้ของ trade setup นั้นขึ้นมาอีกเยอะ เพราะจะเข้ากับหลักการที่ขาใหญ่เทรดด้วยการใช้ Sentiment เพื่อเอื้อต่อการเทรดของพวกเขาอย่างที่อธิบายมาด้านบน เพราะพวกเขาต้องการออเดอร์ตรงข้ามที่มากพอที่พวกเขาจะเข้าตลาด ณ พื้นที่ราคาที่พวกเขาต้องการ เมื่อพวกเขาเข้าได้ พวกเขาจะไม่ให้ราคาดันผ่านทางที่พวกเขาเข้าเทรด แต่จะดันราคามาทางที่พวกเขาเทรดและกดดันให้รายย่อยที่เทรดตรงข้ามกับพวกเขาจำต้องออกจากตลาด ก็จะช่วยทำให้ราคาวิ่งทางที่พวกเขาเร็วขึ้น

ดังนั้นการดู Sentiment เพื่อช่วยเพิ่มความเป็นไปได้สำหรับ trade setup จำต้องใส่ใจเมื่อสัดส่วนต่างกันมาก เช่น 70-30% หรือ 80-20% เป็นต้น ลองมองจากชาร์ตดูจะเห็นขาใหญ่ดันราคาเพื่อให้ส่วนที่มากหรือที่รายย่อยถืออยู่เป็นหลัก จำต้องออกจากตลาดเพื่อจำกัความเสี่ยง