Scalping คือ อะไร เสี่ยงมากไหม มีเทคนิคอย่างไร ใช้ได้จริงไหม

เริ่มโดย support-1, ตุลาคม 09, 2023, 04:03:56 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

support-1

Scalping คือ อะไร เสี่ยงมากไหม มีเทคนิคอย่างไร ใช้ได้จริงไหม

Scalping คือ กลยุทธ์การเทรดทำกำไรจากส่วนต่างราคาเพียงเล็กน้อย ในแต่ละวันอาจเปิดออเดอร์หลายสิบครั้ง หวังผลกำไรเพียง 5-10 Pips จากความผันผวนของราคาในระยะสั้น ๆ เช่น ในช่วงข่าวสำคัญออก หรือ ช่วงใกล้เปลี่ยนตลาดหรือช่วงเปิดตลาด เช่น ก่อนตลาดยุโรปหรืออเมริกาเปิดราคาจะสวิงค่อนข้างมาก การทำกำไรเพียง 5-10 Pips สามารถทำได้

Day Trade แตกต่างจาก Scalping อย่างไร

- ปกติแล้ว Day Trade มักทำกำไรจากความความผันผวนของราคา ระหว่าง 30 – 100 Pips ในขณะที่การ Scalping อาจทำกำไรเพียง 5-10 Pips

- การเทรดแบบ Scalping จะปิดทำกำไรภายในระยะเวลาไม่กี่นาทีหรือไม่กี่ชั่วโมงในวันหนึ่ง ๆ อาจเปิดออเดอร์หลายสิบครั้ง ในขณะที่ Day Trade อาจจะเทรดเพียงวันละ 1-2 ครั้ง ดังนั้นสิงที่แตกต่างระหว่าง Day Trade กับ  Scalping  คือ Transaction ที่เกิดขึ้น

- การเทรดแบบ Scalping มักใช้ในช่วงข่าวสำคัญออก เช่น การประกาศข่าวหรือประกาศตัวเลขจากธนาคารกลางสหรัฐ ( Federal Reserve System)(Fed)

คำแนะนำในการเทรด Scalping

การเทรด Scalping เป็นสิ่งที่นักลงทุนทำกันอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติ แต่การเทรดที่ให้ผลสำเร็จ ควรใช้ร่วมกับ อินดิเคเตอร์ ต่าง ๆ เช่น การดูกราฟแท่งเทียน (Candlestick), MACD , RSI , Bollinger Bands หรือ แม้กระทั้งต้องฝึกสังเกตว่าตอนนี้กราฟราคากำลังทำ Price Action Pattern อะไรหรือไม่ ซึ่งหากใช้อินดิเคเตอร์ต่าง ๆ มาร่วมในการหาจุดซื้อหรือจุดขายจะให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ตัวอย่างการเทรด Scalping จาก อินดิเคเตอร์ RSI

การเทรด Scalping จาก อินดิเคเตอร์ RSI มักจะดูที่กราฟ 5 นาที หรือ 15 นาที หรือ อาจจะ 30 นาที  แล้วให้ดู ภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือ ภาวะขายมากเกินไป (Oversold)
ภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) ให้ Sell


AUDUSD ตาวงกลมสีเหลืองคือภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หลังจาก Rsi ทะลุ 70 ราคามีสิทธิร่วงลง

คือภาวะที่ RSI > 70 คือ ราคาได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจน RSI ทะลุหรือมากกว่า 70 เราอาจจะมองได้ว่า ราคาอาจจะเริ่มเปลี่ยนเป็นทิศทางลงแล้วก็ได้ เราอาจจะเริ่มเปิดออเดอร์  Sell

ภาวะขายมากเกินไป (Oversold) ให้ Buy

คือภาวะที่ RSI < 30  คือ ราคาได้ร่วงลงอย่างอย่างต่อเนื่องจน RSI ทะลุหรือร่วงต่ำกว่า 30  เราอาจจะมองได้ว่า ราคาอาจจะเริ่มเปลี่ยนเป็นทิศทางขาขึ้นแล้วก็ได้ เราอาจจะเริ่มเปิดออเดอร์ Buy


USDJPY ตามวงกลมสีเหลืองคือขายมากเกินไป (Oversold) หลังจาก Rsi ทะลุ 30 ราคามีสิทธิพุ่งขึ้น

สำหรับการเทรด Scalping และ ดูกราฟ 5 นาที หรือ 15 นาที แล้วหาสัญญาณ RSI Divergences อันนี้ไม่แนะนำให้ทำเพราะมีความไม่แน่นอนสูง ปกติสัญญาณ RSI Divergences ซึ่งเป็นสัญญาณกลับตัวของราคาทั้งฝั่งขาขึ้น และ ฝั่งขาลง ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบคือ Bullish Divergence และ Bearish Divergence มักดูที่ไทม์เฟรม 4 ชั่วโมงขึ้นไป


การเทรด Scalping โดยดูกราฟ 5 นาที หรือ 15 นาที หรือ อาจจะ 30 นาที การดู RSI ว่าเกิดภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือ ภาวะขายมากเกินไป (Oversold) จากประสบการณ์ของผมค่อนข้างได้ผลดีกว่าการใช้ อินดิเคเตอร์ ตัวอื่น แต่ถ้าจะให้ดีมากขึ้นควรฝึกใช้ร่วมกับ รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns) ว่ามีสัญญาณสนับสนุน RSI หรือไม่