[support-1]

อะไรคือเหตุผล ที่เทรดเดอร์รายใหญ่ ยังคงอยู่ในตลาดได้ พร้อมทั้งมีรายได้อย่างสม่ำเสมอ? เพราะพวกเขามีความรู้ หรือมีทักษะในการเทรด หรือมีเงินในพอร์ตที่มากพอ หรือมีการจัดการเรื่องความเสี่ยงที่ดีพอ แล้วในทางตรงกันข้าม ทำไมเทรดเดอร์รายย่อย จึงอยู่ในตลาดไม่ได้ ฯลฯ เพราะอะไร? ในความเห็นของฉัน เหตุผลที่สำคัญที่สุด คือ เทรดเดอร์รายย่อย (จำนวนมาก) ก่อวินาศกรรมกับพอร์ตของตัวเอง ด้วยตัวเอง! เทรดเดอร์จะต้อง ไม่ปิดการเทรดด้วยตัวเอง



เพราะอะไร? คำตอบนั้นง่ายมาก ฉันขอพูดถึงการเทรดในพอร์ตเดโม่ กับการเทรดในพอร์ตเงินจริง ในพอร์ตเดโม่ คุณทำเกือบทุกอย่างถูกต้องตามระบบ เนื่องจากไม่มีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง เงินจริงๆ ของคุณ ไม่มีความเสี่ยงใดๆ

ด้วยความจริงที่ว่า ในพอร์ตเดโม่นั้น เทรดเดอร์ส่วนใหญ่จะตั้งค่า และลืมการเทรดของพวกเขาไป มากกว่าในพอร์ตเงินจริง ใช่! ฉันกำลังพูดถึงเรื่องของอารมณ์ ที่เป็นสาเหตุให้พอร์ตของคุณระเบิด ด้วยตัวคุณเอง บทความนี้ จะอธิบายความคิด ที่อยู่เบื้องหลังที่จะให้ ตลาดพาคุณออกจากการเทรด โดยไม่มีการตัดสินใจของคุณแทรกแซง


ทำไมคุณต้อง ไม่ปิดการเทรดด้วยตัวเอง

นี่! เป็นสิ่งแรกและอาจสำคัญที่สุดที่คุณควรจะทำความเข้าใจ ...

หากคุณปิดการเทรดด้วยตนเองในขณะที่มีการต่อสู้กับตัวคุณเอง คุณจะแพ้หรือสูญเสียโดยสมัครใจ คุณอ่านไม่ผิดการเทรดเป็นเรื่องเกี่ยวกับการจะต้องเพิ่มจำนวนเทรดที่ชนะของคุณให้มากที่สุด นั่นคือวิธีทำเงินคุณกำลังจะสูญเสียการเทรดแต่คุณไม่จำเป็นต้องสูญเสียด้วยความสมัครใจเป็นส่วนใหญ่




ในภาพตัวอย่างคือพอร์ตเดโม่ เทรดเดอร์ทำการเทรด BUY ในตำแหน่ง PIN BAR และกราฟราคาทำ SIDEWAY เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ในสัปดาห์ถัดไปกราฟราคาทิ้งตัวลงทำให้พอร์ตเดโม่ของเทรดเดอร์สูญเสียเงินและเกือบจะระเบิด

ในพอร์ตเดโม่พวกเขาเริ่มการเทรดด้วยเงินปลอม $2,500 และนี่คือความแตกต่างที่สำคัญ สำหรับพอร์ตเดโม่เป็นเงินปลอมทำให้พวกเขาไม่มีเหตุผลที่จะปิดการเทรดที่ใกล้จะทำให้พอร์ตของพวกเขาระเบิด ดังนั้นพวกเขาจึงทิ้งมันไว้และใช้ความคิดอย่างมีเหตุมีผลและชัดเจน พวกเขารู้ว่าถ้าปิดการเทรด พวกเขาจะสูญเสียโดยสมัครใจซึ่งกราฟราคาอาจพลิกผันและกลายเป็นผู้ชนะ ในสัปดาห์ถัดไปได้เช่นกัน

แล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามการคาดการณ์ของเขา ในสัปดาห์ถัดมากราฟราคาพุ่งขึ้นไปในทิศทางที่เขาวางตำแหน่ง TAKE PROFIT ไว้ แทนที่เขาจะสูญเสียเกือบ $3,000 เขากลับกลายเป็นผู้ชนะได้รับเงินเข้าพอร์ตเดโม่ $6,000 เพียงแค่รอและไม่ทำอะไรเลยเป็นเวลาสองสัปดาห์

หากการเทรดไม่ได้รับผลกระทบจากการหยุดเทรดของคุณ เทคนิคการเทรดของคุณจะยังคงใช้ได้ หมายความว่ามันอาจจะต้องใช้เวลาสองสัปดาห์ (อาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่า) แล้วหลังจากนั้นการเทรดในครั้งนั้นๆ ก็จะกลายเป็นผู้ชนะ 5R

นิยามของเรื่องนี้

นิยามของเรื่องนี้คือคุณต้องให้เวลาในการทำงาน เวลาเป็นปัจจัยที่คุณไม่สามารถควบคุมได้และเป็นปัจจัยที่ทำให้เทรดเดอร์ประสบปัญหามากที่สุด เทรดเดอร์ทุกคนต้องการทำเงินในทันทีแต่ตลาดอาจมีแผนอื่นอยู่ คุณอาจต้องนั่งทับมือเป็นเวลาสองหรือสามสัปดาห์และคุณสามารถทำเช่นนั้นกับพอร์ตจริงได้หรือไม่? นั่นคือคำถามและปัญหาที่คุณต้องแก้ไขหากคุณต้องการสร้างรายได้ในฐานะเทรดเดอร์



มาต่อกันที่อีกตัวอย่างหนึ่งมันมีชื่อเรียกที่เรียบง่ายว่า ตั้งค่าและลืมมันไป (อย่าลืมตั้ง STOP LOSS) ในกรณีของภาพตัวอย่างด้านบนนี้ โดยปรกติถ้าเทรดเดอร์มองเห็นการ BREAKOUT โซนแนวต้านขึ้นไปได้แล้วก็มักจะทำการเทรด BUY เบื้องหลังกราฟแท่งเทียนจะมีการต่อสู้กันและเมื่อกราฟแท่งเทียนทำรูปแบบ PIN BAR ที่มีไส้เทียนยาวมาก จะเป็นการวัดใจเทรดเดอร์ที่ถือคำสั่ง BUY อยู่ โดยปรกติจะมีเทรดเดอร์จำนวนมากจะออกจากการเทรดก่อนกำหนดหลังจากที่เกิดรูปแบบแท่งเทียน PIN BAR หางยาวแท่งนี้

คราวนี้มานึกถึงตำแหน่งการวาง STOP LOSS บ้าง ปรกติแล้วเทรดเดอร์หลายๆ คนจะมีวิธีการวาง STOP LOSS ที่แตกต่างกัน อาจจะตามอัตราส่วน R:R หรือ FIX 2% จากพอร์ตการเทรดหรือแม้แต่ตามการสวิงของกราฟราคา

ในตัวอย่างนี้ จะเห็นได้ว่า กราฟราคายังไม่ลงมาถึง ตำแหน่งการเข้าเทรด แต่ด้วยความกลัวว่า จะได้กำไรที่ลดลงหรือกลัวว่ากราฟราคาจะย้อนกลับ จึงทำให้เทรดเดอร์ปิดคำสั่งเทรดก่อนเวลา ถ้าสมมุติตัวอย่างนี้เป็นพอร์ตเดโม่ เทรดเดอร์คงปล่อยให้กราฟราคาวิ่งต่อเพราะยังไม่ถึงตำแหน่ง STOP LOSS หรือตำแหน่งการเข้าเทรดและผลลัพธ์ที่เห็นคือกราฟราคาสามารถทำกำไรได้มากกว่า 2R หรือ 3R หรืออาจจะมากกว่านั้น แต่ถ้าเป็นพอร์ตเงินจริง ....

นี่คือสาเหตุของการตั้งค่าและลืมมันไป ถ้าสมมุติอีกครั้งว่ากราฟราคาวิ่งลงมาจริงๆ เทรดเดอร์ก็จะโดน STOP LOSS ที่ซึ่งมีการป้องกันไว้พอร์ตการเทรดไว้ก่อนแล้ว

ตัวอย่างทั้งสองนี้เป็นเรื่องของการปล่อยให้ตลาดพาคุณออกไปจากการเทรดเปรียบเทียบกับการออกจากการเทรดด้วยตนเอง อารมณ์ผลักดันให้เทรดเดอร์ออกจากการเทรดก่อนที่จะถึง STOP LOSS หรือ TAKE PROFIT การออกจากการเทรดด้วยความกลัวจึงเหมือนเป็นการสูญเสียโดยสมัครใจ

ข้อสรุป ของการ ไม่ปิดการเทรดด้วยตัวเอง

นัยสำคัญของเรื่องนี้ เป็นการปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย หมายถึง เพียงแค่อยู่ในเกมการซื้อขายของคุณให้น้อยลง และไม่ปิดพวกเขา ก่อนที่พวกเขาจะหยุดการขาดทุนด้วยตัวเอง คุณจะสามารถเพิ่มจำนวนการชนะของคุณ ได้อย่างมาก ไม่ได้หมายความว่า คุณจะไม่ขาดทุน แต่คุณจะไม่ขาดทุนด้วย ตัวความสมัครใจของคุณเอง อาจหมายความว่า คุณต้องลดความเสี่ยงของคุณ ต่อการเทรดในแต่ละครั้ง

ดังนั้น คุณจึงไม่ได้มีอารมณ์แปรปรวน เมื่อกราฟราคามุ่งไปสู่ ��STOP LOSS บางทีอาจหมายถึง คุณต้องเรียนรู้เพิ่มเติม เกี่ยวกับการวางตำแหน่ง STOP LOSS และวิธีการเทรดกับกราฟราคา

การควบคุมอารมณ์ของคุณ เป็นองค์ประกอบหลักทั้งหมด ในการปกป้องทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการชนะของคุณ และวิธีการหยุดการก่อวินาศกรรม กับพอร์ตการเทรดของคุณเอง ถึงเวลาที่ต้องทำตามขั้นตอน ...