ทำกำไรกับ การเทรด PULL BACK

เริ่มโดย support-1, ธันวาคม 13, 2023, 01:20:05 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

support-1

การเทรด PULL BACK หมายถึง กราฟราคาย้อนกลับ การเทรด PULL BACK สามารถทำกำไรให้คุณได้มาก คุณจะสามารถเทรด PULL BACK ที่คู่สกุลเงินไหนก็ได้ ที่กรอบเวลาใดก็ได้ หรือแม้แต่ที่แนวโน้มใดๆ ก็ยังได้ มันเป็นเรื่องราวของรูปแบบกราฟราคาหรือที่เรียกว่า PATTERN โดยปรกติส่วนมากแล้วรูปแบบใดๆ ที่มีในแนวโน้มขาขึ้นก็จะมีในแนวโน้มขาลงด้วย เพราะกราฟราคามีเพียงแค่ไปแล้วก็มา มาแล้วก็ไป

รูปแบบ PULL BACK นี้ก็เช่นกันการย้อนกลับในแนวโน้มขาลงเราจะเรียกว่า PULL BACK  แต่ถ้าเกิดการย้อนกลับในแนวโน้มขาขึ้นเราจะเรียกว่า THROW BACK  แต่เทรดเดอร์ทั่วไปมักจะเรียกแต่ PULL BACK  และใช้การมองเอาเองว่าแนวโน้มกำลังขึ้นอยู่หรือลงอยู่ การ PULL BACK คือการย้อนกลับของกราฟราคานั่นเอง

กราฟราคาในรูปแบบพื้นฐานของตลาดที่มีแนวโน้มเป็นอย่างไร? ขึ้นอยู่กับแนวโน้มของตลาดใช่ไหม? หากตลาดมีแนวโน้มสูงขึ้นเราคาดว่าจะเห็น HIGHER HIGH และHIGHER LOW และเรายังคาดว่าจะเห็นกราฟราคาสวิงในทิศทางเดิม

นี่เป็นความรู้พื้นฐานที่เทรดเดอร์ทุกคนควรรู้และมันสามารถทำกำไรได้และฉันต้องการแสดงให้คุณเห็นว่าการเทรดแบบ PULL BACK ทำได้อย่างไร

ขั้นตอนแรกเราต้องรู้ก่อนว่า การเทรด PULL BACK มีลักษณะอย่างไร

การเทรดแบบ PULL BACK เป็นการเทรดแบบกราฟราคามีการเคลื่อนไหวโดยเราจะทำการติดตามการเคลื่อนไหวนั้น  มันมักจะมีการหยุดชั่วคราวในช่วงการเคลื่อนไหวของแนวโน้มนั้นๆ ถือเป็นเรื่องปรกติ คุณอาจคิดว่าจะมีการเปลี่ยนแนวโน้มแล้วหลังจากกราฟราคาวิ่งมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแต่ความน่าจะเป็น อาจจะยังคงอยู่ที่แนวโน้มต่อเนื่อง มันยังไม่สิ้นสุด

การหยุดชั่วคราวในแนวโน้มหรือการ PULL BACK S โดยทั่วไปแล้วจะเป็นการย้อนกลับขาข้างเดียว (ย้อนกลับแบบง่าย) หรือบางครั้งก็สองขาสอง (ย้อนกลับแบบซับซ้อน) ในกรอบเวลาที่คุณทำการเทรด อีกสิ่งหนึ่งที่อยากให้คุณทำความเข้าใจคือการมองหา PULL BACK  มักจะเป็นอะไรที่ซับซ้อนในกรอบเวลาที่ต่ำกว่า



จากภาพตัวอย่างคุณจะเห็นว่ามันดูง่ายมีการต่อสู้กันของเทรดเดอร์สองฝั่งแต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่คุณเห็นในกรอบเวลานี้เป็นกรอบเวลาใหญ่และถ้าคุณมองลึกลงไปคุณจะเห็นว่านี่คือการย้อนกลับที่ซับซ้อน ภาพตัวอย่างต่อมาคือการแสดงให้เห็นการย้อนกลับของกรอบเวลาที่เล็กกว่า คุณจะเห็นความซับซ้อนแต่มันคือโครงสร้างที่ดีมากสำหรับ PULL BACK



ตอนนี้เราเห็น PULL BACK แล้วคำถามต่อมาคือเราจะเข้าเทรด PULL BACK ได้อย่างไร?



วิธีการเข้าสู่การเทรดแบบ PULL BACK

1.หางที่ยาวนี้บ่งบอกถึงเทรดเดอร์ฝั่ง BUY ที่ผลักดันให้กราฟราคาขึ้นไป สำหรับกรอบเวลานี้มันเป็น PULL BACK ง่ายๆ ที่สามารถมองออกได้แต่ในกรอบเวลาที่ต่ำกว่านี้อาจมีความสับสนเล็กน้อย
2.ส่วนที่สองของการ PULL BACK  คุณจะเห็นว่ามีราคาปิดของกราฟราคาที่ต่ำกว่าตำแหน่ง A ในจุดนี้นี่เองที่มักสร้างความสับสนให้เทรดเดอร์มือใหม่ เพราะมักคิดว่ากราฟราคาจะลงมาแล้วตามการ BREAK OUT ทางแก้ไขคือให้คุณรอให้แน่ใจว่ากราฟราคาในแท่งต่อไปจะทำอะไรก่อน
3.กราฟราคาสามารถทำการทดสอบแนวรับฝั่งซ้ายมือได้ เป็นการ PULL BACK  ที่ยืนยันสำหรับเทรดเดอร์ฝั่ง BUY อีกครั้งที่พร้อมจะผลักดันให้กราฟราคาขึ้นไปต่อได้ ตำแหน่งนี้เองที่เป็นการยืนยันในการ PULL BACK และเราสามารถเข้าทำการเทรดในช่วงของการปิดกราฟแท่ง C นี้ได้



ในภาพตัวอย่างนี้ เป็นตัวอย่างของการ PULL BACK สองขา จากรูปแบบแท่งเทียน มันทำช่วงช่องแนวรับ แนวต้านในตัวเอง มีการทดสอบแนวรับเป็นครั้งที่สอง ก่อนจะสามารถ BREAK OUT แนวต้านออกไปได้ ในตำแหน่ง A เป็นจุดเริ่มต้นของการ PULL BACK  ก่อนหน้านี้ กราฟราคาได้มีการเด้งขึ้นไป และทดสอบอยู่หลายครั้ง

ทำให้เกิดแนวต้านขึ้น และเมื่อกราฟราคาทำ PULL BACK ครั้งที่สอง เป็นการยืนยันของเทรดเดอร์ฝั่ง BUY อีกครั้งตำแหน่งนี้ เราสามารถออกคำสั่งเทรดได้ และเมื่อกราฟราคาสามารถทำการ BREAK OUT แนวต้านทางซ้ายมือได้ เราก็ยังสามารถออกคำสั่งเทรดได้อีกหนึ่งไม้

การเทรดแบบ BREAK OUT เป็นอีกหัวข้อ ของการเทรดด้วยรูปแบบกราฟราคา มันจะมีความคล้ายคลึงกับการเทรด PULL BACK ก็ตรงที่มันสามารถทำการเทรดได้ตลอดเวลา ทุกแนวโน้ม ทุกกรอบเวลา ทุกคู่สกุลเงิน

มีเทรดเดอร์จำนวนมาก ที่ทำการเทรดโดยการใช้เพียงแค่เส้นแนวรับ แนวต้านบวกกับประสบการณ์ส่วนตัวในการมองแนวโน้มให้ออกว่าเป็นแนวโน้มใดเพื่อทำการเทรด โดยอาจใช้การเทรดเพียงสองรูปแบบเท่านั้น คุณคงคิดออกว่ารูปแบบใด ตำตอบคือใช่! รูปแบบ PULL BACK กับรูปแบบ BREAK OUT แล้วยังมีวิธีอื่นๆ อีกที่คุณสามารถใช้สำหรับการมองหาการ PULL BACK ได้และวิธียอดนิยมเหล่านี้ยังรวมถึงการใช้อินดิเคเตอร์ต่างๆ หรือแม้แต่ LEVEL ของ FIBONACCI

ให้คุณทำความเข้าใจกับการเคลื่อนไหวของโครงสร้างราคาและทำการเทรดเป็นรอบ ๆ ในช่วงแรกคุณอาจจะเข้าทำการเทรดด้วยระยะการทำกำไรไม่มากนัก เพราะคุณอาจจะยังมองไม่เห็นแนวโน้มที่ชัดเจนนักว่าจะเป็นแนวโน้มต่อเนื่องหรือแนวโน้มย้อนกลับ แต่หากคุณทำการฝึกฝนมองโครงสร้างกราฟราคาบ่อยๆ คุณจะเข้าใจในธรรมชาติของคู่สกุลเงินที่คุณทำการเทรด