[support-1]

คําถามที่พบบ่อย คือ Leverage คืออะไร เลือกเท่าไหร่ดี ? ถือเป็นอีกหนึ่งคํา ที่มีความสําคัญมากๆ โบรกเกอร์ Forex จะให้เลือกขนาดของ Leverage ว่า ต้องการ Leverage เท่าไหร่ สําหรับบัญชีเทรด Forex เมื่อถึงขั้นตอนนี้ หลายคนอาจจะงงว่า Leverage คืออะไร? ควรเลือก Leverage เท่าไหร่ดี? มันคือ โอกาสหรือความเสี่ยงในการเทรด Forex ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ

Leverage คืออะไรกันแน่ ?

Leverage หมายถึง สิ่งที่ทําให้เรามีอํานาจซื้อ - ขาย ได้มากยิ่งขึ้นแบบทวีคูณ เป็นจํานวนเปอร์เซนที่ เทรดเดอร์ได้ยืมเงินจากโบรกเกอร์ เพื่อทําการเปิดออเดอร์เทรด ให้มีขนาด Lot ที่สูงขึ้น

ในกรณีที่ไม่มี Leverage ปกติแล้วถ้าต้องการเปิดออร์เดอร์ขนาด 1 lot จะต้องมีเงินลงทุนประมาณ $100,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,300,000 บาท ถึงจะสามารถเปิดได้ แต่ถ้าหาคุณเลือก Leverage 1:100 คุณมีเงินลงทุนเพียง $1,000 (33,000 บาท) คุณก็สามารถเปิดออร์เดอร์ 1lot ได้แล้ว แต่ถ้าหากเลือก Leverage 1:1,000 จะใช้เงินลงทุนเพียง $100 คุณก็สามารถเปิดออร์เดอร์ 1lot ได้ในแต่ ล่ะ โบรกเกอร์ Forex จะกําหนดค่า Leverage ไม่เท่ากัน ตัวเลขจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่ที่แต่ละโบรกเกอร์ จะกําหนดมายังไง

ตัวอย่าง Leverage คืออะไร
Leverage 1:1 มีทุน $1,000 สามารถซื้อหุ้นได้ $1,000
Leverage 1:100 มีทุน $1,000 สามารถซื้อหุ้นได้ $100,000
Leverage 1:1,000 มีทุน $1,000 สามารถซื้อหุ้นได้ $1,000,000

จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า Leverage ยิ่งสูงเท่าไหร่ ยิ่งสามารถทําให้มีอํานาจในการซื้อมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าซื้อ มากเท่าไหร่เวลาที่เป็นกําไรจะได้กําไรมาก แต่ว่าถ้าเกิดการขาดทุนก็จะขาดทุนได้มากและอาจจะทําให้ เงินลงทุนของคุณเป็น 0 (ล้างพอร์ต) ไวขึ้นเช่นกัน

ควรเลือก Leverage เท่าไหร่ดี?

Leverage เป็นทางเลือกหนึ่ง ที่โบรกเกอร์ Forex มอบให้แก่คุณ ซึ่งแต่ละโบรกเกอร์จะมีขีดจํากัด ของ Leverage ที่แตกต่างกัน บางโบรกเกอร์อาจจะให้ Leverage สูงสุดที่ 1:200 บางโบรกเกอร์ให้ Leverage สูงมากจนถึง 1:2000 หรี 1:ไม่มีจํากัด แต่การเลือก Leverage สูงหรือต่ํา ก็จะมีประโยชน์ และข้อเสียที่ แตกต่างกัน

1. ตัวอย่างการเลือก Leverage แบบสูง

การเลือก Leverage สูงจะทําให้คุณสามารถเปิดออร์เดอร์ได้มากยิ่งขึ้น ซื้อขายได้มากยิ่งขึ้น เช่น มีเงินทุน S1,000 หากเลือก Leverage 1:2,000 คุณจะสามารถเปิดออร์เดอร์ได้สูงสุดถึง 20lot แต่ทุกการเคลื่อนที่ 1pip จะเป็นเงิน $10 ต่อ 1 Lot แสดงว่า 20lot เคลื่อนที่ 1pip จะเป็นเงิน $200 ถ้าราคาเคลื่อนที่ไปผิด ทางเพียง 5pip เงินลงทุนของคุณจะเหลือ 0 ทันที่เรียกได้ว่า แค่กราฟแกว่งตัว แต่ถ้าเคลื่อนไปถูกทางคุณ ก็จะได้กําไรมาก

2. ตัวอย่างการเลือก Leverage แบบต่ํา

เช่น มีเงินทุน $1,000 หากเลือก Leverage 1:100 คุณจะสามารถเปิดออร์เดอร์ได้สูงสุดถึง 1lot แต่ทุก การเคลื่อนที่ 1pip จะเป็นเงิน $10 ต่อ 1 lot แสดงว่า 1lot เคลื่อนที่ 1pip จะเป็นเงิน $10 ถ้าราคา เคลื่อนที่ไปผิดทาง 100pip เงินลงทุนของคุณจะเหลือ 0 ทันที แต่ถ้าเคลื่อนไปถูกทางคุณก็จะได้กําไรที่ น้อยกว่าการเลือก Leverage สูง

Leverage สําคัญยังงัย?

Leverage เปรียบเสมือนความใจปั้มของ โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ ที่ให้เครดิตเรา นั่นก็คือให้ยืมใช้ไปก่อนเดี่ยว ค่อยมาคืนที่หลังแล้วกัน ส่งผลให้เราสามารถเปิดออเดอร์ที่มันใหญ่ๆ ได้ เช่น หากเทรดเดอร์ต้องการเปิด ออร์เดอร์ที่ 20000$ ท่านก็ใช้เงินแค่ 10$ เท่านั้นเอง (1:2000) หากคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้ว ก็เหมือน โบรกเกอร์ให้ยืมเทรด 99% ส่วนเราใช้เงินแค่ 1%

และที่สําคัญอีกอย่างก็คือการให้เครดิต (ให้ยืม) ทุกครั้งนั้น ไม่มีการคิดดอกเบี้ยแม้แต่นิดเดียว จึงทําให้ โดนเด่นไม่เหมือนกับโบรกเกอร์หุ้นทั่วๆ ไป แต่ต้องจําไว้เสมอว่า เงินทุกบาททุกสตางค์ที่โบรกเกอร์ให้ยืม นั้นเป็นเงินจริง ที่เราจะต้องใช้คืนจริงๆด้วย และเราต้องมีเงินในบัญชีเทรด Forex มากกว่า อัตรา Leverage ที่โบรกเกอร์กําหนด โบรกเกอร์ถึงอนุญาตให้ยืมได้

หลักปฏิบัติในการเลือกใช้ค่า Leverage คืออะไร

1.จงเลือกค่า Leverage ไม่เกิน 1:200 สําหรับการเทรด Forex แบบ Saving แน่นอนว่าคุณได้ยินไม่ผิด ครับ การเทรด Forex ที่ค่า Leverage 1:200 ช่วยให้คุณนั้นลดโอกาสในการเกิดความเสี่ยงได้อย่างมาก แน่นอนครับ แม้ว่าคุณจะสามารถเปิดสัญญาได้เพียง 1-2 สัญญาเท่านั้นแต่ก็คุ้มค่ามากๆ

2.เลือกค่า Leverage 1:2000 ต่อเมื่อเทคนิคการเทรดของคุณเจ๋งมากๆ เมื่อคุณมี เทคนิคการเทรด Forex ที่เจ๋งมากๆ และ 10 ตาที่คุณทําการเทรด Forex คุณสามารถเอาชนะได้อย่างน้อย 7-8 ตา อย่างนี้ การเลือกค่า Leverage สูงๆ เช่น 1:2000 จะสามารถช่วยให้คุณทําเงินและทํากําไรได้มากๆ และสามารถ เปิดสัญญาในการเทรด Forex ได้เป็นจํานวนมาก

โดยสรุปแล้ว : ค่า Leverage นั้น จะหมายความอย่างง่ายๆ คือ เมื่อเราเปิดค่านี้ มากขึ้น โอกาสในการทําเงินและทํากําไรของเราก็จะมากขึ้นไปด้วย เพียงแต่ว่า ปัญหาคือ เมื่อคุณถูกกราฟสวิงลงในทิศทางที่ตรงกันข้าม กลับมีโอกาสสูงมาก เช่นเดียวกันที่คุณนั้นจะขาดทุนอย่างหนัก และแน่นอนว่าถึงขั้นล้างพอร์ตกัน เลยทีเดียว