การหาสัญญาณการเข้าเทรด สามารถทำได้อย่างไร?

เริ่มโดย support-1, ตุลาคม 13, 2022, 04:00:04 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

support-1

การหาสัญญาณการเข้าเทรด หลายครั้ง ที่คุณได้เรียนรู้ เกี่ยวกับวิธีการเข้าเทรด ที่แท่งเทียนแบบนั้น แบบนี้ และมีบ่อยครั้ง ที่แท่งเทียนแบบที่ว่านี้ มีอยู่เต็มไปหมด บนชาร์ตราคา ที่สำคัญ คือ มันมีอยู่ทุกกรอบเวลา และมันก็คล้ายคลึงกันมาก บางครั้ง เข้าเทรดตามรูปแบบนี้ไป กราฟราคาก็วิ่งตาม แต่บางครั้ง ก็วิ่งย้อนกลับ ทำให้ได้ทั้งกำไร และขาดทุน มาดูการวิเคราะห์ และกระบวนการคิด ที่อยู่เบื้องหลังการเทรดเหล่านี้ ให้คุณสามารถเข้าใจ วิธีการตั้งค่าอย่างเรียบง่าย และไม่ถูกรูปแบบแท่งเทียนหลอก (มันอาจจะไม่ได้หลอก แต่คุณอาจจะวิเคราะห์ไม่ถูก)

การหาสัญญาณการเข้าเทรด ทำได้อย่างไร?

ขั้นตอนแรก ในการค้นหาสัญญาณเข้าเทรด คือ การสแกนแผนภูมิชาร์ตราคา คุณต้องตัดสินใจ เลือกคู่สกุลเงิน FOREX ที่จะทำการเทรดที่ดีที่สุด ด้วยการสแกนชาร์ตราคา ในกรอบรายวันก่อน คุณควรทำสิ่งนี้ ในเวลาเดียวกัน ในแต่ละวัน เวลาที่ดีที่สุด ในการวิเคราะห์กรอบรายวันของคุณ ควรอยู่ระหว่าง การปิดของตลาดนิวยอร์ก และการเปิดของตลาดยุโรป ตำแหน่งนี้คือ เมื่อการเคลื่อนไหว ของตลาดลดลง จากวันก่อนหน้า และมีการเคลื่อนไหว ของวันใหม่จะเริ่มขึ้น ในขณะที่ค้นหาตลาด ก็ให้มองหาสิ่งต่อไปนี้ ตามด้วย

- แนวโน้ม
- โซนราคา
- รูปแบบแท่งเทียน

โดยให้พิจารณาก่อนว่า ตลาดมีแนวโน้มหรือไม่ ด้วยการมองหาสวิง HH HL หรือ LH LL หรือจะมีอินดิเคเตอร์ EMA 8 และ 21 ยืนยันในกรอบรายวัน ก็ได้เช่นกัน จากนั้น ให้ทำเครื่องหมาย KEY LEVEL หลักๆ ที่มองเห็นได้ไว้ นี่เป็นสิ่งสำคัญเนื่อง LEVEL ที่เส้นแนวนอน เมื่อไปรวมกับรูปแบบการเคลื่อนไหว ของแท่งเทียนแล้ว จะมีพลังมาก เราจะได้ LEVEL ในโซนแนวรับ แนวต้าน ที่เห็นได้ชัดในชาร์ตราคา




จากภาพตัวอย่างด้านบน คุณเห็นอะไรบ้าง?

ลองสังเกต PIN BAR ในภาพตัวอย่างนี้ เพราะหลังจาก ที่เราพิจารณาแล้วว่า ตลาดมีแนวโน้ม โดยดูจากสวิง หรือคุณอาจดูจาก การลากเส้นแนวนอนมองหา LEVEL หลัก ก็ได้เช่นกัน จากนั้น เราจะมองหารูปแบบแท่งเทียน ที่ชัดเจนต่อไป ที่ซึ่งมันควรก่อตัวขึ้น ภายในโครงสร้าง ของตลาดตามแนวโน้ม แต่บางครั้ง ตลาดอาจไม่มีแนวโน้ม เราสามารถมองหาการตั้งค่าเทรด จากแท่งเทียน ที่ใกล้โซนแนวรับ แนวต้านหลักได้ มองหาขอบเขตการเทรดนั่นเอง

ในกรณีของภาพตัวอย่างนี้ ใช้ EMA 8 และ 21 มายืนยันว่า ตลาดมีแนวโน้มลดลง ซึ่งเห็นได้ชัดเจน มีแท่งเทียนคู่ที่ด้านล่าง ตรงบริเวณแนวรับ ซึ่งมันหลุดจากเส้น EMA ลงมาแล้ว โดยปรกติ กราฟราคาจะวิ่งย้อนกลับไป หาเส้น EMA อีกครั้ง เป็นการ RE-TEST ก่อนที่จะมีการวิ่งลงมาอีกครั้ง ตามโมเมนตัมขาลง ตรงนี้เอง ที่เรามองเห็น PIN BAR ที่เกิดขึ้น เป็นการปฎิเสธ โซนแนวรับมีแรงผลักดัน อยู่เบื้องหลัง PIN BAR นี้

สรุปว่า เราเห็นแท่งเทียน,โซนแนวรับ, โมเมนตัม รวมไปถึงเส้น EMA ทั้งหมด ควรอยู่ในแผนการเทรดforex ทำให้เราตัดสินใจได้ว่า มันเป็นสัญญาณที่ดี สำหรับการเทรดหรือไม่?


วิธีหาตำแหน่ง STOP LOSS

เราหาสัญญาณ และตำแหน่งการเข้าเทรดได้แล้ว เราต้องหาตำแหน่งการวาง STOP LOSS ที่เหมาะสมด้วย อันที่จริง มันไม่ใช่ศาสตร์ที่แน่นอน แต่ก็มีกฎทั่วไปอยู่บ้างโดย :

- ก่อนอื่นคุณต้องลอง และวาง STOP LOSS ในระดับที่คิดว่า เป็นไปได้มากที่สุด ขึ้นอยู่กับว่า คุณเข้าเทรดแบบไหน สำหรับตัวอย่าง การตั้งค่ากับ PIN BAR เราจะวาง STOP LOSS ที่เหนือระดับสูงสุด ของหาง PIN BAR เพราะนี่เป็นจุดที่กราฟราคา ไม่น่าจะวิ่งมาถึง
- หมายเหตุ คุณควรจะมี STOP LOSS ทุกครั้ง ที่คุณเข้าเทรด เพราะตลาด FOREX มีความไม่แน่นอนอยู่เสมอ เราควรป้องกันพอร์ตการเทรดของเรา ไม่ให้เกิดความเสียหาย ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ใดๆ ขึ้น



วิธีหาตำแหน่ง TAKE PROFIT

หาสัญญาณเข้าเทรด แล้วหาตำแหน่ง STOP LOSS แล้ว เพื่อให้พอร์ตของคุณ เติบโตอย่างถาวร เราควรมีการวาง TAKE PROFIT ในอัตราส่วน 1:2 เสมอ ในกรณีที่เรามั่นใจ ในเรื่องแนวโน้ม เราดูสวิงแล้ว เราสามารถปล่อย การทำกำไรของเรา ให้เป็น 1:3 หรือมากกว่าได้

เทรดเดอร์อย่ายึดติด กับการทำกำไรเพียง 1:2 เท่านั้น ถ้าสวิงหรือแนวโน้มในตลาด มันมีความเป็นไปได้ว่า จะไปต่ออย่างต่อเนื่อง เราไม่ควรทิ้งโอกาส ทำกำไรด้วยการยึดติด กับอัตราส่วนเท่าเดิม



การจัดการ อารมณ์ความรู้สึก ของการเทรด

การเทรดด้วยอารมณ์ หรือการใช้อารมณ์ในการเทรด บางครั้งสิ่งนี้อาจ มาก่อนหาสัญญาณเข้าเทรด มาก่อนการวาง STOP LOSS หรือมาก่อน วางเป้าการทำกำไร ด้วยซ้ำไป

วิธีที่ดีที่สุด ที่จะทำให้แน่ใจว่า คุณไม่ได้ทำการเทรด ด้วยอารมณ์ ก็คื อการไม่เสี่ยงกับเงินมากเกินไป ในทุกๆ คำสั่ง มีเทรดเดอร์หลายคน นั่งจ้องมองชาร์ตราคา ของพวกเขาตลอดทั้งคืน เพียงเพราะว่า พวกเขาไม่สามารถหยุดคิด เรื่องเงินที่มันกำลังจะสูญเสียไป หรือเงินที่ได้มาแล้ว แต่กลัวว่า จะสูญเสียคืนให้ตลาด หรือ ฯลฯ

เหตุผลเดียวที่เทรดเดอร์ ทำสิ่งเหล่านี้ คือ เพราะพวกเขาเสี่ยงต่อเงินมากเกินไป หรือ OVER TRADE นั่นเอง คุณจำเป็นต้องยอมเสี่ยง กับจำนวนเงินที่คุณตกลงไว้ กับการยอมสูญเสียอย่างแท้จริง ตั้งแต่แรกแล้ว

ทุกๆ เทคนิคการเทรด ต้องใช้ดุลยพินิจ และคุณจะยังไม่เคยรู้อย่างแน่ชัดว่า การเทรดนั้น จะเป็นผู้ชนะ หรือผู้แพ้ ดังนั้น คุณต้องจัดการกับความเสี่ยง ของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ

เหตุผลหลักที่มีการ OVER TRADE เป็นเพราะพวกเขา มีความคาดหวังเกี่ยวกับตลาด เราต้องพิจารณาอย่างจริงจัง ถึงข้อเท็จจริงที่ว่า เราจะไม่รวยอย่างรวดเร็ว ในตลาด FOREX เราควรตั้งเป้าหมายว่า จะสร้างผลกำไรที่ช้า แต่สม่ำเสมอ และเมื่อเวลาผ่านไป คุณจะเห็นพอร์ตสำหรับเทรดของคุณ ใหญ่ขึ้น อย่างมั่นคง แต่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ ดูเหมือนจะไม่อดทน กับสิ่งนี้ พวกเขาจึงตกอยู่ในวงจร แห่งการเทรดทางอารมณ์ อย่างต่อเนื่อง

สรุป การหาสัญญาณการเข้าเทรด

หลังจากคุณออกจากการเทรด ไม่ว่าจะได้กำไร หรือขาดทุน เป็นผู้ชนะ หรือผู้แพ้ก็ตามแต่ คุณจะต้องบันทึก สิ่งที่เกิดขึ้น อย่างมีระเบียบ มีวินัย สิ่งนี้ จะทำให้คุณสามารถ พัฒนาและติดตามการเทรด พร้อมทั้งมีหลักฐาน ที่จับต้องได้

อย่างที่คุณเห็น ไม่มีอะไรซับซ้อนมากนัก กับการเทรด การใช้ตรรกะ ที่เรียบง่าย เพียงแค่รวมวินัย กับทักษะที่รอบคอบ ไม่ว่าจะมีกี่จุด ที่เหมือนจะใช้ได้กับการเข้าเทรด คุณก็ยังสามารถเรียนรู้ และสร้างเทคนิคการเทรด เฉพาะตัวของคุณได้

หลังจากที่คุณฝึกฝน ไปซักพัก คุณจะพัฒนาทักษะการเทรด ได้อย่างรอบคอบขึ้น ซึ่งจะช่วยให้คุณ มีการตั้งค่าการเทรด ที่ชัดเจนขึ้นไปอีก มีการไหลมารวมกัน ของสองหรือสามสิ่ง ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเข้าเทรด