ภาษีคริปโตเคอเรนซีสำหรับคนไทย แนวทางปฏิบัติและข้อควรรู้

เริ่มโดย Support-3, เมษายน 21, 2025, 10:54:26 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

Support-3

ภาษีคริปโตเคอเรนซี คืออะไร?
      ภาษีคริปโตเคอเรนซี คือ การจัดเก็บภาษีจากเงินได้ที่เกิดจากการทำธุรกรรมเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทคริปโตเคอเรนซีและโทเคนดิจิทัล โดยกรมสรรพากรของประเทศไทยถือว่าผลกำไรหรือเงินได้จากคริปโตเคอเรนซีเป็นเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษีตามประมวลรัษฎากร



ลักษณะสำคัญของภาษีคริปโตเคอเรนซี
ฐานอำนาจทางกฎหมาย
o    พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 19) พ.ศ. 2561
o    เดิมเงินได้จากคริปโตอยู่ในมาตรา 40(8) และได้มีการเปลี่ยนแปลงประเภทเงินได้จากการขายคริปโตมาเป็นมาตรา 40(4)(ฌ) เพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะการลงทุน
หลักการพื้นฐาน
o    เก็บภาษีเฉพาะส่วนที่เป็น "กำไร" หรือ "เงินได้ที่เกินกว่าทุน"
o    ไม่ได้เก็บภาษีจากมูลค่าคริปโตที่ถือครองหากยังไม่มีการขายหรือโอน
o    เก็บภาษีเมื่อเกิดการจำหน่าย จ่าย โอน แลกเปลี่ยน หรือได้รับผลตอบแทน
อัตราภาษี
o    สำหรับการขายคริปโต: อัตราภาษีหัก ณ ที่จ่าย 15% ของกำไร
o    เมื่อยื่นแบบแสดงรายการภาษีประจำปี: คำนวณตามอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแบบขั้นบันได (หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน)

วิธีเข้าใจภาษีคริปโตแบบง่ายๆ สำหรับคนไทย



ประเภทเงินได้จากคริปโตเคอเรนซีที่ต้องเสียภาษี
1. การจำหน่าย จ่าย โอน หรือแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี/โทเคนดิจิทัล
•    ประเภทเงินได้: มาตรา 40(4)(ฌ) แห่งประมวลรัษฎากร
•    ฐานภาษี: เฉพาะซึ่งตีราคาเป็นเงินได้เกินกว่าที่ลงทุน (ส่วนที่เป็นกำไร)
•    การคำนวณต้นทุน: สามารถเลือกใช้วิธี FIFO หรือ Moving Average Cost
•    การหักกลบขาดทุน: สามารถหักกลบกำไร/ขาดทุนในปีเดียวกันได้ เฉพาะธุรกรรมที่ผ่านผู้ประกอบธุรกิจที่อยู่ภายใต้การกำกับของ ก.ล.ต.
•    อัตราภาษี: อัตราก้าวหน้าตามเงินได้สุทธิ หรือถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% แล้วแต่กรณี
2. การขุดคริปโทเคอเรนซี
•    ประเภทเงินได้: มาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร
•    จังหวะเกิดเงินได้: เมื่อขายคริปโตที่ขุดได้ (ไม่ใช่เมื่อได้รับจากการขุด)
•    ค่าใช้จ่ายที่หักได้: ค่าใช้จ่ายตามความจำเป็นและสมควร เช่น
o    ค่าซ่อมบำรุงคอมพิวเตอร์
o    ค่าไฟฟ้า ค่าอินเทอร์เน็ต
o    ค่าเสื่อมราคาของอุปกรณ์ (เช่น คอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการขุด)
•    อัตราภาษี: อัตราก้าวหน้าตามเงินได้สุทธิ
3. ได้รับคริปโตเคอเรนซีเป็นเงินเดือนหรือค่าจ้าง
•    ประเภทเงินได้:
o    พนักงาน: มาตรา 40(1) - เงินเดือน
o    ผู้รับจ้าง: มาตรา 40(2) - ค่าจ้างจากการรับทำงานให้
•    การวัดมูลค่า: มูลค่า ณ เวลาที่ได้รับ หรือราคาถัวเฉลี่ยในวันที่ได้รับ
•    ต้นทุนเมื่อขาย: มูลค่าที่ได้นำไปเสียภาษีแล้วสามารถใช้เป็นต้นทุนในการคำนวณภาษีเมื่อขายได้
4. ได้รับคริปโตเคอเรนซี/โทเคนดิจิทัลจากการให้ หรือเป็นรางวัล
•    ประเภทเงินได้: มาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร
•    ตัวอย่าง: การแจกเมื่อเข้าร่วมกิจกรรม หรือรางวัลส่งเสริมการขาย
•    การวัดมูลค่า: มูลค่า ณ เวลาที่ได้รับ
5. ผลประโยชน์หรือผลตอบแทนจากการถือครอง
•    โทเคนดิจิทัล: เงินได้ตามมาตรา 40(4)(ซ) - เงินส่วนแบ่งกำไรหรือผลประโยชน์จากการถือครอง
•    คริปโตเคอเรนซี (เช่น Yield farming หรือ Staking): เงินได้ตามมาตรา 40(8)

วิธีการคิดภาษีคริปโต สำหรับคนไทย


วิธีการคำนวณต้นทุนคริปโตเคอเรนซี
1. วิธีเข้าก่อนออกก่อน (FIFO)
•    คริปโตเคอเรนซีที่ซื้อมาก่อนจะถูกขายออกไปก่อนตามลำดับ
•    เหมาะกับผู้ที่มีการซื้อขายไม่ซับซ้อนหรือมีธุรกรรมไม่มาก
2. วิธีต้นทุนถัวเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average Cost)
•    คำนวณต้นทุนจากการถัวเฉลี่ยต้นทุนของคริปโตเคอเรนซีประเภทเดียวกัน
•    คำนวณทุกครั้งที่มีการซื้อเพิ่ม
•    เหมาะกับผู้ที่มีการซื้อหลายครั้งในราคาที่แตกต่างกัน

ข้อรู้เกี่ยวกับการคำนวณต้นทุน
•    ผู้เสียภาษีต้องเลือกวิธีการคำนวณต้นทุนและใช้วิธีนั้นตลอดปีภาษี
•    สามารถเปลี่ยนวิธีการคำนวณในปีถัดไปได้ โดยไม่ต้องขออนุมัติจากกรมสรรพากร
•    ต้นทุนให้รวมถึงค่าซื้อและค่าใช้จ่ายเพื่อให้ได้มาซึ่งคริปโตเคอเรนซี เช่น ค่าธรรมเนียมและค่าโอน
•    ต้องคำนวณต้นทุนแยกตามประเภทของเหรียญ

การจัดการกับกรณีพิเศษ
การแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซีกับคริปโตเคอเรนซี

•    ถือว่าทั้งสองฝ่ายขายคริปโตเคอเรนซี
•    มูลค่าที่ขายคือมูลค่าคริปโตเคอเรนซีที่ได้รับ
•    ต้องวัดมูลค่าเป็นสกุลเงิน (fiat money) ก่อน
การซื้อขายในต่างประเทศ
•    แหล่งเงินได้ในประเทศ: มีหน้าที่เสียภาษีในไทย
•    แหล่งเงินได้ต่างประเทศ: มีหน้าที่เสียภาษีเมื่ออยู่ในไทยไม่น้อยกว่า 180 วันและนำเงินเข้ามาในไทยในปีเดียวกัน
•    อัตราแลกเปลี่ยน: ใช้อัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารพาณิชย์หรืออัตราอ้างอิงจากธนาคารแห่งประเทศไทย

การยื่นแบบและเสียภาษี
แบบแสดงรายการที่ต้องยื่น
•    ภ.ง.ด.90: สำหรับเงินได้พึงประเมินประเภท 40(2) - 40(8)
•    ภ.ง.ด.91: สำหรับเงินได้พึงประเมินประเภท 40(1)
รูปแบบการยื่นแบบ
•    การยื่นผ่านอินเทอร์เน็ต (e-Filing):
o    เงินได้จากการขายคริปโตที่ซื้อมา - หมวด "รายได้จากการลงทุน" ประเภท "ผลประโยชน์จากการโอนคริปโตเคอเรนซี/โทเคนดิจิทัล"
o    เงินได้จากการขายคริปโตที่ขุดได้ - หมวด "รายได้จากทรัพย์สิน การทำธุรกิจ" ประเภท "เงินได้อื่นๆ"
o    ผลตอบแทนจากการถือครอง - ขึ้นอยู่กับประเภทของเงินได้
กำหนดเวลาและวิธีการเสียภาษี
•    ยื่นแบบ ภ.ง.ด.90/91 สำหรับปีภาษีนั้น: ภายในวันที่ 31 มีนาคม ของปีถัดไป
•    ภาษีหัก ณ ที่จ่าย: ถูกหักในอัตรา 15% สามารถนำมาเป็นเครดิตภาษีได้

บทลงโทษและข้อควรระวัง

บทลงโทษเมื่อไม่ปฏิบัติตามกฎหมายภาษี
•    ไม่ชำระภาษีภายในกำหนด: เงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือน
•    ไม่ยื่นแบบหรือยื่นแบบแต่ชำระภาษีไม่ครบ: เบี้ยปรับ 1-2 เท่าของภาษีที่ต้องชำระ
•    ไม่ยื่นแบบ ภ.ง.ด.90/91 ภายในกำหนด: ปรับไม่เกิน 2,000 บาท
•    จงใจแจ้งข้อความเท็จ: จำคุก 3 เดือน - 7 ปี และปรับ 2,000 - 200,000 บาท
เอกสารที่ควรเก็บเพื่อประกอบการยื่นภาษี
•    หลักฐานการซื้อขายคริปโตเคอเรนซีที่ระบุจำนวน มูลค่า และวันที่ทำธุรกรรม
•    เอกสารแสดงอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิง
•    ใบกำกับภาษีหรือใบเสร็จค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
•    หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (ถ้ามี)
ข้อแนะนำสำหรับนักลงทุนคริปโต
•    จัดทำบัญชีบันทึกการซื้อขายคริปโตอย่างละเอียด แยกตามวิธีการได้มา
•    ขอข้อมูลสรุปธุรกรรมจาก Exchange เพื่อใช้ในการคำนวณภาษี
•    หากมีการทำธุรกรรมจำนวนมาก ควรใช้ซอฟต์แวร์ช่วยในการคำนวณภาษี
•    ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีหากมีข้อสงสัยหรือธุรกรรมซับซ้อน
•    เก็บเอกสารหลักฐานทางภาษีไว้อย่างน้อย 5 ปี
•    ยื่นแบบและชำระภาษีให้ตรงเวลาเพื่อหลีกเลี่ยงเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม
การปฏิบัติตามกฎหมายภาษีคริปโตอย่างถูกต้องไม่เพียงช่วยให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงบทลงโทษทางกฎหมาย แต่ยังช่วยสร้างความมั่นคงให้กับระบบการเงินและส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมคริปโตในประเทศไทยอย่างยั่งยืน